Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2550
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
25 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 

บัตเตอร์เค้ก...หม้อหุงข้าว



บัตเตอร์เค้กขั้นตอนใหม่ลบอันเก่าออก เพราะสูตรนี้ขั้นตอนนี้เค้กฟูนุ่มอร่อย และเก็บใส่ตู้เย็นปิดฝาให้สนิทหรือห่อฟอร์ย ใส่ช่องฟรีชหรือช่องธรรมดา เก็บได้นานกว่า ขั้นตอนจากBlogคุณjumjeeนะ ชื่อ(Pain Frozen Butter Cake)
แต่ส่วนผสมประยุกต์จากสูตรเดิม




เครื่องปรุง

แป้งเค้ก 200 กรัม
ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
เนยสดเค็ม 4 ช้อนโต๊ะ ทิ้งไว้ให้อ่อนตัว
น้ำตาลทราย 80 กรัม
(ถ้าชอบหวานก็ใช้ 100 กรัม)
นมข้นจืด 100 กรัม
(หรือนมผง 3 ช้อนโต๊ะผสมน้ำเย็น 12 ช้อนโต๊ะ)
เกลือ 1/4 ช้อนชา
ไข่ไก่ใบใหญ่ 2 ฟอง
วนิลา 1 ช้อนชา


วิธีทำ

ร่อนแป้งผงฟู วนิลาผง 3 รอบ

ตีไข่ในถ้วยรอไว้

นมผสมกับน้ำเย็นรอไว้

ตีเนยหั่นเป็นชิ้นเล็กๆกับเกลือ ด้วยความเร็วสูง ตีจนเนียน



ใส่น้ำตาลทีละช้อน ใช้พายช่วยเขี่ยๆให้ผสมเข้ากันจนทั่วถึง ตีเข้ากันจนฟู



ไข่ที่ใช้ตะกร้อมมือตีไว้แล้ว ค่อยๆเทลงเป็นสาย



ตีจนเนียนด้วยความเร็วสูง



ใส่แป้งแบ่งใส่ที่ละ3ส่วน ใช้ตะกร้อมือค่อยตะล่อมให้เข้ากัน อย่าให้เหนียว



พอเริ่มเหนียวก็ใส่นมที่ผสมน้ำเย็น เทเป็นสายๆ ตะล่อมผสม



ทำสลับกัน

ใส่แป้งส่วนที่2ตะล่อมเบาๆ คนพอเข้ากัน ใส่นมเป็นสายๆอีกรอบ ตะล่อม ใส่แป้งรอบที่3หมด ตะล่อม ใส่นม ตะล่อมจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน



ใส่หม้อหุงข้าวที่ทาเนยไว้

เทใส่หม้อที่ทาเนยไว้แล้ว
กดปุ่มเลือกโปรแกรมข้าวต้ม



เมื่อไฟเปลี่ยนเป็นสีเหลือง(WARM)แสดงว่าสุกรอบแรก กดเลือกดตั้งโปรแกรมข้าวต้มอีกรอบ

จนกลิ่นหอมอบอวล ไฟ(WARM)เหลืองรอบสองสุกชัวร์



เค้กสุกแระด้านหน้าเป็นจะอี้



ทิ้งไว้จนเย็น เอาคว่ำหน้าลงออกจากหม้อตูดเค้กเป็นจะอี้



พอหงายหน้า ยังกะผิวดวงจันทร์เลย อิอิ



รอบนี้หั่นเป็นชิ้นๆเอาไปวัด



ใส่ถุงแระ ให้แม่เอาไปใส่บาตรทำบุญเข้าพรรษาพอดี



ไอเดียทำเค้กใส่แก้ว
ทำไงให้พอดีแก้วหว่า
ว่าแล้วก็ปิ๊ง เอาปากแก้วกดเค้ก
เป็นฐานเค้กชั้นที่หนึ่ง



ใส่แยมสตอเบอรี่ ตามด้วย วิปปิ้งครีม และเค้กที่กดไว้ใส่ปิดอีกเป็นชั้นที่สอง
โป๊ะวิปปิ้งแต่งอีก
เชอรี่ที่เหลือจากแต่งเค้กเมื่อวานจากสูตรเค้กผลมามาวางเพื่อความเท่
แค่เนี้ยก็ได้เค้กง่ายๆไว้หม่ำ


แต่แก้วนี้ได้เหยื่อหนูทดลองคือเพื่อนมาหาพอดี
รีบแต่งรีบบังคับให้หม่ำ ก่อนเพื่อนจะหนีก่อน




คำถามเกี่ยวกับสูตรเค้กนี้ เอามาแปะเผื่อเป็นความรู้

ทำไมน้ำกับเนยแยกตัวตอนใส่ไข่ Butter Cake ของคุณ JumJee
ลองหัดทำ Butter Cake ของคุณ JumJee แต่พอใส่ไข่มันก็แสดงให้เห็นเลยว่าแยกตัวระหว่างน้ำกับไขมัน ผลลัพธ์ที่ได้ก็เป็นไปตามที่คุณ JumJee บอกไว้เลยค่ะ คือ เนื้อเค้กไม่ละเอียด แต่ไม่รู้ว่าเป็นเหตุให้เนื้อเค้กจากเบากลายเป็นหนักหรือเปล่าค่ะ ลองให้หนูทดลองที่บ้านทานบอกว่ารสชาตดีแต่เนื้อหนัก ควรทำอย่างไงดีค่ะ

จากคุณ : squidquiz - [ 6 ส.ค. 50 10:30:29 ]

ความคิดเห็นที่ 1

ตีไข่แดงไม่แตกพอป่าวอ่ะคะ ตอบแบบไม่ใช่ผู้รู้อ่ะนะ
แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 50 11:39:52

จากคุณ : Mcdull - [ 6 ส.ค. 50 11:35:25 ]


ความคิดเห็นที่ 2

ใช้ไข่อุณภูมิห้องหรือเปล่าคะ
รอผู้รู้ต่อไปเข้ามาตอบนะคะ

จากคุณ : นินจาไร้เงา - [ 6 ส.ค. 50 12:17:04 ]

ความคิดเห็นที่ 3

เค้กเนยเนื้อจะหนักอยู่แล้วครับ

ลองแอบแบ่งน้ำตาลมาตีกับไข่นิดนึง พอฟูขาว จะผสมง่าย และเนื้อเค้กเบาละเอียดขึ้นครับ

จากคุณ : ZXR - [ 6 ส.ค. 50 12:22:38 ]

ความคิดเห็นที่ 4

1.คุณตีเนย+น้ำตาลไม่ขึ้นฟูดีครับ
2.ไข่ที่คุณเทลงไปควรเป็นไข่แช่เย็น เวลาผสมกับส่วนของเนยจะเข้ากันได้ดีกว่า
3.วิธีการเทไข่ควรเทเป็นสายอย่าเททีเดียวหมด
4.ถ้าเกิดเทเร็วไปแล้วไข่แยกตัวกับเนยควรเพิ่มความเร็วของใบพายขึ้น พอเข้ากันแล้วลดลงมาที่ปานกลางเช่นเดิม

ป.ล.ในบล๊อกผมมีสูตรเค๊กกล้วยหอมพร้อมวิธีทำลองไปดูก็ได้นะครับ แต่เป็นอีกแบบเนื้อฟูนุ่มมาก
แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 50 12:29:43

จากคุณ : คิดถึงผมป่าว - [ 6 ส.ค. 50 12:29:08 ]

ความคิดเห็นที่ 5

อุ๊บ...เราก็เป็นหล่ะ และจนถึงตอนนี้ยังทำไม่สำเร็จซะทีอ่ะ กร๊ากกกก

จากคุณ : Kyoyama_anna - [ 6 ส.ค. 50 12:45:26 ]






ความคิดเห็นที่ 6

ขอบคุณ คุณ JumJee (คหที่ 4) มากค่ะ เราตี เนย ด้วยเครื่องหัวใบไม้ แล้วเปลี่ยนเป็นหัวตะกร้อ จากนั้นก็ค่อย ๆ ใส่น้ำตาล คิดว่าคุณคงรู้ผลแล้ว เราตีไข่ทั้ง 3 ใบ (เพิ่งออกจากตู้เย็น) แบบไข่เจียว แล้วเอาเข้าตู้เย็นอีกรอบ แต่ตอนเทไข่ อาจเป็นสายรุ้ง คือ แถบใหญ่ไปหน่อย แต่สงสัยค่ะ ว่าเมื่อมันแยกตัวไปแล้ว เราก็พยายามอย่างมาก ตีไปเรื่อย ๆ ด้วยความเร็วปานกลาง ถึงสูงสุด มันก็ไม่รวมร่างกันซะที จริง ๆ แล้วมันมีโอกาสรวมร่างกันไหมค่ะ

จากคุณ : squidquiz - [ 6 ส.ค. 50 13:29:27 ]






ความคิดเห็นที่ 7

เราทำสูตรสูตรคุณจ้ำจี้เหมือนกันใช้ไข่อุณหภูมิห้องผสมแล้วออกมารวมร่างกันดีค่ะ ขอบคุณครูจ้ำจี้ไว้ณ.ที่นี้ด้วยค่ะ

จากคุณ : นินจาไร้เงา - [ 6 ส.ค. 50 14:21:32 ]

ความคิดเห็นที่ 8

ไปเปลี่ยนหัวตีทำไมละครับ ใช้หัวใบไม้เลยครับ หัวตระกร้อไว้ตีไข่ครับ มันเลยเข้ากันยากด้วยครับ

จากคุณ : คิดถึงผมป่าว - [ 6 ส.ค. 50 15:18:34 ]


ความคิดเห็นที่ 9

สวัสดีค้าบ มาตอบให้แร้วนะค้าบ
ปัญหาก็เป็นอย่างที่เข้าใจนะครับ คือผสมส่วนของไข่ไก่เร็วไปครับ ถ้าเป็นสายรุ้งเลยนี่คงแยกแน่นอน

การค่อยๆ ผสมจะทำให้ไม่แยก 1 ประการนะครับ ประการที่สองคือจะใช้เวลาในการตีน้อยกว่าครับ แต่ไม่ใช่ว่าถ้าแยกจะไม่มีวันเนียนครับ ให้อดทนตีต่อครับ จากที่แยกจะเนียนขึ้นเรื่อยๆ ถ้าใช้เครื่องก็ตีต่อไปเลยอีกสัก 5-10 นาที แต่ต้องหมั่นดูด้วยนะครับ เทคนิคการเช็คก็คือ ดูว่าเนื้อเนียนเหมือนอย่างในบล็อกหรือยัง ถ้ายังเห็นเป็นลิ่มๆ ตีต่อนะครับ

ถ้าเริ่มเห็นไขมันแตกเป็นรอยเล็กๆ แสดงว่าเริ่มเข้ากันแล้วครับ ตีต่อไปอีกครับ รวมๆ น่าจะ 10-15 นาที จะเริ่มเนียนครับ เช็คโดยหยุดเครื่อง ลองยกหัวตะกร้อดูครับ การยกหัวตะกร้อจะทำให้เราเห็นรอยแตกบนผิวของแบ็ตเตอร์ชัดขึ้น (บางครั้งขณะตีเห็นเนียนแล้ว แต่จริงๆ ยังแยกอยู่) อดทนครับ

จุดสำคัญคืออย่าตีเพลินจนเหลวเด็ดขาดครับ สำคัญมากนะครับตรงนี้ เพราะจะทำให้ได้เนื้อขนมที่แห้งแข็งกว่าครับ

ส่วนขั้นตอนการตีเนยกับน้ำตาล และขั้นตอนการตีกับไข่ไก่ผมใช้หัวตีแบบตะกร้อตลอดนะครับ หัวตีใบไม้ไม่ได้ใช้เลยครับ

เรื่องไข่ไก่ต้องเย็นไหม จริงๆ ไม่สำคัญนัก แต่เพื่อความปลอดภัยจะใช้แบบเย็นก็ได้ครับ แต่ผมก็ใช้แบบเย็นทุกครั้ง เพราะอยากจะรักษาความเย็นของส่วนผสมไว้ จริงๆ การที่มันเย็นทุกอย่างทำให้ตียากกว่าเดิม และแยกง่ายกว่านะครับ แต่ถ้ามันร้อนเกินไปจะยิ่งแย่กว่า

การตีเนื้อขนมไปเรื่อยๆ จะทำให้เกิดความร้อน (ผมเคยกล่าวถึงครั้งนึง เรียกว่า paddle work เป็นศัพท์ในทางวิศวกรรมอ้ะครับ) ถ้าเราใช้ส่วนผสมที่เย็น พอตีไปจะร้อนขึ้นจนได้อุณหภูมิที่เหมาะสมเอง แต่ถ้าเราเริ่มจากอุณหภูมิห้อง ตีไปจะร้อนเกินครับ ซึ่งทำให้ส่วนผสมที่สำคัญอย่าง เนยสด กลายเป็นเนยละลาย และเก็บกักอากาศไม่ได้ในที่สุด นั่นทำให้เค้กเนยล้มเหลวครับ

ก็คงพอจะเข้าใจหลักนี้นะครับ

ส่วนที่ว่าเนื้อขนมหนัก บอกยากมากครับว่าหนักที่ว่าเกิดจากอะไร เพราะหนักของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เอาเป็นว่าถ้าตีขนมได้ตามที่กล่าวข้างต้นแล้ว ปัจจัยที่จะทำให้เค้กออกมาสมบูรณ์แบบก็คือ การใช้ไฟครับ ต้องเป็นไฟอ่อน อาจจะอ่อนกว่าสูตร 10 องศาก็ได้สำหรับเตาเล็กๆ นะครับ และเป็นไฟล่างตลอด จนกว่าจะแต่งให้หน้าเค้กสวยค่อยเปิดไฟบน คอยดูตลอดเพราะร้อนมากนะครับ อาจจะไหม้ได้ ถ้าดูแล้วจับเวลาไปด้วยก็จะรู้เวลาคร่าวๆ ต่อไปก็เอาเค้กออกได้เลย ไม่ต้องคอยเฝ้าครับ

การอบสำคัญสำหรับขนมอบทุกชนิดมากครับ ต้องรู้ใจเตาตัวเองว่าร้อนกว่าสูตรเท่าไร ต้องคอยเช็คสุก ถ้าสุกมากไปจะทำให้ขนมแห้ง แข็ง หด ไหม้ แตก ได้ง่ายครับ คิดว่าคงได้ประโยชน์บ้างนะครับ ^_^

จากคุณ : jumjee - [ 6 ส.ค. 50 19:03:58 ]








 

Create Date : 25 มิถุนายน 2550
12 comments
Last Update : 10 สิงหาคม 2559 11:02:12 น.
Counter : 2019 Pageviews.

 

น่ารัก น่ากินสุดสุดอีกแล้วค่ะ ชอบจังเลยค่ะ ขนาดเพิ่งทานข้าวเที่ยง เห็นปุ๊ป ท้องร้องอีกแล้วอ่ะ อย่าทำน่ากินนักเลยนะค่ะ กานต์อดใจไม่ไหวจริงๆค่ะ เดี๋ยวน้ำลายไหล

 

โดย: karnlaka 25 มิถุนายน 2550 14:01:51 น.  

 

น่ากินจังเลยคะ เดี๋ยวมีเรียน calculus ตอน4โมงถึงทุ่มนึงอีกดูให้อยากๆ ไปก่อนแล้วกันคะ

 

โดย: บุหลัน (บุหลันดั้นฟ้า ) 25 มิถุนายน 2550 14:14:58 น.  

 

โอ๊ย

เริ่มหิวอีกแล้วล่ะ
(ว่าจะลดๆอาหารประเภทเค้ก แต่เห็นรูปก็อยากอีกแล้ว)

 

โดย: เอ๊กกี่ 25 มิถุนายน 2550 15:21:35 น.  

 

เก่งจังค่ะ ใช้หม้อหุงข้าวทำเค้ก และออกมาดีและน่ากินซะด้วย

 

โดย: งาขาว 25 มิถุนายน 2550 22:14:23 น.  

 

บล๊อคที่แล้ว . . .
ก็เค้กเตะเต็มตา

โอ้ววววไปหาขนมกินในตู้เย็นมั่ง

^ ^"

 

โดย: หมูปิ้งไม้ละ 5 บาท 25 มิถุนายน 2550 23:36:34 น.  

 

สวยงามน่าทานมากๆค่ะ

 

โดย: angielicious 26 มิถุนายน 2550 0:11:08 น.  

 

อุ๊ยๆ น่ากินอีกล่ะ

สงสัยมาบ้านนี้จะไม่ได้กินข้าวจริงด้วย ได้กินเค้กแทนซะงั้น ..เอิ๊กกกกก

 

โดย: d.. diary 26 มิถุนายน 2550 11:48:26 น.  

 




สวัสดีค่ะ

เที่ยงแว้วววไปหม่ำกันดีกว่าค่ะ

คิดถึงนะคะ รักษาสุขภาพด้วยค่ะ

น่าหม่ำมากเลยนะคะ

 

โดย: ดวงตะวัน (Doungtawan ) 26 มิถุนายน 2550 12:32:21 น.  

 



มีความสุขกับวันทำงานนะคะ

น่าทานจัง อิ อิ อยากได้ไปทานที่บ้านบ้างน่ะค่ะ

 

โดย: เพียงแค่เหงา 27 มิถุนายน 2550 13:18:43 น.  

 

พาน้องหมูมาเยี่ยมก่อนกลับบ้านค่ะ

 

โดย: เพียงแค่เหงา 29 มิถุนายน 2550 19:56:46 น.  

 

อ๊ะ...ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าหม้อหุงข้าวก็ทำขนมได้...เก่งจังค่ะ...ไว้จะต้องลองมั่ง...

 

โดย: แม่เจ้าเมฯ 29 มิถุนายน 2550 21:10:57 น.  

 

โหไอเดียสุดยอด
ชอบจังเลยใช้หม้อหุงข้าวทำ
ขอสูตรไปทำกินหน่อยนะค๊า

 

โดย: ตติตา 9 กรกฎาคม 2550 21:48:05 น.  


ใจรัก Jairuk Channel
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 91 คน [?]








ติดตามดูต่อที่YouTube

ใจรักJairukChannel



ติดตามดูต่อที่Facebook

ใจรักJairukChannel



แนะนำให้ชม

บัวหิมะ
บัวหิมะ
วิธีเลี้ยงบัวหิมะ
เกิดมาทำไม ตายแล้วไปไหน
บั้งไฟพญานาคที่ไปดูมา
ติดอันดับTOP Page Views
อาหารและการดูแลสุขภาพ ผู้ป่วยมะเร็งและคนทั่วไป
เที่ยวขอนแก่น
Michael Jackson
คอนเสิร์ตบอย Peacemaker
คลิปเจ้าขุน
การกลับมาของX Japan

ท่องเที่ยว

UFOที่เคยเห็น
บั้งไฟพญานาคที่ไปดูมา
หาดใหญ่และปัตตานี
ไข่มุกอันดามัน
อะ พีพี
เกนติ้ง
กัวลาลัมเปอร์
หาลิงเข้าถ้ำทะเลภูเขาเลยจ้า นอนดูหมอกที่ปราจีนบุรี
เที่ยวปราจีนบุรีต่อ
เลยจะถึงไหมละนี่
พักค้างแรมที่เลย
เลยจนเกือบถึงลาว
ขุดกรุเขื่อนป่าสัก
บึงแก่นนคร ขอนแก่น
พระธาตุขามแก่น
เดินทางไปลพบุรี
กินข้าวอิงภูชัยภูมิ
ลาว เวียงจันทร์
ลาว2
ปิดทริปเที่ยวลาว
ล่องเรือเจ้าพระยา
รถไฟลอยฟ้า ฟ้า ไทย
รถไฟใต้ดินไทย
ทะเลน้ำจืดหาดวังโกขอนแก่น บ้านปราสาทโคราช
วังน้ำเขียวโคราช
ชอปปิ้งหนองคาย
ตัวเมืองขอนแก่น
น้ำผุดทับลาว ชัยภูมิ
สนามหลวง2
ไปดูงานศิลป
สายน้ำกับปลาที่ไปปล่อย
งานExpro
เขื่อนอุบลรัตน์
เที่ยวป่าวัดพรไพรวัลย์
ล่องแพอ่างเก็บน้ำห้วยไร่
ทะเลหมอกภูพานน้อย
วัดเจดีย์ชัยมงคล
ครั้งหนึ่งที่เคยโบกรถ
น้ำหนาว,เพชรบูรณ์
พระพุทธชินราช,พระธาตุลำปางหลวง
น้ำพุร้อน,วัดร่องขุ่น
มหาลัยแม่ฟ้าหลวง,น้ำตกก้างปลา
เวียงแก่น,ภูชี้ฟ้า
ดอยแม่สลอง
อุทยานฯขุนแจ
สวนโลกราชพฤกษ์
วัดเจดีย์7ยอด,วัดเจดีย์หลวง
ดอยสุเทพ,ทุ่งสแลงหลวง
โครงการครูบ้านนอก
วัดหลวงพ่อโตใหญ่ที่สุดในโลก
ที่พักปากช่อง
เลย-ลาว-ท่าลี่
ถึงระยองแล้วจ้า
ทะเลตอนเช้า
งานเที่ยวภาคใต้






Friends' blogs
[Add ใจรัก Jairuk Channel's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.