BlogGang.com : : JC2002 : "......: พะแนงปลานิล :: สูตรตามใจแม่ครัวคนไกลบ้าน :......"

"......: พะแนงปลานิล :: สูตรตามใจแม่ครัวคนไกลบ้าน :......"

วันที่ 24 พฤษภาคม 2555

"......: พะแนงปลานิล :: สูตรตามใจแม่ครัวคนไกลบ้าน :......"

จริง ๆ แล้วเมนูนี้ได้มาโดยบังเอิญ คือเคยซื้อพริกแกงของอินเดียสูตร "Indian Fish Curry" มาทำ Indian Fish Curry กินกัน แต่ทำออกมาแล้วรสชาติแปลก ๆ ก็เลยปรุงแบบรสไทย ๆ ซะเลย ไป ๆ มา ๆ ทำให้นึกถึงพะแนงปลา เลยลองทำพะแนงปลานิลกินกัน ปรากฏว่ารสชาติอร่อยดี เลยได้ลองทำกินอีกครั้งและเก็บสูตรมาแบ่งปันกันในบล็อกซะเลย ซึ่งปกติของ จขบ. เวลาทำอาหารแล้วมักจะเน้นผัก เมนูนี้ก็เลยปรับเน้นผักโดยใส่บรรดาพริกหยวกเยอะ ๆ เข้าไว้น่ะ ว่าแล้วก็มาดูส่วนผสม เครื่องปรุงและวิธีทำกันเลยดีกว่าค่ะ จริง ๆ ก็ไม่ได้แตกต่างจากขั้นตอนการทำพะแนงทั่ว ๆ ไปเท่าไหร่ เพียงแต่ต้องปรับขั้นตอนการทำนิดหน่อยเท่านั้นเอง เพราะเนื้อปลานั้นอ่อนกว่าเนื้อวัว เนื้อหมูหรือเนื้อไก่ เลยไม่ได้ผัดเนื้อปลากับพริกพะแนงน่ะ

ส่วนผสมและเครื่องปรุง

- เนื้อปลานิล :: ที่เราใช้คือเนื้อปลานิลที่เค้าแล่เอาแต่เนื้อแบบแช่แข็งที่เค้าเอาหนังปลาและก้างออกหมดแล้ว
- พริกหยวกใหญ่เขียว Green Peppers
- พริกหยวกใหญ่แดง Red Peppers
- พริกหยวกใหญ่เหลือง Yellow Peppers
- พริกหยวกใหญ่ส้ม Orange Peppers
- ใบโหระพาสด
- ใบมะกรูด (วันนั้นใช้ใบมะกรูดแห้งที่เก็บตากแห้งไว้ แต่ใช้วิธีแช่น้ำให้นุ่มแล้วนำมาหั่นฝอย)
- พริกแกงพะแนง
- กะทิ (เราชอบกะทิยี่ห้อชาวเกาะ เพราะเนื้อน้ำครีมกะทิเค้าข้นดี)
- น้ำปลา
- น้ำตาลปิ๊บ

ภาพส่วนผสมและเครื่องปรุงที่เตรียมไว้แล้ว

วิธีทำ

1. ล้างเนื้อปลานิลให้สะอาด (ถ้าคนที่ใช้เนื้อปลานิลแบบแช่แข็งเหมือนที่ จขบ. ใช้ก็คงต้องนำซองเนื้อปลานิลไปแช่น้ำจนเนื้อปลานิ่มเป็นเนื้อปลาปกติก่อน) จากนั้นก็หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมความยาวกว้างก็คงตามต้องการนะคะ

2. พริกหยวกหลากสีนั้น ให้จัดการผ่าพริกหยวกแกะเมล็ดพริกออกแล้วล้างพริกหยวกต่าง ๆ ให้สะอาด จากนั้นก็หั่นพริกหยวกเป็นชิ้นแบบยาวประมาณนิ้วครึ่งหรือสองนิ้ว และกว้างประมาณ ครึ่งเซ็นต์ หรือหนึ่งเซ็นต์ ตามต้องการค่ะ

3. ล้างใบโหระพาแล้วทำการเด็ดใบโหระพาเตรียมไว้

4. ล้างใบมะกรูดแล้วจัดการหั่นฝอยใบมะกรูด

5. เปิดไฟแรงตั้งหม้อ เติมน้ำกะทิและพริกแกงพะแนง ผัดให้เข้ากัน จากนั้นลดไฟลงเล็กน้อย และเติมน้ำเปล่าตามปริมาณที่ต้องการ แต่อย่าเติมมากไป กะเอาไว้ว่าถ้าเติมพริกหยวกทั้งหมดและเติมเนื้อปลานิลแล้วจะกลายเป็นน้ำขลุกขลิก ไม่เป็นแบบโหลงเหลงน่ะ(แต่ตอนนี้อย่าเพิ่งใส่พริก ใส่ปลาลงไปนะคะ) และอย่าเพิ่งปรุงรสหวานเกินไป เพราะตอนที่เติมพริกหยวกลงไปนั้นจะไปเพิ่มรสหวานให้อีกทีน่ะ

6. จากนั้นทำการปรุงรสน้ำแกงพะแนงด้วย น้ำตาลปิ๊บ น้ำปลา พอรสชาติถูกปากถูกใจแล้วก็ให้เติมพริกหยวกที่เตรียมไว้ คนให้เข้ากันแล้วทำการชิมรสก่อน เพราะเนื้อพริกจะออกหวาน ๆ อาจจะเปลี่ยนนิดหน่อย ถ้าต้องการปรับรสก็ปรับตอนนี้เลยค่ะ และอย่าปล่อยให้เนื้อพริกหยวกเละ เพราะจะต้องเติมเนื้อปลาอีกที คือช่วงนี้พอเติมพริกหยวกแล้วก็คนและชิมรสเลย ถ้ารสชาติได้ที่ก็ไม่ต้องเติมอะไร

7. จัดการใส่เนื้อปลานิลที่หั่นเตรียมไว้ลงไป เหตุผลที่ใส่เนื้อปลาทีหลังเพราะเนื้อปลานั้นนิ่ม ถ้านำไปผัดพร้อมกับน้ำพริกเหมือนขั้นตอนการทำพะแนงทั่ว ๆ ไปแล้วจะทำให้เนื้อปลาเละ ดีไม่ดีอาจจะได้กลายเป็นป่นปลาไปเลย..อิอิ.. เนื้อปลาต้องใส่ขั้นตอนหลังใส่พริกหยวกและจากนั้นก็คนให้เข้ากัน ให้คนแบบเบา ๆ

8. ต่อมาก็ใส่ใบมะกรูดหั่นฝอย ใบโหระพาที่เด็ดไว้ แล้วจัดการปิดฝาหม้อปล่อยไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วทำการเช็คว่าเนื้อปลาสุกรึยัง ถ้ายังไม่สุก็ให้ต้มต่อไปนิดหน่อย จะสังเกตุว่าเนื้อปลาสุกรึยังก็ให้สังเกตุจากเนื้อปลาจะเปลี่ยนสี จากสีออกชมพูก็จะกลายเป็นสีขาว และช่วงนี้อย่าคนน้ำแกงเด็ดขาดค่ะ เพราะกลัวจะทำให้เนื้อปลาเละน่ะ ก็เช็คชิ้นบน ๆ เอาก็แล้วกัน พอเนื้อปลาสุกได้ที่แล้วก็ปิดไฟได้เลย จากนั้นก็ตักแกงพะแนงปลามาเสริฟกับข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลยค่ะ

ตักมาถ่ายรูป หน้าตาก็น่าจะพอกินได้ แต่จะบอกว่าอร่อยมากเลย สีอาจจะไม่เหมือนสีพะแนงมากมายอะไรนะคะ ออกเหมือนแกงเหลืองซะมากกว่า เพราะวันนั้นเราใส่พริกแกงน้อยมาก คือทำให้ผู้มาเยือนที่เป็นฝรั่งกินเลยต้องปรับรสให้เผ็ดน้อยลงเท่าที่จะทำได้ สีน้ำแกงเลยเปลี่ยนนิดหน่อย แต่รสชาติก็ยังเป็นพะแนงอยู่น่ะ

Create Date : 25 พฤษภาคม 2555

Last Update : 14 ธันวาคม 2555 3:42:48 น.

0 comments

Counter : 7830 Pageviews.