... Simplicity is Happiness ♥ ...
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2557
 
2 ธันวาคม 2557
 
All Blogs
 
[นิทานความรัก] : ทำไมลูกต้องเอาบะหมี่มากินบนเตียงพ่อ

ภรรยาของเขาเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุมา 4 ปีแล้ว
เขารู้สึกเคว้างคว้าง ไม่รู้จะทำหน้าที่ของพ่อและแม่ให้ลูกชายได้อย่างไร?

ค่ำวันเสาร์ หลังจากที่เขากลับมาจากทำงาน
เขาทักทายลูกไม่กี่คำ ก็เข้าห้องอยากนอนด้วยความเพลีย
หลังจากถอดสูทออกแล้ว ก็ล้มตัวลงไปนอนบนเตียง
"เพล้ง" เสียงเหมือนชามอะไรแตกสักอย่าง

เมื่อเขาเปิดผ้าห่มดู ชามบะหมี่กับจานแตกเป็นเสี่ยงๆ
ทั้งน้ำและเส้นหกเลอะผ้าห่มและที่นอน
เขาหยิบไม้แขวนเสื้อเดินออกไปหิ้วแขนลูกชายที่กำลังเล่นของเล่น
จากนั้นก็ตีไปที่ก้นของลูกด้วยความโมโห ลูกชายร้องไห้ด้วยความเจ็บ

เขาถามลูกออกไปด้วยความโมโห "ทำไมเอาบะหมี่ไปกินบนเตียงพ่อ?"

ลูกชายร้องไห้สะอึกสะอื้นบอกกับเขาว่า

"ข้าวที่พ่อหุงไว้เมื่อเช้าผมกินหมดแล้ว ตอนเย็นนี้ผมหิวข้าว
แต่พ่อยังไม่กลับมา..ผมก็เลยหามาม่าจากในครัว
แต่พ่อบอกผมว่าไม่ให้ยุ่งกับแก๊ส
ผมก็เลยเอาน้ำอุ่นจากตู้น้ำดื่มมาชงมาม่า
ผมกินไปชามหนึ่งแล้ว อีกชามหนึ่งผมชงให้พ่อ
แต่ผมกลัวว่ามันจะเย็นไปซะก่อนที่พ่อจะกลับมา
ผมก็เลยเอาผ้าห่มคลุมไว้
ตอนที่พ่อกลับมาผมมัวแต่เล่น
จึงลืมบอกพ่อ ผมขอโทษครับพ่อ!"

เขาปล่อยมือลูกและรีบหันหน้าหนีเดินไปที่ห้องน้ำ
เมื่ออยู่ในห้องน้ำ เขาก็เปิดน้ำเสียงดัง
เพื่อกลบเสียงร้องไห้โฮของเขา
เขานั่งอยู่ในห้องน้ำครู่ใหญ่

เมื่อออกมาจากห้องน้ำ เขาเดินไปที่ห้องของลูกชาย
เห็นลูกชายนอนหลับอยู่บนเตียงพร้อมกับกอดรูปของแม่อยู่ในอ้อมกอด
ใบหน้ายังเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา

จากเหตุการณ์ในวันนั้น เขาสัญญากับตัวเองว่าจะดูแลลูกให้ดีกว่านี้
แต่เมื่อลูกชายเข้าเรียนชั้นประถมได้ไม่นาน เขาก็ตีลูกชายอีกครั้ง
ช่วงก่อนวันแม่ไม่กี่วัน วันนั้นคุณครูประจำห้องก็โทรศัพท์มาบอกเขาว่า
ลูกชายไม่ได้มาเรียน และวันนี้ก็มีการแสดงของเด็กนักเรียนด้วย
เขารีบลางานเพื่อไปตามหาลูกชาย
เขาเดินตามหาลูกชายแถวบริเวณหน้าโรงเรียนแต่ก็ไม่เจอ

เมื่อเดินไปที่สวนสาธารณะ ก็เห็นลูกชายกำลังยืนอยู่หน้าเครื่องเล่นสไลเดอร์
เขาโมโหลูกชายมาก จึงตีลูกชายอีกครั้ง ครั้งนี้ลูกชายไม่ได้แก้ตัวอะไรใดๆ
เอาแต่กล่าวคำขอโทษเขาเท่านั้นเอง

หลังจากนั้นหนึ่งปี เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากบุรุษไปรษณีย์
ว่าลูกชายของเขานำจดหมายปึกใหญ่ที่ไม่มีที่อยู่ใส่ไว้ที่ตู้ไปรษณีย์หน้าบ้าน
และช่วงนี้ก็เป็นช่วงปีใหม่ เจ้าหน้าที่ไม่มีเวลาว่างมาสนุกกับสิ่งที่ลูกชายเขาทำหรอก
เมื่อเขาทราบดังนั้น ก็รีบบึ่งรถไปที่ไปรษณีย์เพื่อนำจดหมายปึกใหญ่นั้นกลับมา

เมื่อกลับมาถึงบ้าน เขาก็โยนจดหมายปึกนั้นให้ลูกชายดู "ทำไมลูกทำอย่างนี้?"
ลูกชายเมื่อเห็นจดหมายก็ร้องไห้ "นี่เป็นจดหมายที่ผมเขียนส่งให้แม่"

เขาได้ฟังก็สะท้อนใจเป็นอย่างยิ่ง จึงถามลูกชายออกไปว่า
"ทำไมส่งครั้งเดียวตั้งเยอะตั้งแยะ?”

"จดหมายปึกนี้ผมเขียนมาตั้งแต่แม่ตาย แต่เมื่อก่อนผมยื่นจดหมายใส่ตู้ไม่ได้
เพราะผมยังตัวเล็ก ตอนนี้ผมสูงพอที่จะหย่อนจดหมายใส่ตู้ได้
ผมก็เลยเอาจดหมายที่เขียนถึงแม่ไว้ทั้งหมดส่งให้แม่อ่านพร้อมๆกัน"

เมื่อเขาได้ฟังลูกบอก น้ำตาก็คลอเบ้าตา ไม่รู้จะบอกลูกยังไงดี
เขาจึงก้มตัวลงไปกอดลูกไว้ "แม่ของลูกอยู่บนสวรรค์แล้ว
วันหลังถ้าจะเขียนจดหมายถึงแม่ พ่อจะเผาให้นะ
จดหมายจะได้ส่งไปบนสวรรค์ให้แม่ได้อ่าน"

ค่ำวันนั้น เมื่อส่งลูกชายเข้านอนแล้ว เขาจึงหยิบจดหมายปึกใหญ่นั้นมาอ่าน
มีจดหมายอยู่ฉบับหนึ่ง ที่ทำให้เขาสะเทือนใจมาก

"แม่ครับ ผมคิดถึงแม่ วันนี้ ที่โรงเรียนมีการแสดงของแม่ลูก
ผมไม่มีแม่ เลยไม่ได้แสดงด้วย ผมไม่ได้บอกกับพ่อ กลัวว่าพ่อจะคิดถึงแม่
แต่พ่อก็ลางานมาตามหาผม ผมไม่อยากให้พ่อรู้ว่าผมเหงา
ผมเลยแกล้งไปเล่นที่สวนสนุก แม้ว่าพ่อจะด่าผมตีผม
แต่ผมก็ไม่ได้เล่าความจริงให้พ่อฟัง

แม่ครับ ผมเห็นพ่อนั่งกอดรูปของแม่ทุกวันเลย
ผมรู้ว่าพ่อก็คิดถึงแม่เหมือนกับผม

แม่ครับ ผมจำไม่ได้แล้วว่าเสียงของแม่เป็นยังไง?
แม่มาเข้าฝันผมหน่อยได้ไหม ขอให้ผมได้เห็นหน้าแม่อีกสักครั้ง
ขอให้ผมได้ฟังเสียงของแม่อีกสักครั้งได้ไหมครับ?

ลุงข้างบ้านบอกผมว่า หากเราคิดถึงใคร
ก่อนนอนให้กอดรูปของเขาไว้ที่อก แล้วเราจะฝันถึงเขาคนนั้น

แต่แม่ครับ ผมกอดรูปแม่ไว้กับอกทุกวัน ทำไมแม่ไม่มาเข้าฝันผมเลยละครับ"

เมื่อเขาอ่านจบ เขาก็กลั้นเสียงสะอื้นไว้ไม่ให้ดังออกมากลัวลูกได้ยิน
เขาเอาแต่ถามตัวเองว่า จะทำอย่างไรถึงจะทดแทนความรู้สึกกำพร้าแม่ของลูกได้?



เมื่อเราเป็นผู้สร้างลูกให้เกิดมาบนโลกนี้
เราต่างมีหน้าที่รับผิดชอบชีวิตที่เกิดขึ้นมานั้นร่วมกัน

หากคุณเป็นแม่ อย่าได้เอาแต่ทำโอที
หากคุณเป็นพ่อ อย่าเอาแต่เลิกงานแล้วไปสังสรรค์กับมิตรสหาย

อย่าได้ทำแต่งานหาแต่เงินจนลืมดูแลสุขภาพ
มีชื่อเสียงเงินทองแต่สุขภาพทรุดโทรม แล้วจะมีประโยชน์อะไร!

ขอให้คุณทั้งหลายดูแลสุขภาพให้ดี คุณจึงจะมีโอกาสได้อยู่ดูแลลูก
ได้เห็นการเจริญเติบโตของลูก ได้เห็นความสำเร็จของลูกไปพร้อมๆ กัน

อย่าได้เอาแต่คิดว่า รอฉันมีเงินก่อนแล้วค่อยทำอันโน้นทำอันนี้
เพราะไม่มีใครอาจล่วงรู้ได้ว่า นาทีต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น
วันหน้าจะมีได้อีกสักกี่ครั้ง



เครดิต นุสนธิ์ 




Create Date : 02 ธันวาคม 2557
Last Update : 26 ธันวาคม 2557 22:36:13 น. 0 comments
Counter : 1039 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดอกไม้บานริมรั้ว
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]






▼ ห้อง SHOP 1 ▼

เสื้อ
แขนกุด สายเดี่ยว
แขนสั้น
แขน 3-5 ส่วน
แขนยาว กันหนาว
-------------------------
กางเกง
กระโปรง
เดรส
รองเท้า
ชุดผ้าไหม ชุดไทยๆ
ผ้าคลุมไหล่ / ผ้าพันคอ / หมวก
ตุ๊กตา

[ วิธีสั่งซื้อ ]
[ อัตราค่าส่ง & ข้อชี้แจง ]

▼ ห้อง SHOP 2 ▼

!! Clearance SALE !!
ล็อต : (A) - (O)


ล็อต : (P)
ล็อต : (Q)
ล็อต : (R)

Friends' blogs
[Add ดอกไม้บานริมรั้ว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.