|
กาหรือหงส์ ตอน ๑๒
กาหรือหงส์ ตอน ๑๒
เอ๊ะ ! ฉันถามนายอยู่ แล้วนี่มาจ้องหน้ากันอย่างนี้ มีอะไรผิดปกติเหรอ..
ปละ
เปล่าครับวันนี้ผมเห็นมะยมน่ารักกว่าทุกวัน .. คนพูดส่งตาหวานฉ่ำ หัวเราะอย่างมีความสุข
บ๊อง ! ประสาทกลับหรือไง ! ที่ฉันมาตามนายมาถึงที่นี่ก็ไม่ได้พิศวาสอะไรหรอกนะจะบอกให้ .. เพียงแต่สงสารคนแก่ที่ต้องมานั่งรอนอนรอคุณชายผู้สูงศักดิ์ด้วยฐานะและวงศ์ตระกูลบางคนเท่านั้นเอง ..
โธ่! นึกว่าเรื่องอะไร ที่แท้ห่วงคนแก่ ลุงแม้นแกก็หลับรอผมอย่างงี้ทุกวันอยู่แล้วนะมะยม..
แต่ลุงแกบอกฉันว่าวันนี้พ่อนายมีแขกสำคัญกำลังรอนายที่วังนายต้องรับไปทันที.. ผมไม่เคยขุดดินมาก่อนเลยขุดได้ช้า แถมมือไม้มาแตกอีกเลยยิ่งช้าไปกันใหญ่ แต่ไม่เป็นไรเหลืออีกนิดเดียวก็เรียบร้อยแล้ว มะยมไม่ต้องรอผมกลับไปก่อนก็ได้นะครับ ..
คนพูดไม่ได้ตั้งใจเรียกร้องความสนใจคนฟังแม้แต่นิดเดียว กลับตั้งหน้าตั้งตาทิ้งคมจอบลงไปในดินอย่างไม่ย่อท้อ แม้จะโก่งมือทำงานจนน่าขันก็ตาม มะยมเห็นท่าทางก๊องแก๊งของเด็กหนุ่มผิวบางจากเมืองกรุงอดไม่ได้ที่จะแสดงพลังอันล้นเหลือของตัวเองออกมาไม่ได้ จึงหันไปฉวยเครื่องมืออีกอันที่วางอยู่ข้าง ๆ กำแน่นในมือแล้วจ้วงลงไปบนดินอย่างคล่องแคล่วต่างกับคนตัวสูงที่ค่อย ๆ ทิ้งจอบลงดินอย่างยากเย็น
ไม่เป็นไรมะยม คุณไม่ต้องลำบากช่วยผมก็ได้ เดี๋ยวมือสวยๆ แตกเปล่า ๆ ..
อิสราเอ่ยน้ำเสียงราบเรียบด้วยความเป็นห่วง เหลียวซ้ายแลขวากังวลความมืดที่เริ่มคืบคลานเข้ามาทุกขณะ จนคนร่างบางต้องทิ้งเครื่องมือแล้วยืนเท้าสะเอวหน้าง้ำหน้างอ ก่อนจะแบมือยื่นให้เด็กหนุ่มดู เพื่อคลายความกังวลใจ ..
นี่ดูนี่พ่อคุณ ! มือฉันสบายดี ไม่แตก ไม่ลอกใดๆ เลย รีบขุดเข้าเถอะใกล้มืดเต็มทีแล้ว ฉันก็รีบกลับบ้านเหมือนกันนะ เด็กสาวลงมือขุดดินต่อไปโดยมีคนตัวสูงข้างๆมองอย่างทึ่งสุดขีด ก่อนจะตอบไปด้วยอารมณ์ดี ยียวนตามปกติ ..
คร้าบบบ คุณมะยมคนสวย..
จนกระทั่งสนธยามาเยือนแล้วจริงๆเสียที คนทั้งสองทรุดตัวลงนั่งเหนื่อยหอบที่ริมแปลงปลูกข้าวด้วยความคิดไปคนละอย่างก่อนที่คนร่างสูง ผิวขาวใบหน้าคิ้วคมเข้มจะเอ่ยอะไรขึ้นมา ..
ผมล่ะทึ่งคุณจริง ๆ มะยมน่าจะเกิดเป็นผู้ชายมากกว่านะครับ..
ถ้าให้ฉันเลือกได้ ฉันก็คงเป็นไปแล้ว ไม่ต้องอ่อนแอปวกเปียกน่ารำคาญให้รกตาอย่างทุกวันนี้..
นั่นสิครับผมก็คิดอย่างนั้น แต่เอ
ดู ๆ ไปคุณเป็นผู้ชายไม่ได้หรอก เพราะว่า.. คนพูดทำท่าจะสำรวจไปทั่วเรือนร่างของเด็กสาว
เฮ้ยๆ เล่นด้วยแล้วลามปามใหญ่เลยนะ.. คนพูดลุกขึ้นยืนเอาดื้อๆ ก่อนจะเดินลับไป ยังคงปล่อยให้อิสราเก็บอุปกรณ์สองสามชิ้นแล้วเดินตามมาอย่างใกล้ชิด
แค่ล้อคุณเล่นเท่านั้นน่ามะยม เย็นวันนี้ว่างหรือเปล่าล่ะ จะพาไปรับปะทานข้าวกับท่านพ่อที่บ้าน
อิสราเอ่ยชวนเด็กสาวด้วยท่าทางเอาจริง จนคนฟังต้องหันมามองอีกครั้งว่าพูดเล่นพูดจริง จนแน่ใจว่าพูดจริงมะยมถึงกับถอนหายใจยาว ๆ แล้วค่อยปล่อยออกมา
ฉันว่านายชวนผิดคนแล้วล่ะ ลองไปชวนโน้นคนที่อยู่บ้านฉันตอนนี้สิ จะได้รับคำตอบรับทันทีว่าโอเค ส่วนตัวฉันโนเค เพราะต้องไปทำงานให้พ่อต่อที่บ้าน
เข้าใจนะคะคุณชาย ..
พอสาวผิวน้ำผึ้งเนียนพูดจบก็รีบกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปที่มอเตอร์ไซค์ แล้วสตาร์ทเครื่องหายลับไปในทันที ปล่อยให้เด็กหนุ่มรำพึงรำพันออกมาเหมือนคนกำลังละเมอ
ผมตั้งใจจะพาคุณไปพบท่านพ่อจริง ๆ นะครับมะยม .. ไม่ใช่คนอื่น
อิสรานึกถึงใบหน้าสวยเนียนคมเข้มของคนร่างบางสูงแล้วนึกอยากจะดึงเข้ามากอดรัดให้แน่นในหลาย ๆ ครั้ง แล้วเอ่ยถามว่าทำไมถึงเป็นคนดื้อดึง ไม่ยอมรับฟังความรู้สึกข้างในของตนเองเลย ไม่เหมือนกุหลาบอีกดอกหนึ่งที่จัดวางใกล้ ๆ กันอย่างพลอยใส นั่นอ่านออกได้แล้วตั้งแต่เห็นการกระทำในแว่บแรกแล้วด้วยซ้ำว่าคิดอย่างไงกับตนเอง นี่ถ้าไม่มีวันวิสาคอยกันท่าไว้อย่างทุกวันนี้ อิสรายังไม่นึกไม่ออกว่าพลอยใสจะทำเรื่องอะไรให้ได้ระทึกใจอีกต่อไป
ผลการตรวจแปลงไร่ข้าวผ่านไปมะยมได้รับคำชมเชยจากครูอำนาจว่ายอดเยี่ยม น่าเอาเป็นแบบอย่าง แต่อิสราได้แค่คะแนนผ่านอย่างเฉียดฉิวเท่านั้น
------------------------
ในทุกวันตอนเช้าหากทำกิจธุระอันเป็นหน้าที่หลักเสร็จเรียบร้อยแล้ว มะยมจะรีบไปรับน้ำหวานที่บ้านแล้วรีบบึ่งมาโรงเรียนมัธยมท่าวังหินก่อนใคร ๆ จะถึง ด้วยเหตุผลเดียวเท่านั้นก็คือ รีบไปจองโต๊ะในห้องสมุด เพราะเมื่อไปถึงที่นั่นมะยมจะเลือกหนังสือที่ตนเองชอบและอยากอ่านทั้งหมดมากอง ๆ ไว้บนโต๊ะ แล้วค่อยไล่อ่านไปทีละเล่มจนหมดทุกเล่ม กระทั่งถึงเวลาเข้าแถวในตอนเช้าพอดี
วันนี้มะยมไม่ต้องไปรับน้ำหวานอย่างเช่นเคยจึงมาถึงที่ห้องสมุดแต่เช้าตรู่ พอก้าวเท้าถึงประตูห้องก็ต้องชะงักไว้แค่นั้น เมื่อเห็นด้านหลังร่างสูงคุ้นชินสายตากำลังนั่งจดจ้องกับหนังสือกองโตอย่างขะมักเขม้นไม่สนใจว่าใครจะเดินอยู่ด้านหน้าหรือด้านหลัง มะยมอยากจะเดินถอยหลังออกมา แต่ความตั้งใจเดิมมีมากกว่า และคิดว่าไม่เห็นต้องกลัวอะไรนี่ นายคนที่นั่งตรงหน้าก็แค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น จึงเดินเฉียดตรงไปนั่งอีกโต๊ะหนึ่งในทันที แต่ยังไม่ทันได้นั่งคนร่างสูง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มเอ่ยทักมาเสียก่อน
มานั่งด้วยกันสิมะยม ผมมารอคุณตั้งแต่ห้องสมุดยังไม่เปิดแน่ะครับ..
นายมารอชั้น ... แล้วใครใช้ให้นายมารอฉันมิทราบคะ มะยมงงงงไม่คิดว่าจะเจอคนกวนใจแต่เช้า..
เปล่าใครใช้ครับ เราตั้งใจมารอเอง เมื่อวานตอนค่ำผมให้ลุงแม้นไปถามน้ำหวานที่บ้าน เลยรู้ว่าคุณชอบอ่านหนังสือตอนเช้ามาก เลยหนียายจอมจุ้นที่บ้านมาแต่เช้ามืด ภารโรงยังไม่เปิดห้องนี้เล้ยครับ..
ปกติถ้ามีโอกาสฉันก็มาเวลานี้ประจำแหละ แต่ถ้าสายกว่านี้คนก็แน่นห้องสมุดแล้วนะ
มะยมเริ่มอารมณ์ดีเมื่อได้คุยในเรื่องถูกใจ อิสราถามว่ามะยมชอบอ่านหนังสือประเภทใหน เด็กสาวตอบว่าชอบอ่านหนังสือประเภทประวัติศาสตร์ การเมือง ศาสนา ปกิณกะคดีต่าง ๆ และนวนิยายของนักเขียนชื่อดังหลายคน อิสราแปลกใจที่มะยมชอบนักเขียนในดวงใจคนเดียวกันคือ ทมยันตี แล้วเรื่องที่ชอบก็คือเรื่อง กษัตริยา แก้วกัลยาแห่งแผ่นดิน และอธิราชา
ผมชอบเรื่องนี้มาก อ่านไปสงสารชาติบ้านเมืองในสมัยก่อนกว่าจะมาเป็นเมืองที่ร่มเย็นในวันนี้ ผ่านความทุกข์ยากมาแสนสาหัสมามากมาย เราต้องรัก เทิดทูนบุญคุณของแผ่นดินกันให้มากๆ นะครับ..
ใช่เราก็คิดอย่างนายเหมือนกัน ตอนนี้คนบ้านเราแห่นิยมบูชาลัทธิทุนนิยมกันโครมๆ ไม่สนใจรากเหง้า บรรพบุรุษของชาติหรือกำเนิดดั่งเดิมของเราเลย เรากลัวว่าซักวันทุกอย่างมันจะพังทลายลงมาเหมือนปราสาททราย มันน่ากลัวจริงๆ
ไม่ยักกะรู้ว่ามะยมก็หัวรุนแรงเหมือนกัน แถมเลือดรักชาติเข้มข้นมากทีเดียว..
นายคงไม่รู้ว่าตอนนี้ชาวบ้านแถวท่าวังหินนี้เดี๋ยวนี้มีโทรศัพท์มือถือใช้กันแล้วแทบจะทุกบ้านแล้ว และที่สำคัญพวกเค้ายังไม่รู้ว่ามีไว้ใช้ประโยชน์อะไรเสียด้วยซ้ำ น่าอนาจใจมั้ยล่ะ..
ผมว่ามันเป็นเรื่องปกติของคนสมัยนี้แล้วนะครับมะยม คุณค่าของวัตถุหรือสิ่งของที่หามาได้ง่าย ๆ เรามักจะไม่ให้ความสำคัญหรือรู้ค่ามันสักเท่าไหร่หรอกครับ สู้ของเก่าไม่ได้ ยิ่งเก่ายิ่งมีคุณค่า ยิ่งเตือนสติให้เรารู้จักทุกอย่างในหลาย ๆ เรื่องทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ผมตั้งใจเอาไว้ว่าถ้าเรียนจบปีหน้าจะไปเรียนต่อที่วิทยาลัยศิลปะอย่างที่ตั้งใจไว้ จากนั้นก็จะกลับมาอยู่กับท่านพ่อท่านแม่ที่นี่ ... ที่ท่าวังหินนี่ จนตอนนี้ผมรู้สึกว่าได้เจอบ้านของผมแล้วครับมะยม ..
คนพูดชายตามองยังคนฟังอย่างเปี่ยมไปด้วยความหมาย จนฝั่งตรงกันข้ามสะเทิ้นอายการหลบสายตา เอื้อมมือที่รู้สึกเก้งก้างไปพลิกหนังสือตรงหน้าเล่นไปเรื่อยเปื่อย ก่อนจะตอบไปว่า ..
สำหรับอนาคตของฉัน ตอนนี้ยังไม่ได้คิดเอาไว้เลย แต่ยืนยันได้ว่าถ้าพ่ออยู่ไหนก็จะไปทำงานที่นั่น ฉันรักพ่อของฉันมาก ตอนนี้ท่านแก่ลงไปทุกวัน ถ้าวันหน้าเป็นไปได้อย่างที่วาดหวัง ฉันจะต้องกลับมาทำงานที่บ้านเกิด ที่ท่าวังหินนี้ด้วยเช่นกัน ..
ดีจังแสดงว่าเราต้องได้เจอกันทุกวันแน่ใช่มั้ย? คนพูดดูร่าเริงเกินเหตุจนสานตาคมของสาวร่างบางต้องค้อนอย่างหมั่นใส้ ก่อนจะเอ่ยในอารมณ์คงเดิมในตอนแรก ..
อนาคตมันไม่มีอะไรแน่นอนหรอกนะอิสรา แต่ถ้าสิ่งที่ฉันฝันไว้เป็นจริงมันก็คงจะดีสินะ..
ผมขอให้ฝันของมะยมเป็นจริงด้วยเถ้อะ ... เผื่อผมจะได้ไปอยู่ด้วยคน..
นายว่าอะไรนะอิสรา
มะยมฟังไม่ค่อยได้ยินชัดเจน เพราะอิสราพูดประโยคเมื่อครู่อย่างแผ่วเบา แววตาเหม่อลอยเหมือนคนเคลิ้มฝันอย่างมีความสุข แต่ทุกอย่างที่เหมือนจะราบเรียบไปเรื่อย ๆ ตามสภาพอากาศที่เย็นใสในยามเช้า ๆ เช่นนี้ก็ต้องหยุดไว้เพียงเท่านั้น เมื่อมีเสียงเดินเท้าอย่างเร่งรีบของคนสองคนตรงเข้ามาในห้องสมุดอย่างร้อนรน ก่อนจะหยุดชะงักอยู่บริเวณด้านหน้าสักครู่หนึ่ง แล้วเดินตรงเข้ามายังโต๊ะที่มะยมกับอิสรากำลังสนทนากันอย่างออกรสในทันที
.
อ๋อ! มาหลบอยู่นี้เองหรือจ๊ะอิส ทำไมปล่อยให้วิสากับคนทั้งบ้านตามหาไปทั่วตั้งแต่เช้า ที่ไหนได้หนีหรือถูกใครบางคนนัดแนะให้มาทำอะไรไร้สาระที่นี่
เสียงเน้นย้ำตวัดน้ำเสียงบอกความเจ้ายศเจ้าอย่างของคนพูดแว่วดังมาจากด้านหลัง ทำให้มะยมถึงกับเลิกคิ้วหันกลับไปมองยังที่มาของเสียงในทันที เป็นวันวิสาเจ้าเก่านั่นเอง แต่คราวนี้พ่วงคนใกล้ชิดมะยมมาด้วยนั่นก็คือ พลอยใสที่ยืนจังก้าอยู่ด้านหลังคล้ายตัวช่วยนางอิจฉาในละครน้ำเน่าจ้องมาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ
วิสาอย่าส่งเสียงดังได้มั้ย ? เราอายคนอื่นเค้า รู้ใช่มั้ยว่านี่มันห้องสมุด..
คนร่างสูงหันซ้ายขวามองดูโต๊ะอื่นๆ ที่ตอนนี้หันมามองมาเกือบทุกสายตาที่อยู่ในห้องสมุด วันวิสายิ้มเหยียดไม่ยอมหยุดอะไรง่าย ๆ
อายทำไมคะอิส
ให้มันรู้ว่าเลยว่ามีใครบางคนกำลังหน้าด้านแย่งแฟนชาวบ้าน..
เอ๊ะนี่วันวิสา
เธอพูดให้มันเคลียร์กว่านี้หน่อยได้มั้ย ใครไปแย่งแฟนเธอ ฉันอยู่ของฉันตรงนี้ดีดีนะ ถ้าจะหาเรื่องไปให้ไกลจากนี่....หน่อยได้มั้ย ถ้าไม่อยากมีเรื่อง
คนพูดทำท่าฮึดอัด ๆ ลุกขึ้นยืนประจันหน้าแล้วชี้ไปที่เท้า กิริยาไม่ยอมเหมือนกัน ..
คนบ้านป่าบ้านนอกมักจะแสดงกิริยาไพร่ๆ ไร้มารยาทผู้ดีออกมาให้เห็นง่ายๆอยย่างนี้แหละ
ใช่ฉันมันคนบ้านนอก ไม่มีชาติตระกูลที่สูงส่งเป็นหงส์อย่างพวกเธอ จะได้เที่ยวแหกปากตะโกนดูถูกคนในที่รโหฐานให้อับอายวงศ์ผู้ดีของเธออย่างตอนนี้นะวันวิสา..
ต๊าย! รู้ตัวว่าเกิดมาต่ำยังมาเสนอหน้าจะปีนหอคอยงาช้างอีก ไม่เจียมกะลาหัวเอาซะเลย คนบ้านนอกก็เป็นอย่างงี้แหละ อยากสูงส่งจนลืมมองเงาตัวเอง
คนพูดยังอดคงเยาะทั้งคำพูดและสีหน้าท่าทางหน้าอยู่ต่อไป ส่วนอีกฝ่ายเริ่มหน้าแดง มือกำหมัด ลุกขึ้นยืนประจันหน้าจนแทบจะชิดอีกฝ่ายอยู่แล้ว ...
อิสราผู้เป็นต้นเหตุเห็นว่าสถานการณ์กำลังจะบานปลายไปอีกถ้าตนเองขืนนั่งอยู่เฉยไม่ทำอะไรซักอย่าง
ใจเย็นน่าวิสา เธอมาโวยวายอะไรที่นี่ อายคนอื่นเค้ามั่งสิ ที่นี่ห้องสมุดนะไม่ใช่ตลาดสด..
เห็นมั้ยพลอยใส เป็นเหมือนฉันพูดเอาไว้ไม่ผิด สุดท้ายอิสก็เข้าข้างนังบ้านนอกนี่อีกจนได้..
ทำไมต้องขึ้นมันด้วยวันวิสา... คนร่างสูงเน้นคำว่ามันชัด ๆ จนอีกฝ่ายต้องเบือนหน้าไปทางอื่นอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเหยียดหยันเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง...
อิสจะยกมันขึ้นมาเทียบเท่าพวกเราได้ยังไง เราเป็นเจ้าพวกนี้เป็นไพร่ ใครก็รู้กันทั้งนั้น
ที่นี่ไม่มีเจ้า ไม่มีไพร่ใดใดทั้งสิ้น ทุกคนที่ท่าวังหินไม่ว่าบ้านเราหรือใครที่ไหนๆ ทุกคนต่างเป็นคนเหมือนกัน มีสิทธิเท่าเทียมกันทุกอย่างเข้าใจมั้ยวิสา ... ทีหน้าทีหลังอย่าพูดอะไรอย่างนี้ให้เราได้ยินอีก ไม่งั้น ไจะหาว่าไม่เตือน ไปที่อื่นกันดีว่ามะยม แถวนี้ไม่สะดวกที่จะคุยเรื่องส่วนตัวกัน ..
พอกล่าวจบอิสรารีบจูงมือเด็กสาวไปจากที่นั่นในทันที ก่อนจะเอามือปิดหูสองข้างอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงกรี๊ดดังตามมา ...
กรี๊ด ๆๆ หยุดตรงนั้นนะอิสรา นายจะเดินหนีชั้นไม่ได้นะ กลับมา กลับมาเดี๋ยวนี้ ..
นี่วิสาเธอจะกรี๊ดให้ได้อะไรขึ้นมาอิสราไปตั้งนานแล้ว พลอยใสเอ่ยขึ้นมาเมื่อรู้สึกว่าเสียงชักจะดังแล้ว
เอ๊ะ ! เอจะอยู่ข้างใครกันแน่พลอย ถ้าอยู่ข้างฉันหุบปากเน่าๆ ของเธอไปเลยจะดีกว่า
เธอพาลคนอื่นเค้าไปทั่วแล้วนะวิสา ลองมองดูรอบๆตัวเธอสิใครเค้าสนใจเธอมั่ง..
พลอยใสเอ่ยตำหนิสาวหน้าใสตรงหน้าอย่างไม่ไว้หน้า แต่คนถูกว่ายังไม่ยอมราข้อง่าย ๆ กลับทำตรงข้ามถลึงตาใส่คนพูดเหมือนจะเป็นศัตรูกันมาแต่ชาติปางไหน ก่อนจะกรี๊ดใส่หน้าเหมือนเมื่อครู่ แล้วสะบัดหน้าเดินตามคนทั้งสองที่ลับกายหายไปนานแล้ว พลอยใสส่ายหน้าช้าๆ เบื่อระอาท่ามกลางสายตานับสิบคู่ คิ้วขมวดครุ่นคิดการอะไรบางอย่างที่ไม่มีใครรู้นอกจากตัวของเธอเอง ...
---------------------------------
ในช่วงบ่ายคล้อยแสงแรงลงแล้วในวันนี้ที่ไร่ฟ้าเมฆาบรรยากาศคึกคักไปด้วยมวลมิตรภาพและถ้อยคำจำนรรจาของบรรดาญาติมิตรและสหายสนิทของท่านชายปกรณ์เทวาผู้เป็นเจ้าของวังฟ้าเมฆา ส่วนคุณอุ่นเรือนผู้เป็นเจ้าภาพอีกคนกลับคลุกอยู่หลังครัว เพราะไม่ถนัดต้อนรับแขกเหมือนท่านชายผู้เป็นสามี
การสนทนาในโต๊ะอาหารเสร็จสิ้นเมื่อเวลาผ่านไป จนขณะนี้บรรดาแขกเหรื่อต่างจับคู่สนทนาตามมุมตึกด้วยบรรยากาศเป็นกันเอง แต่ภายในห้องสมุดส่วนตัวขนาดใหญ่ของวังตอนนี้ มีชายหญิงคู่หนึ่งกำลังสนทนาอย่างเผ็ดร้อน ไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่าย ๆ ....
พี่ชายต้องจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดนะเพคะ ถ้าขืนปล่อยไว้นาน พวกเราอาจจะเสียท่าพวกนั้นได้ ถึงตอนนั้นหญิงก็ไม่แน่ใจว่าชายอิสจะเห็นด้วยกับเรื่องนี้หรือเปล่า
คนพูดเป็นหญิงร่างท้วม แต่งองค์ทรงเครื่องด้วยเครื่องเพชรราคาแพงละเหลื่อมละลานตาครบครันไปทั้งตัว ลักษณะท่าทางเจ้าอารมณ์อยู่เป็นนิจสังเกตจากปลายริมฝีปากที่เชิดขึ้นมาทุกครั้งที่เอื้อนเอ่ยคำพูดออกมา....
หญิงจะให้พี่บังคับลูกได้ยังไง ใครก็รู้นิสัยของนายอิสดีว่าถ้าไม่ชอบใจเรื่องอะไร ก็จะไม่ยอมลงให้ใครเลย แม้แต่พี่เองก็เถอะ จนบางทีก็ต้องยอม ๆ เค้าไป เพื่อจะได้จบเรื่อง แล้วนี่จะมาบังคับให้หมั้นกับยายวิสาตั้งแต่ตอนนี้ ยิ่งยากกันไปใหญ่ ที่สำคัญพี่ยังไม่ได้คุยกับอิสราในเรื่องนี้เลย...
-----------------------
หม่อมเจ้าปกรณ์เทวาเอ่ยจบพลางถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายกับการเร่งรัดเพื่อหมั้นหมายระหว่างสองตระกูล ที่ทำไม่สำเร็จมาแล้วในหลายรุ่น ตั้งแต่หม่อมปู่ท่านพ่อของท่านชายกระทั่งจนมาถึงรุ่นตนเอง และอิสราบุตรชายที่เกิดจากความรักของตนเองกับคุณอุ่นเรือน เอื้องเหนือที่สวยสดทั้งกิริยามารยาทและหน้าตา จนรู้สึกชุ่มเย็นเมื่ออยู่ใกล้ ... กระทั่งมาถึงวันนี้สองตระกูลกลับมาทบทวนสัญญานั้นอีกครั้ง แต่ทว่าคนที่ตกที่นั่งลำบากกลับเป็นท่านชาย เพราะเข้าใจสถานการณ์เดิมๆนี้เป็นอย่างดีแล้วนั่นเอง ...
ไม่ได้นะเพคะพี่ชาย เรื่องนี้มันเรื่องสำคัญที่คนรุ่นลูกอย่างเราทั้งสองคนต้องทำตามบรรพบุรุษให้ได้ ไม่ว่าจะต้องรอคอยกันมากี่รุ่นแล้วก็ตาม ... ถ้าพี่ชายไม่แต่งงานกับนัง เอ๊ย พี่อุ่นเรือนในตอนนั้นเรื่องทั้งหมดคงไม่ยุ่งยากจนต้องลำบากลูกหลานในวันนี้หรอกใช่ไหมคะ..
หญิงพักตร์มาว่าพี่ได้ไง ก็เราเองไม่ใช่เหรอที่ถอนหมั้นพี่ไปแต่งกับนายบุญถมนั่นน่ะ..
ก็ตอนนั้นพี่ชายไม่กลับวังเทวราชเลยเป็นปีๆหญิงก็เลย...เอ่อ..
รอไม่ไหวแล้วไปแต่งงานกับพ่อค้านายหน้าที่ดินนั่น ... คนพูดเน้นประโยคนี่ชัด ๆ อีกครั้ง
โอ๊ย! ... พี่ชายจะฟื้นฝอยหาตะเข็บอยู่ทำไมกัน ไหน ๆ เรื่องมันก็ผ่านมานมแนหลายปีแล้ว ตอนนี้เรากำลังคุยกันเรื่องงานหมั้นของชายอิสกับวันวิสาอยู่นะคะ ... ตกลงจะให้หญิงไปบอกฤกษ์กับหม่อมหญิงป้าได้เมื่อไหร่ นี่ท่านก็เร่งถามมาแทบจะทุกวันนะคะพี่ชาย
เอาอย่างงี้ดีกว่านะหญิงพักตร์ไว้ให้พี่คุยกับอิสราเย็นนี้ก่อน แล้วพี่จะโทรไปให้คำตอบวันพรุ่งนี้เมื่อหญิงกลับถึงกรุงเทพแล้วตกลงตามนี้มั้ย.. ได้สิพี่ชาย ไหนๆ ก็รอกันมาเป็นปีแล้ว จะรอแค่อีกหน่อยจะเป็นไรไป... คนพูดเยาะในน้ำเสียงเต็มที่ ก่อนจะสะบัดหน้าเดินออกห้องหนังสืออย่างไม่สบอารมณ์เท่าใดนัก...
ท่านชายปกรณ์เทวาทรุดตัวลงนั่งบนเก้าที่บุนวมกำมะหยี่สีแดง พลางยกมือขึ้นกุมขมับอย่างเหนื่อยอ่อน นึกคิดถึงวันที่ออกแผนการกึ่งบังคับให้อิสราย้ายมาเรียนที่ท่าวังหินด้วยความรีบเร่ง เพราะอยากจะให้อิสราได้ใกล้ชิดกับวันวิสา ลูกสาวคนสุดท้องหม่อมราชวงศ์หญิงพักตร์วิลาส เมื่อมาอยู่ที่นี่ ...
แต่ทว่าทุกอย่างในตอนนี้กลับตาลปัตรไปหมด เมื่ออิสรากำลังหลงและคลั่งไคล้เด็กสาวหน้าแฉล้มท่าทางก๋ากั๋นมอมแมมที่ชื่อ ...
มะยม
ลูกสาวครูบ้านนอก ฐานะยากจนไร้ชาติตระกูลที่สูงส่งเทียบเทียมกันได้เลย ประมุขของไร่ฟ้าเมฆาถอนหายใจแรง อีกครั้ง ก่อนจะพรำพำออกมาแผ่วเบา ...
อิสราลูกรัก....พ่อไม่รู้จะช่วยเจ้าแล้วอย่างไร ถ้าทางโน้นเขาเร่งรัดมาว่าจะให้มีงานมงคลโดยเร็ววันนี้ พ่อคงจะขัดอะไรไม่ได้แล้วแน่นอน.. --------------------- กาหรือหงส์ ตอน ๑๒ กำลังเข้มข้นขีดสุด ..ตอนต่อไปมาดูว่า ม.ร.ว.อิสรารังสรรค์จะรอดพ้นจากการคลุมถุงชนได้ยังไง .. ติดตามกันนะครับผม..
นายอิส/เมฆชรา
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
Create Date : 02 กรกฎาคม 2553 |
|
0 comments |
Last Update : 2 กรกฎาคม 2553 16:34:59 น. |
Counter : 1717 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
|