Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2554
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
28 พฤษภาคม 2554
 
All Blogs
 

วิจัยมังคุด ต้มสุก ด้วยตัวเอง เพื่อได้ประโยชน์มากขึ้น

มังคุดราชินีแห่งผลไม้ ของไทยเรานี้น เปลือกสีม่วงมีคุณค่าประโยชน์ต่อร่างกายมาก ๆ ชวนมาทำการวิจัยเล็กๆ ได้เอง จากเปลือกที่ปกติเราทิ้งไร้ประโยชน์นั้น จริงๆแล้ว มีสารมหัศจรรย์ ที่เรียกว่า "แซนโทน" อยู่ในนั้น สินค้าผลิตภัณฑ์ ที่ทำจากเปลือกหรือเนื้อมังคุด แพงทั้งนั้น เรามาทดลองทำกันนะคะ จะทราบว่าไม่อยากเลยที่เราจะได้สาร "แซนโทน" จากเปลือกมังคุด



การใช้ประโยชน์จากมังคุด


1.เปลือกผลมังคุด


เหลือทิ้งจากการรับประทานผลสด ผลมังคุดสดหลังรับประทานเนื้อในแล้วให้นำเปลือกผลร้อยด้วยเชือก แบบร้อยพวงมาลัย จากนั้นนำไปแชวนผึ่งลมให้แห้ง คล้ายๆเหมือนตากกระเทียม และควรร้อยขณะที่เปลือกยังคงนิ่มอยู่ จะร้อยได้ง่าย เพราะถ้าแห้งแล้วจะแข็งมาก และเมื่อแห้งแล้วสามารถเก็บไว้ใช้ได้นานต่อเนื่องจนถึงฤดูกาลที่ผลผลิตใหม่ออกมา

วิธีการนำมาใช้ประโยชน์


1.1) เปลือกผลมังคุดแห้งฝนหรือต้มกับน้ำปูนใส ดื่มแก้อาการ ท้องเสีย บิด มูกเลือด ทาแก้แผลพุพอง แผลเน่าเปื่อย ถ้ารับประทานเด็ก ½ ช้อนชาทุกๆ 4 ชม. ส่วนผู้ใหญ่ 4 ช้อนโต๊ะทุก 4 ชม.จนกว่าจะหายเป็นปกติ


1.2) เปลือกผลมังคุดแห้ง นำมาทุบให้เป็นชิ้นเล็กๆหนัก 1 ขีด แล้วดองกับเหล้าขาว 1 ขวด 7 วัน นำมาใช้ได้อย่างเดียวกับข้อ (1.1) ข้างต้น แต่ถ้าต้องรับประทานเพื่อรักษา แค่เพียง 1-2 ช้อนชา ครั้งเดียวพอ ข้อนี้ดีที่ไม่ต้องทำบ่อยๆ


1.3) เปลือกผลมังคุดแห้ง ทุบเป็นชิ้นเล็กๆ 1 ขีด หมักกับแอลกอฮอล์ ล้างแผล70% 1 ขวด (450 วี.ซี.) 7 วัน กรองเอาแต่น้ำใสเก็บไว้ใช้ สำหรับฉีดพ่นป้องกันกำจัดเชื้อราโรคพืช อัตรา1-2 ซี.ซี.ต่อน้ำ 20 ลิตร ล้างน้ำฝน ล้าหมอก ทั้งใช้กำจัดสาหร่าย ดะไคร่น้ำ โรคยางไหล ตามกิ่ง ลำต้นพืชได้ดีมาก โดยอาจผสมกับสารสกัดสมุนไพร จุลินทรีย์หน่อกล้วย จุลินทรีย์ปรามโรค ฮอร์โมนไข่ ฮอร์โมนไส้กล้วย ไคโตซาน ปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ หรือปุ๋ยเคมีน้ำทางใบ ฉีดพ่นไปพร้อมกันได้ด้วย ใช้ทารักษาผิวภายนอกเหมือนอย่างข้อที่ (1.2)ได้ แต่ห้ามรับประทานเด็ดขาด


นอกจากนั้นถ้านำสารสกัดเปลือกผลมังคุดชนิดนี้ ไปรวมกับสารสกัดจากผงขมิ้นชัน(ผงขมิ้นชัน 1 ขีด+ แอลกอฮอล์ ล้างแผล 70% 1 ขวด (450 ซี.ซี.)+น้ำยาจับใบ 20 ซี.ซี หมัก 7วัน กรองเอาแต่น้ำใสๆเช่นกัน) จะได้วัคซีนสำหรับฉีดพ่นกระตุ้นภูมิต้านทานให้แก่ต้นข้าว ช่วงข้าวอายุ 15 วัน ทั้งยังใช้สำหรับป้องกันกำจัดโรคและแมลงได้ดีอีกด้วย


1.4) เปลือกผลมังคุดแห้ง ทุบเป็นชิ้นเล็กๆ 1 ขีด หมักกับน้ำขี้เถ้า 10 % 1 ลิตร(น้ำ 1 ลิตร ขี้เถ้าสีชาวร่อนสะอาด 1 ขีด ) 7 วัน แล้วกรองเอาแต่น้ำใสๆ สำหรับฉีดพ่นป้องกันกำจัดโรคพืชอัตรา 1020 ซี.ซี.ต่อน้ำ 20 ลิตร โดยต้องฉีดพ่นเดี่ยวๆเท่านั้น ห้ามผสมร่วมกับสารอื่นเด็ดขาด ใช้หลังฝนหยุดตกใหม่ๆจะให้ผลดีที่สุด นอกจากนั้นอาจะใส่ผลขมิ้นชัน 1 ขีด โดยเพิ่มขึ้เถ้าอีก 1 ขีด และน้ำอีก 1 ลิตร หมักไปพร้อมกัน จะให้ผลดีกว่าการใช้เปลือกมังคุดอย่างเดียว ฉีดพ่นหลังฝนตกใหม่ๆโดยเฉพาะ ฝนที่ตกลงครั้งแรก หรือ หลังฝนที่หยุดตก หลังพืชผ่านช่วงอากาศแห้ง มาแล้ว 3 วัน



2. ผลมังคุดสดต้มสุก


ผลมังคุดสด ล้างสะอาดทั้งขั้ว 1 กก. +น้ำ1.5 ลิตร ใส่ในหม้อมีฝาปิดขนาด 2 ลิตร ต้มด้วยไฟกลางให้เดือดนาน 10 นาที หรือ นานพอจนกว่าเนื้อในผลมังคุดจะเปลี่ยนสีเป็นสีแดง จึงยกลงจากเตา รินน้ำต้มผลมังคุดเก็บไว้ นำผลมังคุดที่ต้มสุกออกมาวางไว้ให้ขั้วตั้งขึ้น รอให้เย็นจึงจะนำมาใช้ประโยชน์ซึ่งถ้าต้องการจะต้มผลมังคุดจำนาวมากกว่านี้ให้เพิ่มตามส่วนเอาเอง


วิธีการนำมาใช้ประโยชน์


2.1) น้ำต้มผลมังคุด นำไปใช้แทนน้ำตามข้อที่(1.4) ถ้าไม่ครบลิตรให้เติมน้ำลงไป ถ้ามีมากเกินก็ให้เพิ่มส่วนอื่นตามอัตราเช่น ได้น้ำต้มผลมา 800 วี.ซี. ก็เติมน้ำลงไป 200 ซี.ซี.เท่ากับรวมเป็น 1ลิตร แต่ถ้าได้น้ำต้มผลมังคุดมา 1.4ลิตร (1,400 ซี.ซี ) ก็ต้องใช้เปลือกผลมังคุดแห้ง 1.4 ลิตร นั้นด้วยน้ำอีก 600 ซี.ซี. รวมเป็น 2 ลิตร หรือ 2,000 ซี.ซี. ใส่เปลือกผลมังคุดแห้งลงไป 2 ขีด+ขี้เถ้า 2 ขีด แล้วแต่สะดวกหมักไว้ 7 วัน นำมาใช้ประโยชน์ เช่น เดียวกับข้อที่(1.4)


2.2) ผลมังคุดต้มสุก เหตุผลของการที่ต้องต้มผลมังคุด เนื่องจากสารประกอบ แซนโทนหลากหลายชนิดในผลมังคุดมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งให้ประโยชน์ในการเยียวยาอาการเจ็บไข้ได้ป่วยของคนเราได้มากมายเช่น ลดอาการอักเสบจากแผล ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งชนิดต่างๆ ต้านเชื้อ แบคทีเรีย รักษาสิว ยับยั้งเชื้อวัณโรค ลำไส้ติดเชื้อ ต้านเชื้อราโรคผิวหนัง โรคสะเก็ดเงิน โรคภูมิแพ้ อาการแพ้ต่างๆ ต้านอนุมูลอิสระ โรคข้ออักเสบ เข่าเสื่อม ต้านไวรัส เอดส์ เป็นต้น ไม่เป็นสักโรคจะดีที่สุด


การที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีมากนั่นเอง ก็ย่อมจะทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ โดยเฉพาะเมื่อมีน้ำย่อย โพลีฟินอลออกซิเดส ในผลมังคุด เป็นตัวเร่ง เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นทำให้เปลือกมังคุดเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล สูญเสียคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระที่ดีไป การต้มทำให้น้ำย่อยดังกล่าวหมดฤทธิ์ ดังนั้น เปลือกผลมังคุดที่ต้มแล้วเมื่อนำไปตากให้แห้ง ก็ยังคงมีสีม่วงแดงสดไม่เปลี่ยนสี รักษาสารกลุ่มแซนโทนให้คงอยู่ ได้ใช้ประโยชน์สมคุณค่า

ปัญหาต่อมาก็คือ ผลมังคุด ไม่ได้มีแค่สารกลุ่มแซนโทน ที่ให้ประโยชน์อย่างเดียว แต่มีสารแทนนิน ที่มีรสฝาดรวมอยู่ด้วยในปริมาณมาก หากบริโภคมากเกินไปจะทำให้ท้องผูก และเป็นพาต่อตับ ทั้งมีผลกระทบต่อการดูดซับแร่ธาตุสารอาหารในกระเพาะอาหาร ทำให้ร่างกายใช้ประโยชน์จากแร่ธาตุสารอาหารนั้นได้ไม่เต็มที่



บรรดาสิ่งทั้งหลายทั้งปวง ไม่มีอะไรเลยที่ดีโดยส่วนเดียว ล้วนในดีมีเสีย ในเสียมีดี มีแล้วไม่มี ไม่มีแล้วกลับมี เมื่อปรากฏมีขึ้นแล้ว ก็มีแต่เสื่อมลงไปเรื่อยๆ เกิดขึ้นเองไม่ได้ แต่ผลมาจากเหตุ อาศัยปัจจัยร่วมกับสิ่งอื่นเกิดขึ้นจะไม่ปรากฏอิสระโดดเดี่ยวลำพัง ทั้งพึงเข้าใจว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ดำรงตนอยู่ได้ ด้วยอาหาร และสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมเท่านั้น มาช่วยค้นหาดีที่พอดีกัน


2.2.1) ผู้ป่วยด้วยโรคดังกล่าวข้างต้น รับประทานเฉพาะเนื้อในมังคุดต้มสุกวันละ 1 ผล โดยรับประทานหลังอาหาร ส่วนผลที่เหลือ เก็บในตู้เย็นไว้รับประทานในวันต่อๆไป ลองดูสัก 3 วันถ้ารู้สึกดีขึ้น ก็รับประทานต่อ จนกว่าอาการโรตจะหาย แต่ถ้ามีอาการท้องผูกให้หยุดรับประทานทันที คนที่ไม่ป่วยไม่ควรรับประทาน


2.2.2) น้ำผลมังคุดต้มสุก ถ้าไม่มีปัญหาเร่งด่วนเรื่องสุขภาพ ผลมังคุดที่ต้มสุกแล้วรอให้เย็นตามข้อ(2)นั้น ให้ใช้มีดคมๆ ฝานผ่าเปลือกกลางผลโดยรอบเพื่อเปิดผล จับขั้วดึงเปลือกผลผ่าด้านบนมีเนื้อในผลสีแดงติดมาด้วย เก็บไว้ต่างหากเพื่อนำมาใช้ในข้อ(2.2.3) เก็บน้ำผลมังคุดต้มสุกสีม่วงสดใสสวยสดในเปลือกผลฝาด้านล่างจากผลมังคุดที่ต้มทั้งหมด รวมใส่ขวดพลาสติกหรือขวดแก้วเล็กๆเก็บไว้ในตู้เย็น สำหรับแต้มรักษาสิวอักเสบ หรือ ใช้น้ำผลมังคุดต้มสุก 1-2 หยดผสมน้ำ 1 ช้อนชา ชโลมใบหน้าให้ทั่ว ก่อนออกไปทำงานนอกบ้าน เพื่อป้องกันอันตรายจากแสงแดด


2.2.3) เนื้อของผลมังคุดต้มสุกจากข้อ (2.2.2) แคะเอาเมล็ดแข็งๆข้างในออก นำเอาเนื้อผลล้วนๆ มาปั่นด้วยเครื่องปั่นน้ำผลไม้ รับประทาน 1 ช้อนโต๊ะ หลังอาหาร หากต้องการเก็บไว้รับประทานนานวัน ควรแบ่งใส่ขวดพลาสติกใส่อาหารชนิดที่ทนเย็นเก็บไว้ช่องแช่แข็ง นำออกมารับประทานทีละขวด เก็บไว้ในตู้เย็นช่องแช่ผัก หมดเมื่อใดก็นำขวดใหม่จากช่องแช่แข็งออกมา อาจปั่นผลไม้อื่นรวมไปพร้อมกันก็ได้ ทั้งนี้เพื่อใช้ในการรักษาโรคอีกรูปแบบหนึ่ง เมื่อหายดีแล้วควรหยุดรับประทาน ยาก็คือยา รับประทานเพื่อรักษาโรคไม่ใช่ขนมของกินเล่นๆ


2.2.4) น้ำหมักมังคุดเพื่อสุขภาพ เนื้อในผลมังคุดต้มสุกสีแดง 3 ขีด+น้ำตาลทรายแดง 1 ขีด +น้ำ1ลิตร หมักในโหลแก้วมีฝาปิด 3 เดือนขึ้นไป นำมาบริโภคได้ ถ้าจะให้ดีต้อง 1ปี นี้เป็นน้ำหมักผลไม้เพื่อสุขภาพไม่ป่วย ก็รับประทานได้ 1 ช้อนโต๊ะหลังอาหาร


2.2.5) เปลือกผลมังคุดต้มสุกหลังนำเนื้อในผลออกไปแล้ว เอาก้านขั้วออก แล้วผ่า สี่ทั้งสองซีก ใช้ช้อนคว้านตัก เอาเนื้อด้านในเปลือกผลให้ติดผิว จะได้ 8 ชิ้น นำมาแช่ในน้ำเกลือ1%(น้ำ 1 ลิตร+ เกลือแกง 10 กรัม) วางบนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ ก่อนนำไปตาดแห้ง วันไหนไม่มีแดดก็เก็บใส่ถุงพลาสติกรัดปากถุงด้วยหนังสติ๊กไว้ในตู้เย็น พอมีแดดค่อยนำออกมาตากใหม่จนกว่าจะแห้ง


2.2.6 ) เปลือกผลมังคุดต้มสุก ส่วนของผิว ตากแดดให้แห้ง ถ้าไม่มีแดดก็ผึ่งลมตากไว้เฉยๆไม่มีปัญหา เพราะชิ้นบางแห้งเร็วอยู่แล้ว นำไปสกัดด้วยน้ำขึ้เถ้า ตามข้อที่(1.4)



หัวใจของการเรียนรู้ : สังเกต จดจำ เปรียบเทียบ

ธรรมชาติจริงแท้ไม่แปรผัน เข้าถึงได้ทุกคนเหมือนกันหมด

คนแม้ต่างชาติต่างภาษา แต่ก็ยิ้มหัวเราะร้องไห้ไม่ต่างกัน

มองเขามองเรา เหลือเพียงเมตตาที่มีให้ต่อกันเท่านั้น


สุวัฒน์ ทรัพยะประภา

ขอบคุณ ข้อมูลจากอาจารย์ สุวัฒน์ ทรัพยะประภา นักวิจัยเท้าเปล่า จากม.มหิดล ....... โครงการนักวิจัยอาสา ตู้ปณ. 106 ภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร 10160



































หมายเหตุ จากประสบการณ์ของผู้เขียน

เวลาต้มไม่ควรใช้ไฟแรง หรือนานเกินไปเพื่อไม่ให้ลูกมังคุดแตกและน้ำต้มเข้าไป เนื้อมังคุด ตักจากลูกก็กินได้เลยหอมอร่อยค่ะ หรือนำไปปั่นทำไอติม โดย ใช้ หัวกะทิสด +เนื้อมังคุดต้ม + น้ำผึ้ง + เกลือนิดๆ + น้ำมะนาว ปั่น เทใส่ภาชนะ แล้วแช่ช่องแข็ง พอแข็งแล้ว นำออกมาให้คลายความแข็งสักนิดแล้วค่อยตัก หอมหวานเย็นเปรี้ยวหวานอร่อยมากค่ะ เนื้อไอติมจะเป็นสีน้ำตาล


ส่วนเปลือกนั้น เมื่อต้มสุกแล้ว จะแบ่งส่วนหนึ่งทำน้ำหมักเอนไซม์ก็ได้โดยใช้ เนื้อส่วนเปลือกด้านในผิวนอก (ผิวนอกบางๆนั้นไม่ควรใช้เพราะมีสารแทนนินมาก หากนำไปผสมกับผลิคภัญฑ์บำรุงผิวจะคล้ำ ) ใช้ เปลือกเนื้อในผิวนิ่มๆรวมกับ เนื้อมังคุด 3 ส่วน + น้ำตาลทรายแดงหรือน้ำผึ้ง 1 ส่วน + น้ำสะอาด 10 ส่วน หมักไว้นาน 1 ปี ยิ่งนานยิ่งดี น้ำจะสีแดงสวยงามกว่าใช้มังคุดดิบ


น้ำเอนไซม์ ผสมพร้อมดื่ม คือ น้ำเอนไซม์ 1 ส่วน + น้ำผึ้ง 1 ส่วน +น้ำ 10 ส่วน ใส่ขวดแช่เย็น ดื่มได้แล้วค่ะ ส่วนแผ่นวุ้นที่เกิดจากการหมักเอนไซม์ นำมาตัดชิ้นเล็กๆกินได้วันละนิดละหน่อยได้เลยค่ะ
ดีต่อสุขภาพค่ะ

หรือหากไม่ดื่มเพื่อสุขภาพ ก็นำมาผสมทำผลิตภัณฑ์ต่างๆได้หมด เช่น ทำสบู่ แชมพู น้ำยาล้างจาน เช้ดถูพื้นผิวเฟอร์นิเจอร์ พื้นบ้าน ผสมน้ำรดต้นไม้ ฯลฯ สารพัดประโยชน์ค่ะ ลองทำดูนะคะ


ด้วยความปรารถนาดี กานดา แสมมณี (kandanalike)




 

Create Date : 28 พฤษภาคม 2554
6 comments
Last Update : 28 พฤษภาคม 2554 14:26:44 น.
Counter : 19789 Pageviews.

 

ลูกสาวเคยส่งน้ำมังคุดเป็นขวดขนาด 1ลิตรมาให้ แพงมาก เลยบอกว่า อย่าส่งมาอีกเลย เสียดายเงิน สู้ทานของสดที่บ้านเราดีกว่า

เห็นบล๊อกนี้แนะนำว่าทำอย่างไร ก็ยิ่งดีใหญ่
ขอบคุณมากค่ะ
เรามีของดีๆ มากมายในบ้านเรา
ทำเองได้แบบนี้ น่าจะได้ประโยชน์มากกว่า เพราะเราได้ของสดจริง

ขอบคุณสำหรับความรู้นี้นะคะ

 

โดย: ธารน้อย 29 พฤษภาคม 2554 1:02:33 น.  

 

//www.Sanookbet.com เรามีคาสิโนไว้บริการท่านมากมายเช่น GClub, Royal1688, Ruby888, Holiday-Palace,Genting Crown,Reddragon88,Princess Crown ซึ่งแต่ละคาสิโนออนไลน์
ได้รับความเชื่อถือด้านความซื่อตรง มั่นคงเรื่องระบบ รูปแบบเกมส์เพลิดเพลิน ตื่นเต้น เร้าใจ ทำให้ท่านได้ลุ้นระทึกทุกเกมส์การเล่นเสมือนได้เข้าไปนั่งเล่นจริงที่คาสิโนโดยท่านไม่ต้องเสียเวลา
เดินทางให้เหน็ดเหนื่อย เล่นได้โทรมาขอถอนเงินสดกับเราได้ทันที เรามีทีมงาน Call Center มืออาชีพไว้คอยบริการท่านตลอด 24 ชม.นอกจากนี้แล้วเรายังมีบริการ SportBook ออนไลน์จากหลายค่าย
ยอดนิยมไว้บริการท่าน เช่น SBOBET , IBCBET , STSBET , WINNINGFT
สนใจติดต่อเราที่ 080-7977773-6
www.sanookbet@gmail.com
//www.Sanookbet.com
Sanookbet.com

 

โดย: Sanookbet.com IP: 202.58.99.182 6 สิงหาคม 2554 11:54:45 น.  

 

ฝากสำหรับผู้ที่ต้องการใช้น้ำมังคุดครับ (ไม่แนะนำให้รับประทานเพราะยังไม่มีผลรับรองในทางแพทย์ )เพื่อนทำขาย ขวดละ 500 (600 CM) เบอร์ติดต่อดูในเฟสครับ 0897530610

 

โดย: yakusa IP: 180.180.215.251 4 พฤศจิกายน 2556 11:46:52 น.  

 

ผมขอแนะนำให้ลองดูอันนี้นะครับผมว่าสีแดงๆของมังคุดน่าจะอันตรายถ้ากินระยะนานๆ

https://www.facebook.com/Dr.Pichaet/posts/650706381746292:0

 

โดย: คนผ่านมา IP: 110.168.232.3 24 กันยายน 2559 17:04:50 น.  

 

ขอบคุณ ที่แนะนำ สิ่งดีๆ มาให้เพื่อนๆนะคะ

 

โดย: ฉันทนา​ สำราญเริงจิต IP: 223.205.218.77 23 พฤษภาคม 2563 13:31:27 น.  

 

แวะมาทักทาย เป็นกำลังใจให้เสมอนะจ้า EIS BIO SCAN Morpheus Morpheus8 ยกกระชับ ICELAB ลดร่องแก้ม Harmonyca ฟิลเลอร์ ดูดไขมัน P-SHOT สมรรถภาพทางเพศ ฉีดฟิลเลอร์น้องชาย ฟิลเลอร์น้องชาย Ultherapy Prime Profhilo ฉีดฟิลเลอร์น้องสาว ฟิลเลอร์น้องสาว เลเซอร์ขนน้องสาว เลเซอร์ขนหน้า ฉีดฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์คาง ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์ขมับ เลเซอร์บิกินี่ Thermage FLX BLUE Tip Thermage FLX Ultraformer III Ultraforme Ultraformer MPT Ultraformer ฉีดโบลดกราม โบลดกราม Radiesse ร้อยไหม เลเซอร์ขนบราซิลเลี่ยน บราซิลเลี่ยน เลเซอร์ขนขา เลเซอร์ขน ฟิลเลอร์หน้าผาก O-Shot Aviclear Aviclear Laser IV DRIP ดริปวิตามิน ฉีดโบรักแร้ โบรักแร้ ปลูกผม LLLT ปลูกผมด้วยแสงเลเซอร์ ปลูกผม ผมบาง ปลูกผมเทคนิคแขนกล รักษาผมร่วง ผมร่วง Hair Restart ผมร่วง ผมบาง ปลูกผม ปลูกผมถาวร ปลูกผม ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ใต้ตา เสริมจมูก ยกคิ้ว เสริมหน้าอก ยกกระชับ Ulthera อัลเทอร่า Thermage Thermage FLX ฉีดฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ปาก โบลดริ้วรอย ฉีดโบลดริ้วรอย สลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting Elite Coolsculpting Sculptra ฟิลเลอร์ ปลูกผม ปลูกผม FUE Pico Pico Majesty Pico Majesty Laser ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม Radiesse ฟิลเลอร์ โบลดริ้วรอย โบลดริ้วรอย Oligio เลเซอร์ขน วีเนียร์ AviClear Laser AviClear เลเซอร์รักษาสิว ปลูกผมเทคนิคแขนกล ปลูกผม เลเซอร์รักษาสิว Accure Laser Accure เลเซอร์หนวด เลเซอร์เครา Emface Skinvive Oligio เลเซอร์รักแร้ เลเซอร์ขนรักแร้ กำจัดขนถาวร กำจัดขน เลเซอร์ขน เลเซอร์ขน กำจัดขน ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ ฉีดฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์ ฉีดฟิลเลอร์ Reepot Laser Reepot Sculptra Hifu ยกกระชับ ยกกระชับหน้า Ulthera ยกกระชับ ฉีดฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ ฉีดฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ Radiesse Radiesse Radiesse Radiesse ให้ใจ สุขภาพ

 

โดย: น้องเมย์น่ารัก 18 พฤศจิกายน 2567 16:45:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


kandanalike
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 30 คน [?]




Friends' blogs
[Add kandanalike's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.