ความผาสุขในชีวิต !
ผมกับภรรยาเก็บหอมรอบริบจนพอที่จะซื้อห้องชุดได้
วันที่ย้ายบ้านเข้ามาอยู่ในวันแรก กว่าจะส่งเพื่อนชุดสุดท้ายที่มาแสดงความยินดีก็ปาเข้าไปดึกดื่น
ผมกับภรรยาล้มตัวลงนอนที่โซฟา กวาดสายตามองห้องด้วยความสุขใจ อยู่ๆ ก็มีเสียงออดดังขึ้น ใครกัน มาเอาปานนี้ ผมและภรรยาสงสัย?
เมื่อเปิดประตูออกไป ก็เห็นชายหญิงคู่หนึ่ง น่าจะเป็นสามีและภรรยากัน ในขณะที่ผมและภรรยารู้สึกฉงน คุณผู้ชายก็เอ่ยขึ้นว่า
"ผมแซ่หลี่ครับ พักอาศัยอยู่ที่ชั้น1 มาแสดงความยินดีกับคุณที่เพิ่งเข้ามาอยู่ใหม่"
อ๋อ เป็นเพื่อนบ้านนี่เอง ผมจึงเชิญเขาทั้งสองเข้ามานั่งในบ้านก่อน แต่คุณหลี่กับโบกไม้โบกมือปฏิเสธ
"อย่าเลยครับๆ ผมเพียงแต่อยากจะขอรบกวนคุณสักเรื่องหนึ่งจะได้ไหมครับ?"
"คุณหลี่ไม่ต้องเกรงใจ บอกมาได้เลยครับ!" ผมกล่าวออกไป
"ผมอยากจะขอความกรุณาว่า หากคุณเข้าออกประตูตึก ช่วยเปิดปิดประตูเบาๆจะได้ไหมครับ? คุณพ่อของผมเป็นโรคหัวใจ ท่านสะดุ้งตกใจง่ายครับ" กล่าวจบ ทั้งสองสามีภรรยาต่างก็มองมาด้วยสายตาที่รู้สึกเสียใจ
"ได้ครับ ผมจะระวังให้มาก แต่บางครั้งอาจรีบร้อน หรืออาจจะเลินเล่อไปบ้าง ก็อย่าได้ถือสานะครับ" ผมบอก
"ในเมื่อพ่อของคุณเป็นโรคหัวใจและตกใจง่าย ทำไมพวกคุณให้ท่านพักอยู่ที่ชั้น 1 ล่ะ?" ผมถามด้วยความสงสัย
คุณนายหลี่บอกว่า "ที่จริงแล้วเราก็ไม่อยากอยู่ชั้น 1 หรอกค่ะ มันทั้งชื้นและก็สกปรก แต่คุณพ่อขาไม่ค่อยดี เดินเหินไม่สะดวก อีกทั้งคนป่วยโรคหัวใจ ต้องออกกำลังกายที่เหมาะกับโรค เราก็เลยตัดสินใจอยู่ที่ชั้น 1 ค่ะ"
ผมได้ฟังก็รู้สึกซาบซึ้งใจสามีภรรยาคู่นี้ จึงกล่าวยืนยันว่า ยินดีให้ความร่วมมือไปอีกครั้ง เขาทั้งสองกล่าวคำขอบคุณแล้วขอบคุณอีก จนทำให้ผมและภรรยารู้สึกเกรงใจไปเลย
จากนั้นมา ผมและภรรยาก็สังเกตว่า เพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่บนตึกหลังนี้ ไม่มีใครเปิดปิดประตูเสียงดังเลย ไม่เหมือนกับที่เราเคยอยู่ก่อนหน้านั้น แต่ละเวลาออกบ้านไปก็จะผลักเปิดปิดประตูเสียงดัง "ปั๊ง"เสมอ เมื่อสอบถามเพื่อนบ้าน ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ต่างได้รับการขอร้องจากคุณหลี่และภรรยาเหมือนๆกัน
ผมอยู่ที่นี่ได้ 1 ปีเต็มๆ มีอยู่ค่ำวันหนึ่ง คุณหลี่และภรรยามากดออดหน้าบ้าน เมื่อผมเปิดประตู ก็เห็นเขาทั้งคู่ยืนก้มหน้าโค้งคำนับโดยไม่พูดไม่จาอะไร ผมจึงเข้าไปประคองให้ยืดตัวขึ้นแล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น? คุณหลี่กล่าวด้วยตาแดงๆว่า
"คุณพ่อของผมท่านได้จากผมไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานเย็นครับ"
จากนั้นคุณหลี่ก็เล่าว่า คุณพ่อของเขามักจะกล่าวกับเขาเสมอว่า รู้สึกขอบคุณเพื่อนบ้านเป็นอย่างยิ่ง หลายปีมานี้ทุกคนให้การดูแลแกเป็นอย่างดี ทำให้ทุกคนลำบาก และเมื่อวันใดที่แกตายไป ให้ลูกชายและลูกสะใภ้ เป็นตัวแทนไปขอบคุณเพื่อนบ้าน หากบ้านไหนเป็นคนแก่ ก็ให้คุกเข่าขอบคุณ หากบ้านไหนเป็นคนหนุ่มสาวก็ให้ยืนโค้งคำนับขอบคุณ
หลังจากที่ส่งคุณหลี่แล้ว ผมถอนหายใจพูดกับภรรยาว่า "แค่เพียงปิดเปิดประตูบ้านเบาๆ กลับได้รับความขอบคุณจากคนอื่นเยี่ยงนี้ คิดไม่ถึงจริงๆ"
# การดำเนินชีวิตก็เป็นเช่นนี้ ยามที่คุณทำดีต่อผู้อื่น ขณะเดียวกันคุณก็กำลังสั่งสมความผาสุกให้กับชีวิตของคุณเช่นเดียวกัน!
นุสนธิ์บุคส์
Create Date : 16 สิงหาคม 2557 |
|
0 comments |
Last Update : 8 กันยายน 2557 14:46:27 น. |
Counter : 983 Pageviews. |
|
|
|