เก็บตกภาพจากเทศกาลถือศีล - กินผัก ที่ภูเก็ตครับ + ดอกไม้ที่บ้าน
หลังจากหายไปเสียนานเลย เพราะบ้าเล่นเวปมากไปหน่อย อีกอย่างก็คือความเร็วของเน็ตช้ามาๆเลยครับ ได้
ข่าวว่าช่วงก่อนหน้านี้ทางองคืการโทรศัพท์กำลังซ่อมแซมลิงค์อยู่ ทำให้ใช้เวปในประเทศได้ แต่ถ้าใช้เวปต่าง
ประเทศอาจจะช้ามาก
อัพบล็อกคราวนี้ก็ไม่รู้จะอัพอะไรอีกเหมือนกันครับ ก็ได้ถ่ายภาพในงานกินเจที่ภูเก็ตมาบ้าง ก็เลยนำมาลงให้ดูดี
กว่าครับ แล้วก็ภาพต้นไม้ที่บ้านเช่นเคยนะครับ
ช่วงที่ผ่านมาได้เข้าไปอ่านกะทู้ในเวปลานธรรมครับ ได้เห็นกะทู้นึงที่เป็นโครงการปฏิบัติธรรม ชื่อ "โครงการ
พัฒนาจิตสู่ชีวิตที่พ้นทุกข์ ไปนิพพานกันดีกว่า" ซึ่งเป็นโครงการที่จะถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวงด้วย เวลา
ในการเข้าร่วมโครงการ 15 วัน คือตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย. - 5 ธ.ค. เลยครับ ทีแรกก็กลัวอยู่ว่าผู้จัดการจะไม่อนุ
ญาติให้ลา เพราะมันยาวมาก และวันลาพักร้อนของผมก็ไม่พอด้วย แต่เอาเข้าจริงแล้ว ผู้จัดการอนุญาติครับ
ผมลาทั้งหมด 20 วันเลย หลังจากเสร็จโครงการนี้แล้ว คงจะอยู่แถวๆกทม.ต่อสัก 2 วัน และก็จะไปหาดใหญ่ครับ
งานแต่งงานของรุ่นพี่ และงานสังสรรค์ชมรม ได้บอกแม่ไว้แล้วด้วย แม่ก็รับทราบครับ
มาดูภาพกันเลยดีกว่าครับ คิคิคิ ภาพแรกขอโชว์ภาพตัวเองก่อนแล้วกันครับ ถ่ายที่หน้าศาลเจ้า บริเวณทางขึ้น
เขารัง (ซึ่งเป็นจุดชมวิวของภูเก็ตครับ) ศาลเจ้านี้ค่อนข้างเงียบสงบดีครับ การตกแต่งสวยดีครับ แต่ว่าวันที่ไปนั้น
ไม่สามารถถ่ายรูปได้ครับ พอเอาถ่านใส่กล้อง ปรากฎว่าไฟไม่ติดครับ ทำใจว่า กล้องคงจะเสียอีกแล้ว แต่พอดี
วันนั้นพาเพื่อนไปด้วย เขามีกล้องที่สามารถถ่ายรูปได้ครับ ก็เลยได้รูปนี้มา (แต่จริงๆแล้วกลับไปถึงบ้านลอง
เปลี่ยนถ่านที่ซื้อมาใหม่อีกชุดดู ปรากฎว่าไฟติด อ่าว กล้องไม่ได้เสียครับ แต่ถ่านไม่มีไฟ เพิ่งเคยเจอเป็นครั้ง
แรกครับ ซื้อมาใหม่เลย แต่ถ่านไม่มีไฟ ฮือๆๆ)
ภาพต่อไปเป็นพิธี "ลุยไฟ" ครับ พิธีนี้ม้าทรงจะวิ่งผ่านกองถ่านร้อนๆไปครับ เพื่อเป็นการปัดเป่าสิ่งที่ไม่ดีแทน
คนทั่วๆครับ ผู้ที่กินเจมาหลายวัน และถือศีลบริสุทธิ์จริงๆ ก็สามารถจะไปลุยได้เช่นกัน โดยพระจะทำพิธีให้
ก่อนที่จะวิ่งผ่านกองถ่านนะครับ ในที่นี้เป็นพิธีลุยไฟของศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยครับ คนเยอะมากเลย คนทั่วไปจะอยู่วง
นอกครับ วงในนั้นจะมีเฉพาะม้าทรง กับพี่เลี้ยงครับ ดังนั้นผมจึงไม่สามารถถ่ายรูปให้เห็นกองถ่านได้ชัดเจนมาก
นัก
อีกภาพหนึ่งอันนี้เดินออกมาด้านนอกสักหน่อย แต่ที่นำภาพมาให้ดูมันแปลกดีครับ เพราะมีคล้ายๆดวงน้ำ ขึ้นมา
ในภาพเยอะเลย ทั้งๆที่ถ่ายในบริเวณเดียวกัน แต่บางภาพก็ไม่มีดวงน้ำนี้เลยครับ มันคงจะเป็นความชื้นในอากา
ศมั้งครับ
ต่อไปเป็นภาพจากพิธีแห่พระรอบเมืองของศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยครับ พอดีแวะดูขบวนแห่ก่อนที่จะไปทำงาน ติดกล้อง
ไปด้วย ก็เลยได้ถ่ายภาพมาให้ดูนะครับ ภาพแรกเห็นม้าทรงไม่ชัดมากนัก แต่ม้าทรงองค์นี้แทงปากและมีรูปเรือ
ติดมาด้วยครับ แปลกตาดี แต่ดูไม่น่ากลัวมากนัก
ภาพนี้จะเป็นภาพของ "กิมสิ้น" หรือคล้ายๆพระพุทธรูปนะครับ ประทับบนเกี๊ยว(เอ ไม่แน่ใจว่าใช้คำถูกหรือป่าว
ครับ และไม่แน่ใจว่าเขียนสะกดถูกไหม) และจะมีคนแบกสี่ด้านครับ อาจจะมีสำรองเดินตามมาด้วย เนื่องจาก
อาจจะเปลี่ยนกันในกรณีเมื่อยนะครับ ส่วนใหญ่คนที่มาแบกเกี๊ยวตรงนี้จะเป็นผู้ชายนะครับ (ไม่เคยเห็นผู้หญิงอ่ะ)
และจะถอดเสื้อกันส่วนใหญ่ โชว์ความ "เช้ง" (ไม่แน่ใจในความหมาย แต่ประมาณว่า บริสุทธิ์ โดนประทัดก็ไม่รู้
สึกอะไรอ่ะครับ)
ภาพนี้ก็อีกภาพนึงครับ จะเห็นได้ว่ามีประทัดราวมาจ่อตรงเกี๊ยวเลย คิคิคิ จริงๆการจุดประทัดก็คือการจุดให้มี
เสียงดัง เพื่อการขับไล่สิ่งชั่วร้ายครับผม
ในบางช่วงที่จุดประทัดกันเยอะๆ ก็จะเต็มไปด้วยควันประทัดครับ เช่นภาพนี้ อันนี้น้อยนะครับ ถ้าเป็นวันสุดท้าย
ช่วงส่งพระ มันจะมีควันจากประทัดเยอะกว่านี้ครับ แสบตา แสบจมูกทีเดียวเลย
ภาพนี้เป็นภาพของกิ๋วอ๋องครับ เป็นองค์ประธานในพิธีกินเจครับ ตลอดสายที่กิ๋วอ๋องผ่าน เขาจะแจ้งให้ประชาชน
โดยรอบที่ดูขบวนอยู่นั่งลงครับ เพื่อเป็นการแสดงความเคารพ
ภาพนี้ก็เป็นสภาพหลังจากที่ขบวนแห่จากไป เหลือไว้เพียงเศษกระดาษของลูกประทัด เป็นกฎของธรรมชาติครับ
มีเกิดขึ้น - ตั้งอยู่ - ดับไป เป็นธรรมดา
ในขบวนแห่พระ บ้างก็จะมีการแจกสิ่งที่เป็นมงคลให้กับประชาชนที่มาชมกันครับ บ้างก็เป็นรูปพระโพธิสัตว์กวน
อิมปางพันมือ (แต่ผมไปไม่ทัน ก็เลยไม่ได้ เห็นคนอื่นเขาถือกันนะครับ) บ้างก็สาดน้ำมนต์ บ้างก็เป็นสายสิญจ์
แต่ของผมได้ ข้าวสารครับ คิคิคิ
ในวันเดียวกัน ขี่รถไปอีกนิดหน่อย ก็ต้องเจอกับขบวนอีก เพราะศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยเป็นศาลเจ้าที่ใหญ่ที่สุด มีม้าทรง
มากกว่า 1,000 คน ขบวนก็เลยยาวมากๆ ครับ จะได้เห็นม้าทรงที่มีการแทงปาก พร้อมด้วยพี่เลี้ยงครับ
พี่เลี้ยงจะคอยเช็ดน้ำลายให้ในบางครั้งครับ หรือคอยช่วยเหลือม้าทรงในยามที่ต้องการครับ
ภาพนี้เป็นการให้พรจากม้าทรงครับ คนที่รับพรจะต้องนั่งลง ม้าทรงจะนำธงมาคลุมหัวไว้ และนำแส้ที่มีหัว (ส่วน
ใหญ่เป็นมังกร) ชี้ขึ้นไปบนฟ้า และนำมาเขียนคล้ายๆอักขระบนธงอีกทีครับ
ม้าทรงบางคนก็มีพี่เลี้ยงตามมาแค่คนเดียว ภาพนี้ในมือของม้าทรงมีผลไม้ด้วยครับ เพราะในระหว่างทางที่
ขบวนแห่ผ่าน จะมีประชาชนตั้งโต๊ะบูชาไว้ครับ โต๊ะจะปูด้วยผ้าแดง น้ำชา และมีกระถางธูป เทียน และผลไม้ รวม
ทั้งดอกไม้ และลูกอมตั้งไว้ครับ ม้าทรงอาจจะเข้าไปเยี่ยม ดื่มน้ำชา
ม้าทรงบางคนก็มีพี่เลี้ยงตามหลายคนครับ ส่วนใหญ่ก็เป็นลูกศิษย์ของพระอาจารย์ของม้าทรงอ่ะครับ
ม้าทรงบางคนเพิ่งมีพระมาจับใหม่ๆ ก็จะไม่มี "ต้อ" สวมใส่ครับ "ต้อ"นี่คือคล้ายๆเอี้ยมอ่ะครับ
ศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยมีม้าทรงที่เป็นผู้หญิงเยอะเหมือนกันครับ
ม้าทรงจะแทงปากด้วยอาวุธที่ต่างกันครับ
บางครั้งถ้าเราเข้าไปขอถ่ายรูป ม้าทรงจะแอ็คท่าให้ถ่ายรูปด้วยครับ
อีกภาพที่มีม้าทรงผู้หญิงครับ ส่วนใหญ่ต้อของม้าทรงหญิงจะออกโทนหวานๆครับ
ม้าทรงคนนี้ มีพระอาจารย์น่าจะเป็นวัยเด็กครับ มีดูดจุกนมด้วย
พระบางองค์ไม่ได้แทงปากครับ แต่ว่าถืออาวุธอย่างอื่นแทนครับ อย่างองค์นี้ถือขวานครับ บางช่วงท่านจะแลบ
ลิ้นออกมา และนำขวานมาเฉือนลิ้นครับ น่ากลัวดีเหมือนกัน
ภาพสุดท้ายครับ อันนี้บางครั้งพระเป็นพี่น้องกัน หรือสนิทกัน ก็จะเดินด้วยกันครับ บางครั้งอาจจะมีถึง 4 หรือ 5
องค์ครับ
คิคิคิ สุดท้ายก็เป็นภาพต้นไม้ครับ แม่ได้ต้นไม้ใหม่มาจากเพื่อนบ้านครับ ชื่อ "ห้อยระย้า" ไม่แน่ใจว่าใช่ชื่อนี้หรือ
ป่าวครับ
กล้วยไม้อีกต้นที่บ้านผมออกดอกแล้ว แต่สีแปลกดีครับ
ถ่ายเปรียบเทียบกับดอกของอีกต้นที่เป็นสีขาวครับ
อันนี้สวยสุดครับ คิคิคิ ชวนชมนั่นเอง ออกดอกเยอะมากทีเดียว
Create Date : 25 ตุลาคม 2550 |
|
29 comments |
Last Update : 25 ตุลาคม 2550 12:13:43 น. |
Counter : 2614 Pageviews. |
|
|
|