'*^-+...ไม่มีอะไรงดงาม เท่าความสงบสุข...+-^*'

Paris encore-45 ชั่วโมงที่ปารีส(1)

ในชีวิตหนึ่งของคนเรา จะตกหลุมรักได้สักกี่ครั้งกันนะ

ถ้าตกหลุมรักกับ "คน" ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะว่ายังไม่เคยตกหลุมรักใครสักที
แต่ถ้ากับสถานที่ หนัง หนังสือหรือเมืองล่ะ...ฉันสงสัยอยู่เหมือนกัน
เพราะไม่ว่าครั้งไหนที่มาปารีส ฉันก็ตกหลุมรักเมืองนี้ทุกครั้ง
แล้วฉันจะตกหลุมรักปารีสได้อีกสักกี่ครั้งกันนะ ทุก ๆ ครั้งเลยได้ไหม?

.........................



หลังจากอยู่เมืองบ้านนอกในฝรั่งเศสมาได้ 4 เดือน เพิ่งจะมีครั้งนี้ที่ได้ไปเยี่ยมเมืองหลวงของฝรั่งเศสอย่างจริงจัง สาเหตุหลักไม่ได้เป็นเพราะต้องการจะไปท่องเที่ยวหรือเยี่ยมเมืองแต่อย่างใด แต่สาเหตุเริ่มต้นมาจากความเครียด จิตตก อารมณ์ไม่ดีมาสักพักด้วยสาเหตุหลายอย่างในชีวิต เลยอยากจะเดินทางท่องเที่ยวแบบชิว ๆ สักครั้ง ให้ลืมเรื่องราววุ่น ๆ ในชีวิตประจำวัน ให้หัวโล่ง ๆ ว่าง ๆ ให้ใจได้ผ่อนคลายจากปัญหาที่คิดไม่ออก...

ปารีสกับวันหยุดเสาร์อาทิตย์ 45 ชั่วโมงคราวนี้จึงถูกจัดขึ้นอย่างไม่ได้เตรียมการอะไรมากมาย คุยกับกับรุ่นพี่คนไทยที่สนิทกันคนหนึ่งแล้วก็เดินไปจองตั๋วรถไฟที่สถานีรถไฟก่อนวันไปแค่วันเดียว หาข้อมูลโรงแรมคร่าว ๆ จากอินเตอร์เนท ยืมหนังสือท่องเที่ยวและแผนที่ปารีสจากห้องสมุดของเมือง แล้วก็หลับหูหลับตาไปดุ่ม ๆ อย่างนั้นแหละ...แต่ 'ปารีส' ที่ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาก กลับเป็นมิตรกับฉันมากกว่าที่คิด และบรรลุเป้าหมายในการท่องเที่ยว คือ ได้ปล่อยหัวให้โล่งว่างและเติมเต็มด้วยความรู้สึกเต็มเปี่ยมให้ปารีส





ฉันคุยกับพี่เค้าว่าไปคราวนี้ไม่ได้อยากเที่ยวอะไรมากมายเป็นพิเศษ เพราะพี่เค้าเคยเที่ยวไปหมดแล้วและฉันก็ไม่มีอารมณ์อยากเที่ยวดูอะไรเป็นพิเศษเท่าไหร่ อยากแค่เปลี่ยนสถานที่จากที่ที่คุ้นเคยเท่านั้นเอง แต่ว่าในที่สุดแค่วันแรกวันเดียว กลับเที่ยวได้เกือบครบทั้งเมืองปารีส...กลับมาอย่างเหนื่อยและเมื่อยขากันที่โรงแรม และนับสถานที่ที่ผ่านตากันได้ 11 ที่เลยทีเดียว!

เราเริ่มต้นกันจาก L'Arc de Triomphe หรือประตูชัย ที่ต้นถนน Champs Elysée และเดินเล่นไล่ไปเรื่อย ๆ ผ่าน Grand Palais แต่ไม่ได้แวะเข้าไป ผ่าน La Place de la Concorde ที่มีเสาหิน Obélisque อยู่ ผ่าน Assemblé Nationale หรือรัฐสภา แล้วก็เดินดุ่มกันต่อไปที่ Jardin de Tuileries ไปจนถึง Musée de Louvre แต่ไม่ได้เข้าไป เพราะฉันกะว่าจะมาขลุกอยู่ที่นี่สักหนึ่งวันเต็ม ๆ วันไหนสักวัน(ที่เข้าฟรี)

จากนั้นก็นั่งรถใต้ดินไปห้าง Galleries Lafayette ชอปปิ้งกันเล็กน้อยพอเป็นพิธี (ฮ่าๆ) ผ่านไปหน้า Opéra ย้อนกลับมาที่ Hôtel de Ville หรือศาลาว่าการจังหวัด (แปลได้แย่มาก) ต่อที่ Notre Dame de Paris และไปผ่านดู Sorbonne มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของปารีส






Le Grand Palais





La Place de la Concorde




ถนน Champs Elysée มองจาก La Place de la Concorde





นกหน้าตาน่าเกลียดหน้าพิพิธภัณฑ์ลูฟ






หุ่นและนกพิราบหน้าพิพิธภัฌฑ์ลูฟ





พิพิธภัณฑ์ลูฟ



วันนั้นที่ไป อากาศดีตั้งแต่เช้าเลย แดดออกสดใสและมีลมอ่อน ๆ ไม่ร้อนเกินไป ออกจะเย็น ๆ ด้วยซ้ำ เนื่องจากเป็นช่วงปลายหน้าร้อน ก้าวข้าวฤดูใบไม้ผลิด้วย อากาศก็เลยเริ่มเย็น ๆ คนปารีสออกมาเดินเล่นเต็มไปหมด สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ก็เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว เค้าว่ากันว่าช่วงที่ดีที่สุดที่น่าเที่ยวที่ปารีส คือ หน้าร้อนอย่างเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมเนี่ยแหละ เนื่องมาจากว่าคนปารีสจะไปพักร้อนทางตอนใต้กันหมด เมืองปารีสก็จะว่าง ๆ และรถไม่ติด

เพราะฉะนั้นเดือนหน้าร้อนอย่างนี้ก็ไม่เหมาะจะเที่ยวทางตอนใต้ของฝรั่งเศสอย่างรุนแรง เนื่องจากเป็น high season ของเค้า ของแพง โรงแรมเต็ม และมีแต่คนปารีสเต็มหาดไปหมดนั่นเอง

แต่กำลังบ่นชมอากาศปารีสยังไม่ทันขาดคำ ฝนฟ้าก็เริ่มครึ้ม ๆ ตอนมาถึงพิพิธภัณฑ์ลูฟพอดี...แปลกก็ตรงที่ไม่ได้มีวี่แววว่าฝนจะตกเลยสักนิด แต่แล้วก็ต้องกางร่มกันใหญ่เพื่อกันฝนเม็ดใหญ่ที่ตกลงมาไม่ให้สัญญาณ แต่ว่าเดินไปได้สักหน่อยเดียวก็หยุดตกซะแล้ว แถมแดดยังออกอย่างสดใสเหมือนไม่ได้มีฝนตกมาก่อน...เล่นเอางงกันไปเหมือนกัน เดากันเล่น ๆ ว่า "อากาศฝรั่งเศสก็เหมือนคนฝรั่งเศสนั่นแหละ เอาแน่เอานอนไม่ได้และแปรปรวนไปมา ยืนยัน!!"






Opéra ของปารีส





Notre-Dame de Paris







วันแรกวันเดียวเดิน ๆ ๆ ๆ ๆ ทั้งวันจนเหนื่อย ทั้งที่ซื้อตั๋วรถใต้ดินไว้ แต่ถ้าไปไหนมาไหนไม่ไกลเกินไปก็จะเดินเอามากกว่า ตอนที่เดินก็ไม่ได้รู้สึกว่าเหนื่อยอะไรมากมายเพราะว่าอากาศดี เมืองสวย (คนหน้าตาดีด้วย ฮ่าๆ) สองสาวก็เลยเดินกันเพลิน แวะซื้อของตามประสา ถ่ายรูปกันไปเรื่อย รู้ตัวอีกทีฟ้ามืด ตะวันตกดิน นั่งพักกันอยู่ที่ La Place de Saint-Michel กินเบียร์กันคนละแก้ว

ลองเปรียบเทียบราคาเบียร์กับค่าครองชีพดูไม่รู้ว่าจะเทียบกันได้หรือเปล่า แต่เบียร์ 0.25 litre หรือหนึ่งแก้วที่นี่ปาเข้าไป 6.5 ยูโร!!! แต่ที่ Vichy แค่ 2.5 ยูโร เกือบจะ 3 เท่าเลยทีเดียว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะย่านที่ไปเป็นย่านหรูหราด้วยหรือเปล่า หรือว่าเป็นเพราะ "ปารีส" เมืองหลวงอันดับต้น ๆ ของโลก ที่ขึ้นชื่อเรื่องค่าครองชีพสูง ๆ ก็ไม่รู้...ฉันและรุ่นพี่เลยหลอกตัวเองกันไปว่า มันเป็นเบียร์ที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมาเลยเชียวล่ะ!!

แต่จบวันด้วยเบียร์โมนาโคเย็น ๆ และบรรยากาศตอนกลางคืนสวย ๆ ของปารีส 6.5 ยูโรก็ไม่ได้แพงไปเท่าไหร่หรอก








ติดตามตอนต่อไป...Paris encore-45 ชั่วโมงที่ปารีส(2) ค่ะ


Create Date : 31 สิงหาคม 2553
Last Update : 9 กันยายน 2553 1:29:57 น. 14 comments
Counter : 2209 Pageviews.

 
สวัสดียามเช้าครับน้องปอย

ขอตามมาเที่ยวปารีสด้วยคนนะครับ
เมื่อตอนที่พี่ก๋าไป
ใช้สายตาเที่ยวอยู่บนรถครับ 555
เที่ยกวับทัวร์คงไมไ่ด้ลงรายละเอียด
เหมือนที่น้องปอยได้เดินเที่ยวเน๊าะ

ก็หวังว่าการได้เดินทางท่องเที่ยว
จะทำให้น้องปอยสบายใจขึ้น
ทิ้งปัญหาไว้เบื้องหลัง
แล้วก็เดินต่อไปๆๆด้วยความสุขนะครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:5:51:18 น.  

 
พูดถึงเบียร์แก้วเดียวแบบเล็กๆ ของทางโน้น
เล่นทำเเอานึกถึงเบียร์ในร็อตเตอร์ดัมตอนไปดู
summer parade เชียวค่ะ แก้วกระจิ๊ดเดียว 2.50
แบบว่าดื่มไปจะหยดต่อหยด เพราะถ้าดึมไปเยอะๆ
คาดว่าก็หมดสิ้นเนื้อประดาตัวเหมือนกัน ตอนนี้
กลับมาอยู่บ้านเรา 1 กระป๋อง 25 บาท ดื่มกันได้
ไม่คิดมากค่ะ 555 ว่าแล้ววกเข้าโหมดเมรีจขี้เมา
แล้วนะค่ะนิ 5555+


ปารีสก็เหมือนเมืองหลวงใหญ่ๆ หลายที่นะค่ะ
มีอะไรให้ดูกันเพลินๆ เชียว แม้ว่าผู้คนจะหน้าตานิ่งๆ
ไปบ้างแต่ว่ากับวิวดีๆ สิ่งสวยๆ รออยู่ บางครั้ง
ก็ลืมไปบ้างเหมือนกันกับหน้าตานิ่งๆ ของคนทางโน้น
ค่ะ อาจจะเพราะเป็นเมืองใหญ่ด้วยแหละค่ะ เลยเป็น
แบบนี้ อารมณ์เหมือนเด็กต่างจังหวัดเข้าเมืองหลวงเลย
เพราะว่าเจอแบบหน้าตาไม่ยิ้มเลยไม่ค่อยกล้าจะ
คุยเล่นกับคนทางโน้นเลยค่ะ ... แต่ว่าไม่เป็นไร นานา
จิตตังไ ปเจอคนดีก็ดี เจอคนไม่ยิ้มก็ไม่ยิ้ม ไม่เป็นไรเน๊าะ


อยากไปเดินถ่ายรูปเป็นวันๆ เหมือนกันค่ะ
เหนื่อยแต่ว่าคงไม่บ่นล่ะน้องปอย อยากไป อยากไป


โดย: JewNid วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:14:12:23 น.  

 
มาส่งกำลังใจน้องปอยค่ะ
แล้วก็ตามเที่ยวแพรีสด้วย


โดย: narellan IP: 124.157.239.35 วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:17:49:45 น.  

 
เมื่อไรจะได้ไปปารีสบ้างหนอ



โดย: ปลาทองแก้มยุ้ย IP: 125.26.173.145 วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:0:20:05 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: kapeak วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:9:00:42 น.  

 
จะกดไลค์รูปรถเต่าง่ะ กดๆๆๆๆๆๆๆๆ
เห็นฟ้ายามเย็นแล้วอยากไปนั่งกินเบียร์ด้วยจังเลยอะ ^^


โดย: ชิชะ IP: 58.11.31.80 วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:11:29:08 น.  

 
สวัสดีค่าคุณปอย คิดถึงจังเลย
ปุ๊กลับมาอัพบลอคละน๊า ^___^

มาอ่านบลอคคุณปอยแล้วภาพและภาษายังสวยไม่เปลี่ยนเลยนะคะ
ขนาดอยู่ในอารม์เซ็งๆ ยังบรรยายได้น่าเที่ยวมาก
ไหนๆ ก็เดินทางบ่อยอยู่แล้วคุณปอยน่าจะรวมเล่ม
เสนอสนพ.ดูซักทีนะคะเนี่ย แอบเชียร์อยู่ในใจอ่ะค่ะ
เพราะถ่ายรูปเก่งด้วย ทูอินวันเลย
ชอบรูปนกกะรูปปั้นอ่ะค่ะ ดูมีเรื่องเล่าดียังกะกำลังเช็ดหน้าอยู่เลย อิอิ

ไม่ได้คุยกันนานหวังว่าคุณปอยคงสบายดีนะคะ
สำหรับปุ๊กเองช่วงนี้สบายดีและถ้าไม่ยุ่งก็หวังว่าคงได้แวะมาคุยด้วยบ่อยๆ นะคะ


โดย: Hobbit วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:22:17:36 น.  

 
ภาพสุดท้ายสวยมาก
ชอบภาพถ่ายตอนกลางคืนของนางสาวดุ่บดั่บนะคะ

ปอยขา...เห็นด้วยที่จะตกหลุมรักนะคะ
โดยเฉพาะกับเมืองที่สวยๆ แบบนี้
อากาศแปรปรวน อารมณ์ปรวนแปร
ความรักเรรวน รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
จุ๊บค่ะ


โดย: BeCoffee วันที่: 14 กันยายน 2553 เวลา:22:35:46 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับน้องปอย









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 กันยายน 2553 เวลา:7:09:27 น.  

 
หวัดดีค่ะ..ปอย ขอเยี่ยมชมปารีสด้วยคน
แม้จะอ่านแล้ว จำชื่อในภาษาฝรั่งเศสไม่ได้เลยซักที
เพราะว่าอ่านยากจังเลยค่ะ แต่ขอดื่มด่ำความงามไปด้วย
ด้วยภาพฝีมือปอยที่สวยงาม คมชัด...โดยเฉพะภาพสุดท้าย
เป็นยามค่ำย่ำสนธยาที่ดูลึกลับ เหงาๆ แต่ร้อนแรงด้วยแสงสีดีค่ะ


โดย: nikanda วันที่: 18 กันยายน 2553 เวลา:19:54:47 น.  

 
เมืองนี้เคยแวะไปวันเดียวกับชะโงกทัวร์

ถ้าไปอีก คงไปเอง แล้วอยากไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์มากค่ะ

ขอบคุณสำหรับเรื่องเล่าค่ะ


โดย: cottonbook วันที่: 19 กันยายน 2553 เวลา:10:24:32 น.  

 

ไอ่จะบองชูด้วยก็กระไร แบบว่าไม่สันทัด เดี๊ยวได้อาย
เอาว่าสวัสดีแบบไทยไปก่อนดีกว่า
หายหน้าหายตานานเน๊อะ เราสองคนนั่นแหละ
ได้แต่สวนกันไปและสวนกันมา จังหวะไม่ตรงกันซะที
เลยตอบไม่ได้ว่าเมื่อพบเจอ เราจะตกหลุมรักกันหรือเปล่า
((55 ลากเข้าเรื่องตามจั่วหัวไว้ซะเฉยเลย เนียนไหม))


เอาแบบจริงจังดีกว่า
สบายหัวใจดีขึ้นบ้างหรือยัง อย่าไปเอามาผูกกับข้อเท้าเราให้มันหนัก
แบกไว้มากมันก็เหนื่อย เอาไปใส่ใต้เท้าแล้วเหยียบย่ำดู
ดีขึ้นไหม

อืมม คิดว่าไม่หรอก
คุณปอยคงจะกอบมันขึ้นมาแล้วค่อย ๆ ตบให้เข้ารูปอย่างเดิม
ก่อนจะทนุถนอมดูแลและปล่อยให้มันได้สะกิดต่อมความรู้สึกต่อไป




เจ็บบ้างก็ดี อย่างน้อย จะได้รู้ว่าเรายังหายใจอยู่
หากแต่มีอะไรให้ได้ช่วยก็บอกกันเน๊อะ ยินดีจะนั่งข้าง ๆ คุยกัน
รักษาสุขภาพด้วย และโปรดระวัง "ขี้นก"


โดย: inmemoir วันที่: 20 กันยายน 2553 เวลา:14:15:58 น.  

 
สวัสดีคร้าบคุณปอย ไม่ได้เข้ามาเล่นบล๊อกแก๊งค์นานมากกกก
ตอนนี้ตั้งใจว่าจะเข้ามาเขียนในนี้บ่อยๆเหมือนเมื่อก่อนให้ได้
ปารีสเป็นอีกเมืองหนึ่งที่อยากไปเยือนให้ได้สักครั้งในชีวิตครับ
เซทนี้สวยทุกภาพเลย แต่ที่ดูแล้วโดนใจที่สุดต้องภาพนกพิราบเกาะอยู่บนหัวของรูปปั้นครับ สวยลึกซึ้งจริงๆ


โดย: Unravel วันที่: 24 กันยายน 2553 เวลา:21:24:40 น.  

 
แวะมาทักทายด้วยความคิดถึงครับ

น้องปอยสบายดีนะครับ









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 กันยายน 2553 เวลา:6:19:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นางสาวดุ่บดั่บ
Location :
Vichy France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]




\\\ดุ่บดั่บๆ///
ดุ่บดั่บ คือ การเคลื่อนตัวของหนอน
หนอนตัวน้อย ๆ ที่สามารถไปไหนก็ได้ตามใจต้องการ
ฉันเองก็อยากเป็นหนอนตัวน้อย
จะได้ทำอะไรก็ได้ และไปที่ไหนก็ได้ตามที่ใจฉันฝัน
...ดุ่บดั่บ ๆ ๆ...





>>>คลิก ๆ...สารบัญและสมุดเยี่ยมค่ะ<<<




อ่านบลอคเก่า ๆ ก็ได้นะ

<<การปรับตัว-Acclimatisation>>
::สวนสาธารณะวันหม่น::
ภาพ: ดอกมูเก้
โดยสวัสดิภาพ-Bon Voyage(2)
โดยสวัสดิภาพ-Bon Voyage(1)



















Status: ขาวดำ



Group Blog
 
 
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
31 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add นางสาวดุ่บดั่บ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.