วิธีแก้อกหัก
ความรักเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตฆราวาสทุกคน บางคนถึงกับเอาเป็นสรณะ เป็นที่พึ่งของชีวิต ซึ่งมักจะทำให้ชีวิตประสบความทุกข์ระทมบ่อยๆ
รักได้ ไม่เป็นไร ไม่ผิดศีล ไม่ผิดอะไร
แต่พุทธศาสนาสอนว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต ต้องประกอบด้วยธรรมะ ต้องยอมรับความจริง
เราต้องพยายามพิจารณาทุกเช้าทุกเย็น ว่า เราต้องมีความพลัดพรากจากคนที่เรารักทุกคน ไม่วันใดก็วันหนึ่ง เราไม่ตายจากเขา เขาก็ตายจากเรา
อันนี้ไม่ใช่เพื่อทำให้เรารู้สึกกลุ้มใจหรือเศร้าใจ แต่เป็นการเปิดจิตใจให้กว้างออกไปรับความจริง ซึ่งปกติเราชอบพยายามประคับประคองอารมณ์ที่สบายของเราไว้ โดยการกลบเกลื่อนความจริงบางแง่บางมุมบางประการ คือสิ่งที่จะลดรสชาติของอารมณ์นั้น เพราะว่าธรรมชาติของคนเรานี้ ชอบเพลิดเพลินในอารมณ์ เพลิดเพลินในความรัก
ถ้าเราเพลิดเพลินในสิ่งใดแล้ว ความเพลิดเพลินนั้นแหละ เป็นความยึดมั่นถือมั่น
เกิดภพ เกิดชาติ เกิดความไม่มั่นคง เกิดความหวั่นไหว เพราะว่าอารมณ์ทั้งหลายเป็นของไม่เที่ยง เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัย ผู้ยึดมั่นในอารมณ์ย่อมฝืนธรรมชาติไม่ให้เปลี่ยนแปลง
แต่มนุษย์เราจะสู้ธรรมชาติไม่ได้ มันเป็นการฝืนลมๆ แล้งๆ เป็นการฝืนที่จะทำให้รู้สึกระทมขมขื่น
รู้สึกเซ็ง หมดหวัง สิ้นหวัง
นักปฏิบัติผู้ปรารภธรรมะจะคำนึงถึงความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่เสมอ สำนึกปวงไม่เที่ยง รู้ว่ายึดมั่นในสิ่งที่ไม่เที่ยงเมื่อไร ก็ต้องเป็นทุกข์ทันที คิดอย่างนี้ได้ความรักมันไม่หายหรอก ความรักของเราไม่ใช่ว่ามันจะจืดชืด หมดรสชาติ แต่จะเป็นความรักที่สุกงอม เป็นความรักของผู้ใหญ่ ความรักไม่มีโทษอะไร
เรื่องความรักนี้จะต้องสังเกตว่า มันจะเปลี่ยนสภาพตามความรู้ และความเข้าใจในธรรมะ ของผู้รัก
หมายความว่าถ้าพวกเราไม่มีสติปัญญาเป็นที่พึ่งภายในใจ ไม่มีตัวผู้รู้คอยคุ้มครองการดำเนินชีวิต คอยดูแลสิ่งที่เราทำ คำที่เราพูด เราย่อมมีความรู้สึกขาดความมั่นคง ซึ่งจะอยู่ลึกๆในใจตลอดเวลา รู้สึกว่าขาดอะไรสักอย่าง
มีความรู้สึกอย่างนี้แล้ว เรามักจะพยายามลบความรู้สึกนี้โดยความรัก จึงแสวงหาความรักอย่างดิ้นรน กระสับกระส่าย กระวนกระวาย
ความรักของเรานั้น จะประกอบด้วยความเห็นแก่ตัว เพราะเกิดจากความอยาก แต่ผู้มีที่พึ่งภายในแล้ว มีความมั่นคงภายในใจแล้ว จะมีความรู้สึกพอดี ไม่มีอะไรขาดไม่มีอะไรเกิน พอดีๆ
ผู้ที่รู้สึกพอดีนั่นแหละสามารถให้ความรักด้วยความอิสระ มีความรู้สึกไวต่อคนอื่น ต่อความต้องการของเขา ความกลัว ความวิตกกังวลของเขา สามารถสังเกตเห็นสิ่งแวดล้อมหรือบุคคลรอบข้างอย่างลึกซึ้ง เพราะเดี๋ยวนี้คนเราก็พอแล้ว ไม่มีความห่วงอะไร จิตที่เต็มไปด้วยธรรมะแล้วเป็นจิตที่สร้างสรรค์มาก เพราะว่าไม่มีอะไรบกพร่องพร้อมที่จะช่วยคนอื่นได้ พร้อมที่จะให้ความรัก ให้ความรักโดยไม่หวังอะไรตอบแทน
คือ
เขาจะรักหรือไม่รักเรื่องของเขา แต่ว่าเราจะให้ เราพอใจกับการให้
แต่ไม่มีความต้องการในความรัก เพื่อความรู้สึกเปล่าเปลี่ยว หรือ ว่างเปล่าในใจของตัวเอง มีธรรมะเป็นที่พึ่ง ความรักเป็นที่พึ่งไม่ได้ แต่ธรรมะเป็นที่พึ่งได้ ธรรมะเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในชีวิตมนุษย์
credit : จากหนังสือ ลำเดียวกัน หน้า ๔๑ - ๔๔ โดย พระอาจารย์ชยสาโร //www.star4life.com/
Create Date : 05 สิงหาคม 2556 |
Last Update : 10 มกราคม 2558 12:47:39 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1527 Pageviews. |
|
|