'*^-+...ไม่มีอะไรงดงาม เท่าความสงบสุข...+-^*'

โชคไม่ค่อยเข้าข้าง...ที่ใจกลางลอนดอน





ลอนดอน เมืองหลวงของสหราชอาณาจักรหรือแคว้นอังกฤษ เป็นเมืองในฝันของใครหลายคนในหลายจุดประสงค์ ทั้งการมาศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย การมาเยือนสถานที่สำคัญและท่องเที่ยวชั่ววันชั่วคืน และที่เห็นเป็นสำคัญ ก็คือเป็นเมืองที่ผู้ต้องการย้ายรกรากมาลงหลักปักฐานจะเลือกเป็นอันดับแรก ๆ ฉันจึงเห็นนักแสวงโชคอินเดียน จีน และอีกหลายสัญชาติมากกว่าลอนดอนเนอร์จริง ๆ เสียอีก

ครั้งนี้ของฉันก็เช่นกัน แม้ฉันจะมาอย่างนักท่องเที่ยวไม่ใช่นักแสวงโชคแต่ถึงกระนั้น เหมือนการเตร็ดเตร่ในครั้งนี้ของฉัน กลับต้องพึ่ง ‘โชค’ ล้วน ๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้





ฉันไม่รู้เหมือนกันว่า มีกี่วันกันในหนึ่งปีของลอนดอนที่มีดวงอาทิตย์และฟ้าสีฟ้าให้ได้เห็น แต่ทุกครั้งที่ฉันได้มาเหยียบเยือน ฉันยังไม่เคยเห็น...คงมีก็แต่ฟ้าหม่น เมฆดำครึ้มและหนักหน่อยก็มีฝนปรอยซึ่งคงจะเป็นเรื่องธรรมดาของลอนดอนเนอร์ เพราะอย่างนั้น ลอนดอนจึงไม่ค่อยใช่เมืองในฝันของฉันสักเท่าไหร่

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม แม้จะไม่ใช่เมืองที่ฉันปลาบปลื้มที่ได้มาเยือน แต่เมื่อมาถึงถิ่นแดนของเขาแล้ว กอปรกับมีเวลาพอสมควรฉันจึงอยากจะเติมเต็มการได้ชื่อว่ามาลอนดอนให้สมบูรณ์เสียหน่อย โดยการไปเยือนสถานที่เลื่องชื่อและสำคัญ จะได้บอกใคร ๆ ได้ว่ามาถึงลอนดอนแล้วจริง ๆ ดังนั้นเป้าหมายของฉันจึงคือหอนาฬิกาเรือนยักษ์ใจกลางเมือง หรือว่า “บิกเบน” นั่นเอง

เนื่องจากโรงแรมที่พัก อยู่ห่างไกลจากตัวเมืองโขอยู่ แต่เมื่อใจฉันลิ่วนำหน้าไปถึงคุณบิกเบนเรียบร้อยแล้ว ตัวฉันจึงต้องดั้นด้นเสาะหาหนทางไปให้จงได้อย่างไม่ย่อท้อ โดยไม่ว่าจะต้องต่อรถบัสและรถใต้ดินกี่ทอดก็ตาม...





อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และอย่างเต็มใจในเวลาเดียวกัน ฉันต้องใช้บริการรถไฟใต้ดิน ของลอนดอนในการเดินทางไปใจกลางเมือง ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งเหมือนกันในการมาเยือนลอนดอน ถ้าไม่ได้ขึ้น Underground หรือ Tube จะถูกหาได้ว่ามาไม่ถึงลอนดอน

ด้วยเหตุว่า Underground นี้เอง ที่เป็นรถไฟใต้ดินต้นแบบของรถไฟในหลาย ๆ ประเทศ ด้วยทั้งการวางผังที่เชื่อมต่ออย่างลงตัวทั่วทั้งเมือง การจัดระบบให้ความสะดวกรวดเร็วแก่ผู้ใช้ และอะไรอีกหลาย ๆ อย่างซึ่งฉันคาดว่าเมืองไทยก็เลียนแบบ Tube ของลอนดอนมาเหมือนกัน แต่เห็นจากแผนผังที่อยู่ในมือ ฉันก็ยิ้มขำ ๆ งง ๆ พร้อมกับไม่ค่อยแน่ใจว่าจะไปถึงที่หมายโดยไม่หลงได้หรือไม่ เพราะมันดูไม่ต่างอะไรกับ ใยแมงมุมที่พร้อมดักแมลงดี ๆ นี่เอง





แม้ว่ามองไปทางไหนก็เจอแต่หน้าตาเอเชีย และอินเดียนผู้มาแสวงโชคมากกว่าครึ่งก็ตามที ...แต่ก็มีอยู่อย่างหนึ่งที่แสนจะทำให้มั่นใจว่าฉันอยู่ไม่ผิดที่ ก็คงจะหนีไม่พ้น “สำเนียงอังกฤษ” ที่แสนจะห้วนแปร่งหูและไร้ตัวสะกด ซึ่งไม่ว่าจะหน้าเอเชียหรืออินเดียนจ๋าก็มีสำเนียงนี้ติดปากกันทั้งสิ้น

ฉันยอมรับเลยว่า ฉันไม่คุ้นชินกับสำเนียงมีสกุลรุนชาติอย่างนี้เอาเสียเลย ฟังอะไรแทบจะไม่ออกเลยสักคำ จากที่ฉันดีใจว่ามาอยู่ในประเทศที่ใช้ภาษาสากลและเป็นแม่แบบของภาษา กลับกลายเป็นว่าเหมือนอยู่ประเทศอะไรอีกประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเสียซะอย่างนั้น





การเป็นนักแสวงโชคในลอนดอน ไม่ใช่ง่ายเลยทีเดียว และโชคไม่เข้าข้างครั้งที่หนึ่งก็ปรากฏให้เห็นแล้ว...ระหว่างที่นั่งรถใต้ดินใยแมงมุมของ London อยู่นั้น เมื่อยังไม่ถึงสถานีเป้าหมายที่จะไปถึง ก็มีเสียงประกาศสดจากนายท่ารถด้วยสำเนียงผู้ดีอังกฤษแท้ ๆ จากนั้นทุกคนก็ลุกขึ้นและทำท่าทางหัวเสีย ฉันหันไปถามเพื่อนหน้าไม่อาย เมื่อกี๊เขาพูดว่าอะไรนะ? ด้วยเพราะฟังไม่เห็นเข้าใจสำเนียงนั่นเลย

เพื่อนฉันแปลอังกฤษเป็นอังกฤษให้ฟังว่า กรุณาลงจากรถไฟและไปต่อสายอื่น เนื่องจากรางรถไฟกำลังปิดซ่อม!!

เมื่อตั้งสติได้และหารถต่อไปยังปลายทางที่ต้องการ เพื่อนฉันก็หันมายิ้มและถามว่า ฉันเกิดราศีอะไร...ฉันบอกว่า Scorpio เพื่อนฉันหัวเราะและบอกว่า คิดไว้ไม่มีผิด...เขาก็ Scorpio เหมือนกัน รู้หรือเปล่าว่าราศีที่มีความโชคร้ายที่สุดในบรรดาทุกราศีก็คือราศีแมงป่อง!!!

ฉันขำในการเชื่อราศีเกิดของคนอาหรับ แต่ก็ไม่ได้ท้วงติงหรือกระไร ดังนั้นจึงกลายเป็นว่าแมงป่องสองตัวอยู่ด้วยกัน โชคจึงไม่เข้าข้างทั้งคู่...

แต่ในที่สุดแล้วแมงป่องสองตัวก็หาทางออกไปสู่สิ่งที่หมายได้อย่างสวัสดิภาพ ซึ่งปลายทางก็คือสถานี Westminster...โผล่ขึ้นมาเห็นแสงตะวัน ก็จะพบกับสิ่งนั้นทันที...คุณบิกเบนที่ฉันอยากเจอมานาน










หอนาฬิกาบิกเบนหรือว่าหอนาฬิกาเซนต์สตีเฟน หรือว่าหอนาฬิกาพระราชวังเวสมินเตอร์ ตั้งอยู่ด้านหน้ารัฐสภาอังกฤษ สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2377 หลังจากพระราชวังเวสมินเตอร์ถูกไฟไหม้ และเป็นนาฬิกาหลักของผู้คนเมืองอังกฤษ เนื่องจากมีชื่อเสียงอย่างมากด้านเที่ยงตรง ฉันจึงถือโอกาสเทียบเวลาเสียเลย






ฟ้าเริ่มครึ้ม เมฆเริ่มก่อตัวและฝนเริ่มโปรยเบา ๆ ตามประสาลอนดอน ฉันเดินเก็บเกี่ยวบรรยากาศหม่น ๆ จนอิ่มใจก็เรื่อยเปื่อยไปต่อที่ลอนดอนอาย London Eye อีกหนึ่งแลนมาร์คของลอนดอนไปเสียแล้ว ซึ่งมองจากฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำเทมส์นั้น ฉันว่ามันก็คือ "ชิงช้าสวรรค์" บ้านเราดี ๆ นี่เอง






แต่หารู้ไม่ว่า เมื่อฉันได้บุกบั่นเดินข้ามสะพานเวสมินเตอร์ไปสัมผัสดวงตาแห่งลอนดอนใกล้ ๆ ฉันแทบจะหยุดอุทานไม่ได้เลยว่ามัน "มหึมาสุด ๆ"







ลอนดอนอาย ชิงช้าสวรรค์ขนาดยักษ์ มีกระเช้าขนาดคนจุ 25 คนจำนวน 32 กระเช้า ใช้เวลาหมุนหนึ่งรอบเป็นเวลา 30 นาที สร้างมาตั้งแต่ปี 2000 โดยสายการบิน British Airways...และไหน ๆ ก็มายืนอยู่ตรงหน้าชิงช้าอันเบ้อเริ่ม จะพลาดการขึ้นชมเมืองลอนดอนได้อย่างไร แม้จะต้องจ่ายเงินไปถึง 15 ปอนด์ก็ตาม





เวลาที่ฉันขึ้นไป เป็นเวลาคาบเย็นถึงค่ำพอดิบพอดี ช่วงวนขึ้นจึงเห็นบิกเบนและรัฐสภาในยามเย็น และช่วงวนกลับลงมาจึงได้เห็นแสงไฟและมุมสูงของเมืองในตอนกลางคืน...สวยอย่าบอกใคร ไม่สนใจหรอกว่าฉันจะเป็นแมงป่องที่โชคร้ายใจกลางลอนดอนหรือไม่...แค่ฉันได้อิ่มใจกับแสงไฟวูบวาบ ก็ทำให้ฉันลืมฝนฟ้าที่เริ่มพรำหนักลงมาไปเสียสิ้น





เดินออกจากลอนดอนอายได้ไม่ทันไร จากแผนเดิมที่ตั้งใจจะไป Picadally Circus และต่อด้วย China town ก็โดนฝนลอนดอนไล่กระหน่ำแทบจะวิ่งไม่พ้นสะพานเวสมินสเตอร์เสียด้วยซ้ำ และจากการตรองดูของแมงป่องที่เริ่มไร้พิษทั้งคู่ก็เห็นพ้องต้องกันว่า คงต้องเสียเวลากับ tube และการเดินทางกลับอีกนาน สู้เริ่มต้นเดินทางเสียตอนนี้ดีกว่า โปรแกรมทั้งสองที่ว่าฉันจึงจำใจต้องพับเก็บไปต่อเอาคราวหน้าที่ได้มาเยือน โดยฉันเลือกป้ายความผิดให้กับความโชคร้ายของการเกิดเป็นราศีพิจิกของฉันและเพื่อน ที่เพิ่มทวีคูณความรุนแรงอย่างไม่หยุดยั้ง





และอีกครั้ง ฉันต้องกลับมาใช้รถไฟในเส้นทางเดิมที่แสนจะยาวนานและวุ่นวาย และโชคก็ไม่ได้เข้าข้างอีกอย่างเคย รางรถไฟยังคงปิดซ่อมบำรุง ทำให้ต้องเปลี่ยนสถานี ต่อรสบัสและกางแผนที่อย่างบ้าคลั่งเช่นเดิม

และแล้ว การเตร็ดเตร่ในลอนดอนของฉัน ก็ใช้เวลามากกว่าครึ่งไปกับระหว่างทางหรือพูดให้แท้จริงนั้น ก็คือติดแหงกอยู่บนใยแมงมุมนั่นเอง วนไปอ้อมมาพยายามหาทางออกจากใยยุ่บยั่บนี้ให้ได้ กลายเป็นแมงป่องสิ้นพิษเพราะติดกับแมงมุมร้าย






แม้ว่าในที่สุดแล้ว ฉันยังคงฟังสำเนียงลอนดอนเนอร์ไม่ออกสักคำอยู่ก็ตามที แต่เหมือนว่าการเตร็ดเตร่อย่างจริงจังทั่วลอนดอนครั้งนี้ ทำฉันเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อผู้ดีเกาะอังกฤษไปได้อย่างไม่รู้ตัว

จากที่ฉันเคยรู้สึกมาตลอดว่าคนอังกฤษเย็นชา นิ่งงัน เย่อหยิ่งและทะนงตัว ไม่ว่าจะจากการแต่งกาย ท่าทาง บุคลิกและแน่นอนจากสำเนียง แต่ฉันกลับได้สัมผัสหลายด้านนอกเหนือกว่านั้น ฉันเลือกจะมองว่าจริง ๆ แล้ว คนอังกฤษ เขาเป็นคนที่มีรสนิยม สุขุมนุ่มลึก มีระเบียบวินัยอยู่ในกรอบแบบแผนและมีความสุนทรีย์สูงมากกว่า






ตลอดเส้นทางอันยาวนานไม่รู้จะจบลงตรงไหนของฉัน สิ่งที่สอดแทรกมาเป็นความเริงใจเพียงอย่างเดียว ก็คือ ป้ายโฆษณา และนี่ก็คือบทสรุปเบื้องต้นคร่าว ๆ จากการสัมผัสเมืองต้นแบบภาษานี้ครั้งแรก ป้ายโฆษณา 80% ที่ฉันเห็นมันดูมีรสนิยมอย่างบอกไม่ถูก และทั้งนั้นก็เป็นโฆษณาเกี่ยวกับโอเปรา การแสดงละครเวที บัลเล่ต์ แจ๊สหรืออะไรก็ตามที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุนทรีย์จริง ๆ จัง ๆ จะหาป้ายโฆษณาแบบชวนเชื่อเกินจริง ตลาดดาษเกลื่อนหรือฉาบฉวยล่อแหลมได้น้อยนัก ดังนั้นฉันจึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมคนที่นี่หรือคนที่มาอาศัยอยู่ที่นี่ จึงมีบุคลิกลึก ๆ อย่างนั้น






และระหว่างทางเดินกลับโรงแรมที่พัก ฝนยังคงโปรยลงมาไม่หยุดและดูท่าจะหนักขึ้นกว่าเดิม ลมหนาวก็กระหน่ำซ้ำเข้ามากว่าเก่า ฉันกับเพื่อนเริ่มก้มหน้าก้มตาเดินเร็วโดยไม่สนใจอะไรรอบตัวทั้งสิ้น พาลให้คิดไปว่า ฉันก็เริ่มจะมีท่าทางก้มหน้าก้มตาเหมือนคนที่นี่เข้าไปทุกที และเห็นจะเป็นเพราะอะไรไปเสียไม่ได้ นอกจากฝนฟ้าอากาศที่ครึ้มมัวอย่างนั้นตลอดทั้งปี บุคลิกคนที่นี่จึงถูกหล่อหลอมให้เดินงุด ๆ ไปโดยปริยาย

กลับมาถึงโรงแรมอย่างปลอดภัย ฉันหัวเราะขำ ๆ กับเพื่อนทั้งที่ตัวเปียกปอน แม้จะโชคไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่การเตร็ดเตร่ลอนดอนครั้งแรก อะไร ๆ ก็สนุกได้ทั้งนั้น พร้อมรับกับแผนการที่เปลี่ยนแปลงเพราะฝนฟ้าตลอดเวลา อย่างน้อยที่สุดฉันก็ได้ความรู้ใหม่ว่า โชคร้ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต ฉันโทษได้ว่าเป็นเพราะราศี และที่สำคัญฉันว่าฉันท่องจำสถานีรถไฟแสนวุ่นวายนั่นได้เกือบครึ่ง





การเยี่ยมเยือนลอนดอนของฉันในครั้งนี้ แน่ละฉันได้พบคุณบิกเบนจริง ๆ สมปรารถนา แต่ท่าทางว่าฉันจะได้หวัดลอนดอนกลับไปด้วยเป็นของแถม คืนนั้น นอกจากจะนอนหลับเป็นตายเพราะยาลดไข้ ฉันยังเพ้อ ๆ ไปถึงใยแมงมุมยุ่บยั่บวนไปวนมา กับแมงป่องโชคร้ายตัวนึงที่มึน ๆ เพราะสำเนียงลอนดอนและฝนพรำ ๆ พร้อมกับเสียงประกาศที่ติดหูว่า

"Please mind the gap between the train and the platform."











Create Date : 18 มีนาคม 2551
Last Update : 19 มีนาคม 2551 6:09:38 น. 70 comments
Counter : 3901 Pageviews.

 
เฮ ขอมาเจิมก่อน


โดย: BrettAnderson วันที่: 19 มีนาคม 2551 เวลา:6:16:16 น.  

 
ไม่รู้จะเม้นอะไร เอาเป็นว่าถ่ายรูปออกมาสวย และเล่าเรื่องได้ละเอียดขึ้นมากเลยทีเดียว

ขอให้หายป่วยเร็วๆแล้วกันนะ


โดย: BrettAnderson วันที่: 19 มีนาคม 2551 เวลา:6:25:34 น.  

 
อ่านเดอะซีเคร็ทแล้วไม่ใช่รึ ทำไมคิดว่าราศีตัวเองโชคร้ายที่สุดล่ะ ถ้าเธอคิดแบบนั้นเธอก็จะเจอโชคร้ายไปตลอดแหละ

อย่าไปคิดแบบนั้น จะโชคดีจะโชคร้าย ก็อยู่ที่ตัวเราและจังหวะ ชั้นว่าชีวิตชั้นโชคร้ายกว่าเธออีก

ไปลอนดอนแล้วเจอฝนตกน่ะเป็นเรื่องธรรมดาอย่างมาก มันตกของมันทั้งวัน และทั้งปี แล้วฝนตกที่ลอนดอนก็ไม่เหมือนฝนตกบ้านเรา บทมันอยากจะตกก็ตก บทมันจะหยุดแดดก็ออกเปรี้ยงซะวงั้น

ที่พูดนี่ไม่ได้เคยไปหรอกนะ แต่อ่านจากคนที่เขาเคยไปอยู่มาหลายคนน่ะ พูดเหมือนกันหมดเลยเรื่องนี้

ส่วนเรื่องการป่วยน่ะ เพราะร่างกายเธอไม่แข็งแรงน่ะสิ อันนี้ก็พูดยาก บางคนแพ้อากาศไม่เหมือนกัน ดูเธอไม่ค่อยถูกกับอากาศหน้าฝน และหน้าหนาวเท่าไหร่

คนอังกฤษยึดมั่นใน Traditon ของตัวเองมาก ไม่อย่างนั้นจะเกิดพรรคอนุรักษ์นิยมขึ้นมาได้อย่างไร เขาจะภาคภูมิใจในวิถีชีวิตในความเป็นอังกฤษของเขามาก ในทุกเรื่องด้วย บางที คนไทยสมัยใหม่ส่วนมาก(ซึ่งชั้นก็เหมารวมเธอไปด้วย) ที่หัวก้าวหน้า หรือชอบแสวงหาความท้าทายอะไรใหม่ๆ อาจไม่เข้าใจในจุดนี้ก็ได้ ...แต่เท่าที่อ่านดูก็ดูเหมือนเธอจะเข้าใจน่ะนะ

แต่คนหัวโบราณอย่างชั้น ความเป็นอังกฤษแบบนี้ล่ะที่ชั้นชอบมาก แต่ตอนนี้กลายเป็นโรคเบื่อฝรั่งขึ้นมา เลยลดความอยากไปเยือนอังกฤษลงไปโขเลยทีเดียว

แปลกใจตัวเองเหมือนกัน ก่อนไปคูเวตชั้นก็พวกบ้าฝรั่งคนนึง แต่พอไปรู้จัก ไปเห็นฝรั่งที่โน่น ก็เปลี่ยนความคิดไปเลย ตอนเจอฝรั่งที่เมืองไทยก็รู้สึกว่าเขาดีน่ะนะ แต่ทำไมพอไปเจอที่โน่น ถึงรู้สึกว่าไม่ดีขึ้นมาก็ไม่รู้

ก็เลยกลายเป็นโรคเบื่อฝรั่งไปเช่นนี้แล

อย่าลืมนะ อย่าคิดว่าตัวเองโชคร้ายไปกว่าคนอื่น ไม่งั้นเธอก็จะโชคร้ายไปตลอด คิดในแง่ดีๆเข้าไว้ว่า เธอช่างโชคดีสิ เจอแต่เรื่องดีๆอยู่เรื่อย แล้วเด๋วก็จะเจอแต่เรื่องดีๆอีก

อ่านเพชรพระอุมาจนลืมเดอะซีเคร็ทไปเสียและหรือ


โดย: BrettAnderson วันที่: 19 มีนาคม 2551 เวลา:7:10:13 น.  

 
หวัดดีครับน้องปอย


ป่วยจากการตากฝนที่ลอนดอนนี่รึเปล่า
ยังไงก็ขอให้หายเร็วๆนะครับ


.........................


รูปสวยมากเลยครับน้องปอย โดยเฉพาะรูปยามค่ำริมแม่น้ำ
บางรูปที่ไหว ก็ให้ความรู้สึกที่ดีนะ
พี่ก๋าเคยแย้งในใจลึกๆเวลามีใครบอกว่า
"รูปที่ดีต้องคมชัดและควรมาจากขาตั้งกล้องเท่านั้น"

อยากบอกเหลือเกินว่า บางทีความไหวก็มีอะไรดีดีซ่อนอยู่นะเว้ย








ถ้าฟ้าเป็นสีฟ้า รับรองทุกรูปของน้องปอยจะแจ่มมากๆเลย
พอฟ้าหม่น ดูแล้วเลยให้ความรู้สึกเหงา เย็น เงียบ


เพิ่งรู้ว่าสาวพิจิกเป็นพวกรวบรวมความโชคร้าย 5555
อยูู่ี่ด้วยกัน 2 คน เลยทวินพาวเวอร์ไปเลย 5555



แต่พี่ก๋าแอบบอกไว้ตรงนี้เลยนะ
ว่าพี่ก๋าไม่เชื่อหรอก อิอิอิ


................................



อยากเห็นจริงว่า ภาพจริงจะงดงามมากขนาดไหน

^
^

ส่งที่อยู่มาได้เลยครับ
เดี๋ยวพี่ก๋าจะวาดส่งไปให้ดูครับ

บางทีมันไม่ได้ยากอะไรเลยครับ (สำหรับพี่ก๋านะ)
อาจเพราะพี่ชอบและมันตรงกับจริตพี่ด้วยมั้งครับ
เลยชอบที่จะวาดรูปพวกนี้

ถ้าจะให้สนุกน้องปอยลองตั้งหัวข้อมาให้พี่ด้วยสิ
เดี๋ยวพี่เขียนให้

ที่อยู่ส่งมาที่หลังไมค์หรือที่เมล์พี่ก็ได้ครับ

ยินดีและเต็มใจวาดให้ครับ
เก็บไว้ดีดีนะ อีกหน่อยพี่จะดังแล้วอ่ะ 5555





ขอให้น้องปอยมีความสุขมากๆ
แล้วก็หายป่วยเร็วนะครับ




โดย: ก.วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) วันที่: 19 มีนาคม 2551 เวลา:8:04:10 น.  

 
แว๊บมาดูรูปก่อน อ่านอย่างคราวๆ ตอนเย็นค่อยเข้ามาอ่านอีกทีครับ ช่วงนี้ยังไม่ได้ไปไหนเลย ที่บ้านก็เบาไปเยอะแล้วครับ ค่อยๆจัดไป แต่ที่ทำงานยุ่งน่าดู

ขอให้หายป่วยไว้นะครับ ป่วยทางร่างกายไม่เป็นไร แต่เรื่องใจขอให้มีสุขภาพแข็งแรงตลอดไปแล้วกัน ถ้าใจเราดี อย่างอื่นก็ดีไปหมดครับ



โดย: nongmalakor วันที่: 19 มีนาคม 2551 เวลา:12:06:45 น.  

 
เพราะอย่างนี้เองน้องปอยเลยกลับมาไม่สบาย ...
แต่ดีน๊า พี่ว่าอย่างน้อย ๆ การไม่สบายของเราในครั้งนี้
ก็ได้เจอในสิ่งที่เราคาดหวังว่าอยากเจอสักครั้ง
ไปถึงเจอบิ๊กเบน เจอรถไฟใต้ดินไปไม่ถึงจุดหมาย
ที่สำคัญได้เจอกับบรรยากาศอังกฤษแท้ๆ แล้วก็ไม่หนี
ฝนของเมืองผู้ดีอีก ... ทุกอย่างมันเหมือนฝันจริงๆ ว่า

" เฮ้อ นี่เรามาถึงแล้วเหรอ "

.....

มาเที่ยวเมืองผู้ดี .. เสียดายว่าฟ้าไม่แจ่ม แต่ถึงยังไง
ก็ได้บรรยากาศหม่นๆ ไปอีกอย่างหนึ่งเหมือนกันจ้ะ
เอาว่าถ้ามีโอกาส ขอใหได้ไปแวะเยี่ยมเมืองผู้ดีอีก
หนนี้ขอให้เจออากาศแจ่มๆ นะจ้ะน้องปอย ...


.............

เรื่องหนังสือเพชรพระอุมา ... ฮ่า ฮ่า สงสัยว่าพี่ปิดตา
ไม่อยากดูแหงๆ เลย เพราะว่าเรื่องนี้น่ะ พี่เอง
วาดเอาไว้เองเยอะเลยสำหรับตัวละคร แต่ก็ไม่แน่ว่า
ถ้าเค้าทำออกมาแล้วมันดีจริง ตัวแสดงที่เค้าเลือกมา
โอเค มันก็น่าจะหนับหนุนหนังไทยนะ เพราะขนาด HP
เรายังดูเลย แล้วก็คิดว่าเค้าทำได้ดีในระดับหนึ่งเลยล่ะจ้ะ ...


หายเร็วๆ น๊า ถ้าหากว่าอยู่ใกล้ ๆ จะเอายาน้ำสีเหลืองๆ ไปฝากด้วยแหละ
จะได้หายเร็วๆ ...

ขอบคุณสำหรับคำอวยพรให้คนข้างๆ พี่ด้วยนะจ้ะ


โดย: JewNid วันที่: 19 มีนาคม 2551 เวลา:19:05:00 น.  

 
ไปลอนดอนนึกถึงแต่ fish & Ship เลยคับ
ชอบมั็กๆๆ หรือ อาหารจีนแถวโซโห..ก็ดีครับ


ถ่ายรูปสวยจังเลยคับ...
เห็นแล้วอยากไปเยือนอีกจัง...


โดย: Little Knight วันที่: 19 มีนาคม 2551 เวลา:19:50:41 น.  

 
ไปลอนดอนนึกถึงแต่ fish & Ship เลยคับ
ชอบมั็กๆๆ หรือ อาหารจีนแถวโซโห..ก็ดีครับ


ถ่ายรูปสวยจังเลยคับ...
เห็นแล้วอยากไปเยือนอีกจัง...


โดย: Little Knight วันที่: 19 มีนาคม 2551 เวลา:19:50:42 น.  

 
เข้ามาเก็บอ่านรายละเอียดอีกครั้งครับ สำนวนภาษาเหมือนอ่านหนังสือPocket Book เลย อ่านแล้วเพลินดีครับ

ค่าขึ้นลอนดอนอายแพงเหมือนกันนะ แต่ถ้าได้ไปแล้วก็คงต้องขึ้นสักครั้งแหละ ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ


โดย: nongmalakor วันที่: 19 มีนาคม 2551 เวลา:19:54:33 น.  

 
คอมพ์พี่หนูหล่อใกล้เจ๊ง เข้าบ้านคุณปอยยากมาก
ไปผ่านบล็อกคุณเบร็ทก็มาไม่ได้ ใช้ลิงค์ก็ไม่เวิร์ค
เพิ่งเข้าได้เนี่ยครับ

อ่านบล็อกนี้แล้วเกิดอาการ nostalgia อย่างหนัก
พี่หนูหล่อไปครั้งหลังสุดเมื่อ 1998 เลยยังไม่ได้เห็น ลอนดอนอาย แต่หวังว่าสักวันคงได้ไปอีกสักครั้ง ถึง
ลอนดอนจะไม่น่าอยู่ แต่เคยไปลำบากอยู่ในกรอบ
คนพื้นที่อยู่หลายปี หลายๆอย่างก็เป็นประสบการณ์ที่ดี
ที่ทำให้เป็นผู้เป็นคนได้อย่างทุกวันนี้ ก็ย่อมคิดถึงอยู่
เสมอเป็นธรรมดา ขอบคุณที่คุณปอยนำสิ่งเหล่านี้มาให้ได้
เห็นอีกครับ

พี่หนูหล่อหายหวัดนานแล้วครับ คุณปอยดูแลตัวเองด้วย
นะครับ หายเร็วๆ ด้วย กินยาหรือเปล่า เป็นหวัดนานๆก็
แพ้แรงนะครับ


โดย: หนูหล่อ IP: 203.172.109.225 วันที่: 19 มีนาคม 2551 เวลา:21:46:40 น.  

 
ก่อนอื่นต้องบอกว่า...ภาพสวยมาก...และหายป่วยเร็วๆนะ
ต่อมาก็ขำมุกคุณเบร็ท...อืม..เดอะซีเคร็ท...คิดว่าโชคร้ายก็จะเจอโชคร้าย(ต้องบอกว่าไม่มุกหรอก...จริงเลยล่ะ..อิ อิ)
...
...
ว้า...ถึงเราจะรู้ว่า..ลอนดอนมีแต่ฟ้าที่มัวหม่น
ฝนก็ไม่เคยเป็นใจให้นักท่องเที่ยว...ได้ท่องเที่ยวดีดี
แต่คนพอมันฝังรากลึก...ลงไปแล้ว...ว่าอยากไปเห็นซักครั้ง
ความคิดนั้น...ก็ไม่หายไปง่ายๆเลย
...
...
ปล.ถามหน่อยว่า...คุณเบร็ทเค้าชื่อเล่นว่าอะไรคะ???
เค้าบอกว่า...เค้าเขิน...ไม่กล้าบอกชื่อเล่นตัวเอง...
...
...
หายไวไวจ้า....สุขภาพสำคัญ..


โดย: nikanda วันที่: 19 มีนาคม 2551 เวลา:22:26:51 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณปอย

นั่นแน่ ไม่สบายเพราะว่าตากฝนที่ลอนดอนหรือว่าอ่านหนังสือดึกกันแน่คะ

ภาพที่ถ่ายออกมาแสงสวยจริงๆ ค่ะ ชอบภาพใบไม้แห้งมากๆ รู้สึกถึงความอ่อนโยนของธรรมชาติที่ถึงแม้จะแห้งแต่ก็ยังงดงาม

ภาพที่มีหยดน้ำเกาะถ่ายในรถไฟใช่ไหมคะ

ดูภาพและอ่านไปด้วยรู้สึกเหมือนหลงอยู่กลางกรุงลอนดอนกับคุณปอยไปด้วย
คงต้องพักเยอะๆ เหมือนคุณปอยว่านั่นหล่ะค่ะ ไม่งั้นคงไม่สบายไปอีกคนเพราะว่าช่วงนี้ ทำงานหนักไปหน่อยกว่าจะหายใจหายคอได้มานั่งเล่นเนทก็ดึกทุกทีเลยค่ะ


โดย: BeCoffee วันที่: 19 มีนาคม 2551 เวลา:23:18:06 น.  

 
คุณดุ่บดับถ่ายภาพได้สวยเหมือนเดิมเลยครับ และ เรื่องก็สนุกด้วย....อ่านรวดเดียวจบเลย


โดย: กลิ่นกาแฟ IP: 202.139.223.18 วันที่: 19 มีนาคม 2551 เวลา:23:56:57 น.  

 
Hiiiiiiii
I'm Ok now kubbbbbbbbbb

Miss u the same kubbbb



โดย: dogamania IP: 125.25.94.118 วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:1:36:18 น.  

 
อ่ออ ก็ว่าละคะพี่หนูหล่อ ว่าทำไมหาย ๆ ไป
นึกว่ายังป่วยอยู่เสียอีกนะคะเนี่ย...
หายป่วยก็ดีแล้วค่ะ แต่ว่าปอยยังเลย ไอค่อก ๆ
แล้วก็เจ็บคออย่างรุนแรง...เฮ้อออ คุ้มหรือเปล่าไม่รู้

เอาอีกแล้วค่ะ 'nostalgia' แปลไม่ออกค่ะพี่หนูหล่อ
แต่ไม่เป็นไร เปิดดิกเรียบร้อย แปลว่าอาลัยอาวรณ์
หรือว่า โรคคิดถึงบ้านนั่นเอง สงสัยว่า....จะเป็นศัพท์
ลอนดอนเนอร์เขาหรือเปล่า ไปอยู่หลายปี...
คงมีสำเนียงอังกฤษที่ปอยขยาดติดกลับมาเหมือนกัน
ยินดีมากเลยค่ะ ที่ทำให้ใครสามารถย้อนความหลังได้

ลอนดอนอาย ปอยว่ามันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวน่ะค่ะ
ไปเยือนลอนดอน ก็ขึ้นลอนดอนอายจะได้เห็นได้ทั่ว
แต่ถ้าอาศัยอยู่อยู่แล้ว ปอยว่าไปแค่เฉียด ๆ ใกล้ ๆ
และก็ดูความมหึมาของมันก็เพียงพอแล้วนะ...
มันมหึมาจริง ๆ ค่ะ ใหญ่โตมโหฬารเลยจริง ๆ

ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง จะพยายามหายไว ๆ
แล้วกลับมาลัลล้าเหมือนเดิม
พรุ่งนี้ก็มีบินอีกแล้ว...เฮ้อออ

พี่หนูหล่อมีความสุขมาก ๆ เช่นกันค่ะ


โดย: นางสาวดุ่บดั่บ IP: 78.89.75.143 วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:4:34:47 น.  

 
หวัดดีครับน้องปอย

จริงๆพี่ก๋าไม่อยากบอกเลยนะ
ว่าคนที่เราจำเป็นต้องคอย รอ เพื่อจะเจอ
แล้วเราจะไม่เหงาอีกเลย

คนๆนั้น ก็คือ "ตัวเรา" ครับ

เพราะเมือ่ไหร่ที่เราคิดว่า "จะมีใครสักคน" เดินเข้ามา
แล้วรักเรา ทำให้เราหายเหงา

พี่ก๋าเชื่อว่าคนๆนั้นไม่มีอยู่จริง

ถ้าเราเหงา ต่อให้มีคนรักที่ดี มีลูก มีบ้าน มีรถ มีเงิน
เราก็จะเหงาครับ



.........................


พี่ก่าชอบเรื่องที่น้องปอยเล่าเรื่องราศีครับ
เพราะวันก่อนพี่ที่เป็นกระเทยเค้าเล่าเรื่องนี้เหมือนกัน
พี่ก๋าฮาซะเสียจริต 555555
พี่เค้าเล่าออกท่าออกทางได้สุดยอดมากๆ 5555


...........................


พี่ก๋าดังไม่ดังไม่รู้
แต่รู้แน่ๆว่าคงไม่ดังแบบคนเข้าไม่ถึงตัวแน่นอน 5555
เพราะติดพุงพี่ก๋าครับ 5555




โดย: ก. วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:8:11:42 น.  

 


ตามคุณปอยมาจากบล็อกพี่ก๋าที่ดี.ตั้งคำถามไว้ค่ะ
ขอบคุณมากๆๆค่ะ กับคำชม
.
.
.
อ่านเพลิน ชมรูปเพลินเลยค่ะ
.
.
.
กระซิบ:แมงป่องน่ารักไม่ได้โชคร้ายหรอกค่ะ
แค่มีอุปสรรคให้จดจำเท่านั้นเอง





โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:8:41:57 น.  

 
ไม่รู้เป็นไง
ชอบมากเลยครับคำว่า "ประตูที่ไร้ประตู" เนี่ย
แต่พี่ก๋าก็นึกไม่ออกว่าจะวาดมันออกมายังไง

หรือบางที
อาจจะต้อง "วาดโดยไม่วาด" ก็เป็นได้นะครับ





มีความสุขมากๆนะครับน้องปอย




โดย: ก. วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:8:50:05 น.  

 
ดีจังครับที่ขยันเปิดดิก คำนี้ภาษาไทยแปลคำเดียวไม่ค่อย
ตรง แต่คนคิดอะไรละเอียดอ่อนอย่างคุณปอยคงเข้าใจ
ไม่ยาก มันเป็นความรู้สึกปนๆกัน ทั้งคิดถึง อาลัยอาวรณ์
ห่วงหา โหยหาจนน้ำตาซึม อยากได้กลับไปสัมผัสในนาทีที่
เห็น เหมือนเวลาอยู่ไกลบ้านตอนพระอาทิตย์ตกดินก็อยาก
ได้บินกลับรังเหมือนนกกาน่ะครับ ได้กลับไปอยู่กับ
ครอบครัวและอะไรหลายๆอย่างที่คุ้นเคย ที่เป็นราก
เหง้าของเรา และเมื่อมันเป็นไปไม่ได้ก็อยากร้องไห้ ยัง
งั้นแหละครับ คนที่ต้องไปอยู่ต่างถิ่นมากๆอย่างคุณปอย
ครั้งแรกๆก็คงเคยรู้สึกอย่างนี้ทั้งนั้นแหละครับ ใช่มะ??

วันนี้คอมพ์อาการดีขึ้นเพราะหา updates มาจัดการได้
เลยเข้าลิงค์ได้สะดวก วันนี้จะทำสวนครับ นัดคนสวนมา
แต่งต้นไม้... แล้วจะมาอีก กินปฏิชีวนะบ้างนะครับ ไอ
มากๆไม่ดี... หายเร็วๆด้วยน้า


โดย: หนูหล่อ IP: 203.172.109.173 วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:9:10:44 น.  

 
ดีจ้าน้องปอย ...
ขนาดว่าไม่สบายแต่ว่าก็ยังสามารถไปทำงานได้อยู่น๊า
ยังไงก็ขอให้หายไวๆ อ่ะจ้ะ จะได้แบบว่าไม่เอาหวัด
จากลอนดอนฝากผู้โดยสารนะจ้ะ


อากาศมันเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวเย็น
ทางนี้ก็ถ้าหากว่าไม่แข็งแรงพอก็มีโอกาสเสี่ยง
ได้เหมือนกันจ้ะ พี่เองเดี๋ยวนี้มันไม่ค่อยทนเรื่องร้อนๆ
เหมือนกันนะ แบบว่ามันหงุดหงิดอ่ะ อย่างร้อนปกติ
ล่ะพอไหว แต่ว่าก่อนมันจะมีฝนอากาศแบบอ้าวๆ
นั่นล่ะคือสิ่งที่ทนไม่ค่อยไหวเอาซะเลยอ่ะจ้ะ
มันหงุดหงิดได้ง่ายๆ เลยล่ะนะ


น้ำสีเหลืองๆ นี้หมดไปหลายวันแล้วจ้ะ .. แต่จริงนะ
แม่พี่บอกว่าถ้าไม่สบายนะ ดื่มนิดหน่อย เอาแอลกอฮอล์
เสริมไปแป็ปเดียว หายเลย ไม่รู้ว่าเพราะคนชอบดื่ม
เลยเอาเป็นข้ออ้างหรือเปล่าอ่ะ 555 + เพราะว่าไม่เคย
ลองสักที หุ ๆๆ


โดย: JewNid วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:12:05:40 น.  

 
ปิดต้นฉบับแล้วค่ะ มารั่วได้แล้ว :D


ภาพสวยเรื่องดีอีกเช่นเคยค่ะคุณปอย ^^
แต่ก่อนคิดว่าลอนดอนไม่น่าไปเลย คนก็ท่าทางไม่น่าคบ
แถมสำเนียงก็ฟังยากมากๆ เวลาดูแฮร์รี่พอตเตอร์นี่แทบละสายตา
จากตัวหนังสือด้านล่างบ่ได้เลย
แต่พออ่านถึงบรรยากาศ อากาศแล้วอยากไปเลยอ่ะค่ะ ชอบฝน


คุณปอยราศีพิจิกเหรอ มิน่า เราคุยกันได้ยืดยาว
เพราะเขาว่าราศีมีนกะพิจิกมักเป็นเพื่อนที่เข้ากันได้นะคะ :D
แต่ถ้าเทียบกันแล้ว ความโชคร้ายของราศีปุ๊กอาจจะเป็นที่เข็ดขยาดมากกว่า
เพราะในบรรดา 12 ราศี มีนเป็นราศีอาภัพรักที่มีแววขึ้นคานมากที่สุดง่ะ
กี่สำนักบอกเหมือนกันหมด 555 ตรงไหม ก็คงแล้วแต่คนค่ะ ปุ๊กว่าราศีมันเหมือนสถิติและแนวโน้ม
แต่แนวโน้มก็คือแนวโน้ม สุดท้ายคนหักมุมก็คือตัวเราอยู่ดี เพราะล่าสุดรุ่นพี่ราศีมีนก็
เข้าพิธีวิวาห์ไปแล้วเรียบร้อยค่ะ เพราะยังงั้นราศีพิจิกก็คงไม่โชคร้ายจริงๆอย่างที่เค้าว่าไว้นะ
อาจจะว่ามีเหตุการณ์มาลับปัญญาเรา ให้แก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าบ่อยๆหน่อย
เลยทำให้เก่งกว่าคนอื่นไปด้วยในตัว (เหมือนคุณหญิงดาริน อ้อ ต้องบอกคุณปอยจิเนอะ เพราะตอนนี้เป็นคนเดียวกัน ฮิฮิ)

อยากเล่าว่าปุ๊กชอบใครในเรื่อง แต่เล่าไม่ได้เพราะมันอยูใกล้ๆตอนจบเนี่ยจิ เดี๋ยวสปอยล์
ไว้รอคุณปอยอ่านจบก่อนดีกว่า

เรื่องรสนิยมคนอังกฤษ มีเรื่องนึงที่รู้สึกแปลกใจเหมือนกัน
ปุ๊กเคยทำนิตยสารหัวนอกสัญชาติอังกฤษมาสองเล่ม รู้สึกว่าสไตล์เค้ามีเอกลักษณ์
ขรึมๆ กว่า เรียบๆ กว่าฝั่งUS แต่สำหรับใจปุ๊กๆ รู้สึกว่าจืดๆ คงเพราะชินกับฝั่ง US มากกว่า
ล่าสุดกับที่ล่าสุด เป็นนิตยสารที่มีทั้ง UK+US พอเอามาเทียบกันทุกคนกลับชอบ UK มากกว่าแฮะ
ไม่ฟู่ฟ่ามากแต่กลับดูดี มีรสนิยมมากๆ จนนึกเห็นด้วยกับคุณปอยเลยค่ะ

เห็นลอนดอนอายแล้วนึกถึงชิงช้าสวรรค์ยักษ์ที่เมืองทองกับที่สวนลุมไนท์จัง
เคยไปนั่งอันเดียวคือสวนลุมไนท์ ค่าขึ้นคนละ 100 แต่มองไปรอบๆกรุงเทพฯเราไม่ค่อย
มีแสงไฟเยอะๆเหมือนมองนอกเท่าไหร่ แถมยังเร็วด้วยค่ะ T^T แป๊บๆหมดรอบแล้ว
ได้อย่างเดียวคือลมเย็นๆ อากาศดีๆ เพราะช่วงนั้นอากาศกำลังดีเลย
พอลองแล้วก็ตั้งเป้าหมายในใจว่าขอลองแค่นี้แหละกับพวกชิงช้าสวรรค์
คราวหน้าขอไปเล่นพวกรถไฟเหาะหรือพวก G-Force แบบเดิมดีกว่า :p

ปล. ยังไม่ได้ปลูกเลยค่ะ ช่วงนี้ธุระการงานยังไม่ค่อยลงตัวเลย ว่าจะทำเค้กกะกับข้าวกินยังไม่ได้ทำซักทีเลย ฮือๆๆ
ถ้าปลูกสำเร็จคุณปอยเอามาให้ดูบ้างนะคะ ขอให้หายป่วยไวๆค่ะ


โดย: Hobbit วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:12:13:07 น.  

 
สวยอ่ะคับ จริง ๆ นะ


โดย: อืม...ครับ เชิญตามสบาย วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:16:55:48 น.  

 
เขียนดีจังเลย ภาพสวยด้วย
อยู่ใกล้ๆ ยังไม่เคยไปเที่ยวลอนดอนเลยง่ะ ตอนนี้ตามไปเที่ยวกับบล๊อกนี้ก่อนดีกว่า


โดย: rambujan วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:17:04:49 น.  

 
รูปสวยมากๆ เลยค่ะ ตามมาดูแมงป่องสองตัวในลอนดอนค้า คนอินเดียนี่มีอยู่ทั่วโลกจริงๆ น้าให้ตาย


โดย: veeda วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:18:26:14 น.  

 
แวะเอา"ยา"ที่ชื่อว่า"เพื่อน"
...มารักษาอาการป่วยค่ะ
"เพื่อน"
มียาหลายตัวผสมผสานกัน.....มีทั้งพืชที่ชื่อว่า
"มิตรภาพ"
"ความจริงใจ"
"ความห่วงใย"
ทุกอย่างผ่านกรรมวิธีผลิตที่"บริสุทธ์"
ทานเท่าไหร่ก็ได้....เวลาไหนก็ได้
คุณหมอแจงรับประกันว่า
"ไม่เป็นอันตราย"และ"ไม่มีอาการแพ้ยา"แน่นอนค่ะ
ไม่คิดค่ายา...ไม่คิดค่าบริการนำมาส่งถึงบ้าน
ขอแค่เจ้าของบ้านหาย....ก็พอค่ะ
..
..
คำเตือน...อาจเกิดอาการเลี่ยนเล็กน้อยถึงปานกลาง
แต่หากเป็นเพื่อนกับคุณหมอแจงคนนี้ไปนานๆ...ก็จะชินค่ะ
..
..
ลงชื่อ
แจง......คุณหมอจำเป็น


โดย: nikanda วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:19:38:31 น.  

 
ไม่สบายเหรอคะ ป่านนี้หายหรือยัง
ตากฝนจากทริปนี้ใช่ไหมเอ่ย เห็นใครๆแซว
ทานยา นอนพักมากๆนะคะ


โดย: ตรีนุช3903 วันที่: 21 มีนาคม 2551 เวลา:4:03:07 น.  

 


หวัดดีค่ะ
วันนี้มาชวนไปเดินดูสวนดอกทิวลิปด้วยกันค่ะ

เห็นแล้วก็อยากจะไปเที่ยวลอนดอนอีก
ไปมาครั้งเดียวแต่เที่ยวยังไม่จุใจเลยค่ะ

อย่าลืมดูแลรักษาสุขภาพด้วยนะคะ


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 21 มีนาคม 2551 เวลา:4:51:49 น.  

 
โอ้..ราวกับชมสารคดีเลยทีเดียว

สวยจังค่ะ



อมยิ้มน่ารักมั่กๆ



อ่า..มีคนเคยอ่านเพชรพระอุมาตั้งแต่ปอหนึ่งด้วยนะคะ เป็นชาวบล็อกเหมือนกันนี่แหละ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 21 มีนาคม 2551 เวลา:8:40:25 น.  

 
เพราะว่า Fish n Ship ที่นั้นมันชิ้นใหญ่แล้วก็หาทานยากในเมืองไทย
แต่มีคนบอกว่าที่พัทยาทำได้เหมือนที่นั้น...


สำหรับผมว่ามัน แตกต่าง นะลองที่นั้นเหมือนมีความเป็นเอาลักษณ์นะ (เวอร์ไปเปล่าเนี่ย)
แบบว่าจริงๆแล้วอาหารประจำชาติของเค้าไม่มีอะไรเลย...อย่างอื่นห่วยมากๆ
อันนี้ฟังมากจากคนอังกฤษอ้างมานะครับ...
อาหารตามSoHo หรือ อาหารอินเดียอันเลื่องชื่อ ก็มาจากชาติอื่น
อาหารของอังกฤษแท้คงหนีไม่พ้น Fish n Ship น่ะครับ


มีร้านนึงแถวริมแม่น้ำเทมป...อร่อยสุดๆๆ
อยากไปลิ้มลองอีกเลยอ่ะ


โดย: Little Knight วันที่: 21 มีนาคม 2551 เวลา:12:08:31 น.  

 
พี่หนูหล่อมารายงานตัว หายป่วยหรือยังครับ

จำได้ว่าเวลาเป็นหวัดที่อังกฤษ อาการหนักมาก คงเป็น
เพราะเมืองสกปรกด้วยควันพิษจากโรงงานและท่อไอ
เสียมาก แม้จะดูเหมือนว่าเขารักษาความสะอาดดี ถ้า
คุณปอยได้เชื้อมาจากที่นั่น ก็น่าจะร้ายแรงนะครับ ควร
ได้รับการรักษาอย่างเป็นเรื่องเป็นราว

แล้วจะมาเยี่ยมใหม่ครับ


โดย: หนูหล่อ IP: 203.172.109.236 วันที่: 21 มีนาคม 2551 เวลา:13:42:53 น.  

 
ยินดีที่รู้จักค่ะ ^^

เพิ่งอ่านหนังสือเกี่ยวกับลอนดอนจบไป
ชวนให้ไปเยือนสักครั้งนะคะ

ถ่ายรูปสวยค่ะ

**

ที่ถามว่าทำไมอยากได้เจ้าหนอน จริง ๆ
อยากได้ตัวใหม่ที่จะออกมา 450D
cannon น่าจะทนทานกว่าโซนี่

ที่ใช้อยู่เปลี่ยนเลนส์ไป 1 ครั้งหลังจากใช้มาแค่ 1 ปี
กลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
ถ้าเจ๊งอีกก็คงต้องเป็นเจ้าหนอนนี่ละค่ะ


โดย: ostojska วันที่: 21 มีนาคม 2551 เวลา:16:26:49 น.  

 
เมืองไทยอากาศกำลังร้อนเลย วันนี้เลยไปปวดหัวกลับมาเลยทีเดียว

ก็เลยกลับมานอนพักบ้าง เที่ยวมากไปทั้งเปลืองทั้งเหนื่อย

หายป่วยหรือยัง ขอให้หายป่วยไวๆนะ


โดย: BrettAnderson วันที่: 21 มีนาคม 2551 เวลา:19:31:51 น.  

 
วันนี้แวะมาเที่ยวลอนดอนกับคุณปอยค่า...

เดือนหน้าเราเองก็มีโครงการจะไปเที่ยวสิงคโปร์ (ช่วงสงกรานต์ค่ะ)

เดี๋ยวจะถ่ายรูปมาฝากนะคะ

ปล. ป่วยอยู่เหรอคะ? ...ขอให้หายไวๆนะ


โดย: Jevanni วันที่: 21 มีนาคม 2551 เวลา:22:27:10 น.  

 
จริงเหรอคะพี่หนูหล่อ...ง่า จะป่วยหนักกว่าเดิมเหรอคะ
คือ ไออย่างเดียวเลยอ่ะค่ะ เจ็บคอมาก ๆ แต่ไม่ปวดหัว
ไม่มีไข้ ไม่เป็นหวัดอะไรทั้งสิ้นนะคะ สงสัยอยู่ว่าเป็นอะไร
ไปหาหมอก็ให้มาแต่ยาแก้ไอ แล้วก็นอนพักเท่านั้นเอง
ฟังพี่หนูหล่อบอกแล้วก็กลัวเลยนะคะเนี่ย งือ ๆ
แต่ก็ไม่แน่นะคะ บางทีที่ป่วย ๆ อยู่ อาจจะแค่เป็นเพราะว่า
อ่านหนังสือดึกหลายคืนติดต่อกันก็ได้ค่ะ แหะ ๆ ๆ ๆ ๆ

เมื่อวานถึงกับป่วยจนไปบินไม่ได้เชียว กลัวไปติดผู้โดยฯ
วันนี้ดันโดนดึงไปบิน ก็ยังไม่ดึขึ้นเท่าไหร่หรอกนะคะ
แต่ก็ไปไปให้มันเสร็จ ๆ ไป ยังดีมีวันหยุดติดกันสองวันค่ะ
เลยน่าจะได้พักนานสักหน่อย น่าจะหายดีได้มั้งคะพี่ เฮ้อ

ทำสวนสวยงามเสร็จหรือยังคะ มีกุหลาบหินหรือเปล่า
ไม่ได้ชอบอะไรเป็นพิเศษหรอกนะคะ แต่มีแค้นพิเศษ
ใคร ๆ ก็ว่าปลูกง่ายสุด ๆ ใครปลูกก็ขึ้นงามดีกันทั้งนั้น
มีแต่ปอยนี่แหละค่ะ เลี้ยงอะไรก็ตาย แม้แต่กุหลาบหิน
แล้วได้ลองเอาสูตรถั่วงอกไปลองปลูกหรือยังละคะน่ะ?
ปอยยังไม่ได้ปลูกเลย แหะ ๆ เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวจะฮึดปลูก
ถ้าปลูกแล้วได้ผลหรือไม่ได้ผลยังไงอย่าลืมมาบอกนะคะ

ขอให้มีความสุขสนุกสนานทุกวันกับชีวิตค่ะพี่หนูหล่อ



โดย: นางสาวดุ่บดั่บ วันที่: 22 มีนาคม 2551 เวลา:1:20:42 น.  

 
ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้กันคะ

+ + + + + + + + + + +

ตอนนี้คนที่หมูอ้วนรัก (น้องชาย) กำลังไปเรียนต่อที่ลอนดอนเหมือนกัน
เวลานี้เลยจะชอบลอนดอนเป็นพิเศษ แอบอิจฉาคนที่ได้ไปเที่ยวคะ
มันก็นะ...เวลาคนที่เรารักไปอยู่ที่ไหน
เราก็อยากที่จะรู้ความเป็นมาไปของเขา

สวัสดีเช้าวันหยุดคะ


โดย: หมูอ้วน (◕‿◕✿) (pigarea ) วันที่: 22 มีนาคม 2551 เวลา:6:12:46 น.  

 
สวัสดีครับน้องปอย


ข่าวดีสำหรับเช้านี้ก็คือ พี่ก๋าวาดพู่กันเดียวเสร็จตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น
แต่ส่งไม่ได้เพราะติดเสาร์-อาทิตย์


วันจันทร์จะส่งไปให้นะครับ
กลับมาเมืองไทยเมือ่ไหร่ก็มาดูด้วยล่ะ

ศิลปะจากจิตวิญญาณขุมที่ 72 เลยนะเนี่ย อิอิอิ


ตอนแรกพี่ว่าจะถามน้องปอยว่าอยากได้หัวข้ออะไร
แต่คิดดูอีกที ลองเขียนแบบไม่ถามดูดีกว่า
เขียนตามที่พี่รู้สึกว่าอยากเขียน


จริงๆพี่เขียนให้พี่ๆเพื่อนๆหลายคนแล้วนะครับ
ก็ไม่รู้ชอบจริงๆหรือดูรู้เรื่องรึเปล่า

เพราะขนาดมาดามพี่ยังพูดเลยครับ

"วาดอะไรก็ไม่รู้ ไม่เห็นยากเลย" 5555555


มีความสุขมากๆนะครับน้องปอย

หายป่วยรึยัง.....









โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 22 มีนาคม 2551 เวลา:7:35:22 น.  

 
แวะมาเยี่ยมอีกแล้ว ขอบคุณนะคะ

ที่เคยล็อกบล็อก เอาออกก็เพราะคุณดุบดั่บเนี่ยแหละ

ใช้กล้องรุ่นไหนคะเนี่ย ฝีมือคนถ่ายยอดมั่กๆ ชอบรูปไสตล์นี้จัง


London ในความทรงจำ สนุกและตื่นเต้นมากๆ ค่ะ เจอฝนเล็กน้อย...แต่คิดถึงทีไรก็...มีความสุขจัง

ปล. ประโยคสุดท้ายที่นั่นเค้าก็พูดกันเหรอคะ เหอๆ รู้สึกคุ้นๆ หลอนๆ ตอนนั้นฟังมิรู้เรื่องเลยแม้แต่น้อย


โดย: หนอนหลังยาว วันที่: 22 มีนาคม 2551 เวลา:10:02:37 น.  

 
ขอบคุณครับ ไม่สบายยังมีน้ำใจหวังให้พี่หนูหล่อมีความสุข
ขอให้ได้รับผลบุญนี้ตอบแทนหายป่วยด้วยนะครับ

ถั่วงอกยังไม่ได้เพาะเลยครับ มาอยู่ซะที่เขาใหญ่นี้
อุณหภูมิสูงไม่พอตามตำราครับ ส่วนสวนที่กำลังเก็บทำ
อยู่เนี่ยเพราะรกมาก ไม่ได้ทำเรื่องสวยงามหรอกครับ
ต้องปลายฝนต้นหนาวจึงจะทำเรื่องสวยงาม

กุหลาบหินน่ะไม่อยากโม้ให้คุณปอยช้ำใจเลยครับ แต่เรามี
เป็นดงเลยแหละ แต่ละกระถางล้นแล้วล้นอีก เราเอาวาง
เรียงๆไว้บนราวลูกกรงริมระเบียง แล้วบางทีใบมันร่วงลง
ไปข้างล่างก็งอกต้นอีก เราก็ไปเก็บๆใส่กระถางมาไว้
บนบ้าน แล้วมันก็ร่วงลงไปงอก เราก็เก็บมาไว้บนบ้าน
แล้วมันก็ร่วงลงไปงอก แล้วเราก็เก็บมาไว้บนบ้าน.....
แหะ แหะ นึกออกมั้ยครับ ย้ายมาอยู่บ้านเรือนเคียงกัน
ซิครับ พี่หนูหล่อจะเพาะให้สักกระจาดนึง ไม่เอาค่าแรง

ถ้ารู้แล้วว่าอ่านหนังสือจนไม่เป็นอันพักผ่อนทำให้เจ็บป่วย
ก็ต้องแก้ไขนะครับ


โดย: หนูหล่อ IP: 203.172.109.131 วันที่: 22 มีนาคม 2551 เวลา:11:18:12 น.  

 
คลาสสิค...



โดย: กายแก้ว วันที่: 22 มีนาคม 2551 เวลา:12:04:44 น.  

 
ดีจังค่ะได้ท่องเที่ยวบ่อยๆ


โดย: วนิส วันที่: 22 มีนาคม 2551 เวลา:15:33:54 น.  

 
มาเช็คร่างกายผู้ป่วยค่ะ
อาการดีขึ้นรึยังคะ???...หากยังไม่ดีขึ้น
อาจะต้องเพิ่มน้ำเกลือแห่งความรักเข้าไปอีกหน่อย
จากนั้นพักผ่อนเยอะๆ...ไม่สบายขนาดนี้
ไม่ควรทำงานหนักนะคะ...รักษาสุขภาพด้วย
...
...
...
เมื่อวานนี้..โอเคเลยค่ะ
วันเกิด21มีนา...แต่วันที่19...มีไปรษณีย์มาส่งของ
เปิดดู...อู้ว...เป็นปลื้มมากมาย
ได้รองเท้าส้นสูงสีม่วงสด..มาคู่นึง
พร้อมการ์ดวันเกิด...แต่มาเร็วไปหน่อยค่ะ
มาก่อนเวลาตั้งสองวัน...แต่ไม่เป็นไร...แค่นี้..ก็ดีใจแล้วล่ะ
...
...
และเมื่อวานนี้...เราก็ไม่หวังอะไร
เพราะว่าได้ของขวัญแล้ว...ตั้งแต่วันนที่19
เมื่อวานตอนบ่ายกว่า...คนที่บ้านบอกว่า"ไปทำงานแล้วนะ"
เราก็"อืม"....
เกือบชั่วโมง...มีคนมาเคาะประตูบ้าน
เราก็ถามว่า"ใครอะ"ไม่มีคนตอบ
เราถามตั้ง3ครั้ง...ก็เหมือนเดิม
เราเลยเปิดประตูออกไป....โอ้โห...ปลื้มมากมายกว่าเดิม
ดอกไม้3กระถางวางอยู่หน้าบ้าน
สวยมากเลย....เราถ่ายรูปไว้ด้วย
ปอยแวะไปดูได้นะคะ...ที่"ปลายความคิด...ศิลปะ อารมณ์ ความรู้สึก"
ภูมิใจนำเสนอ...อิ อิ
เกิดมา...ไม่ค่อยมีใครมาเซอรณไพร์บ่อยนัก
อารมณ์ดีใจ...ประมาณนางเอกละครเลยค่ะ
น้ำตาซึม....อายจัง
...
...
...
เป็นผู้ป่วยต้องอย่าหักโหมนะ
แล้วคุณหมอจำเป็นจะมาเยี่ยมอีก...ในคราวถัดไป
หากอาการไม่ดีขึ้น...เพราะไม่เชื่อฟังคำสั่งคุณหมอ
อาจต้องมีการ...ควานหา"บุรุษพยาบาล"มาคอยดูแล
...
...
...
ลงชื่อ
แจง...คุณหมอปลอมๆ


โดย: nikanda วันที่: 22 มีนาคม 2551 เวลา:16:45:11 น.  

 



ฟังเปงง...ปายย..แจ้...น้ามมม...ปายยย...

อะ..บายย..จายย..เจรงง..เจ้งง...

โถ...ป้าเพิ่งอ่านชัดๆ"ดุ่บดั่บๆ"มะช่ายต.เต่า

อายจัง....ปายและฟิ้วว์...



โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 22 มีนาคม 2551 เวลา:17:45:14 น.  

 
มุมมองภาพสวย การเล่าเรื่องก็ดีจังค่ะ


โดย: เยี่ยมรุ้ง วันที่: 22 มีนาคม 2551 เวลา:20:12:08 น.  

 
มาแล้วค่ะคุณปอย...ตามคำเรียกร้อง
อาจไม่สวยถูกใจคุณปอยเท่าไหร..แต่เราชอบนะ
ราคาไม่แพงด้วย...แต่คุณค่า..อยู่ที่ใครให้..มากกว่า



โดย: nikanda วันที่: 22 มีนาคม 2551 เวลา:20:58:06 น.  

 
^
^
^
^
รูปใหญ่เกิน...ขอโทษด้วยค่ะ
ถ้าอยากลบ....ลบได้นะคะ


โดย: nikanda วันที่: 22 มีนาคม 2551 เวลา:21:01:09 น.  

 
ฮือ..ฮือ..ร้องไห้
บล็อกหน้าเมื่อเช้า...ที่มีดอกไม้มันหายไปอะ
เราทำอะไรพลาดไป...ก็ไม่รู้...กระซิกๆ
เสียดาย...แต่ขี้เกียจเขียนใหม่...


โดย: nikanda วันที่: 22 มีนาคม 2551 เวลา:21:19:38 น.  

 
แหม เยาะเย้ยกันต่อหน้าต่อตาเชียวนะคะเนี่ย...
เห็นไม๊คะ ใคร ๆ ก็เลี้ยงขึ้น นอกจากขึ้นแล้ว
ยังเจริญเติบโตได้ดิบได้ดี จนจะกลายเป็นวัชพืชแล้ว
ส่วนของปอย นั่งมองทุกวัน ลุ้นแล้วลุ้นอีก
ก็เหลืองเอาเหลืองเอาซะอย่างนั้นน่ะสิคะ....เฮ้อ
สงสัยปลูกได้แต่พลูด่างอย่างเดียวซะแล้วละมั้ง
ว่าแต่ว่า กุหลาบหินต้องรดน้ำทุกวันหรือเปล่าคะพี่
คนขายบอกว่ารดอาทิตย์ละครั้ง!! ปอยเลยรดแค่นั้น
หรือว่ามันต้องรดทุกวัน ตอนนี้จะได้เยียวยามันทัน

ไม่งั้นอีกที พี่หนูหล่อก็จองที่ดินแปลงข้าง ๆ ไว้ให้ด้วยนะคะ
จะลงทุนย้ายไปเป็นบ้านใกล้เรือนเคียงกับพี่หนูหล่อเลย
หวังกุหลาบหินหนึ่งกระจาดฟรี ๆ น่ะค่ะ จริงนะเนี่ย ฮ่ะๆ

แหะ ๆ ติดหนังสือแต่ก็ยังดูแลสุขภาพอยู่นะคะพี่หนูหล่อ
เป็นข้ออ้างที่จะอ่านหนังสือต่อไป เหอะ ๆ

รู้สึกว่าพี่หนูหล่อจะย้ายไปอาศัยบ้านป่าอยู่นานไปแล้วนะคะ
เมื่อไหร่จะกลับกรุงเทพฯกัน หรือว่าทิ้งไปแล้วคะ?


โดย: นางสาวดุ่บดั่บ วันที่: 22 มีนาคม 2551 เวลา:21:28:21 น.  

 
บล็อกไม่ได้หายไปไหนหรอกค่ะ
ไม่รู้มือเผลอกดSave As Draftตอนไหน
โง่เลยเรา....แอบดีใจบล็อกกลับมาแล้วค่ะ


โดย: nikanda วันที่: 22 มีนาคม 2551 เวลา:22:16:53 น.  

 
แวะมาเช็คอาการป่วยอีกรอบค่ะ
ไอเล็กๆน้อยๆ...ดีขึ้นรึยังคะ??
ว่าแต่ว่า....ยังไม่มีบุรุษพยาบาลจริงๆหรือคะ??
ไม่เชื่อเท่าไหร่....มีแอบซุ่มใช่ม้า

..
..
..

มาตอบคำถาม..
คิดว่าไม่มีใครรู้ใจใครหรอกมังคะ
เค้าชอบซื้อของสีม่วงๆชมพูๆมาให้
ส่วนเราก็ชอบสีพวกนี้เป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว

..
..
..

ฝันดีนะคะปอย

..
..
..

ตอนนี้เรากำลังทำข้าวเย็นค่ะ
วันนี้หัดทำเนื้อยัดไส้พริกหยวกสไตล์อิตาเลี่ยน
กินได้รึเปล่า...ไม่รู้...ต้องลองดูก่อน


โดย: nikanda วันที่: 23 มีนาคม 2551 เวลา:1:21:27 น.  

 
หวัดดีครับน้องปอย

พี่ก๋าแวะมาทักทาย
ก่อนจะออกไปเที่ยวๆๆๆๆๆๆๆๆ

เที่ยวที่ไหน ?
เที่ยวในสวน


สวนที่ไหน ?
สวนที่บ้าน 55555


ไปได้ไม่ไกลเลย
มาดามอุ้มก๋าน้อยมา 7 เดือนแล้วครับ



มีความสุขมากๆนะครับน้องปอย




โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 23 มีนาคม 2551 เวลา:8:14:56 น.  

 
แต่ก็ถึงที่หมายถ่ายรูปสวยๆมาให้ดู
เห็นในรูป...
อากาศเหมือนฉ่ำๆเย็นๆจัง
คุณดุ่บดั่บถ่ายรูปสวยทุกรุปเลยค่ะ

^ ^


โดย: หมูปิ้งไม้ละ 5 บาท วันที่: 23 มีนาคม 2551 เวลา:8:41:21 น.  

 
ภายในหนึ่งปีข้างหน้านี้ พี่หนูหล่อจะต้องอยู่บ้านป่าเป็นหลัก
เพราะกำลังซ่อมบ้านกรุงเทพฯและปลูกเพิ่มอีกหนึ่งหลัง
ครับ ส่วนที่บ้านป่านี่ก็กำลังปลูกเล็กๆอีกหลัง ไม่ใช่ของ
พี่หนูหล่อหรอกครับ แต่ก็ต้องดูแล ยุ่งประสิทธิ์เลย

กุหลาบหินนั้น รดน้ำอาทิตย์ละหนก็พอ หรืออย่างมาก
สองหน ได้แดดแรงๆวันละสี่ห้าชั่วโมงก็พอ... ถ้าเอาให้ได้
ไม่ต้องมาซื้อที่ ก็จะเอาไปให้ครับ

วันนี้มีงานด่วน แล้วจะมาคุยอีกครับ... หายป่วยเสียทีน้า
เพี้ยง!!!


โดย: หนูหล่อ IP: 203.172.109.254 วันที่: 23 มีนาคม 2551 เวลา:9:50:45 น.  

 
เรียกร้องกันมาเยอะว่าทำขายรึเปล่า
แต่คนหล่อใจแข็งครับน้องปอย --- ไม่ขาย
5555

เพราะไม่รู้ว่าใครจะหน้ามืดมาติดต่อขอไปพิมพ์มั้ย 5555


พี่ก่าทำสนุกๆนะครับ
การ์ตูนไม่เนี๊ยบด้วย
อาศัยช่วงเวลาว่างสั้นๆระหว่างวัน
นั่งวาดน่ะครับ

ถ้าจะทำขายน่าจะต้องทำให้เนี๊ยบกว่านี้ (พี่ก๋าคิดเองนะ)

อันนี้เวลาน้อย ทำแบบรับใช้หมู่มวลมิตร (ว่าไปนั่น 555)
ก็ทำได้เท่านี้ก็ดีใจ สุขใจแล้วครับ


.............................


พรุ่งนี้พี่ก๋าส่งพู่กันเดียวไปให้นะครับ

รอรับด้วยล่ะ อิอิอิ



โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 23 มีนาคม 2551 เวลา:18:16:19 น.  

 
แวะมาเที่ยวลอนดอนด้วยคน
หอนาฬิกาบิ๊กเบนเนี่ย จำได้ตั้งแต่สมัยเด็กๆ
ตอนเรียนภาษาอังกฤษ ว่าเป็นสถานที่ขึ้นชื่อของที่นี่
ตอนนั้นอาจารย์บรรยายซะแบบโอ้โห มันขนาดนัน้เลยเหรอเนี่ย ดูจากภาพมันก็งั้นๆแหละ ไม่เห็นน่าสนใจซักเท่าไหร่
แต่พอมาดูรูปที่คุณดุ่บดั่บถ่ายมา โอ้โฮ สวยกว่าในหนังสือเรียนตั้งแยะแน่ะ น่าไปมั่กมั่ก



โดย: pukboong วันที่: 23 มีนาคม 2551 เวลา:18:39:07 น.  

 
พรุ่งนี้ส่งให้ครับน้องปอย



โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 23 มีนาคม 2551 เวลา:19:20:23 น.  

 
ขอบคุณค่ะที่พาเตร็ดเตร่ในลอนดอน

ฉันชอบสำเนียงอังกฤษนะคะ แต่ก็ในบางครั้งถ้าพูดกันเร็วๆก็ฟังยากเหมือนกัน

อยากไปเที่ยวอังกฤษเป็นส่วนหนึ่งในความฝันการท่องเที่ยวหลากประเทศของฉัน



โดย: cottonbook วันที่: 23 มีนาคม 2551 เวลา:21:06:23 น.  

 
ขอกรี๊ดลันด๊นนเมืองในฝันไว้ก่อน

เดี๋ยวพรุ่งนี้มาอ่าน อิอิ

คิดถึงบล๊อกพี่ปอยจังงง


โดย: soda_zappp IP: 58.9.135.182 วันที่: 24 มีนาคม 2551 เวลา:0:08:20 น.  

 
เมื่อวานก็ไปดูหนังมา (อีกแล้ว) นี่สรุปว่ากลับมายังไม่ถึงเดือนชั้นไปดูหนังมากี่เรื่องแล้วหว่า

.......................................................

There will be blood

ขอชำระล้างบาปด้วยโลหิต

เป็นหนังที่กระแทกกับความเชื่อทางด้านศาสนาคริสต์อย่างรุนแรงมากที่สุดเรื่องหนึ่ง ไม่แค่เฉพาะกับศาสนาคริสต์หรอกนะ แม้แต่กับคนที่"ยึดมั่น" ในอะไรสักอย่างหนึ่ง และ "ต่อต้าน" กับบาปและความโลภ ความชั่วร้าย ในตัวมนุษย์ที่เห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัว หนังเรื่องนี้นับเป็นหนังที่ทดสอบกับ "ศรัทธา" ของตัวเองอย่างแรงกล้าที่สุดเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว

หนังพูดถึงชายคนหนึ่งที่สร้างเนื้อสร้างตัวจากธุรกิจขุดเจาะน้ำมันในอเมริกา แถวๆรัฐเทกซัสและนิวเม็กซิโก เขาทำทุกอย่างเพื่อหาซื้อที่ดินไว้สำหรับขุดหาน้ำมัน วาจาการเจรจาเพื่อซื้อที่ดินจากเจ้าของที่ ซึ่งตัวเขาเองบอกไว้ว่าเข้าขั้น "เทพ" นั่นคือเขาจะหว่านล้อมให้เจ้าของที่ หลงไหลไปกับประโยชน์ที่ยกมาให้เห็นตรงหน้า สำหรับเจ้าของที่ดินในอเมริกาสมัยปี คศ.1900 แล้ว การประกอบอาชีพที่ส่วนใหญ่ ต้องมาบุกเบิกที่ดินทะเลทรายว่างเปล่า ใช้ประโยชน์อะไรแทบไม่ได้ เพาะปลูกแทบไม่ต้องพูดถึง การที่จู่ๆก็มีคนเอาเงินหมื่นๆ (ในสมัยนั้น) มากองอยู่ตรงหน้า ทั้งๆที่รู้ว่าคนๆนั้นกำลังจะซื้อเอาไปทำอะไร มันก็เป้นการยากที่จะปฏิเสธข้อเสนอนั้น

อย่างที่ตัวเอกของเรื่องว่าไว้ "คุณก็รู้ว่าภายใต้ที่ดินที่คุณอยู่นั้นมีน้ำมันจำนวนมหาศาลอยู่ แต่คุณจะมีปัญญาขุดมาได้หรืออย่างไร ดังนั้นขายให้ผม แล้วผมจะเนรมิตรสิ่งดีๆเกิดขึ้นกับเมืองของคุณ ทั้งโรงพยาบาล ร้านค้าหรูๆ โรงเรียนดีๆ โบสถ์สวยๆสำหรับชุมชน..."

คุ้นๆมั้ย ว่าวิธีนี้เหมือนนักการเมืองคนไหนในบ้านเรา โดยใช้การหลอกล่อโดยใช้ความโลภของมนุษย์เนี่ย น่ากลัวมากๆ เพราะเหยื่อจะลืมคิดไปเลยว่า ตัวเองจะสูญเสียอะไรไป มันมีค่ามากกว่าสิ่งที่จะได้รับมากนัก หากไม่คิดให้ดีให้รอบคอบ ความสูญเสียจะยิ่งใหญ่มาก ดังนั้นศรัทธาในตัวเองด้วยความไม่โลภในสิ่งที่คนอื่นหยิบยื่นให้ (เพราะแน่นอน ไม่มีใครที่ไม่ได้เป็นอะไรกับเราเลย หรือ ไม่เคยรูจักกับเราเป็นการส่วนตัวให้อะไรเราโดยไม่หวังผลตอบแทน)...

หนังดำเนินมาช่วงนึงแล้วก็จะเริ่มพูดถึงความเชื่อทางศาสนา ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับตัวเอกของเรื่องเข้าอย่างจัง โดยสร้างตัวละครที่ยืนอยู่คนละมุมกับตัวพระเอกอย่างสิ้นเชิง ซึ่งตัวละครที่ว่าเป็นชายหนุ่มที่ศรัทธาในพระเจ้าอย่างแรงกล้า แล้วแน่นอนเมื่อถึงเวลาหนึ่ง คนที่ยืนอยู่คนละมุมทั้งสองต้องมาเจอกันในสนามที่มีน้ำมันและความอยู่รอดของธุรกิจเป็นเครื่องเดิมพัน

ความดุเดือดของการเผชิญหน้าอยู่ตรงที่ว่าฝ่ายหนึ่งยึดถือเอาสิ่งที่"คิดว่าดี" เป็นความเชื่อ และความศรัทธาของตัวเอง และเป็นการยึดถือที่สุดขั้วเอามากๆ มากจนถ้าเราเห็นอาจคิดว่างมงาย กับอีกฝ่ายหนึ่งที่ ไม่เชื่อใครนอกจากตัวเองเท่านั้น เพราะเขาต่อสู้กับชีวิตมามากต่อมาก ดังนั้นไม่มีอะไรอีกแล้วที่เขาจะไว้ใจได้ นอกจากตัวเขาเอง

ประโยคที่เขาคุยกับน้องชาย(?) ตอนกลางเรื่องที่ว่า เขาต้องเผชิญกับความผิดหวังมาครั้งแล้วครั้งเล่า มันมากจนเกินกว่าเขาจะแบกมันไว้ได้ และต่อไปเขาจะไม่แบกมันไว้อีกแล้ว เขาจะไม่แบกความผิดหวังของตัวเองและของใครอีก ดังนั้นเขาจะไม่เชื่อถือใครอีกแล้วนอกจากตัวเขาเอง นั่นคงสื่อความหมายของด้านของพระเอกว่าจะยืนอยู่จุดไหน และบอกไว้ได้เลยว่าพระเอกของหนังเรื่องนี้ไม่ได้เป็นคนดี!!!

ดังนั้นเมื่อทั้งสองมาเผชิญหน้ากันทั้งตอนกลางเรื่องและตอนท้ายเรื่อง นั่นก็คือบทสรุปที่มองให้เห็นว่าคนทำหนังน่าจะพยายามสื่ออะไรออกมา

แล้วผลสุดท้ายหนังก็บอกมาให้เห็นว่า โลกแห่งความเป็นจริงกับโลกแห่งความฝันนั้น ผู้ที่ยืนหยัดอยู่บนโลกด้านไหนกันแน่ ที่จะเป็นผู้ชนะที่แท้จริง ...นับเป็นการทดสอบศรัทธาในด้านความเชื่อของคนที่นั่งดูอย่างแท้จริง ถ้าหากว่า...

สิ่งที่พระเอกอยู่ตรงนั้น ร่ำรวยด้วยทรัพย์สินเงินทองมากมายนั้น คือความสุขที่แท้จริงหรือ? ในเมื่อรอบกายเขาไม่มีใครอยู่ข้างกายเขาเลย เขาเลือกที่จะทิ้งพ่อ แม่ น้องชาย น้องสาว ของเขามา หนังพูดถึงบุคคลเหล่านี้ แต่ก็ไม่ได้บอกเลยว่า แดเนียล แพลนวิล กลับไปหาครอบครัวของเขาหรือเปล่าหลังจากร่ำรวยจากธุรกิจน้ำมันแล้ว

หนังฉายให้เห็นถึงบ้านหลังใหญ่โต แต่ก็อยู่กันแค่ตัวพระเอก หมาพันธุ์ดัลเมเชียนตัวนึง และคนรับใช้อีกคนนึง ตัวพระเอกเองไม่มีอะไรทำ นอกจากนั่งกินเหล้า ยิงปืนอยู่ในบ้าน ลานโบว์ลิ่ง กิจกรรมที่ต้องเล่นกับคนอื่นถึงจะสนุก ก็เป็นแค่ห้องไว้กินเศษอาหารและเหล้าของเจ้าของบ้านเท่านั้น

แม้แต่กับลูกชายของตัวเองเวลาจะคุยกันยังไม่อาจคุยกันตามลำพังสองต่อสอง แม้แต่จะได้มองหน้ากันเวลาคุย ยังทำไม่ได้เลย

นั้นคือผู้ชนะในบั้นปลายจริงๆหรือ เราวัดความสำเร็จกันที่อะไร เงินทองหรือ? มันจะมีประโยชน์อะไร ถ้าเรามีเงินทองแต่กับไม่สามารถหาคนที่จะมาแชร์ความสุขกับเรานั้นได้เลย

แต่อีกมุมก็แสดงให้เห็นถึงความพ่ายแพ้ของฝ่ายที่ยึดมั่นกับ"ศรัทธา" เช่นกัน เมื่อฝ่ายนี้ต้องแบกตัวเองเพื่อมาขอความช่วยเหลือ ต้องยอมแม้กระทั่งจะพูดทำลายในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ เพื่อขอรับความช่วยเหลือจากพระเอก และยอมทำทุกอย่าง

ดังนั้นหนังน่าจะสรุปว่า สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าด้านใดก็ตาม หากยืนอยู่บนความ"สุดขั้ว" ของตัวเองแล้ว ไม่ว่าจะเป็นพระเจ้าหรือซาตาน ก็ไม่มีฝ่ายใดชนะ เป็นผู้แพ้กันทุกฝ่ายนั่นล่ะ ผู้ชนะที่แท้จริงก็คงเป็นฝ่ายที่ปรับตัวได้กับทุกสถานการณ์และเก็บผลประโยชน์ไปอย่างเงียบๆ และไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอย่างพอเพียง......

โดยเนื้อหนังเองมีความยอดเยี่ยมของมันอยู่ แต่สิ่งที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าก็คือดาราแสดงนำ ...แดเนี่ยล เดย์ ลิวอิส คว้ารางวัลออสการ์ปีล่าสุดจากภาพยนต์เรื่องนี้

พลังการแสดงของเขาเก็บทุกอย่างบนภาพยนต์ได้อย่างนิ่งสนิท ชั้นดูบทบาทของเขาบนภาพยนต์เรื่องนี้แล้ว ต้องบอกว่าไม่แปลกใจ ว่าทำไมออสการ์จึงตกเป็นของเขา

ผู้ท้าชิงทั้งห้า ต่างมีดีมีเสียต่างกัน แต่ชั้นเพิ่งดูได้แค่สามจากห้า ชั้นก็พอเข้าใจแล้วว่า ทำไม เดเนียล ถึงได้รางวัลนี้ไปอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง

เอาล่ะแม้พูดถึงคุณภาพการแสดง ไม่มีใครแตกต่างกัน ทั้งห้าคนควรค่าอย่างยิ่งกับคำว่า "อัครมหาศิลปิน"

แต่ที่เดเนี่ยล และ จอห์นนี่ เด็ปป์ ทำในสิ่งที่ทอมมี่ ลี โจนส์ยังทำได้ไม่ดีเท่าก็คือ เมื่อเราดูบทบาทของเขาในหนังแต่ละเรื่อง (เด็ปป์แสดงเป็นช่างตัดผมที่กลับมาล้างแค้นคนที่ทำลายชีวิตเขา) ก็คือ การลบคาแร๊กเตอร์ทั้งของตัวเอง และจากเรื่องภาพยนต์เก่าๆนั้นออกไปอย่างหมดสิ้น

ทอมมี่ ลี โจนส์ ทำได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งจาก No country for old men กับ In the valley of ELAH แต่สิ่งที่คนดูทั่วๆไปที่ชมทั้งสองเรื่องคงรู้สึกเหมือนกันก็คือ ลุงทอมมี่ยังมีบุคลิกที่ติดตาที่คล้ายๆกันทั้งสองเรื่อง นั่นคือ ภาพของตาแก่ที่เรื่องหนึ่งเป็นนายอำเภอ กับอีกเรื่องเป็นทหารแก่ที่เกษียณ จึงดูเป็นภาพที่ซ้อนทับกันอย่างช่วยไม่ได้

ชั้นเชื่อว่าถ้าปู่แกเล่นหนังแค่เรื่องเดียวในปีนี้ แกน่าจะมีลุ้นรางวัลมากกว่านี้

กลับมาที่เดเนี่ยล เดย์ ลิวอิส

นี่คือยอดนักแสดงที่แจ้งเกิดอย่างเต็มตัว ในหนังเรื่องเยี่ยมอย่าง In the name of the father ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าที่เขาเล่นเรื่องนี้ เราจะลืมไปเลยว่าตัวจริงของเขาเป็นเดเนี่ยล เดย์ ลิวอิส เขาลบภาพเดิมๆของตัวเองได้หมดจริงๆ

นี่กระมังที่เรียกว่าเป็น"นักแสดง" อย่างแท้จริง น่าชื่นชมเอามากๆ

ชั้นขี้เกียจมานั่งหารูปมาแปะให้ดู เพราะคิดว่าคงไม่ยากหากมีใครสนใจหารูป หรือ หนังที่เขาเคยแสดง ก็นี่เราอยู่บนโลกอินเตอร์เน็ตแล้วนี่ เรื่องแค่นี้จิ๊บจ๊อยเอามากๆ

ชั้นก็ไม่ใช่มืออาชีพทางด้านวิจารณ์หนังอย่างท่าน "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" และผองเพื่อนในห้องภาพยนต์ดอกนะ ถึงได้ไม่กล้าเขียนเอาขึ้นบล๊อกตัวเองไงล่ะ ฮิฮิ อายเขา

แต่ก็ขอรีวิวไว้แม้จะรู้ว่าเธอไม่ชอบดูหนังก็ตาม แต่เผื่อมีโอกาสไง หรือไม่ก็ให้เพื่อนๆคนอื่นได้อ่านเน่อ

ภาพยนต์เรื่องนี้ต้องขอบอกกับผู้สนใจทั่วๆไปว่า ...ผมเจอฉายอยู่ที่ลิโด้แค่โรงเดียวนะครับ ไม่รู้ว่าที่อื่นๆจะมีอีกหรือเปล่า แต่ในภาวะที่หนังไทยอย่างเรื่องปิดเทอมใหญ่ฯ กวาดจอฉายในโรงต่างไปเกือบครึ่งแล้ว ก็ไม่แปลกใจที่หนังแบบนี้จะหาที่จะให้ชมนั้นยากเหลือเกิน

นี่ก็มีเรื่อง Once อีกเรื่องนึงที่น่าสนใจ เป็นหนังเกี่ยวกับคนสองคน ที่ต่างก็ประสบกับความล้มเหลวมาตลอดชีวิต แต่เมื่อทั่งคู่มาเจอกัน สิ่งที่ทั้งคู่ขาดก็ดูเหมือนจะมีอยู่ในอีกฝ่ายหนึ่ง เพื่อเติมเต็มชีวิตของกันและกัน

รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ไม่ได้เดินตามสูตรสำเร็จ ว่าจะจบลงอย่างที่เราหวัง แต่ชั้นก็ไม่แน่ใจ คิดว่าไม่พรุ่งนี้ก็วันนี้ล่ะจะไปดูอยู่

...ตอนนี้ข้างนอกที่เมืองไทยร้อนมากมาย แต่ก็อย่างที่เคยบอก ว่าเทียบกับคูเวตแล้ว ก็เด็กๆไปเลย แต่ก็ยังเล่นเอาเหงื่อท่วมอยู่เหมือนกัน

หวังว่าคงหายป่วยไวๆ และเจอกับไฟลท์ที่ดีๆตลอดการเดินทาง ขอบคุณ ถ้าอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ


โดย: BrettAnderson (BrettAnderson ) วันที่: 24 มีนาคม 2551 เวลา:10:09:18 น.  

 
ลืมบอกไปว่า ชื่อไทยของหนังน่ะมันชื่อ "ศรัทธาฝังเลือด" ส่วนประโยคเด็ดๆในหนังน่ะ ขอดูอีกทีแล้วจะจดมาบอกทีหลังเน้อ มีไรมากมายให้จดจำเลยทีเดียว


โดย: BrettAnderson (BrettAnderson ) วันที่: 24 มีนาคม 2551 เวลา:10:12:42 น.  

 
เห็นภาพแล้วอยากไปเที่ยวเด่ะหล่า พาเอื้อยไปนำแน้



โดย: คนไม่เจียม.. วันที่: 24 มีนาคม 2551 เวลา:14:23:32 น.  

 
คุณปอยหายไป ก็เลยมาแอบอ่านรีวิวหนังของคุณแป๋ง...
ดีนะ ดูแล้วเล่าได้เป็นฉากๆ มืออาชีพจริงๆ หนูหล่อดูอะไร
แล้วเล่าพอเป็นเค้าๆได้ แต่ให้เล่าละเอียดแถมวิเคราะห์
ด้วยละก็ เหลว!! พอดูจบก็เหมือนเป็นความฝันไป คง
เหมือนที่ Stephen King ว่าไว้ คนทั่วไปเล่าความฝัน
ให้ชัดๆอย่างละเอียดลออไม่ได้ บางคนว่าความฝันไม่มีสี
ไม่มีเสียง เวลาฝันเรื่องน่ากลัวก็ไม่รู้กลัวอะไร... เอ้า
เปลี่ยนประเด็นไปซะแระ ก็หาใช่กูรู้เรื่องความฝันหรอก
ครับ

อยู่กรุงเทพฯแล้วครับ ไปที่บ้านคุณแป๋งมาเมื่อกี้ อุแม่เจ้า
สาวๆตรึม แถมคุยกันเรื่องความสวยของผู้หญิงอีก คุณ
แป๋งก็ว่าได้เป็นฉากๆอีก พี่หนูหล่อเลยแอบมาตั้งตัวบ้าน
คุณปอยก่อน ไม่อยากเสียเหลี่ยมให้คุณแป๋งไปแต่วี่วัน
อ่ะครับ แหะ แหะ ธรรมดาเหลี่ยมก็ไม่คมอยู่แล้ว

หนูหล่อก็อ่านจบถึงบรรทัดสุดท้ายน้า คุณแป๋ง


โดย: หนูหล่อ IP: 124.120.224.4 วันที่: 24 มีนาคม 2551 เวลา:15:23:05 น.  

 
หอนาฬิกาบิกเบน คุณถ่ายได้สวยมากครับ

ผมชอบแวะมาอ่าน และเที่ยวอังกฤษบลอคคุณนะครับ


โดย: ห่วงใย วันที่: 24 มีนาคม 2551 เวลา:15:38:55 น.  

 

Myspace Comments
Myspace Comments


จ๊ะเอ๋!...คิดถึงน้า...

อาวว์..งเลยลูกเรามา...

ร่วมด้วยย...ช่วยกานโบ่นนน



โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 24 มีนาคม 2551 เวลา:21:05:47 น.  

 
ไม่ได้หายไปไหนนะคะพี่หนูหล่อ
กลับมาติดหนังสืองอมแงมค่ะ สลับกับบิน
ตอนนี้ดีขึ้นเยอะแล้วค่ะ แทบจะหายสนิทแล้วด้วยล่ะ

ปอยเอง...ถ้าเป็นหนังที่ชอบ ถึงจะจำได้ดีค่ะ
ถ้าเป็นหนังที่ดูแล้วงั้น ๆ ดูกี่รอบ กี่รอบ ก็ลืมหมด
ดูอีกทีก็เหมือนดูครั้งใหม่ ตื่นเต้นซะทุกฉากทุกตอน
ส่วนหนังชอบ ๆ ละก็ ดูรอบเดียวก็จำบทพูดได้ด้วย
และถ้าเพิ่งดูเสร็จ ก็จะยังคงค้าง ๆ คา ๆ อยู่ในหัว
พอจะเล่าได้เหมือนกัน แต่ก็คงเล่าได้แต่ความรู้สึก
เหมือนความฝันอย่างที่พี่หนูหล่อว่าละมั้งคะ...
แต่จะให้เล่าเป็นฉาก ๆ ก็คงเล่าไม่ได้เหมือนกัน

ส่วนรีวิวน่ะค่ะ...รีวิวแบบพี่แป๋งก็คงไม่ได้เหมือนกัน
ไม่งั้น ถ้าคิดจะรีวิว ก็รีวิวบลอคตัวเอง...
ไม่มาแปะบลอคชาวบ้านยาว ๆ แบบพี่แป๋งหรอก
เหอะ ๆ

พรุ่งนี้ไปเที่ยวยุโรปอีกแล้วค่ะพี่หนูหล่อ...อิอิ
แต่เหนื่อย เหนื๊อย เหนื่อย ไม่รู้จะได้ไปไหนหรือเปล่า
ไม่งั้นก็อาจจะต้องหมกตัวอยู่แค่โรงแรมเท่านั้น
ไม่ได้เอารูปมาฝาก...แต่ลาไว้ก่อนล่วงหน้าค่ะ

ว่าแต่ว่า "ยุ่งประสิทธิ์" นี่มันแปลว่าอะไรอะคะ?


โดย: นางสาวดุ่บดั่บ IP: 78.89.75.143 วันที่: 24 มีนาคม 2551 เวลา:22:12:37 น.  

 
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองสารขันฑ์นี้
ท่านหนึ่งชื่อคุณประสิทธิ์ กาญจนวัฒน์ (หวังว่าสะกดถูก
นะเนี่ย ขออภัยลูกหลานท่านด้วยถ้าผิด) เวลาที่ท่านจะ
สบถว่าอะไรๆมันยุ่งเหยิงกวนใจเหลือกำลัง ท่านจะว่า
"ยุ่งตายห่..." ก็เลยเกิดคำแสลงว่า "ยุ่งประสิทธิ์" เนี่ย
แหละครับ ชึ่งหมายถึง "ยุ่งตายห่.." อย่างสุภาพสำหรับ
สมัยนั้น

แต่เก่ากว่านั้น คำว่า ประสิทธิ์ หมายความว่ามาก เช่น
ซนเป็นลิง ผู้ใหญ่จะพูดว่า ซนประสิทธิ์ ครับ

คำพวกนี้ยังมีอีกเยอะครับ ตายไปเสียก็มาก

เพิ่งหายหวัดก็ยิ่งเหนื่อยง่ายนะครับ ไม่อยากได้อะไรมา
ฝากหรอกครับ กลับมาปลอดภัยสบายดีก็พอ

ดูแลตัวเองให้ดีก็แล้วกันครับ


โดย: หนูหล่อ IP: 124.121.210.63 วันที่: 24 มีนาคม 2551 เวลา:23:13:43 น.  

 
อาจารย์ประสิทธิ์ หรือ โค้วต้งหมง

เอ แกเสียชีวิตไปแล้วใช่มั้ยครับคุณหนูหล่อถ้าจำไม่ผิด

อิอิ ขอโทษดุ่บดั่บด้วยเด้อ แต่อยากเขียนมาให้ลองอ่านดู เผื่อมีคำแนะนำที่ดีๆมั่งน่ะ ทำบ้านรกหน่อยเน่อ

ไปยุโรปขอให้สนุกแล้วกันนิ ระวังป่วยกลับมาอีกล่ะ

ทางเมืองไทยร้อนน่าดูงิอบอ้าวจริงๆวันนี้


โดย: BrettAnderson วันที่: 24 มีนาคม 2551 เวลา:23:39:25 น.  

 
ลืมขอบคุณคุณหนูหล่อไปครับที่อ่านจนจบ ขอบคุณมากเลยทีเดียว

ไม่รู้ดุ่บดั่บเขาพูดยังงี้ผมยังจะมีหน้ามารีวิวไว้ที่บล๊อกเขาได้อีกดีหรือเปล่านะครับ ไล่กันโต้งๆกลางที่สาธารณะเลยทีเดียว

แหม่ ภาษานักเลงเขาเรียกว่าไม่ไว้หน้ากันเลยล่ะครับ

ผมน่ะไม่มีเหลี่ยมไม่มีคมอะไรหรอกครับ โธ่ คบกับใครก็แทบจะล่อนจ้อนอยู่แล้ว ซ่อนอะไรไม่เป็นเปิดเผยหมดทุกอย่าง

ว่าแต่อ่านแล้วถ้าคิดอยากจะดูบ้าง ก็ที่ลิโด้เน้อ ที่อื่นผมไม่เห็นมีฉายง่ะ


โดย: BrettAnderson วันที่: 24 มีนาคม 2551 เวลา:23:45:09 น.  

 
น่าสนุกดีนะคะ พิมไม่เคยไปลอนดอนเลยสักครั้งล่ะค่ะ


โดย: pim(พิม) วันที่: 25 มีนาคม 2551 เวลา:2:25:30 น.  

 
พี่หนูหล่อคะ...ซึ้งประสิทธิ์จริง ๆ ค่ะ
(ใช้ถูกป่าวคะ???)

จะพยายามรักษาตัวกลับมาอย่างปลอดภัยนะคะ
แต่แหม! ไปเป็นครั้งแรก ก็อยากจะออกตะลอนสักหน่อย
ถ้าไม่เหนื่อยเกินไป และไข้ไม่กลับเสียก่อน
เจอกันค่ะ หอไอเฟล!!

พี่หนูหล่อฝันดีน้าคะ


โดย: นางสาวดุ่บดั่บ วันที่: 25 มีนาคม 2551 เวลา:4:22:42 น.  

 
อ่านบล๊อกนี้แล้วอิ่มมมม เหมือนได้ไปเอง 555+

ชอบบิ๊กเบนเน๊อะ เป็นอะไรที่คลาสสิค ชอบบบ *.*

ชอบรูปสุดท้ายจังเลยค่ะพี่ปอย ถ่ายยังไงอ่ะคะ อยากถ่ายได้แบบนี้มั่ง

จะรออ่านบล๊อกตะลุยยุโรปน๊า รีบอัพนะค๊า ^^


โดย: soda_zappp IP: 58.9.151.194 วันที่: 26 มีนาคม 2551 เวลา:17:44:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นางสาวดุ่บดั่บ
Location :
Vichy France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]




\\\ดุ่บดั่บๆ///
ดุ่บดั่บ คือ การเคลื่อนตัวของหนอน
หนอนตัวน้อย ๆ ที่สามารถไปไหนก็ได้ตามใจต้องการ
ฉันเองก็อยากเป็นหนอนตัวน้อย
จะได้ทำอะไรก็ได้ และไปที่ไหนก็ได้ตามที่ใจฉันฝัน
...ดุ่บดั่บ ๆ ๆ...





>>>คลิก ๆ...สารบัญและสมุดเยี่ยมค่ะ<<<




อ่านบลอคเก่า ๆ ก็ได้นะ

<<การปรับตัว-Acclimatisation>>
::สวนสาธารณะวันหม่น::
ภาพ: ดอกมูเก้
โดยสวัสดิภาพ-Bon Voyage(2)
โดยสวัสดิภาพ-Bon Voyage(1)



















Status: ขาวดำ



Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
18 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add นางสาวดุ่บดั่บ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.