[Y]มาแชร์ประสบการณ์ความรักให้ฟังครับ 5
หลังจากเรื่องที่เขากินเหล้า เมายา ค้าหญิง!! เห้ย ไม่ใช่!!! แค่ปาร์ตี้เบาๆกับเพื่อนเก่าในวันนั้น เอาเป็นว่า เรื่องในโรงหนังครั้งนั้น 

ผมกับเขาก็ยังคงใช้ชีวิตปกติสุขเช่นเคย วันจันทร์ดูหนัง วันอื่นคุยบีบี วนไปเรื่อยๆอย่างนี้ไม่มีอะไรพิเศษมากไปกว่าเดิม

แต่ที่ต่างออกไปก็คงเป็นช่วงนี้ เราดูหนังกันสองคนบ่อยขึ้น ผมกับเขานั่งชิดกันบ่อยขึ้น อย่างน้อยขอแค่ให้ไหล่แตะ มือโดน แค่นี้ก็พอใจแล้ว ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น เดี๋ยวนะ! พอใจ?ใครพอใจ?พอใจอะไร?ช่างมันเถอะครับ

วันไหนที่ผมนั่งตรงนิ่งๆ ก็จะเป็นเขาที่เลื้อยเอียงมานั่งชนผม วันไหนที่ผมนั่งเอียงไปหา เขาก็จะขยับตัวมาให้ผมพิง แขนที่ยกขึ้นตั้งตรงที่เท้าแขน ก็ต้องสัมผัสกันนิดนึงพอเป็นกระสัย เราทั้งคู่ต่างไม่พูดอะไร ปล่อยเลยตามเลยให้ทุกอย่างมันเป็นไปตามแบบฉบับของมัน

จากช่วงแรกๆที่ตื่นเต้นตกใจ กลับกลายเป็นชิน ไม่รู้สึกอะไร ราวกับว่า ทำไปเพราะมันเป็นนิสัยไปแล้วคับ

.........

วันนั้นเป็นวันที่อากาศในกรุงเทพเย็นสบาย ลมพัด ใบไม้ปลิวไสว ผมซึ่งนั่งเล่นกับเพื่อนอยู่ที่มหาลัย และกำลังนั่งด่าเพื่อนคนที่เพิ่งบอกว่าจะไปส่งแฟนที่บ้าน ทั้งๆที่นัดกันไว้แล้วว่าจะไปเล่นดอทเอ

“ไม่ต้องเลยมรึงไม่ต้องเลย โทรไปบอกแฟนมรึงเลยว่าไม่ว่าง จะไปเล่นเกม เอามือถือกูไปโทร หรือจะให้กูโทรเอง เลือกเอา” ผมเองครับ กำลังเซงๆ เพราะโดนเบี้ยวนัดศึกสำคัญ

“เออ ไรวะ อุตส่าห์นัดกันดิบดี” เพื่อนผมที่เป็นเพื่อนเขาเอ่ยขึ้นมา

ใจนึงก็สงสารมันนะครับ ต้องทะเลาะกับแฟนแน่ๆ

“เห้ยยยย กูขอโทษจริงๆ พวกมรึงเล่นไปก่อนเลย เดี่ยวกูตามไป กูไปส่งแค่ตรงนี้เอง”

มันรีบขอโทษขอโพยพวกผมใหญ่ แต่มีหรือพวกผมจะยอม หึหึ

แต่เดี่ยวครับ ก่อนที่เรื่องมันจะออกทะเลไปไกล ตัวการสำคัญของเรื่องนี้ก็โผล่มา

ตื่อดึ้ง!

ผมยิ้มรับ รู้ทันทีว่าเป็นใคร ก่อนที่จะรีบหยิบบีบีขึ้นมาอ่าน


“เลิกเรียนยัง” เขาพิมพ์มา ซึ่งเป็นเรื่องปกติของทุกเย็นครับ วันไหนไม่พิมพ์สิแปลก

แล้วเรื่องนี้ก็ไม่พ้นสายตาเพื่อนผม มันหันมามองกันใหญ่ พร้อมๆกับส่งเสียงแซว

“เอาแล้วๆ เอาอีกแล้วเพื่อนกู ติดใจมรึงใหญ่เลยนะ” เป็นเพื่อนเขาครับที่เริ่มต้นแซวก่อน
“กูจะเล่าๆ วันนี้แมร่งไม่เรียนเลยเว้ย คาบเมื่อกี้ นั่งกดบีบีตลอด ปล่อยให้กูแลคเชอร์คนเดียว”

เพื่อนผมอีกคนที่เรียนเก่งที่สุดหันมาแขวะ (บังเอิญว่าวิชาเมื่อกี้เราแยกเซคกันเรียนเพราะลงทะเบียนเรียนไม่ทันหน่ะครับ)

“หึหึ กูว่าเดี่ยวแมร่งต้องได้กัน” ไอ้นี่ มรึงจะอวยพรกูทำไม ไอคนที่มันเป็นโจทย์อยู่เมื่อกี้หันมาหรี่ตาใส่ผม ก่อนที่ผมจะอ้าปากด่าพวกมัน ผมก็ต้องก้มหน้าไปตอบบีบีก่อน

“เลิกแล้ว มรึงอ่ะ” ผมถามเขาไปครับ

เหมือนว่าเขารอคำตอบผมอยู่ ส่งไปปุ๊ปเขาก็ตอบกลับมาปั๊ป

“เลิกแล้วเหมือนกัน แล้วเดี่ยวมรึงจะไปไหนต่อ”

ผมก็ตอบไปตามความจริง

“กะว่าจะไปดอทว่ะ มรึงอ่ะ”

ผมนี่นิสัยไม่ดีเนอะ ถามเขากลับแต่คำถามเดิมๆ 55555

“กะว่าจะไปสยามว่ะ จะไปเดินดูของที่มาบุญครอง แล้วหาไรกิน”

อ่อ ไปสยาม ดีๆ เด็กสยาม ผมอ่านที่เขาส่งมา แล้วก็ต้องเงยหน้าขึ้นมาดูเหล่าเพื่อนๆของผมที่กำลังส่งเสียงเอะอะโวยวาย

“เห้ย อย่าเพิ่งไป เคลียร์กันก่อน” เพื่อนผมเรียกโจทย์ปัญหาที่กำลังจะลุกออกไปจากวง

555555555 สงสารมันจริงนะครับตอนนี้ แต่ผมก็ไม่สนใจมาก นั่งฟังพวกมันทะเลาะกันดีกว่า

สักพัก บีบีผมก็เด้งอีก แน่นอนครับ ผมรู้ว่าเป็นเขา

“มรึงจะไปเล่นเกมหรอ”

เอ่อออออ คำถามนี้ ทำไมผมอ่านแล้วมันรู้สึกแปลกๆแฮะ

ก่อนที่จะคิดอะไรฟุ้งซ่าน ผมก็รีบตอบกลับเขาไปก่อน

“เออ น่าจะแหละ แต่ก็ไม่แน่ว่ะ ไอบาส(ชื่อสมมุตินะครับ แต่ตัวละครมีอยู่จริง) มันต้องไปส่งแฟนมัน อาจจะต้องยกเลิก มีไรวะ” ไม่วาย ถามมันกลับ

เขาอ่านแล้วก็ตอบกลับมาทันที

“เปล่าว่ะ จะชวนไปด้วยกันหน่อย ไม่อยากไปคนเดียว”

ณ ตอนนั้น อารมณ์นั้น ผมไม่คิดอะไรครับ ปกติ ถ้าเขาชวนไปไหน ถ้าว่างก็ไป ไม่ว่างก็ไม่ไป เรื่องปกติ ผมก็เลยตอบกลับไปตามปกติ

“เออ ถ้ายกเลิกเดี่ยวกูไป”

ผมรีบส่งกลับไปให้เขาอ่าน แล้วเขาก็ตอบกลับมาทันที

“อืม”


แต่แล้วผมก็นึกได้ ว่าผมควรถามอะไรสักอย่าง

“แล้วมรึงชวนไอจอร์น(ชื่อสมมุตินะครับ แต่ตัวละครมีอยู่จริง แล้วก็เป็นเพื่อนมัธยมเขาหน่ะ) เปล่าวะ”

ผมถามเขาครับ กันไว้ก่อน เผื่อเขาไม่ได้ชวน แล้วผมเผลอหลุดปากบอกเพื่อนไป

“ยังว่ะ” 

หืมมมมม ตอบมาสั้นๆแค่นี้ ไม่มีอะไรต่อหน่อยเลยหรอวะ ผมเลยต้องพิมพ์ไปใหม่

“จะให้กูชวนมั้ย อยู่ด้วยกันเนี่ย”

ทีนี้เขาอ่านครับ แต่ไม่ตอบทันที ผ่านไปสักแปปนึง เขาก็ส่งกลับมา

“แล้วแต่ดิ”

อ่าว ไอนี่! ทำไมตอบงี้วะ แล้วกูควรทำไงเนี่ย เพื่อนกูก็เพื่อนมรึงนะเว้ย

ผมนั่งคิดกับตัวเองก่อนสักพักนึง ก่อนที่จะส่งกลับไปหาเขา

“อืม”

สั้นๆง่ายๆครับ ปล่อยให้งงไปดิ อยากมาทำให้ผมงงก่อนทำไม

แล้วผมก็หันไปเคลียร์กับเพื่อนต่อ ซึ่งสรุปแล้ว มันจำเป็นต้องไปจริงๆ พวกผมก็เลยคาดโทษมันไว้

“ถ้าครั้งหน้าไปเล่น แล้วพวกกูแพ้เพราะมรึงนูป มรึงต้องเลี้ยงนะเว้ย!”

555555 พวกผมนี่เกรียนเกมส์กันจริงๆเลยเนอะ

หลังจากที่ต้องยกเลิกไปดอทเอ เพื่อนในกลุ่มชิ่งหนีไป1คน สี่ชีวิตที่เหลือก็มานั่งคิดกันว่าจะเอาไงต่อดี

“กลับบ้านไป”

เป็นผมเองครับที่เสนอความคิดนี้ขึ้นมา เพราะอะไรหน่ะหรอ ก็รู้ๆกันอยู่หนิ

แต่ก็มีคนดักทางไว้ครับ ใช่แล้ว ไอจอร์นนี่เอง

“ทำไมวะ มรึงจะไปไหน”

เอาแหล่ววววว ผมควรตอบไงดี เอ๊ะ!! ทำไมผมต้องมาหาวิธีตอบหร่ะ ก็ตอบไปตามตรงสิว่าไปสยามกับเพื่อนมรึงหนั่นแหละ

“เปล่าหนิ รีบกลับรถจะได้ไม่ติด”

บ๊ะ!!! เก่งจริงกู เห้ย!! อะไรเนี่ย กูโกหกมันทำไม ก่อนที่จะได้พูดอะไรมากกว่านี้ เพื่อนอีกคนก็ช่วยชีวิตผมไว้

“เออว่ะ วันศุกร์ เดี๋ยวรถติด กลับกันเถอะ”

อิอิ รอดตัวไปครับวันนี้

พอผมแยกกับเพื่อนแล้วมานั่งรอรถเมล์ที่ป้ายรถเมล์อยู่คนเดียว ผมก็รีบบีบีไปหาเขาทันที

“เห้ย อยู่ไหนวะ กูกำลังไปหานะ สยามใช่ป่ะ เจอบีทีเอสสยามแล้วกัน”

เหมือนกับเขารออยู่แล้ว เร็วเชียว เขาก็รีบตอบกลับมา

“เออ กำลังไปเหมือนกัน รถน่าจะติด เดี๋ยวไปจอดที่พาราก้อนแล้วกัน”

เอิ่มมมม ไม่ถงไม่ถามหน่อยหรอว่าเพื่อนมันมาเปล่า แต่ไม่เป็นไร ช่างมันเถอะ ผมคิดกับตัวเอง

‘สถานีต่อไป สยาม’ เสียงสาวสวยบนบีทีเอสพูดขึ้น

ผมรีบบีบีไปหาเขาก่อนเลย

“สยามแล้ว เจอหน้าน้ำพุนะ”


“อืม”

สั้นๆง่ายๆ

วันนี้คนเยอะหน่อย เบียดกันเชียว ผมใส่ชุดนักศึกษา เขาก็คงใส่ชุดนักศึกษา ไม่น่าจะหากันยาก!!! จะบ้าเรอะ!!! เด็กจุฬา ฬา ฬา เต็มไปหมด จะหาเจอกันได้ไงวะเนี่ย

“นี่ต้องเบียด หาอีกแล้วใช่มั้ยเนี่ย” ผมบ่นกับตัวเองเบา

พอเสียบบัตรออกจากสถานี ผมก็เดินลุยมาเลยครับ ลุยโคลน เอ้ย! ลุยผู้คนนับล้าน - - เยอะไป เพื่อตามหาชายหนุ่มในฝัน - - อันนี้ก็เยอะไป

มองไปมองมาสักพัก ก็เริ่มงง เอ๊ะ!ทำไมคนส่วนใหญ่มันเดินผ่านไป แล้วต้องหันไปมองตรงนั้นวะ จัดรายการอะไรอยู่รึเปล่า หรือดาราไหนมาถ่ายแบบอะไรรึเปล่า

แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมากครับ กะว่าถ้าเดินเข้าไปแถวนั้น จะแอบมองสักหน่อยว่าใคร แต่จากระยะตรงนี้ มันยังไกลอยู่เลย

ผมเดินไปได้สักพัก เริ่มเข้าไปแถวที่คนมองมากขึ้น ก็เลยฉวยโอกาสแอบนอกใจ เห้ย!!อะไร ไม่ใช่ แอบมองดูว่าใครกันหนอ ที่เป็นเป้าสายตาขนาดนั้น

!!!! ค้างครับ ตกใจ ไม่เคยคิดไม่เคยฝันมาก่อน ว่าจะสบตากันแล้วสปาร์คกันขนาดนี้

จากที่ผมแค่จะแอบมองดูว่าเขาคือใคร แต่กลับกลายเป็นว่า เขาคือคนคนนั้นนั่นเอง คนที่ผมมาหา คนที่ไปดูหนังกับผม คนที่เคยมานอนกอดผม

ฉากต่อไปนี้เหมือนในนิยายเลยครับ ยอมรับว่าไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว

พอผมดึงตัวเองออกมาจากภวังค์ได้ ผมก็ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน คนที่เดินตามมาถึงกับชนผมนิดๆแล้วบอกขอโทษก่อนจะเบี่ยงตัวหลบไป

จากที่ทุกสายตา มองเขาแล้วก็เดินผ่านไป เพราะเขาหยุดนิ่งอยู่กับที่ แต่ตอนนี้ เขากำลังเคลื่อนตัวผ่านอากาศ เดินตรงดิ่งมาที่ผม

ผมเริ่มมีสติหันไปมองคนรอบข้าง

‘เออเว้ย มองตามกันเลยว่ะ’ ผมคิดในใจก่อนที่จะหันไปมองเขา

‘เอาไงดีวะ เดินหนีหรือ ยืนรอ หรือทำไงดี’ ตอนนั้นจำได้เลยครับว่าทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะทำยังไง จะเดินหนีเขาคงสงสัย จะยืนรอก็กลัวเป็นเป้าสายตา ทำอะไรไม่ถูก ก็เลยก้มหน้าอยู่ตรงนั้นแหละครับ 55555 เป็นวิธีที่ฉลาดดีเนอะ

“เข้าไปข้างในก่อนเถอะ คนเยอะว่ะ”

เขาเดินมาถึงที่ผมยืน พร้อมกับลากแขนผมให้เข้าไปข้างใน นั่นๆ อย่าเพิ่งคิดไปไกล แค่แขนเท่านั้นแหละครับ แล้วที่ลาก ก็ลากจริงๆด้วยครับ :(


เราเบียดเสียดผู้คน พร้อมๆกับหลบสายตาผู้คนเข้ามาอยู่ในพาราก้อนได้สำเร็จ

ในนี้คนไม่เยอะเท่าข้างนอก แต่สายตาของแต่ละคนยังจับจ้องมาที่เขาเช่นเคย ทำไงได้หล่ะ คนมันหล่อหนิ ชิ!

เราสองคนเดินไปเรื่อยๆ เอื่อยๆ ช้าๆ อย่างไม่มีกำหนด ไร้บทสนทนา มีเพียงเสียงรองเท้าหนัง ดังก๊อกๆเป็นเพียงเสียงเดียวที่ทำให้ผมมั่นใจว่า เขาเดินเคียงคู่ไปกับผม จนไปหยุดอยู่หน้าร้านๆหนึ่ง เดาสิครับว่าร้านอะไร

ใช่แล้วครับ ร้านหนังสือ 55555

ผมเป็นคนหยุดเดินก่อน เขาเดินเลยไปสองก้าวก่อนจะหยุดแล้วหันมามองผมด้วยท่าทีไม่สงสัยอะไรเลย ก่อนจะพูดออกมาหน้าตาเฉย

“กูให้เวลา30นาที ไปวนมาสักรอบ ดูเล่มที่ชอบ แอบอ่านแล้วเดินออกมา” แล้วเขาก็ทำท่าไล่ผมให้เข้าไป

ใจหนึ่งก็เกรงใจเขา อีกใจหนึ่งก็อยากเข้าไปดู ผมยืนคิดตัดสินใจว่าควรทำอะไรดี เขาก็ชิงเอ่ยปากมาก่อน

“เข้าไป แล้วห้ามซื้ออะไรกลับมา เดี่ยวกูไปนั่งรอตรงนู้น แล้วเดี่ยวไปกินข้าวกัน” พูดจบเขาก็เดินจากไป ทิ้งให้ผมรู้สึกผิดอยู่ตรงนั้นคนเดียว แต่มีหรือผมจะปล่อยให้โอกาสนี่หลุดลอยไป ผมหันข้างเดินเข้าไปในร้านทันที แต่ก่อนจะเข้าไป ผมเห็นสาวๆกลุ่มนึง เดินตามเขาไปพร้อมกับกระซิบกระซาบเป็นนกกระจอกแตกรัง (นี่ผมไม่พูดเกินไปใช่มั้ยครับ) เห็นดังนั้นผมก็สะบัดตัวเข้าร้านทันที

‘จะไปยืนเก๊กล่อสาวใช่มั้ยหล่ะมรึง’ ผมพูดในใจปลอบตัวเองให้ไม่รู้สึกผิดมาก

ไม่รู้ผ่านไปนานแค่ไหน แต่ผมว่าคงเกิน30นาทีแหละครับ ผมคงแอบอ่านเพลินไปหน่อย (ก็เขาไม่ให้ซื้อหนิ) พออ่านจบ1ตอน ผมเลยเดินออกมาจากร้าน ตรงไปหาเขาตรงจุดที่เขารอ ผมแอบคิดว่าเขาคงเดินไปดูของนั่นของนี่ตามประสาคนรวยมีเงินจะช๊อป แต่เปล่าเลยครับ เขายืนรอตรงไหน เขาก็ยืนอยู่ตรงนั้นไม่เปลี่ยนเลย

ผมแอบมองเขาอยู่ไกลๆ สังเกตลักษณะเขา จนรู้แล้วว่าทำไมเกือบทุกสายตาถึงจับจ้องมาที่เขาคนเดียว

ชุดนักศึกษาเข้ารูปสีขาวของGL กางเกงแสลคสีดำสมส่วน รองเท้าหนังที่ดูยังไงก็น่าจะแพง นาฬิกาเรือนสวยบนข้อมือ ผมไม่เซท แต่เข้ากับลักษณะหัวของเขา ยืนกอดอก หลังพิงกำแพง ยกขา1ข้างมาชันกำแพงไว้ หุ่นสูงใหญ่ยังกับนายแบบ จมูกโด่งเข้ารูป ผิวขาวแบบคนจีน คิ้วเข้ม เคราปอยๆ

พระเจ้า!!!!!!!!!!!! คนอะไรมันจะหล่อได้ขนาดนี้ครับ

ผมกำลังเดินเข้าไปหาเขา เขาก็เห็นว่าผมกำลังจะเดินเข้าไป แล้วก็กำลังจะเดินเข้ามาหาผม แต่เขาก็ต้องชะงักเพราะมีคนมาสะกิดเรียกเขา ผมไม่ได้ยินหรอกครับว่าเขาสองคนคุยอะไรกัน แต่คนที่มาสะกิดดูเป็นผู้ใหญ่แต่งตัวจัดจ้าน ดูรู้ครับว่าเป็นเกย์ แล้วกำลังยื่นนามบัตรให้เขา

พอผมเดินไปถึงตัวเขา ผู้ชายคนนั้นก็เดินจากไป ผมเลยได้ทีแซวเขาหน่อย

“สุดยอดเลยมรึง มีเกย์มาขอเลี้ยงเลยหรอวะ”

เขาหันมาตบหัวทีนึงก่อนจะพูดว่า

“เขาเป็นแมวมอง มาชวนกู”

เท่านั้นแหละครับ ผมอึ้งเลย เกิดมาว่าเหตุการณ์ข้างบนเหมือนนิยายแล้ว เหตุการณ์นี้เหมือนในหนังเข้าไปอีก อะไรมันจะขนาดนั้น ผมมาเดินกับคนที่มีแววเป็นดาราเลยหรอเนี่ย

สงสัยมันเห็นผมอึ้งๆอยู่เลยพูดต่อ

“ปกติก็เป็นงี้แหละ เดี่ยวมรึงก็ชิน 55555 กูหล่อหนิ ทำไงได้”

แหม่มเอ้ยยยยย หมดกัน พอชมตัวเองเท่านั้นแหละหมดเลย ผมหันไปทำหน้าเบะปากใส่เขาทีนึงก่อนจะลูบท้องตัวเองเบาๆแล้วพูดว่า

“กูหิวว่ะ หาไรกินกันมั้ย”

แล้วเขาก็เดินจับมือผม พาเข้าไปกินในภัตตาคารสุดหรู พร้อมกับเซอร์ไพรส์แหวนหมั้น



Create Date : 26 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2555 0:08:53 น.
Counter : 5611 Pageviews.

2 comments
  
อร๊ากกกก ทั้งน่ารักทั้งฮา
ชอบค่ะ หนุกมั่กๆ
โดย: Gottomon IP: 115.87.64.228 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2555 เวลา:4:41:47 น.
  
"แล้วเขาก็เดินจับมือผม พาเข้าไปกินในภัตตาคารสุดหรู พร้อมกับเซอร์ไพรส์แหวนหมั้น" ขอยกมาหน่อยนะครับ คือผมคิดจริงนะเนี้ยว่าเค้าจะขอจริงๆ
555 เยอะไป ชอบคำนี้นะครับ
โดย: สาหร่ายครองโลก IP: 171.99.85.178 วันที่: 7 ธันวาคม 2555 เวลา:12:03:00 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แนวนิ้วนิ้วแนว
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]



New Comments
พฤศจิกายน 2555

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
27
28
29
30
 
 
26 พฤศจิกายน 2555
All Blog