Mingalaba Myanmar
ทริปนี้เป็นทริปแรกที่ได้ไปเยือนพม่า โดยที่เรามีระยะเวลาแค่สามวันสามคืนเต็ม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สั้นมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากจะเที่ยวให้ทั่วพม่า แต่นับว่าเป็นระยะเวลาที่ค่อนข้างพอเหมาะสำหรับการเดินทางไปพบกับบรรยากาศที่แตกต่างไปจากประเทศไทยโดยสิ้นเชิง

ฮั้วอยากจะบอกว่า “พม่า” อาจจะเรียกได้ว่า “Truly Asia” หรือ “Truly East” อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุที่รัฐบาลยังปิดประเทศ ประเทศยากจน หรืออะไรก็แล้วแต่.. ประเทศนี้มีกลิ่นอายที่ยังคุกรุ่นอย่างเข้มข้นของความเป็นตะวันออกอย่างแท้จริง.. ลองอ่านประสบการณ์การเดินทางครั้งนี้ แล้วจะเข้าใจว่าทำไมฮั้วถึงคิดอย่างนี้ละกัน

การท่องเที่ยวครั้งนี้ได้ข้อมูลหลักมาจากสองที่ คือ ทริปของหมอยุ่งฯ (เจ้าเดิม) กับหนังสือ Lonely Planet

ข้อมูลหมอยุ่งฯ เป็นข้อมูลที่ละเอียดมากในแง่ของรายละเอียดการเดินทาง ราคา ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ การแลกเงิน และทิปต่าง ๆ ส่วนหนังสือ Lonely Planet ก็เป็นข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ต่าง ๆ เวลาเปิดปิด รวมไปถึงแผนที่ในแต่ละเขตต่าง ๆ รวมไปถึงมีแผนที่ในส่วนต่าง ๆ ของเมืองย่างกุ้งและแต่ละเมืองในพม่า

หลังจากเก็บข้อมูลและอ่านข้อมูลการเดินทางของคนอื่น ๆ ไปพักนึง แผนคร่าว ๆ จึงออกมาว่า เราจะไปเที่ยวย่างกุ้ง (อันนี้แน่นอนอยู่แล้ว) หงสาวดี สิเรียม และพระธาตุอินทร์แขวน.. แต่ก็มาตัดสินใจตัดพระธาตุอินทร์แขวนทิ้งไป เพราะคิดว่าคงเหนื่อยเกินไปสำหรับระยะเวลาแค่สามวัน

ครั้งนี้ก็อย่างเคย เราไปย่างกุ้งด้วยสายการบินแอร์เอเชีย (โปรย์ศูนย์บาท) ณ เวลาเช้าตรู่ 8.15 .. อย่างที่รู้ ๆ กันว่าเคาน์เตอร์แอร์เอเชียเปิดให้เช็คอินก่อนสองชั่วโมง เราจึงไปถึงกันตั้งแต่หกโมงเช้า... แต่ก็มีคนไปก่อนเรา.. เห็นกระเป๋าวางยาวและคนเริ่มเข้าคิวกันที่หน้าเคาน์เตอร์แล้ว มองไปมองมาฮั้วก็รู้ว่าเป็นพวกกรุ๊ปทัวร์แน่ ๆ เพราะมีคนถือพาสปอร์ตปึกเบ้อเริ่มเลย...

ระหว่างยืนเข้าคิว...ก็เซ็งจริง ๆ เลย อุตส่าห์มาเร็วแต่พวกไกด์เล่นมาจองที่ไว้ให้..พอลูกทัวร์มาก็เอาพาสปอร์ตมายื่นให้ สงสัยงานนี้ถ้าจะรอยาว... ยืนไปได้ซักพักก็เริ่มหาทางออก เห็นเคาน์เตอร์ข้าง ๆ ว่างอยู่เลยลองไปถามเพื่อความแน่ใจว่ามีกี่เคาน์เตอร์กันแน่ที่เปิดเช็คอินของย่างกุ้ง

เจ้าหน้าที่คนนั้นตอบมาว่า “เคาน์เตอร์นี้ของปีนังค่ะ”... ก็เลยถามกลับไปว่า “แล้วของย่างกุ้งมีแค่สองเคาน์เตอร์นี้เท่านั้นเหรอคะ”...นับว่าเป็นโชคดีอย่างที่สุด ที่น้องคนนั้นตอบว่า “มีผู้โดยสารกี่คนคะ”... ตอบกลับไปอย่างรวดเร็วว่า “สองคนค่ะ”... เค้าก็ถามว่ามีกระเป๋าจะโหลดหรือเปล่า... “ไม่มีค่ะ”... เหมือนเสียงสวรรค์มาโปรด น้องเค้าบอกว่า “งั้นขอพาสปอร์ตด้วยค่ะ”... โอ๊ย น้องคะ.. ไม่อยากจะบอกว่าน้องทำให้วันนี้ของพี่เป็นวันที่มีความสุขมาก ๆ ด้วยน้ำใจเล็ก ๆ ที่ยื่นให้..ขอบคุณมาก ๆ ๆ ๆ ค่ะ

สรุปก็คือ ฮั้วได้เช็คอินก่อนเวลาเคาน์เตอร์เปิดซะอีก (ประมาณห้านาที) รู้สึกดีใจเป็นที่สุด ไม่งั้นไม่รู้อีกครึ่งชั่วโมงจะถึงคิวฮั้วหรือเปล่าเลย... หลังจากนั้นก็ไปแลกเงินดอลล่าห์ที่เคาน์เตอร์ธนาคาร... เนื่องจากทำการประมาณมาคร่าว ๆ ว่าค่าใช้จ่ายจำเป็นต่าง ๆ ไม่น่าจะเกินคนละห้าพันบาท.. เราจึงแลกดอลล่าห์กันไปประมาณ 280 ดอลล่าห์ (@35 บาท)

ป.ล. แลกเงินดอลล่าห์ที่นี่พยายามขอเค้าเป็นแบ็งค์ใหม่ ๆ และแตกแบ็งค์ย่อย ๆ ไว้เยอะ ๆ เพราะที่นี่ (อย่างโรงแรม) จะไม่รับแบ็งที่ดูเก่าเลย และแตกแบ็งค์ย่อย (เช่น 10, 5, 1 ดอลล่าห์) ไว้ก็สะดวกกับการจ่ายเงินมาก.. เพราะที่พม่าจะไม่ทอนเงินดอลล่าห์ให้เรา จะทอนเป็นเงินพม่าแทน (ถึงแม้ว่าจะใช้ในโรงแรมก็เหอะ)..

พอไป immigration ก็เหมือนสวรรค์เปิดทาง ..ไม่มีคนเลย... ว้าว.. นับว่าเป็นการเริ่มทริปที่สวยงามมาก ๆ ๆ

ตัดข้ามช็อตมาที่เมื่อเครื่องบินแตะรันเวย์สนามบินย่างกุ้งดีกว่า... พอลงจากเครื่องบินก็มีรสบัสมารับ.. แต่สภาพรถบัสประมาณรถบขส.บ้านเรามาก.. แถมมีตัวหนังสือญี่ปุ่นอีกต่างหาก ยังนึกอยู่เลยว่า สงสัยมาผิดประเทศ.. แต่ไม่ใช่หรอก รถที่นี่เป็นรถมือสองจากญี่ปุ่นทั้งนั้นเลย อายุอานามน่าจะเกือบยี่สิบปีได้.. เก่ามาก ๆ

พอรถเคลื่อนมาส่งที่ทางเข้าหลักของอาคารขาเข้า.. ฮั้วก็จ้ำ ๆ ๆ ๆ เพื่อให้ไปถึง immigration .. เพราะลองคิดดูว่าไฟล์ทนี้ประมาณ 80% เป็นกรุ๊ปทัวร์ แล้วการตรวจคนจะวุ่นวายขนาดไหน..

ก็เป็นเรื่องโชคดีสามชั้นอีกที่ได้เข้าตรวจ immigration เป็นคิวแรก .. ประมาณเปิดบู๊ทเค้าเลยว่างั้นเถอะ.. เจ้าหน้าที่จะมีนั่งกันอยู่สองคนต่อเคาน์เตอร์ คนหนึ่งตรวจเอกสารวีซ่าที่แนบมากับพาสปอร์ต ดึงออก แล้วยื่นให้อีกคนหนึ่ง .. ซึ่งทำการปั๊มตราอย่างเดียว แล้วยื่นพาสปอร์ตส่งให้เรา.. หน้าตาเจ้าหน้าที่ที่นี่ไม่ได้หน้าตาดุดันเหมือนที่บ้านเราเลย.. ออกจะยิ้มแย้ม ทักทาย ดูเป็นกันเองซะด้วยซ้ำ

พอผ่านออกมา ก็ถึงคิวแท็กซี่.. เราตัดสินใจไปบู๊ทแท็กซี่เพื่อบอกชื่อโรงแรม (จากการเช็คราคามาก่อนหน้าที่ ค่าแท็กซี่เข้าเมืองจะอยู่ที่ USD4-6) เจ้าหน้าที่ประจำบู๊ทบอกว่าราคาอยู่ที่ USD6 .. สำหรับโรงแรม Grand Plaza Park Royal Hotel ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็น Grand Royal Hotel เรียบร้อยแล้ว

โรงแรมนี้ตั้งอยู่ใกล้สถานที่ต่าง ๆ เช่นตลาดสก๊อต มีห้างเล็ก ๆ อยู่ใกล้ ๆ เรียกได้ว่า ที่เลือกโรงแรมนี้ก็เพราะโลเกชั่นนั่นเอง แถมราคาก็ไม่แพงอยู่ที่ 1,700 บาทต่อคืน (สำหรับห้อง superior) และที่สำคัญจากการอ่านรีวิวจากที่ต่าง ๆ ที่นี่นับว่าดีมากกว่าราคาที่ตั้งไว้ซะด้วยซ้ำ

แต่สิ่งที่เรียกว่าตรึงใจมาก ๆ เมื่อแรกเห็น คือ คนที่นี่ใส่ผ้าถุง (Longyi – ลองกี) ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย คนเถ้าคนแก่ วัยรุ่น วัยทำงาน ..ผู้หญิงและเด็กมีแป้งแปะที่หน้า (ทานะคา – เปรียบเสมือนเป็น sunblock) แล้วตอนเช้า ๆ อย่างนี้ (ประมาณเก้าโมง.. เวลาที่พม่าช้ากว่าประเทศไทยครึ่งชั่วโมง) ผู้คนก็ไปทำงานพร้อมด้วยปิ่นโต.. ช่างเป็นการอยู่อย่างสมถะจริง ๆ



ระหว่างนั่งแท็กซี่ เราก็ถามถึงราคาที่จะจ้างไปหงสาวดี (Bago – บาโก) ว่าอยู่ที่ราคาเท่าไหร่ ถ้าเราจะจ้างทั้งวัน .. คนขับซึ่งก็อยากให้เราจ้างอยู่แล้ว ก็รีบยื่นนามบัตร พร้อม Guestbook ที่เต็มไปคอมเม้นท์มากมายจากชาติต่าง ๆ และบอกราคาว่าอยู่ที่ USD50 (ระยะเวลาตั้งแต่ 9.00 – 17.30 น.)…. จริง ๆ ราคาก็เกินไปจากที่ตั้งไว้นิดหน่อย (คิดว่าน่าจะอยู่ที่ USD40) แต่หลังจากอ่านคอมเม็นท์ซักพัก ก็ตัดสินใจว่าจ้างคนนี้แหละ..

หนึ่งด้วยเพราะเค้าพูดภาษาอังกฤษในเกณฑ์ดี และคอมเม้นท์แทบทั้งหมดก็บอกว่าเค้าไว้ใจได้ 100% จึงนัดแนะกันว่าเค้าจะมารับ 9.30 น. หลังจากที่เราเช็คอินและพักผ่อน (นิดหน่อย) แล้ว

หลังจากนั่งรถมาประมาณ 20 นาทีเราก็ถึงโรงแรม... พอเห็นห้อง ก็เรียกได้ว่าคุ้มจริง ๆ กับราคาที่จองมา (ซึ่งถ้าไม่ได้จองมาก่อน แล้วมา walk-in ที่นี่ โรงแรมในย่างกุ้งจะชาร์ทแพงมาก ๆ) มีอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างเท่าที่โรงแรมจะมีได้... เสียอย่างเดียว ไม่มีอินเทอร์เน็ตในห้อง...



พอคนขับ (Steven) มารับ..สิ่งแรกที่ต้องทำคือ แลกเงินจั๊ต (Kyat – จั๊ต) เรียกย่อ ๆ ว่า “K” .. เค้าก็แนะนำว่า.. ถูกแล้ว ที่เราไม่ได้แลกที่สนามบิน เพราะที่นี่ตามพวกสนามบิน ธนาคาร หรือสถานที่ที่รัฐบาลรับรอง จะมีเรทอ้างอิงที่ต่ำมาก ๆ ประมาณ USD1 = K400-500 เท่านั้น.. ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็จะไปแลกกันที่ตลาดมืดอยู่แล้ว

ป.ล. ส่วนมากทุกคนเขียน “จ๊าต” กัน.. อันนี้ฮั้วไม่เข้าใจเพราะจากที่ฟังคนพม่าพูด น่าจะเรียก “จั๊ต” มากกว่า เพราะเค้าออกเสียงสั้นมาก

ก่อนจะมาก็พอรู้อยู่ถึงวิธีการแลกเงินที่นี่ว่า จะมีคนมาถามอยู่เรื่อย ๆ ว่าจะแลกเงินไหม แล้วเค้าก็จะพาเราไปตามมุมมืดเพื่อแลกเงิน เพราะว่าเป็นสิ่งผิดกฏหมาย ในใจก็ออกจะกลัว ๆ เหมือนกัน.. เพราะว่าทำผิดกฏหมายที่ต่างประเทศ แถมเป็นพม่า.. ใคร ๆ ก็คงไม่อยากมีปัญหากันทั้งนั้น

แต่ดูเหมือนสิ่งผิดกฏหมายที่นี่เป็นเรื่องปกติทั่วไปที่ใคร ๆ ก็ทำกัน เพราะเรทตลาดมืด (ซึ่งหาได้ตามท้องถนน ตลาด หรือห้องแถว) จะอยู่ที่ USD1 = K1,200-1,300 ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินดอลล่าห์ที่แลก ณ ขณะนั้นและก็ผู้ที่เราไปแลกด้วย เช่น ครั้งแรกฮั้วแลกที่ USD70 ได้เรท K1,240 แต่แลกครั้งที่สองที่จำนวน USD30 ได้เรทที่ K1,200... สรุปแล้วตอนนี้น่าจะอยู่ที่ 1 บาทต่อ 35 จั๊ด

แต่ณ เวลาเก้าโมงครึ่ง ตลาดสก๊อต (Bokyoke Aung San Market) ยังไม่เปิด ..จะเปิดประมาณสิบโมงหรือสิบเอ็ดโมง.. Steven ก็เลยพาเราไปแลกที่แถว Little India แทน.. แถบนี้ก็สมชื่อ เต็มไปด้วยคนอินเดีย เหมือนหลุดเข้าไปในประเทศอินเดียจริง ๆ ..(ฮ่า ๆ ในพม่าก็มี little india และ china town นะ..ขอบอก) ซึ่งเค้าก็อาสาเป็นคนไปแลกเงินให้.. ตอนแรกกะว่าจะแลกที่หนึ่งร้อยดอลล่าห์ แต่เค้าบอกว่าคุณอยู่กันแค่สามวัน ควรแลกที่เจ็ดสิบก็พอ ไว้ถ้าไม่พอ ค่อยมาแลกใหม่.. เราจึงแลกกันที่ USD70 ได้เรทที่ K1,240 .. ซึ่งได้เงินฟ่อนใหญ่ที่ K86,800 ...รวยแล้วเรา..

ป.ล. ควรเตรียมกระเป๋าตังค์ใบใหญ่หน่อยมาไว้ใส่เงินที่นี่ เงินที่นี่เป็นแบ็งค์ทั้งหมด.. เงินที่ใช้กันเป็น 1000, 500, 200, 100, 50, 20, 10… แต่นักท่องเที่ยวมักจะได้ใช้แบ็งค์ 1000, 500, 200, และ 100 .. ส่วนฮั้วได้แบ็งค์พันมา 86 ใบและได้แบ็งค์ย่อย ๆ (เก่ามากกกก) มาอีกแปดร้อยจั๊ต

แบ็งค์ที่นี่จะแบ่งเป็นสองรุ่น ..รุ่นดึกดำบรรพ์ เป็นแบ็งค์ขนาดใหญ่ มักพบมากในแบ็งค์ 200 และ 100 ..กับรุ่นผลิตใหม่ เป็นขนาดปกติเหมือนดอลล่าห์ ..




รถแท็กซี่ที่นี่เป็นรุ่นเปิดหน้าต่าง.. เพราะรถเก่ามาก ๆ ประมาณยี่สิบปีได้.. เพราะฉะนั้นเรื่องแอร์ไม่ต้องพูดถึง .. รถทุกคันจะเปิดหน้าต่างรับลม .. เพราะฉะนั้นใครแพ้ฝุ่นก็เตรียมตัวกันดี ๆ นะคะ.. ที่นี่มีมลพิษค่อนข้างมากด้วย เพราะใช้รถเก่าแถมน้ำมันก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าคุณภาพเป็นอย่างไร แต่ที่แน่ ๆ คือควันดำและเหม็นมาก

ระหว่างทางก็นั่งมองดูโน่นดูนี่ไปเรื่อย ๆ ..ผู้คนที่นี่ไม่ค่อยรีบร้อน.. ยิ้มแย้มแจ่มใส (โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่เห็นกล้องหรือคนต่างชาติก็หัวเราะกันคิกคัก)



การเดินทางไปพม่าคราวนี้ส่วนมากจะเจอฝนซะเป็นส่วนใหญ่สลับกับแดดเปรี้ยง.. ทั้ง ๆ ที่คำนวณดูแล้ว ช่วงนี้ยังเป็นฤดูร้อนของที่นั่น โดยจะย่างเข้าฝนปลายพฤษภา และเริ่มเข้าหน้าหนาวที่เดือนพฤศจิจนถึงกุมภา .. ขอแนะนำว่าถ้าใครจะไปเที่ยวเอง.. ซึ่งต้องตรากตรำพอควร.. ควรจะไปหน้าหนาว เพราะอากาศน่าจะเย็นสบาย...

ส่วนฮั้วรอบนี้เจอแต่ฝน (ปรอย ๆ ถึงหนักมาก) กับอากาศที่ร้อนอบอ้าว (มาก).. อุณหภูมิอยู่ที่ 37 องศา แทบจะเรียกได้ว่าของคู่กายคือ หมวก แว่นกันแดด ร่ม และน้ำดื่ม... ตอนนี้ล่ะ.. เลยเริ่มเห็นความสำคัญของลองกี ..เพราะคงจะเย็น โล่ง สบาย เวลาที่สวมใส่เลยเชียว



อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการไปพม่า คือ รองเท้าแตะและถุงพลาสติก.. แนะนำว่าควรจะนำไปเป็นอย่างมาก.. เพราะเวลาไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ต้องถอดรองเท้าทุกที่.. บางที่จะเก็บค่าฝากรองเท้า (โดยจะเรียกว่าเป็น donation).. เพราะฉะนั้นถ้าเอาถุงพลาสติกไปเอง ก็จะได้ไม่ต้องไปฝากและเสียเงินค่าฝาก เอารองเท้าใส่ถุงแล้วถือเข้าไปได้เลย

ส่วนผู้หญิงก็ควรแต่งตัวเรียบร้อยหน่อย ใส่เสื้อมีแขน กางเกงขายาวหรือเท่าเข่า..หรือกระโปรง... เพราะที่นี่แทบจะไม่เห็นใครใส่แขนกุดกันเลย..รวมทั้งสถานที่ส่วนใหญ่ที่ไปเยี่ยมชมก็เป็นวัด.. ดังนั้นการแต่งตัวให้สุภาพก็เป็นสิ่งที่พึงกระทำ

.. ขอติดเรื่องเมืองหงสาวดีไว้ตอนต่อไปนะคะ ไว้จะรีบมาเล่าให้ฟัง...



Create Date : 15 พฤษภาคม 2550
Last Update : 16 พฤษภาคม 2550 9:34:06 น.
Counter : 776 Pageviews.

16 comments
  
น่าไปเหมือนกันครับ...
โดย: UnEdiTED วันที่: 15 พฤษภาคม 2550 เวลา:15:07:20 น.
  
ตามมาชมค่ะ
อ่านแล้วน่าไปจัง
ให้ความรู้สึกถึงบรรยากาศที่ยังไม่ถูกปรุงแต่งเหมือนเมืองท่องเที่ยวหลายๆเมือง
โดย: ลิปดา-พิลิปดา (ไม่ได้ล็อคอิน) IP: 58.136.100.186 วันที่: 16 พฤษภาคม 2550 เวลา:17:39:24 น.
  
รอดูวัดพม่าอยู่นะ ...
โดย: Snoopy in BKK วันที่: 16 พฤษภาคม 2550 เวลา:21:57:24 น.
  
กำลังจะไปเหมือนกันคะ เนี่ยปริ้นไปอ่านเป็นแนวทางเลย ขอบคุณมากๆ
โดย: girl IP: 58.10.90.73 วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:17:20:04 น.
  
ขอบคุณนะคะ
โดย: สลัดผักรวม IP: 124.121.13.246 วันที่: 26 พฤษภาคม 2550 เวลา:21:53:55 น.
  
ตามมาเที่ยวพม่าผ่านมุมมองของคุณบ้างครับ

อิอิ สวยจัง
โดย: DAN_KRAB วันที่: 5 มิถุนายน 2550 เวลา:1:04:10 น.
  
ฮ่า มาอ่านด้วยคนค่ะ
เห็นด้วยว่าที่นี่ truly asia นะคะ
ที่นี่ทุนนิยมกับความคิดค่านิยมแบบตะวันตกเข้าไป
จนเหลือแค่ partly asia หมดแล้ว
ข้อมูลละเอียดจังค่ะ ชอบๆๆ
ดูอย่างประเทศเราเป็นไร เฮ้อ
โดย: หมาเลี้ยงแกะ วันที่: 7 มิถุนายน 2550 เวลา:17:18:05 น.
  
เขียนสนุกมากครับ
โดย: ฟ้าดิน วันที่: 8 มิถุนายน 2550 เวลา:4:05:30 น.
  
ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมนะคะ
โดย: Gorgeous Girl วันที่: 8 มิถุนายน 2550 เวลา:22:50:50 น.
  
เขียนรีวิวได้ดีมากเลยครับ
อ่านเพลินเลย
โดย: เ ม ฆ ค รึ่ ง ฟ้ า IP: 61.19.52.106 วันที่: 12 มิถุนายน 2550 เวลา:0:00:53 น.
  
ละเอียดดีจัง จะตามไปนะคะ
โดย: บักมี่ IP: 203.147.21.126 วันที่: 12 มิถุนายน 2550 เวลา:8:56:18 น.
  
ตามมาเที่ยว
โดย: bicycle_trend IP: 203.170.231.232 วันที่: 12 มิถุนายน 2550 เวลา:9:01:53 น.
  
ละเอียดมากครับ ...
เดี๋ยวมาไล่เก็บตอนต่อไปอีกรอบ ...
โดย: Oatta (SF-The KOP ) วันที่: 12 มิถุนายน 2550 เวลา:10:26:15 น.
  
ตามมาตามคำเชิญชวนค่ะ กำลังจะไปเหมือนกัน

ขอบคุณกับรีวิวดีๆที่ช่วยให้ได้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยค่ะ
โดย: meyamotim IP: 12.149.113.196 วันที่: 12 มิถุนายน 2550 เวลา:10:29:32 น.
  
ตามต่อ....ขอบคุณจ้า
โดย: water_front(kick san) IP: 125.27.18.26 วันที่: 12 มิถุนายน 2550 เวลา:11:29:06 น.
  
ขอบคุณที่มาเยี่ยมค่ะ
โดย: Gorgeous Girl วันที่: 26 ตุลาคม 2550 เวลา:23:46:53 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Gorgeous Girl
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



New Comments
พฤษภาคม 2550

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
16
17
18
19
21
22
23
24
25
26
27
29
30
31
 
 
15 พฤษภาคม 2550
  •  Bloggang.com