|
|
|
- พระกรุ พระพิมพ์โบราณ เขตภาคใต้ ของประเทศไทย ก่อนพุทธศตวรรษ ที่ 20
- ภาพเก่า เชิงประวัติศาสตร์ จังหวัดนครศรีธรรมราช #ที่นี่เมืองนคร
- ภาพเก่า เชิงประวัติศาสตร์ จังหวัดนครศรีธรรมราช #ที่นี่เมืองนคร
- พระยอดธง - พระกรุ - พระเครื่องนครศรีธรรมราช
- รวมเพลงใต้ , เพลงใต้, เพลงเพื่อชีวิต
- นครศรีธรรมราช จัดงานประเพณีเทศกาลบุญสารทเดือนสิบและงานกาชาด ปี 55 อย่างยิ่งใหญ่ 10 วัน 10 คืน
- คู่มือเที่ยว นครศรีธรรมราช
- ตามรอยธรรมที่เมืองนคร นครศรีธรรมราช
- คู่มือท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช
- ท่องเที่ยวจังหวัดนครศรีธรรมราช
- คู่มือท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช , Guide books Nakhon Si Thammarat,THAILAND
- เพลงประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช
- พระยอดธง,พระกรุเมืองคอน,วัดชะเมา,ถ.ราชดำเนิน,อ.เมือง,จ.นครศรีธรรมราช
- หลงเสน่ห์...ทะเลนครศรีธรรมราช
- สรรพลี้หวน,วรรณกรรมพื้นบ้านของจังหวัดนครศรีธรรมราช
- เพลง เมืองคอน - ยงยุทธ ด้ามขวาน.เพลงใต้
- สารนครศรีธรรมราช,เรื่องราวในอดีตเมืองคอน ตอน6
- สารนครศรีธรรมราช,เรื่องราวในอดีตเมืองคอน ตอน5
- สารนครศรีธรรมราช,เรื่องราวในอดีตเมืองคอน ตอน4
- เพลง พายุ สุริยัน
- YouTube,ท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช
- สารนครศรีธรรมราช,เรื่องราวในอดีตเมืองคอน ตอน3
- สารนครศรีธรรมราช,เรื่องราวในอดีตเมืองคอน ตอน2
- สารนครศรีธรรมราช,เรื่องราวในอดีตเมืองคอน ตอน1
- นครศรีธรรมราช กับ ความเปลี่ยนแปลง(บางอย่าง)
- เพลงดอกสังแก,ตุด นาคร ดอกไม้ที่ใครๆเมิน..ณ บ้านดอนจิก อ.เชียรใหญ่ นครศรีธรรมราช
- วัดปากเชียร ต.เชียรใหญ่ อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช thailand
- เพลงประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช
- ถ้ำเขาขุนพนม,ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช นครศรีธรรมราช
- นครศรีธรรมราช,เมืองคอน ที่ใครๆรู้จัก
- วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร,นครศรีธรรมราช
- เมืองนครศรีธรรมราช ยามค่ำคืน
- โรงเรียนโยธินบำรุง,ค่ายวชิราวุธ ตำบลปากพูน อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
- วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร นครศรีธรรมราช
- นครศรีธรรมราช,พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ,นครศรีธรรมราช
- เมืองนครศรีธรรมราช ประเทศไทย THAILAND
- วัด,นครศรีธรรมราช
- เต้าฮวย - เต้าหู้นมสด อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช
- อนุสาวรีย์วีรไทย,พ่อจ่าดำ,นครศรีธรรมราช
- เหรียญเก่า,ประเทศไทย
- อ.เชียรใหญ่-อ.หาดใหญ่
- บ้านดอนจิก,ต.ท้องลำเจียก,อ.เชียรใหญ่,จ.นครศรีธรรมราช,ศึกขะชาติ
- รถไฟ ,นครศรีธรรมราช,ประเทศไทย
- พระเครื่องนครศรีธรรมราช - พระเครื่องภาคใต้
- พระเครื่อง,ประเทศไทย
- ต.หน้าสตน,อ.หัวไทร,จ.นครศรีธรรมราช,ประเทศไทย
- เกาะกระ นครศรีธรรมราช
- ผ้ายกเมืองนคร หรือ ผ้าทอเมืองคอน
- ศิลาจารึกหุบเขาช่องคอย,จารึกเขาช่องคอย,ตำบลทุ่งโพธิ์,อำเภอจุฬาภรณ์,จังหวัดนครศรีธรรมราช
- อาณาจักรศรีวิชัย,นครศรีธรรมราช,ประเทศไทย
- เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช
- 12 นักษัตริย์ นครศรีธรรมราช
|
|
|
|
|
อาณาจักรศรีวิชัย,นครศรีธรรมราช,ประเทศไทย
อาณาจักรศรีวิชัย สู่ นครศรีธรรมราช
(พุทธศตวรรษที่ ๑๒-๑๘)
เมื่ออาณาจักรฟูนันล่มสลายลงในพุทธศตวรรษที่ ๑๑ นั้น ดินแดน ทางแหลมทองได้เกิดการตั้งอาณาจักรศรีวิชัย (จีนเรียก ชิลิโฟชิ หรือ คันโทลี หรือโคยิง) ขึ้นภายใต้การนำของราชวงศ์ ไศเลนทร์ มีอาณาเขตครอบคลุมแหลมมลายู เกาะชวา เกาะสุมาตรา ช่องแคบมะละกา ช่องแคบซุนดา และบริเวณภาคใต้ของประเทศไทย ทำให้อาณาจักรศรีวิชัยสามารถควบคุมเส้นทางค้าขายระหว่างจีนกับอินเดียรวมทั้งอาหรับ เปอร์เซีย และยุโรปได้
อาณาจักรศรีวิชัยนี้มีอาณาเขตตั้งแต่เมืองปาเล็มบังในเกาะสุมาตราของ อินโดนีเซียขึ้นมาถึงบริเวณแหลมโพธิ์ ตำบลพุมเรียง อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี และเมืองท่า(ตามพรลิงค์หรือตำพะลิงค์)ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช
มีการพบศิลาจารึกภาษามาเลย์เกี่ยวกับอาณาจักรศรีวิชัยนี้ที่วัดเสมาเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ส่วน เมืองครหิ ในสมัยศรีวิชัยนั้นเป็นเมืองท่าค้าพริก ดีปลีและพริกไทยเม็ด โดยมีต้นหมากต้นมะพร้าวอยู่มาก แต่ก็ยังมีความเชื่ออยู่ว่าเมืองครหินั้นไม่น่าจะใช่เมืองไชยา กล่าวคือ ในหนังสือจู ฝาน จีน ของจีนเจา จู เกวาะ ได้ระบุชื่อเมืองต่างๆที่ขึ้นแก่อาณาจักรซัมฮุดซี หรือชาวกะ มีชื่อเมืองเกียโลหิ ซึ่งยุติชื่อว่าเป็นเมืองครหิ ตรงกับคำที่จารึก(ภาษาเขมร)ครหิ
ที่อยู่บนฐานพระพุทธรูปนาคปรกสำริดองค์ใหญ่ ซึ่งพบอยู่ใกล้วัดเวียง เมืองไชยา ซึ่งเป็นสถานที่แห่งเดียวที่สุมาตราที่สั่งขึ้นมาให้อำมาตย์คลาไน ผู้ครองเมืองครหิจัดการหล่อขึ้นเมื่อพ.ศ.๑๗๒๖ ตรงกับมหาศักราช ๑๑๐๕ จึงมีข้อถกเถียงถึงว่า ครหิ นั้นเป็นการแสดงอำนาจทางเขมรหรือเกาะสุมาตรา
ซึ่งน่าจะเป็น ครหิ ที่เกิดขึ้นหลังจาก อาณาจักรศรีวิชัยล่มสลายลงแล้วหรือไปขึ้นอยู่กับเมืองตามพรลิงค์ในพ.ศ.๑๗๐๐ ดังนั้นเมืองไชยานั้นคงจะไม่ใช่เมืองครหิและน่าจะเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรศรีวิชัยเสียมากกว่าเมืองปาเล็มบัง
เมืองไชยานั้น ได้มีการสร้างเจดีย์แบบมหายาน ให้องค์เจดีย์เป็นรูปสีขระ แปลว่า แบบภูเขา คือเจดีย์ที่มียอดจำนวนมาก ตามคติให้มีพระพุทธเจ้าหลายพระองค์ เช่น พระพุทธเจ้าพุทธะ พระมัญชุศรี พุทธะ พระญาณิพุทธะ เป็นต้น
ซึ่งตรงกับเรื่องราวที่ว่า พระเจ้ากรุงศรีวิชัยให้สร้างไอษฎิเคหะ คือ เรือนอิฐหรือปราสาทอิฐขึ้น ๓ หลัง สำหรับประดิษฐานพระปฏิมาของ ปัทมปาณี วัชรปาณี และมารวิชัย ในพื้นที่เมืองไชยาแห่งนี้ พบว่านอกจากจะสร้างเจดีย์ที่พระบรมธาตุแห่งนี้แล้วยังมี เจดีย์ที่วัดแก้ว ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าแต่ชำรุด และเจดีย์ที่วัดหลง เดิมนั้นเหลือแต่ฐานที่อิฐที่มีลักษณะเดียวกัน
พระบรมธาตุไชยาองค์ปัจจุบันนี้ได้รับการบูรณะใหม่ เดิมนั้นเป็นเจดีย์ตั้งอยู่บนอุโมงค์ที่บรรจุหีบศิลาใบใหญ่ใส่พระบรมธาตุและ สิ่งของต่างๆ เดิมที่พื้นมีรูระบายอากาศขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ๒ ซม ๒ แห่งต่อมาได้อุดเสีย ต่อมาแม่น้ำพาเอาดินมาถมบริเวณหมู่บ้านเวียงสูงประมาณ ๓ เมตรหรือ ๖ ศอก ส่วนพระเจดีย์นี้จมลงไปในดินประมาณเมตรครึ่ง ต้องขุดแต่งกัน
เมืองครหิแห่งนี้หลังจากอาณาจักรศรีวิชัยหมดอำนาจลงก็ถูกทิ้งร้างมาจนถึงสมัยอยุธยา พุทธศาสนาจึงได้ฟื้นฟูขึ้นโดยมีการสร้างพระพุทธรูปศิลาทึบขนาดใหญ่จากหินที่เขานางเอ อยู่หลังสวนโมกข์ มีอยู่ประมาณ ๓๐๐-๔๐๐ องค์
สำหรับคำว่า ไชยา นั้นน่าจะนำมาจากคำว่า ศรีวิชัย ซึ่งขุดพบศิลาจารึกพ.ศ.๑๓๑๘ ที่ระบุชื่อ พระยาศรีวิชัยนั้นว่า ศรีวิชเยนทรราชา,ศรีวิชเยศวรภูบดี และศรีวิชยนฤบดี ที่หมายถึง พระเจ้าแผ่นดินเมืองศรีวิชัย
นั่นหมายถึงศุนย์กลางอำนาจของพวกไศเรนทร(ราชาแห่งจอมเขา)อยู่ที่บริเวณเมืองไชยา ซึ่งเหมาะสมที่จะติดต่อกับอินเดียโดยเฉพาะที่เบ็งคอล และเป็นเหตุให้พระอวโลติเกศวรโพธิสัตว์ที่เป็นฝีมือของช่างแบบปาละแท้เดินทางมาประดิษฐานที่เมืองไชยาได้ โดยเฉพาะการติดต่อมหาวิทยาลัยนาลันทาซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยพุทธศาสนามหายานในเบ็งคอล
จนมีความปรากฏในจารึกแผ่นทองแดงพบที่นาลันทาเมื่อพ.ส.๑๓๙๒ ว่า ด้วยการที่ไศเรนทรอุปถัมภ์มหาวิทยาลัยแห่งนั้นไปจากไชยา ในบริเวณเมืองไชยานั้นมีเขาน้ำร้อนเป็นภูเขาประจำวงศ์ไศเรนทรสำหรับใช้ประ ดิาฐานพระเป็นเจ้าตามลัทธิพราหมณ์ แม้จะมีการนับถือพุทธศาสนาแล้ว
ก็ยังยึดถือเป็นประเพณีการอาบน้ำร้อนที่ออกมาจากพุบนเขานั้นถือเป็นน้ำ ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีการจัดทำสระน้ำสำหรับอาบของพระราชาตามประเพณีของอินเดีย เรื่องนี้หากรวมไปถึงบริเวณเขานางเอ แล้วจะพบว่าหน้าถ้ำนั้นมีสระบัวขนาดใหญ่สองสระ
น่าจะมีบริเวณที่เหมาะสมให้ราชาแห่งไศเรนทรสร้างวังประทับร้อนอยู่บนเนินที่ เขานี้ เพราะมองเห็นสระน้ำได้สวยงาม และหากจะทิ้งทองประจำวันลงสระตามตำนานราชาแห่งซาบากก็ทำได้
เมืองไชยาโบราณนี้เดิมเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่กว่าเมืองตามพรลิงค์(เมืองนครศรีธรรมราช)ซึ่งมีชุมชนเมืองเก่า และสร้างเจดีย์พระบรมธาตุไชยา เจดีย์ที่วัดแก้ว เจดีย์ที่วัดเวียง เจดีย์ที่วัดหลง และพระอวโลกติเกศวรอย่างชวาอยู่จำนวนมากโดยเฉพาะพระอวโลกิเตศวรขนาดเท่าคนที่มีชื่อเสียงรู้จักกันดี
เส้นทางติดต่อนั้นมีแม่น้ำหลวง(แม่น้ำตาปี)ไหล ผ่าน เมื่อสำรวจเส้นทางน้ำพบว่าไปได้ถึงคีรีรัฐซึ่งมีทางข้ามไปลงที่แม่น้ำตะกั่ว ป่าได้อย่างสบาย น่าจะเป็นเส้นทางเดินของชาวอินเดียทางหนึ่ง สำหรับเมืองตามพรลิงค์นั้นมีพระมหาธาตุองค์เดียว เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นในสมัยหลัง และมีหาดทรายแก้วกับลุ่มแม่น้ำน้อย
ประการสำคัญอ่าวบ้านดอนนั้นเป็นแหล่งที่เรือสินค้าจากจีนใช้เป็นท่าจอดเรือในสมัยโบราณได้ และรอบอ่าวบ้านดอนนั้นก็เป็นแหล่งเกษตรกรรมสำคัญ ในจารึกพ.ศ.๑๗๗๓ ระบุว่า พระเจ้าจันทภาณุยังมีอำนาจอยู่เหนือดินแดนรอบอ่านบ้านดอน
สำหรับเมืองครหินั้นน่าจะอยู่แถวใต้เขมรลงมาทางญวน หรือแถวคอคอดกระ
พุทธศาสนาแบบมหายานเจริญรุ่งเรืองในอาณาจักรศรีวิชัย หลวงจีนอี้จิง เคยเดินทางจากเมืองกวางตุ้งประเทศจีนทางเรือของอาหรับผ่านฟูนัน มาพักที่อาณาจักรศรีวิชัยนี้ ในเดือน ๑๑ พ.ศ. ๑๒๑๔ เป็นเวลาสองเดือน ก่อนที่จะเดินทางต่อผ่านเมืองไทรบุรี ผ่านหมู่เกาะคนเปลือยนิโคบาร์ ถึง เมืองท่าตามรลิปติที่อินเดีย เพื่อสืบพระพุทธศาสนา
หลวงจีนอี้จิงบันทึกไว้ว่า ประชาชนทางใต้ของแหลมมลายูส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งได้อิทธิพลมาจากพ่อค้ามุสลิมอาหรับ ที่เดินทางผ่านเพื่อไปยังประเทศจีน ศาสนาอิสลามได้เผยแผ่ไปยัง มะละกา กลันตัน ตรังกานู ปาหัง และปัตตานีจนกลายเป็นรัฐอิสลามไป
ต่อมาในพ.ศ.๑๕๖๘(ค.ศ. 1025) อาณาจักรศรีวิชัยถูกอาณาจักรโจฬะ จากอินเดียตะวันออกเฉียงใต้ ยกทัพเรือเข้าโจมตีทำให้อ่อนกำลังลง หลังจากนั้นในพ.ส.๑๙๔๐ อาณาจักรศรีวิชัยได้ตกอยู่ใต้อำนาจของอาณาจักรมัชปาหิต ที่มีอำนาจจากชวา
อาณาจักร สุโขทัยในสมัยพ่อขุนรามคำแหงนั้นได้แผ่อำนาจลงมายังหัวเมืองต่างๆตลอดแหลม มาลายู และมีเมืองนครศรีธรรมราช เป็นเมืองสำคัญที่คอยดูแลหัวเมืองทางใต้
--------------------
จาก บันทึกสยาม
เครดิตรูปจาก วิกิพีเดีย
Create Date : 16 มกราคม 2553 |
Last Update : 20 พฤษภาคม 2558 11:03:12 น. |
|
8 comments
|
Counter : 1453 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: xiao ye zi วันที่: 16 มกราคม 2553 เวลา:21:09:54 น. |
|
|
|
โดย: opleee วันที่: 16 มกราคม 2553 เวลา:21:48:32 น. |
|
|
|
โดย: d IP: 192.168.182.20, 203.144.144.164 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:0:53:40 น. |
|
|
|
โดย: กระจ้อน วันที่: 10 มีนาคม 2553 เวลา:20:18:45 น. |
|
|
|
โดย: ปานวรี IP: 180.180.119.86 วันที่: 30 สิงหาคม 2553 เวลา:19:16:24 น. |
|
|
|
โดย: ปานวรี IP: 180.180.119.86 วันที่: 30 สิงหาคม 2553 เวลา:19:19:25 น. |
|
|
|
โดย: องชายนิว IP: 124.120.101.6 วันที่: 15 กันยายน 2553 เวลา:19:41:48 น. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
นครศรีธรรมราช Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]

|
นครศรีธรรมราช เมืองประวัติศาสตร์ พระธาตุทองคำ ชื่นฉ่ำธรรมชาติ แร่ธาตุอุดม เครื่องถมสามกษัตริย์ มากวัดมากศิลป์ ครบสิ้นกุ้งปู
|
|
|
|
|
|
|
|
|