A Journey Of A Thousand Miles Must Begin With A Single Step!!
|
|||||
South Africa - Moments in Joburg เมื่อฮั้วได้มีโอกาสไปทำงาน ณ ประเทศแอฟริกาใต้ ในใจตอนแรกก็ดีใจอยู่หรอกที่จะได้ไปเที่ยวประเทศที่สวยงาม Cradle of Life... แต่เมื่อได้ยินคำเตือนจากทั้งเพื่อนร่วมงานและนาย ก็อดประหวั่นพรั่นพรึงถึงภัยอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อต้องเดินทางไปทำงานคนเดียว สาธารณรัฐแอฟริกาใต้เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ใต้สุดของทวีปแอฟริกา เป็นดินแดนที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล ซึ่งมีเนื้อที่ทั้งหมดราวหนึ่งล้านสองแสนตารางกิโลเมตร โดยที่ประชากรทั้งหมดมีเพียงแค่สี่สิบกว่าล้านคนเท่านั้น ผู้คนที่นี่ประกอบด้วยคนจากหลากหลายเชื้อชาติและผิวสี มีทั้งคนขาวที่อพยพมากันตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายซึ่งส่วนมากจะเป็นเชื้อสายดัตช์ แต่ปัจจุบันมีทั้งชาวดัตช์ เยอรมัน ฝรั่งเศส และอังกฤษปะปนกันอาศัยอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นประชาชนผิวขาวก็มีแค่ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมด คนส่วนใหญ่ยังเป็นคนแอฟริกันผิวดำ ซึ่งมาจากหลากหลายเผ่าพื้นเมือง รู้มั๊ยว่าประเทศนี้ไม่ได้มีแค่ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการเท่านั้นนะ หลังจากได้คุยกับลูกค้า เค้าบอกว่าที่นี่มีหลายภาษามาก ถึงขนาดที่เจ้าบ้านเองยังจำไม่ได้เลยว่ามีภาษาอะไรบ้าง แต่ฮั้วก็ไปสืบค้นมาเรียบร้อยแล้วว่า มีภาษาแอฟริกัน (Afrikaans) ภาษาอังกฤษ (English) ภาษาซูลู (Zulu) ภาษาโชซา (Xhosa) ภาษาสวาติ (Swati) ภาษาโซโท (Sotho) ภาษาสวานา (Tswana) ภาษาเอนเดเบลี (Nedebele) แต่ถึงแม้จะมีหลากหลายภาษาเช่นนี้ ภาษาหลัก ๆ ที่ใช้ตามเมืองใหญ่ ๆ หรือป้ายตามที่ต่าง ๆ ก็มักจะมีทั้งภาษาแอฟริกันและภาษาอังกฤษควบคู่กัน ลูกค้าบอกว่าภาษาแอฟริกันจะเป็นภาษาที่ค่อนข้างประหลาดซักนิดนึง คือ ถ้าเป็นคำสองคำมาประกอบกัน อย่างเช่น Table Mountain ในภาษาอังกฤษ .. ภาษาแอฟริกัน (หรือแอฟริคาน.. แบบมี accent นิ๊ดนึง) นั้นจะเขียนติดกันเป็นคำยาวไปเลย..Tafelberg .. ส่วนประโยคก็จะไม่มีการเว้นวรรค จะเป็นประโยคยาวพรึ๊ดประโยคเดียว แถมสำเนียงก็ฟังแสนยาก และท่าทางเหนื่อยมากในการพูด เพราะจะใช้ลมผ่านลำคอออกมาเป็นเสียงค่อนข้างมาก การรัวลิ้นก็ยิ่งกว่าตัว ร บ้านเราอีก เค้าพยายามจะสอนให้ฮั้วพูด .. เอ่อ ก็สุดแสนจะลำบาก การเดินทางอันแสนยาวนานจากสิงคโปร์ตั้ง 11 ชั่วโมงก็สิ้นสุดลงลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติ OR Tamboณ เมือง Johannesburg ซึ่งเป็นศูนย์กลางธุรกิจของแอฟริกาใต้ สนามบินนี้เรียกได้ว่าเป็น Hub ของทวีปนี้เลยทีเดียว ใครจะเดินทางมาที่แอฟริกาก็มักจะต้องผ่านที่นี่เพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองต่าง ๆ ในประเทศแอฟริกาใต้หรือประเทศอื่น ๆ ในทวีปแอฟริกา Johannesburg มีคำเรียกสั้น ๆ ว่า Joburg โจเบิร์ก และชาวเมือง Joburg ก็เรียกเมืองของเค้าว่า Josie .. ตอนแรกฮั้วคิดว่าเมืองนี้เป็นเมืองหลวงของที่นี่ซะอีก แต่จริง ๆ แล้วเมืองหลวงมีถึง 3 เมืองด้วยกัน คือ เมืองพริทอเรีย (Pretoria) ซึ่งเป็นฝ่ายบริหาร เมืองเคปทาวน์ (Cape Town) ซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ และเมืองโบเอมฟอนเทน (Bloemfontein) เป็นฝ่ายตุลาการ ป.ล. fontein (ฟอนเทน) แปลว่า น้ำพุ ลูกค้าว่าจ้างคนขับรถของบริษัทเช่ารถแห่งหนึ่งให้มารับเราที่สนามบิน พอเดินออกมาก็เจอดีเลย เพราะพ่อตัวดียังไม่มา ง่วงก็ง่วง เหนื่อยก็เหนื่อย ยังต้องมาตามหาพ่อคนขับรถอีก ฮั้วก็ต้องโทรไปตามเบอร์ที่มีใน voucher กับเจ้าหน้าที่ที่จองรถให้.. กลับกลายเป็นว่าเธอไม่รู้เรื่องเลย แถมบอกให้ฮั้วไปเดินหาเคาน์เตอร์ Budget เอาเอง.. เลยต้องถามคนแถวนั้นว่าไอ้เคาน์เตอร์นั่นอ่ะอยู่ตรงไหน .. พี่แกบอกว่าอยู่ชั้นสอง .. พอเดินขึ้นก็เอะใจ ว่าชั้นสองมันเป็นขาออก บริษัท Budget (เช่ารถ) จะมาอยู่ขาออกได้ยังไง.. เลยต้องฝ่าฝูงชนลงมาตามหาอีก ในใจก็กลัวนะ เพราะเต็มไปด้วยแอฟริกันผิวดำ ตัวใหญ่ ๆ แต่ละคนก็มองฮั้วด้วยสายตาแปลกประหลาด บางพวกก็ตรงเข้ามาหมายจะลากกระเป๋า หรือชวนคุย (ประมาณให้ไปกับแท็กซี่เค้า) .. แต่ในที่สุดก็เดินวกกลับตรงพวกที่ถือป้ายรับคนอีกที ก็เจอพ่อตัวดียืนถือป้ายชื่อฮั้วละ .. โล่งอกไปที พอพูดว่า.. เนื่ยหายูตั้งนาน ชั้นมาถึงตั้งยี่สิบนาทีแล้ว .. พี่แกบอก.. ถ้าวันหลังหาไม่เจอให้ไปหาที่เคาน์เตอร์ Budget เออ ไอ้นั่นแหละ ชั้นจะรู้มั๊ยอ่ะว่ามันอยู่ตรงไหน... ปรากฏว่าพวกบริษัทเช่ารถทั้งหลายตั้งอยู่อีกตึกนึงเลย เป็นตึกจอดรถโดยเฉพาะ... การจอดรถที่นี่จะได้รับเป็นบัตรจอดรถแล้วต้องไปจ่ายค่าจอดกับเครื่อง ไม่มีการใช้คนแบบบ้านเราเลย.. รถเช่าที่นี่ใช้ GPS ด้วยนะ.. หรูซะไม่มี.. แต่ตาคนขับหันกลับมาบอกว่าเค้าไม่รู้ว่าที่พักของฮั้วอยู่ตรงไหน... เออแฮะ.. เจอดีตั้งแต่วันแรกเลยเรา.. โรงแรมที่ฮั้วพักอยู่ในเขตเมืองมิดแรนด์ (Midrand) ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ระหว่างเมืองโจฮันเนสเบิร์กและพริทอเรีย ใช้เวลาเดินทางราวครึ่งชั่วโมงจากสนามบินโจฮันเนสเบิร์ก ที่พักที่นี่เป็นแบบ B&B ซึ่งตอนแรกก็งง อะไรคือ B&B การบริการที่พักแบบ B&B (Bed and Breakfast) หรือเรียกง่าย ๆ ว่าเกสต์เฮ้าส์นั้นเป็นรูปแบบของกิจการครอบครัว ประเภทบ้านคนมีตังค์ มีพื้นที่ เลยสร้างที่พักแบ่งเป็นหลาย ๆ ห้องให้เค้าเช่า ห้องพักจะมีห้องน้ำในตัว และมีให้บริการอาหารเช้า หรือบางที่ที่หรูขึ้นมาหน่อยก็มีบริการอาหารเย็นให้ด้วย ที่พักฮั้วชื่อว่า Khaya Africa Lodge ที่นี่มี host ชื่อว่า Liza เป็นสาวใหญ่แต่ยังสวย บ้านเธอตกแต่งสวยมาก สไตล์แอฟริกันมาก ๆ เลย มีเตาผิงในห้องรับแขก ห้องน้ำมีจากุชชี่ด้วย แต่หนาวขนาดนี้ (ตอนนั้นประมาณ 16 องศา กำลังย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ) ..ฮั้วคงไม่บ้าลงไปอาบหรอก ส่วนมากเจ้าของมักเป็นคนผิวขาว แต่คนรับใช้ (maid) ที่นี่จะเป็นหญิงแอฟริกันผิวดำเหมือนอย่างเช่นหนังฝรั่งย้อนยุคที่เราเห็นกันในทีวี.. ในใจแอบสงสารอยู่ลึก ๆ ว่าคนผิวดำเหล่านี้เป็นเจ้าของประเทศแท้ ๆ แต่กลับต้องมาทำงานหนัก ค่าแรงต่ำ คอยบริการพวกคนผิวขาวที่เข้ามารุกราน การให้บริการที่พักแบบ B&B นั้นไม่ได้ให้บริการเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างประเทศเท่านั้น แต่เป็นที่พักที่เป็นที่นิยมสำหรับนักธุรกิจชาวแอฟริกันเอง ผู้คนที่นี่จะเดินทางข้ามเมืองมาทำงานที่โจฮันเนสเบิร์กช่วงวันทำงานและเดินทางกลับบ้านช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ตอนอยู่ที่นี่ ก็โชคดีที่หนึ่งในลูกค้าเค้าก็พักที่นี่เหมือนกัน เค้าเล่าว่าที่ B&B นั้นมีราคาที่ถูกกว่าการพักตามโรงแรมและมีบรรยากาศแบบเป็นกันเองเหมือนอยู่บ้าน ทุก ๆ เช้า Liz จะคอยต้อนรับถามไถ่ว่าต้องการอาหารเช้าแบบไหน ต้องการกาแฟมั๊ย ชาชนิดไหนที่ฮั้วชอบ.. ปกติก็ไม่ค่อยได้กินอาหารเช้าหรอก แต่อยู่ที่นี่ก็ต้องกิน แถมเธอยังใจดีคอยเปลี่ยนรสชาให้ชิมอยู่บ่อย ๆ แขกทุกคนจะมานั่งกินอาหารเช้าร่วมโต๊ะกัน ระหว่างที่กินก็จะคุยกันเรื่องทั่ว ๆ ไป เรื่องกีฬา การงาน เล่าชีวิตของตัวเองจากเมืองต่าง ๆ .. บอกตรง ๆ ว่าค่อนข้างประหลาดใจ เพราะปกติจะพักตามโรงแรม บรรยากาศคุยกันโขมงโฉงเฉงยามเช้านี้ ไม่ค่อยคุ้นซะเลย.. ฮั้วต้องพักที่นี่นานสองสัปดาห์ ช่วงวันเสาร์อาทิตย์นั้นที่พักจะเงียบมาก เพราะทุกคนบินกลับบ้านกันหมดเลย แม้กระทั่งลูกค้าของฮั้วเอง เลยเป็นโอกาสอันดีที่ได้กินอาหารเช้าแบบสงบ ๆ .. แต่ Liz ก็ไม่เคยปล่อยให้ฮั้วนั่งเงียบ ๆ เลย .. คอยมาชวนคุยโน่นคุยนี่ ช่างเป็นเจ้าบ้านที่ดีจริง ๆ คงกลัวฮั้วจะเหงา.. ที่นี่ไม่มีอาหารกลางวันและอาหารเย็นบริการ เลยทำให้ต้องสั่งอาหาร delivery เข้ามากินเอง ค่าอาหารที่นี่ค่อนข้างแพง (เมื่อเทียบกับบ้านเรา) เมนูก็มีหลากหลายรวมกันเป็นเล่ม มีหลายร้าน หลายประเภทอาหาร แต่ที่เห็นหลัก ๆ คือ ไก่ .. ไก่ peri peri เป็นที่นิยมมาก .. แล้วเค้าจะสั่งแบบครึ่งตัว ทั้งตัว เห็นแล้วสยอง.. กินคนเดียว จะกินเข้าไปได้ยังไงครึ่งตัว .. ค่าส่งก็แสนแพง คิดค่าบริการตามระยะทาง บางทีค่าส่งนั้นราคาครึ่งหนึ่งของค่าอาหารเลยทีเดียว แต่ครั้นจะให้ออกไปกินข้างนอกก็ลำบาก เพราะว่าไม่มีรถ แถม Liz ก็บอกว่าไม่ควรออกไปข้างนอกคนเดียวเพราะค่อนข้างอันตราย.. จะเห็นได้จากรั้วบ้านของที่นี่ แทบทุกบ้านจะเป็นรั้วไฟฟ้า ป้องกันขโมย ..รั้วไฟฟ้าเป็นสิ่งจำเป็นที่เจ้าบ้านต้องติดตั้ง ไม่งั้นไม่สามารถทำประกันได้ล่ะ.. กุญแจห้องแต่ละห้องจะสามารถเปิดประตูใหญ่แบบอัตโนมัติได้.. Liz ก็อธิบายว่าเวลาเค้ามาส่งเค้าจะกดออดเรียกแบบประมาณบ้านเมืองนอก มีอินเตอร์คอมตรงประตูอะไรแบบนี้ พอเรารู้ว่าเป็นใคร ก็กดเปิดประตูให้เข้ามา แล้วต้องคอยเปิดประตูให้ออกไปอีก แล้วยูต้อง make sure ว่าประตูปิดก่อนนะ... พักที่นี่เลยได้บรรยากาศแปลกไปอีกแบบ วันแรกที่มาถึงที่นี่ รู้สึกเคว้งมาก ๆ .. เพราะบรรยากาศเงียบสงบบบบบบ.. ไม่มีกิจกรรมอะไรทำเลย นอกจากทีวีในห้อง ไม่มีอินเตอร์เน็ต บริเวณบ้านเป็นทุ่งหญ้า และก็มีหมาตัวเบ้อเริ่มสองตัว ตัวเล็กอีกสอง..(ที่คอยตามต้อย ๆ ๆ) แค่นี้เอง... ไม่มีแขกคนอื่นอยู่เลย รู้สึกเหมือนถูกปล่อยเกาะ เด็กที่โตมาในเมืองอย่างฮั้วไม่ถนัดกับอารมณ์เงียบ ๆ แบบนี้เลย.. แต่พออยู่นาน ๆ เข้า เริ่มติดใจแฮะ.. สงบดี อยากมีบ้านแบบนี้บ้างจัง วันนี้..ขอจบแค่นี้ก่อนนะคะ... ทริปนี้คงมีอีกหลายบล๊อค.. เพราะมีเรื่องที่เล่ามากมาย... อดทนกันหน่อยนะ (หลังจากผลัดวันประกันพรุ่งมานาน..ทริปนี้ก็คลอดซักที..เฮ้อ) งามจริงๆ ครับ
โดย: พนบ. วันที่: 29 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:53:12 น.
wellcome to JO"BURG kaa,จะอยู่อีกนานมั้ยค่ะ?
ที่นี่ดีค่ะมีเรื่องให้อ้ง ทึ่ง เสียวประจำ โดย: bellagallo วันที่: 29 พฤศจิกายน 2550 เวลา:22:00:43 น.
ขอตามมาเที่ยวด้วยคนครับ เรื่องเที่ยวๆ เนี้ยะขอให้บอก ไม่พลาดอยู่แล้ว เมื่อคืนก่อนไปดูคอนเสิร์ต Jenifer Kim กับ โก้ Mr.Saxman มาครับ เลยเก็บภาพมาฝากครับ คลิกที่รูปเพื่อตามมาดู Concert ด้วยกันครับ โดย: มิสเตอร์ฮอง วันที่: 29 พฤศจิกายน 2550 เวลา:22:36:07 น.
เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆเลยนะคะ
น้อยคนจะได้มีโอกาสไปประเทศแถบนี้ โดย: juandmee วันที่: 29 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:49:44 น.
ขอบคุณทุก ๆ คนที่เข้ามาเยี่ยมค่ะ
bellagallo - แหะ.. ดองไว้นานค่ะ กลับมาเมืองไทยแล้วค่ะ โดย: Gorgeous Girl วันที่: 30 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:59:16 น.
|
Gorgeous Girl
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
Group Blog All Blog
Friends Blog
|
||||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |