Pulau Langkawi เกาะแห่งตำนาน (ตอนที่ 2)
วันนี้ตื่นแต่เช้า ลงมาทานอาหารบุฟเฟ่ตั้งแต่ไก่โห่ เจ็ดโมงเช้าที่นี่ท้องฟ้ายังมืดมิดอยู่เลยค่ะ พระอาทิตย์จะขึ้นก็ประมาณเจ็ดโมงครี่งแหนะ (ซึ่งก็คือหกโมงครึ่งบ้านเรา – เวลาที่นี่จะเร็วกว่าเมืองไทยหนึ่งชั่วโมง)

อาหารเช้าบุฟเฟ่ที่นี่เหมือนกันทุกวัน มี Nasi Lemak ก๋วยเตื๋ยวผัด ไข่เจียว ไข่ดาว Teh Tarik (ชาที่โยนไปโยนมาน่ะค่ะ) และข้าวต้ม ไม่ค่อยอร่อยมากนักแต่ก็พอกินได้ค่ะ



เรือที่ไปสะอาดสะอ้านและใหญ่ดีค่ะ มีที่นั่งด้านล่างติดแอร์ แล้วมีส่วน sun deck ข้างบน คนส่วนใหญ่หนีไปนั่งข้างบนกันหมด เราก็นั่งเรือไปเรื่อย ๆ ประมาณสองชั่วโมงได้ก็ถึงเกาะแห่งหนึ่ง ซึ่งก็คือ Pulau Payar นั่นเอง

ที่นี่เป็นเกาะที่พนักงานเค้าว่าเป็น Marine Park แห่งแรกของมาเลเซีย ปลาและปะการังค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ และตามโบรชัวร์ที่โน่นจะใช้คำว่า ‘The most beautiful coral in Asia’ ตลอดเลย แต่ก็สวยจริง ๆ แหละ (ไม่รู้ว่าสวยกว่าทางภาคใต้บ้านเราหรือเปล่า อันนี้ต้องไปพิสูจน์)

คราวนี้ซื้อเป็นทริปที่ราคาอยู่ที่ 150 RM แต่จริง ๆ จะมีอีกแบบซึ่งแพงกว่าเยอะในราคา 240 RM ซึ่งจะรวม platform กลางทะเลให้ซึ่งจะเป็นเรือท้องกระจกสามารถดูปลาว่ายไปมาได้เลย



ส่วนแบบถูกกว่าที่เราซื้อนั้นต้องอยู่บนเกาะ แล้วก็กระโดดตูมไปดูเอาเอง แต่เราว่าไม่เห็นต้องซื้อเป็นแบบแพงเพื่อไปอยู่บนเรือแบบนั้นเลย ปลาที่นี่เยอะมาก ๆ แค่เดินตามชายหาดก็เห็นเต็มไปหมดแล้ว แม้กระทั่ง baby reef shark ก็สามารถเห็นได้ที่ชายหาด พนักงานบอกว่าถ้าไปไกลหน่อยสามารถจะเห็นตัวใหญ่ได้เลย



จริง ๆ แล้วเป็นคนที่กลัวปลามาก ๆ ค่ะ เวลา snorkel นี่ยิ่งเป็นว่ายหนีปลาซะมากกว่า แต่พอยิ่งเห็นปลาที่นี่ใจก็ยิ่งสั่น แต่ไหน ๆ ก็อุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลมาอีกประเทศนึงขนาดนี้ คงต้องลองเสี่ยงดูซักตั้ง

แต่พอตัดใจลองกระโดดตูม และเห็นปลาสีสันสดใส ก็ค่อย ๆ ตั้งสติได้ และก็ความกลัวก็ค่อย ๆ ลดลง แต่ยังไม่หายนะ เพราะพอเข้าไปในฝูงปลาก็กรี๊ดดัง ๆ ทุกครั้ง ดีที่อยู่ใต้น้ำ หวังว่าคนข้างบนคงไม่ได้ยิน เฮ้อ...



ที่นี่พอลงไปน้ำลึกนิดหน่อยก็สามารถเห็น grouper ตัวใหญ่เป็นเมตรได้ โห.. ตื่นเต้นมาก ๆ ขอยอมรับเลยว่าที่นี่สมบูรณ์มาก ๆ ถ้าใครรักการ snorkel คงมีความสุขสุด ๆ น้ำก็อุ่นสบาย อยู่ข้างบนยังหนาวกว่าการหวากว่ายท่ามกลางแสงแดดและฝูงปลา สุขสุด ๆ



ตอนกลางวันเค้าก็เรียกไปกินข้าวกลางวัน เป็นอาหารแพ็คจริง ๆ มีแอปเปิลหนึ่งลูก ไส้กรอกสักสามสี่ชิ้น พีนัทแครกเกอร์ ไก่สองชิ้น และขนมปังอีกหนึ่งอัน อาหารแพ็คเมืองไทยยังอร่อยกว่าอีก



ที่นี่เค้าจะไม่จัดเป็นตารางว่าต้องทำอะไรค่ะ อยากทำอะไรก็ทำ จริง ๆ จะกินตอนไหนก็ได้แล้วแต่ แค่เดินไปเบิกอาหารมา กิจกรรมบนเกาะก็แล้วแต่ความถนัด



บางคนก็เดินถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ (อย่างเราเป็นต้น) หรืออย่างกลุ่มนี้



จะลองปีนเขาก็ได้ ได้มุมสูงดี



อากาศที่นี่ค่อนข้างเย็นสบายซะเป็นส่วนใหญ่ค่ะ ลมแรง แดดจัด แต่ไม่อบอ้าว



พอตอนเย็นกลับมาถึงโรงแรมก็โทรเรียกเอเจ็นท์เพื่อขอเช่ารถ (เค้าให้นามบัตรตั้งแต่ตอนมาถึงค่ะ) โดยจะเช่ารถตั้งแต่วันนี้แล้วไปคืนเมื่อเที่ยงวันของวันสุดท้าย ในราคา 100 RM ไม่มีการมัดจำค่ะ น้ำมันที่ให้มาสามารถขับไปเที่ยวที่ Pantai Cenang ได้ ซึ่งเป็นหาดที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงทีเดียวเทียบได้กับหาดเฉวงบ้านเรา
ป.ล. Pantai คือหาดค่ะ



ขับรถตามทางไปเรื่อย ๆ ก็เจอร้าน Rasa เป็นอาหารมาเลย์ สิ่งแรกที่ต้องทานคือสะเต๊ะค่ะ ชอบมาก ๆ





หลังจากทานอาหารเย็นแล้วก็ขับไปเติมน้ำมัน โดยเติมที่ 30 RM ก็สามารถขับตลอดทั้งทริปโดยที่น้ำมันยังไม่หมดเลย เติมน้ำมันที่นี่ก็อย่างที่น้องยุ่งฯ บอกคือ ต้องเติมเอง แต่อีกเรื่องที่อยากจะบอกคือ ต้องไปจ่ายเงินที่เค้าน์เตอร์ก่อน ถึงจะไปเติมน้ำมันได้นะจ๊ะ วันนี้ก็หมดไปอีกวันสำหรับเกาะลังกาวีอันแสนสงบ




Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2550 12:15:18 น.
Counter : 1044 Pageviews.

5 comments
  
รูปสวยจังเลยค่ะ เห็นสะเต๊ะแล้วน้ำลายไหล แฮ่ๆๆ
โดย: .. SaltSweet .. IP: 124.121.58.83 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:40:53 น.
  
สวยจังเลยค่า
โดย: นังนู๋วา IP: 58.8.9.215 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:54:08 น.
  
ขอบคุณที่เข้ามาค่า
โดย: Gorgeous Girl วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:21:59:37 น.
  
Checked in
โดย: ด.ญ คณิตกร วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:0:25:53 น.
  
โดย: Gorgeous Girl วันที่: 26 ตุลาคม 2550 เวลา:23:51:36 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Gorgeous Girl
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



New Comments
กุมภาพันธ์ 2550

 
 
 
 
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
 
 
  •  Bloggang.com