Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
6 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน วันที่ 6 พฤษภาคม 2553




QSD - Track14.mp3



“หึ....ยามใดมีแฝดกำเนิด ทายาทชายจะสูญสิ้น ตอนอายุ 10 ขวบ ขณะที่น้องชายรองเสียชีวิต มีชิลเคยมากระซิบกับหม่อมฉันและบอกให้รู้ถึงเรื่องนี้....นางบอกว่าเพราะหม่อมฉัน บอกว่าการตายของน้อง เพราะหม่อมฉันเป็นตัวต้นเหตุ....ตอนนั้นเพราะความที่ยังเด็กเลยไม่เข้าใจว่าการเสียชีวิตของน้องทั้งสาม เกี่ยวอะไรกับหม่อมฉันด้วย แต่ว่า ตอนนี้หม่อมฉันจำเป็นต้องรู้ ฮือ....เพราะหม่อมฉัน.... เป็นลูกแฝด....ใช่ไหมเพคะ”

“ฮือ....นั่นไม่ใช่ความผิดของลูก แต่เป็นเพราะแม่ เพราะแม่....คลอดลูกแฝดที่เป็นหญิงออกมา ฮือ....ฮือ....เพราะแม่ไม่ดีเอง เพราะแม่มีลูกแฝด....ถือเป็นกาลกิณี ฮือ.... ฮือ....”

“เสด็จแม่ ฮือ....หลายปีนี้ เสด็จแม่คงจะเสียพระทัย ฮือ ๆ แล้วตอนหลังคู่แฝดของหม่อมฉันไปอยู่ไหนแล้วเพคะ”

“เสียชีวิตไป....พอเกิดมาก็อายุสั้น.... ส่วนแม่ก็บอกใครไม่ได้เลยต้องปิดไว้”

“ใช่ น่าจะเป็นอย่างนั้น”

“ฉะนั้นนี่ไม่ใช่ความผิดของเจ้า ต่อไปห้ามคิดเหลวไหลและอย่าทำโง่ ๆ ด้วย เข้าใจหรือเปล่า”

“แล้วเด็กคนนั้น เกิดทีหลังหม่อมฉันหรือเพคะ”

“ใช่ ฮือ....นางเกิดมา....ตามหลังเจ้าช้ากว่านิดนึง”

“แล้วเป็นเด็กผู้ชาย หรือว่า....เป็นเด็กผู้หญิงเพคะ”

“นางมีปานที่หลังหูเหมือนเจ้าไม่มีผิด นางก็เหมือนเจ้า เป็นเด็กผู้หญิง....เด็กผู้หญิงที่น่ารักมาก ฮือ...”

“คู่แฝดของข้า ไม่ใช่ผู้ชาย น้องที่เกิดทีหลังข้า ไม่ใช่ผู้ชาย เป็นไปได้ยังไง....ทำไมถึงมีเรื่องแบบนี้ หรือว่าเสด็จแม่ทรงพูดเท็จกับเรา หรือว่า....” ชอนมยองคิด เมื่อออกมา นางในก็เข้ามารายงานว่าท่านมีชิลมาที่นี่ จึงสั่งให้เชิญนางเข้ามาได้

“นี่ก็ดึกมากแล้วมาพบข้าทำไมอีก”

“เพคะ ต้องขออภัยที่มาเฝ้ากลางดึก”

“ไม่เป็นไร เชิญนั่งก่อน”

“หม่อมฉันได้เขียนภาพภาพหนึ่ง ตั้งใจจะถวายให้องค์หญิง พอเสร็จแล้วก็รีบนำมาไม่ทันคิดว่าเป็นการรบกวน”

“ภาพเขียนหรือ”

“เอาเข้ามาซิ เป็นพระรูปของพระเจ้าจินฮึงในวัยหนุ่มเพคะ ฝีมือไม่สู้ดีนัก ต้องขออภัยด้วย”

“ไม่หรอก เป็นผลงานที่สวยมาก คงต้องใช้เวลาไม่น้อยสินะ”

“เพคะ ขณะที่องค์หญิงทรงยุ่งกับเรื่อง ดอกเหมยแห่งซาตาฮัม หม่อมฉันก็นั่งเขียนภาพนี้จนออกมาอย่างที่เห็น”

“แล้วที่มาให้ข้า มีเหตุผลอะไรหรือเปล่า”

“เพราะองค์หญิงไม่เคยรู้จักพระเจ้าจินฮึง หม่อมฉันจึงนำภาพเขียนมาให้ทอดพระเนตร....เราต้องมีคนที่เก่ง ถึงจะเป็นผู้นำโลกนี้ได้” มีชิลกล่าว

“เป็นรับสั่งของพระเจ้าจินฮึงใช่ไหม”

“ใช่ ถ้าอยากได้คนเก่ง เราก็ต้องเสนอในสิ่งที่เขาพอใจ หรือไม่ก็ด้วยวิธีข่มขู่ให้เกิดความยำเกรง”

“แล้วไงอีก”

“คิมยูชินกับต๊อกมัน คือคนที่ประกาศตัวว่าเป็นฝ่ายองค์หญิง พวกเขาต้องการอะไรบ้าง หรือกลัวต่อสิ่งใด องค์หญิงเคยรู้บ้างมั้ย.... ถึงเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่มีแวว แต่ยังอ่อนประสบการณ์ คนเก่งแต่ได้นายที่ไม่รู้จักใช้งาน มันก็น่าเสียดาย จริงมั้ยเพคะ”

“หึ....ดูเหมือนท่านจะสนใจพวกเขามาก ใช่หรือเปล่า....ทั้งคำพูดของท่านและรับสั่งของพระเจ้าจินฮึง ข้าจะจำใส่ใจไว้ นี่ก็ดึกมากแล้ว เชิญท่านไปพักผ่อนดีกว่า”

“เพคะ งั้นหม่อมฉันทูลลา”

“ท่านอย่าเพิ่งไป....นั่นคือมีดพก....ของพระเจ้าจินฮึงงั้นหรือ”

“ใช่ องค์หญิงไม่เคยเห็นหรือเพคะ สมัยก่อนเคยช่วยพระเจ้าจินฮึง อีกทั้งเคยช่วยชีวิตองค์หญิงตั้งแต่ยังไม่ประสูติ”

“หา....”

ต๊อกมันกลับมาที่พักอย่างสับสน คิดว่าพระเจ้าจินพยองส่งคนไปฆ่าตน ส่วนจะบอกกับองค์หญิงชอนมยองก็ไม่ไว้วางใจ แล้วคิมยูชินละ จะไว้ใจได้หรือไม่ ควรจะทำอย่างไรดี ด้านองค์หญิงชอนมยองก็สับสนเช่นกัน สงสัยว่ามีดพกเล่มนั้นไปอยู่ที่ต๊อกมันได้อย่างไร หรือว่าต๊อกมันมีอะไรปิดบังตนอยู่

องค์หญิงชอนมยอง เสด็จมาจะพบกับคิมยูชิน แต่เห็นว่ากำลังฝึกวิชาอยู่ จึงไปที่เชิงเขาเพื่อดื่มน้ำ ก็บังเอิญได้พบกับต๊อกมัน

“เจ้ามานี่ เพื่อจะพบท่านยูชินใช่ไหม.... เจ้าไปที่อื่นก่อน เราสองคน....กลับมาคุยในฐานะเพื่อนอย่างเก่าได้มั้ย”

“อย่าเลยพ่ะย่ะค่ะ เดี๋ยวจะเคยตัวจนเป็นนิสัย หม่อมฉันเป็นแค่องครักษ์....ไม่ทราบมีอะไรจะใช้หม่อมฉัน”

“ช่างเถอะ ข้ามีเรื่องจะถามเจ้ามากกว่า”

“ได้ เชิญรับสั่งมาได้”

“เจ้ามีอะไร....ปิดบังข้าอยู่หรือเปล่า.... ถ้ามีอะไรปิดบังข้าจริง ขอแค่พูดออกมาก็พอ ข้าจะไม่ตำหนิเจ้า ขอถามอีกครั้ง เจ้ามีเรื่องอะไร ปิดข้าหรือเปล่า”

“ไม่มีพ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉัน....ไม่มีอะไรปิดบัง”

“แน่ใจนะว่า ไม่มีจริง ๆ น่ะ”

“พ่ะย่ะค่ะ”

อึลเจสั่งอิมจง ให้ไปกำชับลูกน้องให้ปิดเรื่องงานที่ทำเมื่อคืนอย่าให้ใครรู้ อัลชอนสงสัยว่าคนที่ให้ไปจับเมื่อคืนไปทำอะไรมา อึลเจบอกว่าเป็นคนที่จะทำให้รากฐานบ้านเมืองเราสั่นคลอนได้

ตอนที่ต๊อกมันให้จุ๊กบังและโคโตแอบเอาฎีกาไปวางนั้น ได้สั่งให้ทั้งสองห้ามหยิบของมีค่าติดมือมา แต่จุ๊กบังไม่เชื่อ แอบขโมยรูปปั้นหยกมาด้วย และคิดที่จะเอาไปขายเพื่อแลกเงิน เมื่ออึลเจรู้ว่ารูปปั้นหยกในตำหนักหายไปก็สั่งให้ลูกน้องออกตามหา

โพจงรู้ว่าอัลชอนกับอิมจงพาทหารไปตามจับขโมย ก็บอกให้มีชิลรู้ มีชิลคิดว่าคนที่เข้าไปขโมยต้องเป็นโจรที่เสียสติที่เอาแค่รูปปั้นอย่างเดียว จึงคิดว่าจะต้องเข้าไปเพื่อเอาของวางเพิ่ม ซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องฎีกา หรืออาจจะมีอะไรถวายให้ฝ่าบาททอดพระเนตรก็ได้ ท่าทางจะไม่ใช่โจรธรรมดา จึงสั่งให้โพจงไปสืบดู

องค์หญิงชอนมยองเปลี่ยนใจจะเดินทางกลับไม่รอพบคิมยูชิน แต่ระหว่างนั้นคิมยูชิน ก็เดินเข้ามาพบพอดี

“องค์หญิง....หึ....ทำไมเสด็จมานี่ได้”

“เห็นความตั้งใจในการฝึกของท่าน ทำให้ข้านึกถึง....สมัยก่อนตอนเจอครั้งแรกที่เมืองมานโน....ถ้าให้เปรียบเทียบตอนไหนจะดีกว่า เมื่อก่อนดีกว่า หรือตอนนี้ดีกว่า....ไม่ต้องมีภาระมากมาย ไม่ต้องรับรู้เรื่องวุ่นวาย มีหน้าที่แค่ฝึกซ้อมไปวัน ๆ เชื่อมั่นในความคิดตัวเอง รวมถึงเชื่อมั่นในคนของท่าน แค่นี้ก็พอแล้ว ท่านชอบตอนนั้นใช่ไหม”

“จนเดี๋ยวนี้ก็ยังเหมือนก่อน หม่อมฉันเชื่อมั่นตัวเอง เชื่อมั่นในองครักษ์ที่อยู่กับหม่อมฉันทุกคน”

“อย่างงั้นหรือ แต่ว่าข้ากลับคิดถึงอดีตมากกว่า”

“มีอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ”

“ท่าน....เคยเกิดความระแวงต่อคนที่เชื่อมั่นหรือเปล่า”

“หม่อมฉัน....ถ้าระแวงก็จะไม่เชื่อใคร ถ้าเชื่อแล้วก็จะไม่ระแวงเขาอีก”

“อย่างงั้นหรอกหรือ”

อัลชอนเดินทางมาหาคิมยูชิน เล่าว่าวันก่อนตนเองได้รับคำสั่งใต้เท้าอึลเจ ให้ไปจับคนร้ายที่ทำความผิดมหันต์คนหนึ่ง ที่เข้าไปในตำหนักแทวายุ่งกับเรื่องฎีกา

“ยุ่งกับเรื่องฎีกา ทำเพื่ออะไรน่ะ” คิมยูชินถาม

“ข้าไม่รู้สาเหตุ อยากให้ท่านไปถามเขาเอง”

“หึ.....หมายความว่าไง”

“นั่นเป็น....ฝีมือคนของท่านชื่อต๊อกมัน” อัลชอนกล่าว

“ท่านพูดอะไร เขาจะทำอย่างนั้นทำไม.... ข้าว่าน่าจะถูกใส่ร้ายมากกว่า” คิมยูชินกล่าว

“ท่านยูชิน ข้าเป็นคนจับเขาได้คาหนังคาเขา....แต่สุดท้ายก็ปล่อยเขาไป”

“เฮ้อ....”

“คิดอยู่นานว่าจะทำไง แต่บอกท่านดีกว่า เพราะเป็นคนของท่าน เชิญไปจัดการเองเถอะ”

อิมจงสืบจนพบพ่อค้าที่รับซื้อรูปปั้นหยก จึงรู้ว่ามีองครักษ์สองคนนำไปขายโดยแลกกับยาเพิ่มกำลัง จึงรีบกลับมารายงานให้ใต้เท้าอึลเจรู้ จากนั้นจึงมีการเรียกประชุมองครักษ์ทั้งหมดแล้วทำการตรวจค้นและสั่งให้ถอดเสื้อผ้า ต๊อกมันรู้สึกกังวลใจมาก หากจะต้องทำตามคำสั่งความลับก็จะถูกเปิดเผยออกมา

ข่าวเรื่ององครักษ์ถูกตรวจค้นรู้ไปถึงพระเจ้าจินพยอง จึงรับสั่งว่าจะเสด็จไปที่ตำหนักแทวา ระหว่างนั้นการตรวจองครักษ์ก็มาถึงกลุ่มของต๊อกมัน แต่ต๊อกมันไม่ยอมถอดเสื้อผ้าออกเหมือนคนอื่น ๆ จึงถูกต่อว่า พอดีกับที่ทหารคนหนึ่งวิ่งเข้ามาบอกใต้เท้าอึลเจว่าฝ่าบาทกริ้วและรับสั่งให้ไปเข้าเฝ้าที่ตำหนักแทวาเดี๋ยวนี้

ระหว่างที่พระเจ้าจินพยองประทับรอที่ตำหนักแทวานั้น โซฮวาก็เดินออกมาอย่างคนไม่ได้สติ พระเจ้าจินพยองจึงตรัสถามว่าเป็นคนของตำหนักเทพหรือไม่ ธิดาเทพจึงทูลว่า นางเป็นคนของตำหนักเทพที่สติไม่ค่อยดีนัก จะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก ด้านอึลเจเห็นจึงคิดว่าโซฮวาเป็นคนที่เก็บมีดพกไว้ รวมถึงเป็นผู้นำฎีกามาวาง

“ผู้หญิงคนนั้นคือโซฮวาจริง ๆ เรื่องเป็นมายังไงแน่ ฝ่าบาทไม่ได้ทรงประหารนางหรอกหรือ ฝ่าบาท ถึงขั้นนี้แล้วอย่าทรงปิดหม่อมฉันอีกเลย ทรงวางพระทัยและตรัสความจริงเถอะ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ และทำไมโซฮวายังมีชีวิตอยู่อีก”

“หึ....ตอนนี้ต้องรีบให้โซฮวากลับมาก่อน นางไปอยู่กับธิดาเทพได้ยังไง นั่นเท่ากับอยู่ในมือมีชิลเชียวนะ ท่านรู้หรือเปล่า”

“ฝ่าบาท อย่าทรงวู่วามนัก ตอนนี้สำคัญคือสืบให้รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องซะก่อน”

“หึ....เฮ้อ....”

“ตามหลักแล้ว กริชซอยอพโดน่าจะอยู่กับโซฮวาไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ หรือไม่งั้น ก็อาจไปอยู่กับมีชิล หม่อมฉันคิดว่า ไม่แน่ป่านนี้ มีดสั้นอาจจะอยู่กับมีชิลก็เป็นได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้น บอกความจริงให้หม่อมฉันรู้เถอะ ว่าสมัยก่อนทรงจัดการกับโซฮวายังไง”

“ฝ่าบาท” ยงชุนเข้ามา

“มีธุระอะไร” อึลเจถาม

“ธิดาเทพพาผู้หญิงคนนั้นเข้าไปในตำหนักอย่างรวดเร็ว....ไม่ทราบว่า นาง....เป็นใครหรือครับ....แล้วตอนนี้องครักษ์ที่ยังอยู่ในลานฝึก...”

“เรื่องตรวจสอบองครักษ์คงไม่สำคัญอีกแล้ว ปล่อยพวกเขาไปเถอะ” อึลเจกล่าว

ชิลซุกโกหกธิดาเทพและมีชิลว่าโซฮวา มีชื่อว่า “ชองยิน”

“งั้นหรือ ชองยิน ไต้ซือวอลชอนบอกว่านางเป็นโรคตรอมใจชนิดหนึ่ง นอกจากกินยาแล้วยังต้องใช้เวลาบรรเทา....เราจะค่อย ๆ รักษานางให้หาย เจ้าไม่ต้องห่วงหรอกนะ”

“ครับ”

“ยังดีที่ว่าตาของชิลซุก ค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับจริง ๆ เฮ้อ ๆ ๆ วิชาการแพทย์ของไต้ซือวอลชอนช่างน่าทึ่งนัก” ธิดาเทพกล่าว

“ชิลซุก....ตั้งแต่กลับมาก็พูดเท็จตลอด” มีชิลกล่าว

“อะไรนะคะ”

“รู้มั้ยว่ามีเซ็งอยู่ไหน เชิญเขามานี่หน่อย ข้ามีเรื่องจะถาม”

การค้นตัวองครักษ์ยุติลง ทหารจึงเอาของที่ยึดจากองครักษ์มาคืนให้ทุกคน และได้ฝากกล่องใส่ของของต๊อกมันให้จุ๊กบังเอาไปคืนให้

“ค่อย ๆ เดินนะครับ....เอ๊ะ....นี่มันของต๊อกมันนี่นา” โคโตกล่าว

“นี่อะไร” แทพุงถามเมื่อเห็นผ้าซับเลือดในกล่อง

“ไว้พันหน้าแข้งหรือเปล่า” กุกซอนกล่าว

“แต่....ข้าว่ามันคือ....” แทพุงกล่าว

“จริงด้วย พี่สาวข้าก็มีของแบบนี้ไว้ใช้” กุกซอนกล่าว

“ถ้ามันใช่จริงละก็....ทำไมมาอยู่นี่ได้” โคโตกล่าว

“เดี๊ยว...” จุ๊กบังตะโกน แล้วคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาในอดีตที่ได้คลุกคลีกับต๊อกมัน และคำสั่งที่ให้ถอดเสื้อผ้า

“ตกใจหมดเลย เฮ้ย....” โคโตกล่าว

“เฮอะ....ข้านี่ช่างโง่จริง ๆ” จุ๊กบังกล่าว

“โง่อะไรอีกล่ะ” โคโตถาม

“ฮ้า....อดีตเสือผู้หญิงผ่านมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ เสียยี่ห้อจุ๊กบังซะหมด ไม่น่าเชื่อ” จุ๊กบังกล่าว

“พูดอะไรน่ะ” กุกซอนกล่าว



เครดิต: //www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=414&contentID=64020


Create Date : 06 พฤษภาคม 2553
Last Update : 6 พฤษภาคม 2553 13:11:51 น. 2 comments
Counter : 561 Pageviews.

 



HBD ย้อนหลังให้อัลชอนรังด้วยนะคะ วันที่ 5 พฤษภาคม

ถึงอัลชอนรังจะเก่งสู้ยูชินรังไม่ได้
แต่เวลาออกมาก็ได้ใจคนดูทุกที
เรียกเพฮาแต่ละที เค้นเสียงมั่ก ๆ เลยนะท่าน

ขอบคุณภาพปลากรอบ
จากบ้านอัลชอนรัง ณ 1000ทิปค่า



โดย: Kitsunegari วันที่: 6 พฤษภาคม 2553 เวลา:12:20:03 น.  

 



แถมภาพเจ้าตัวแสบพีดัมแบบการ์ตูน น่ารักคอด ๆ



โดย: Kitsunegari วันที่: 6 พฤษภาคม 2553 เวลา:12:22:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Kitsunegari
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





"One Ring to Show Our Love...
One Ring to Bind Us...
One Ring to Seal Our Love...
And Forever to Entwine Us..."

สมาชิกสภาขาว
Friends' blogs
[Add Kitsunegari's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.