Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2555
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
26 ตุลาคม 2555
 
All Blogs
 
JoeIke พาเที่ยว Pronto Denim Carnival

เลือกกดเพื่อ Link ไปส่วนต่างๆ
ส่วนของ Comments

กดเพื่อกลับไปหน้า Top Page MENU <---


JoeIke พาเที่ยวงาน Pronto Denim Carnival @ Parc Paragon


สวัสดีครับวันนี้มีบทความง่ายๆสั้นๆมาให้อ่านและดูรูปกันเล่นๆ กับกิจกรรม "Pronto Denim Carnaval" ที่พึ่งผ่านไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม 2555 ณ ลาน Parc Paragon ศูนย์การค้าสยามพารากอน ถือว่าเป็นงานใหญ่ที่ไม่ได้เกิดกันขึ้นง่ายๆครับและจัดขึ้นเพียงแค่1วันเท่านั้น ซึ่งบอกอย่างไม่เกรงใจว่าใครพลาดคงน่าเสียใจเป็นที่สุดครับ ภายในงานสามารถพบกับร้านขายจากแบรนด์ต่างๆและเหล่าผู้ผลิตชาวต่างชาติที่เดินทางลัดฟ้ามาพบผู้ซื้อและแฟนๆกันแบบตัวเป็นๆนับกว่าสิบชีวิต เช่น Somet, Pure Blue, Flat Head, Big Johns, Lightning Magazine, Cheap Monday, Nudie, Red Wing, Naked and Famous และ Imperial เรียกได้ว่าใครเป็นแฟนแบรนด์ไหนคงต้องมาล่าลายเซ็นเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันล่ะครับ



โอเคครับเอาเป็นว่าถ้าใครไม่ได้ไปบทความของผมวันนี้จะขออนุญาตพาไปเที่ยวงานแทนละกันนะ ตัวงานเริ่มช่วงเที่ยงครับที่ลานด้านหน้าสยามพาราก้อนทางด้านซ้ายมือใน สถานที่โดดเด่นมากครับเรียกได้ว่าได้ทั้งคนที่ตั้งใจมางานแบบเจาะจงมา และเหล่าวัยรุ่นที่ผ่านไปมาตามปรกติของทางด้านหน้าสยามพาราก้อน ธีมของงานมาในแบบตะวันตกหรือคาวบอยครับ สวยงาม ตั้งใจ และลงทุน แต่ติดอยู่อย่างเดียว "อากาศร้อนมหาโหดครับ" ผมเองเป็นคนที่ขี้ร้อนมากๆ วันนั้นเลยสามารถอยู่ในงานได้ไม่นานนัก ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายและเสียใจมาก



ตัวผมเองมาถึงงานช่วงเวลาประมาณบ่ายแก่ๆได้ครับ เพราะต้องถือว่าเป็นอีกวันที่รถติดมากพอควรเลย มาถึงก็พบผู้คนมากมาย และบูทของร้านค้าต่างๆที่ถูกรุมล้อมไปด้วยชาวเดนิมเต็มอัตตราศึกสมเป็นงานใหญ่สุดของทาง Pronto ครับ เห็นแล้วแอบรู้ดีใจแทนทางคุณแดนและคุณซันนี่จริงๆที่ได้รับการตอบรับอย่างเต็มที่




ลักษณะสถานที่จัดงาน Pronto Denim Carnival งานจะเป็นเหมือนห้องโถงขนาดใหญ่และมีบูทจากแบรนด์ต่างๆล้อมอยู่บริเวณขอบ ส่วนพื้นที่ตรงกลางจะเป็นส่วนของกิจกรรมการละเล่น และอาหาร และเต็มเปี่ยมไปด้วยกองฟางตามธีมงานคาวบอยตะวันตก (ผมเองแอบคิดในใจว่าเหตุที่งานไร้พัดลมทั้งที่อากาศร้อนแบบนี้ก็คงเป็นเพราะเจ้ากองฟางมากมายนี่แหละครับเพราะถ้ามีพัดลมทำความเย็นคอยพัดระบายความร้อนเจ้าเศษกองฟางคงปลิวฟุ้งไปทั่วงานแน่ๆและนั่นอาจเลวร้ายกว่าเจ้าอากาศร้อนๆเป็นแน่แท้) ส่วนบริเวณทางด้านในสุดจะเป็นเวทีคอนเสิร์ตขนาดปานกลางแต่อุปกรณ์เครื่องเสียงจัดเต็มครับ



น่าเสียดายที่ผมเองอยู่ไม่ถึงช่วงงานตอนแจกรางวัล และดนตรีสด เพราะต้องหนีอากาศร้อนและรีบกลับมาเปิดร้านของผมเอง (distill Bar & Restaurant) แต่เชื่อว่าคงจะเป็นอะไรที่มันส์และสนุกแน่ๆ



บูทต่างๆก็มีขนาดพอเหมาะไม่ได้ใหญ่มากครับ จริงๆก็เป็นไปตามจำนวนของสินค้าในแต่ละแบรนด์ที่มาลงอ่ะนะ แบรนด์ไหนไอเท็มเยอะขนาดก็ใหญ่ขึ้นหน่อย แบรนด์ไหนน้อย ขนาดก็รองลงมาครับ อีกสิ่งหนึ่งที่เตะตาเมื่อเข้ามาในงานอันดับแรกๆก็คงเป็นซุ้มขี่เจ้าวัวเทียมที่มีไว้ให้ทดสอบความแข็งแรงของสะโพกและต้นขาว่าใครจะมีแรงหนีบและอดทนได้นานสุด เล่นฟรีครับมันเด็ดก็ตรงนี้แหละ




บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยเหล่าชาวเดนิม และทีมงานถ่ายทำรายการต่างๆเดินเก็บภาพบรรยากาศตามบูทต่างๆ รวมถึงทางคุณแดน Pronto ที่เดินพาการถ่ายทำไปสัมภาษณ์ถึงทุกๆบูทสินค้า สนุกครับเรียกได้ว่าทั่วถึงไม่ตกหล่น

แรกเลยหลังจากสำรวจบรรยากาศโดยรอบแล้วผมเองก็เริ่มเดินเจาะเข้าไปยังบูสต่างๆ เริ่มจากบริเวณทางเข้าจะเจอโต็ะที่ให้รับสมุดเล่มเล็กๆที่เรียกว่า Passport (ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทางคุณซันนี่ที่ให้เกียรตินำบทความผมมายัดแน่นอยู่ภายในเล่มมากๆ แอบรู้สึกเหมือนได้ออกพ็อกเก็ตบุ๊คเล่มแรกของตัวเอง 555) หน้าที่หลักๆของเจ้า Passport เล่มนี้คือภายในจะมีบทความแนะนำแบรนด์ต่างๆแบบคล่าวๆโดยผมเองและในแต่ละบทจะมีทีี่ให้ประทับตราของแต่ละแบรนด์ในบูทต่างซึ่งถ้าใครประทับทราครบทุกแบรนด์สามารถนำมาแลกของรางวัลได้ครับ




จากนั้นก็ต่อด้วยบูทของทาง Cheap Monday เป็นบูทที่มีขนาดย่อมเยาแต่ได้รับความสนใจพอสมควรครับด้วยราคาที่ไม่แพงอย่างที่ทราบกันดี ที่แอบเสียดายคงเป็นสินค้าที่นำมาอาจน้อยไปซักนิดเท่านั้นเองครับ วันงานผมเองไปกับเจ้าหลานชายและหลานสาว ยัยหลานสาวบ่นอยากได้เสื้อยืดซักตัว แต่มีให้เลือกเพียงแค่2สีเท่านั้นเลยอดไปตามระเบียบ



ต่อด้วยบูท Pure Blue ครับเป็นบูทที่อยู่ติดๆกันกับ Cheap Monday ได้รับความสนใจอย่างดีครับสำหรับแบรนด์นี้น่าเสียดายที่ผมไม่ได้เก็บภาพมา ต้องบอกว่าวันงานผมเองค่อนข้างมึนๆ เบลอๆ และล่องลอยครับ เพราะผมเป็นคนแพ้อากาศร้อน สมองเลยสั่งการแบบงงๆ ถ่ายภาพซ้ำบาง ขาดบ้าง 555

Momotaro เป็นอีกบูทที่น่าสนใจ และเป็นอีกหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีในบ้านเรา หลักๆบอกได้เลยว่าโลโก้ “going to battle” นี่แหละที่โดดเด่นเตะตา แต่ก็อีกแหละน่าเสียดายที่ทางแบรนด์ไม่ได้นำอีกหนึ่งไอเท็มอย่างเสื้อ Chambray ที่ยอดขายแทบไม่ได้เป็นรองเจ้าตัวยีนส์มาร่วมกิจกรรม



ถ้าหันหลังจากทางบูท Momotaro และ Pure Blue จะเจอกับบูทเล็กๆขนาดน่ารักที่รับทำเจ้าป้าย Dog Tag ขนาดเล็ก ชอบครับเสียดายวันงานผมเองพกแต่บัตรไปไม่มีเงินสดครับเลยไม่ได้อุดหนุนทั้งที่ใจจริงชอบอะไรแบบนี้มากเป็นพิเศษ




จากนั้นเดินต่อไปอีกนิดจนมุมสุดทางจะเจอบูทแบรนด์โปรดของชาวไทยและถือเป็นหนึ่งในแบรนด์สนิดของทาง Pronto เลยก็ว่าได้ครับกับ “Nude” ต้องถือว่าเค้ามาเต็มใช้ได้ไม่ผิดหวังครับ นำทีมโดยคุณBryce Alton จากAustralia เจ้าเก่าที่เคยมาทักทายแฟนๆเมื่อครั้ง Pronto จัดงาน Nude Meeting ที่สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ครั้งนี้ก็ไม่น้อยหน้าครับทางทีมงานได้ขนเครื่องเย็บและอุปกรณ์มาด้วยเพื่อซ่อมแซมยีนส์ Nude แสนรักของแฟนๆกับแบบสดๆภายในบูทเลย เชื่อว่าได้ใจแฟนๆ Nude ชาวไทยมากครับ




ต่อจากสุดทางที่มุม Nude เลี้ยวมาทางซ้ายจะเจอเวทีดนตรีกับอาหารและเครื่องดื่ม งานนี้มีอาหารต่างๆให้แฟนๆได้แวะเติมพละกำลังกันอย่างพอเพียงครับและเช่นเคยทาง Pronto เองมีของขบเคี้ยวแบบฟรีๆไว้ให้ทานเช่นเคยรวมถึงน้ำดื่มโลโก้ Pronto ด้วย!!





ผ่านไปถึงอีกฝั่งของบริเวณสามารถพบได้กับบูทเบอร์เกอร์จากทางฟามโชคชัยครับ ติดๆกันคือบูทแสนสนุกสุดแสนกับบูทเกมส์สาวน้อยตกน้ำครับ นับว่าเป็นแสงสีเลยทีเดียว เสียดายอยู่ว่าสาวๆเวลาตกน้ำไม่ได้ตกไปทั้งตัวครับ น้องเค้าจะยืนถึงเปียกอยู่แค่ขาเท่านั้น



ว่าไปถึงบูทที่เป็นสีสันในงานคงต้องยกให้ Naked and Famous เค้าละครับ มาแบบสมชื่อจริงๆสาวๆทีมงานมากันเต็มบูท ใครได้ไปงานคงทราบและเห็นกันดีว่าหนุ่มๆจะยืนมุงกันเต็มหน้าบูทจนการจราจรติดขัด



ต่อด้วยบูทของแบรนด์ Big Johns ครับ บูทนี้มีขนาดค่อนข้างย่อมเยาครับแต่ก็ได้รับความสนใจอยู่ไม่ใช่น้อย



และก็ตามมาด้วยแบรนด์ที่ส่วนตัวผมสนใจและชื่นชอบเป็นส่วนตัวคือบูทเจ้า Imperial ครับ ซึ่งมีการนำยีนส์รุ่นใหม่ๆมาเปิดตัว แต่ก็แอบผิดหวังที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษมาแจกสำหรับแฟนๆสายพันธ์แท้ นอกเสียจากเมื่อซื้อสินค้าอย่างยีนส์หรือเสื้อยืดจากทางแบรนด์แล้วจะได้เจ้ากระดาษแข็งโปสเตอร์ขนาดA3หนึ่งใบที่เกิดประโยช์นเพียงอาศัยพัดระบายอากาศร้อนให้พ้นๆไปจากใบหน้าเท่านั้น (เศร้า)





บูทต่อมาคือ Redwing ครับ โดยทีมงานจากญี่ปุ่นนำทัพมาเอง และถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของงานครับ เพราะมี workshop สอนการดูแลรองเท้าทุกขั้นตอนอย่างละเอียดและเป็นที่สนใจจากแฟนๆอย่างมาก ผมเองประทับใจบูท Redwing มากเป็นพิเศษครับ คงเพราะ Redwing ที่ผมใส่มา2ปี1เดือนนั้นมีสภาพเน่ามากเช่นเดียวกับตาหลานชายที่มาด้วยกันก็เน่าไม่ได้น้อยหน้า เล่นเอาทางทีมงานญี่ปุ่นเห็นแล้วเครียดต้องเข้ามาพูดคุย แล้วให้ถุงผ้าของทางแบรนด์พร้อมเชือกหนังแท้ไว้เปลี่ยนมาคนละชุด 555 ขอบคุณมากๆ (มันต้องแบบนี้สิได้ใจไปเต็มๆ เรารักคุณครับ Redwing!!)






โอเคครับหลังจากที่ประสบความสำเร็จกับของฟรีแล้วผมก็ออกมุ่งหน้าสู่บูทสุดท้ายของด้านนี้กันกับแบรนด์ Somet ที่ร้อนระอุไปกับแสงแดดเพราะอยู่ด้านหน้าสุด แต่แฟนๆชาวเดนิมก็ไม่ได้หวาดหวั่นแต่อย่างใดครับเพราะแบรนด์นี้มีความน่าสนใจอยู่ไม่ใช่น้อย



จากนั้นวนกลับมาที่ฝั่ง Cheap Monday อีกครั้งเพราะยังมีอีกหลายบูทที่ผมข้ามไป โดยบริเวณด้านหน้าติดกับโต็ะที่รับเจ้าเล่ม Passport ก็จะเป็นบูทเล็กๆน่ารักจากทางนิตยสาร Lightning ครับ ซึ่งถ้าเลยไปอีกนิดก็จะพบกับแบรนด์โปรดที่ผมเองยังไม่มีโอกาสได้เป็นเจ้าของคือ The Flathead นำทีมบุก Pronto Carnival โดยคุณMasayoshi Kobayashi เจ้าเก่าซึ่งเป็นที่รักของแฟนชาวเดนิมบ้านเราด้วยบุคลิกอันเป็นมิตรของแกครับ



เป็นอันจบลงด้วยประการเช่นนี้ครับสำหรับงาน Pronto Carvival อันยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้น เสียดายที่ผมเองอยู่งานถึงแค่บ่ายสามกว่าๆเลยต้องพลาดกิจกรรมแจกของเล่นเกมส์และช่วงเล่นดนตรีไป แต่รวมๆถ้าไม่พูดถึงเรื่องอากาศที่ร้อนเหมือนเตาอบผมว่างานนี้สนุกมากๆครับไม่ผิดหวังเลยที่ได้ไป ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนงานแบบนี้ถึงจะเกิดขึ้นอีกครั้งครับ ท้ายสุดคงต้องขอคุณทางคุณแดนและคุณซันนี่สำหรับกิจกรรมดีๆครับ ไว้คลาวหน้าถ้ามีกิจกรรมดีๆไว้ผมเองจะนำมาบอกกล่าวเล่าเรื่องให้เพื่อนได้ฟังกันอีกครับสำหรับวันนี้ขออนุญาตลาไปก่อน... สวัสดีครับ




Happy Jiving
JoeIke



กดเพื่อกลับไปด้านบน






Create Date : 26 ตุลาคม 2555
Last Update : 26 ตุลาคม 2555 16:48:34 น. 0 comments
Counter : 8692 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Ike the Ronin
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




About JoeIke
As known in MySpace Astist by the name of JoeIke, this up-and-coming local sound engineer has marched his way through various kinds of music and lessons. But the introduction of music sequential got him addicted and completely lost his soul to Eletronic Music. Inspired by the routine of Drum and Bass tempo snap, beautiful grand piano riffs and sinful synthesizer loops, JoeIke combines all of his favorites into his own musical creation. With the profound knowledge of sequencer software and computer hardware.

Friends' blogs
[Add Ike the Ronin's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.