ริมหาด พรายทราย ฟองคลื่น จิบกาแฟ ริมหน้าต่างข้างๆ สวน
...สตูดิโอริมหาด...
Group Blog
 
<<
มกราคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
30 มกราคม 2555
 
All Blogs
 

จากฟากฟ้าสุราลัย...สู่แดนดิน บทที่ 6 "อุปริยา"











จากฟากฟ้าสุราลัย....สู่แดนดิน "อุปริยา"



....ฉันจะตามไปทั่วฟ้า ทั่วจักรวาลผ่านพื้นผิวแห่งทุกดวงดาว
สุดฟ้าสุราลัย สุดขอบแห่งห้วงมหรรณพ
ขอเพียงแต่ให้เธอรอฉันอยู่ เพื่อพบพาน.......


**************************************************




บทที่ 6


อุทยานเบื้องหน้างดงามจนยากสุดจะพรรณนา มวลดอกไม้นานาพันธุ์ต่างแข่งขันกันสลับสีบานสะพรั่ง บ้างเป็นดอกเล็กดอกน้อย บ้างก็ออกเป็นช่อ เป็นพวง บ้างเป็นสายระย้าห้อยยาว เสมือนประหนึ่งผืนผ้าม่านอันวิจิตร

บ้างก็เป็นดอกใหญ่ราวกับกระด้งใบเขื่อง ทั้งหมดล้วนต่างส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วทั้งบริเวณ เป็นความหอมที่ผสมผสานรวมตัวเข้ากันเป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นกลิ่นหอมอันเป็นทิพยะ ที่ยากจะพบจากหมู่มวลดอกไม้ในมนุษยโลก

สรรพสัตว์น้อยใหญ่ที่เหมือนบนโลกมนุษย์ ทั้งฝูงนกยูงอันมากมาย ต่างรำแพนหางที่มีสีสันวิจิตรตระการตา อวดตัวเมียอย่างงดงาม ฝูงกระต่ายตัวโตหลายหลากสีวิ่งเล่นไปทั่วราวกับปุยเมฆบนพื้นหญ้าสีเขียวขจีประหนึ่งพรมผืนมหึมา รวมถึงละมั่ง กวาง ชะนี กระรอก กระแต นกตัวเล็กตัวน้อยต่างสีสันที่จับอยู่บนคาคบไม้ราวกับอัญมณี

บ้างก็ร่อนปีกอยู่ทั่วฟ้าเป็นแสงสว่างไสวอยู่เหนืออุทยาน จะมีบ้างที่สัตว์บางประเภท อาจมีสีสัน และรูปร่างหน้าตาผิดแผก ต่างออกไปจากสัตว์ในโลกมนุษย์ อย่างเจ้าชะนีตัวเล็กจิ๋วที่มีปีกสามารถโผบินไปมาได้ไม่ต่างจากนก หรือเจ้ากระแตตัวน้อยที่เดินด้วยสองเท้าและใช้วิธีกระโดดแทนการเดิน เหล่าสัตว์ต่างๆ พากันเดินทั่วทั้งอุทยานได้อย่างอิสระ และมีความสุข โดยไร้ซึ่งผู้รบกวน หรือทำอันตราย...

เบื้องหลังพุ่มไม้ใหญ่ ไกลๆ เป็นสายน้ำตกสีครามแลแปลกตา ตกลงมาเป็นสายกั้นเสมือนม่านน้ำประตูหน้าถ้ำแก้วที่ใสราวกับผลึกมรกต ประกายน้ำที่ตัดล้อกับแสงจากดวงอาทิตย์ สะท้อนเกิดเป็นรุ้งกินน้ำมากมาย ก่อนที่สายน้ำจะไหลเอื่อยมารวมตัวกันเป็นสระน้ำสีครามใสๆ

พื้นผิวหน้าของน้ำถูกปกคลุมด้วยกลีบดอกไม้หลากสีสัน ที่กลางสระมีร่างอรชรนางหนึ่งทอดตัวลอยคอหลับตานิ่ง ประหนึ่งกำลังเข้าสมาธิอยู่ในผืนน้ำแห่งนั้น...


ไม่ถึงชั่วอึดใจนางพลันลืมตาตื่น ค่อยๆ ก้าวขึ้นมาจากสระน้ำ ประกายละอองสีมรกตจับล้อมรอบอยู่ที่เรือนร่างนั้น ฉันพลันกลุ่มละอองรอบๆ ตัวนางก็แปรสภาพเป็นอาภรณ์บางเบาสีขาบอ่อนๆ

ราชสีห์ตัวเขื่องสีน้ำตาลเข้มซึ่งหมอบอยู่ริมสระพลันลุกขึ้นย่างเหยาะเท้าตามนางไปอย่างเงียบๆ ก่อนหมอบลงอีกครั้ง แทบเท้าของนาง ขณะหยุดยืนอยู่ ณ ใต้ร่มไม้ใหญ่ที่ออกดอกเป็นพวงสีฟ้าสดใสทั่วทั้งต้น

“เข้ามาเถิดอธิปติ... ข้ารู้ว่าเจ้ามาคอยอยู่นานแล้ว” สิ้นวาจาของนาง ร่างกำยำในชุดเทพนักรบที่กำลังนั่งหยอกเล่นกับฝูงกระต่ายป่า ณ ต้นไม้ใหญ่อีกฟากของมุมหนึ่งแห่งอุทยานจึงค่อยๆ ลุกขึ้น ก่อนเดินตรงเข้ามาทำความเคารพ และถอยออกไปยืนห่างๆ

“ทางสภาเทวะคงสั่งให้เจ้ามาสินะ” น้ำเสียงที่หวานพลิ้วเจือไปด้วยเสียงเยาะหยัน ก่อนจะเอ่ยประโยคใหม่ ด้วยวาจาประชดประชันตามนิสัยของนาง

“เหล่าองค์เทพทั้งหลายคิดหรือว่าเจ้าจะมาเตือนข้าได้”

“หามิได้เทวีชนิกรรดา... เพียงแต่ข้าอาสามาเอง ในฐานะสหายคนสนิท และทหารคู่ใจ ข้ามิอาจเอื้อมจะกล่าวติง หรือเตือนท่านแต่อย่างใด”

เทวนารีถอนหายใจยาว เดินไปเดินมา ด้วยความกระวนกระวายรุ่มร้อนใจ

“ข้ารู้ ข้ารู้... แต่ให้ข้าทำฉันใด อธิปติ หากเจ้าเป็นข้า...”

“ท่านคือแม่ทัพเทวนารี ท่านมีคำตอบอยู่ในจิตดีอยู่แล้ว เพียงแต่...ข้าคิดว่าหากท่านผสานอณูเทพกับร่างในโลกมนุษย์เร็วเกินไป อาจเป็นอันตรายกับร่างมนุษย์ ที่จะพึงมีวิถีเยี่ยงมนุษย์สามัญอันไม่ปกติ..." เสียงนั้นเงียบไปชั่วขณะ เมื่อเห็นเทวีตรงหน้าไม่เอ่ยโต้แย้งสิ่งใดจึงเปล่งวาจาต่อ

"รวมถึงการที่ท่านพยายามตามหาท่านวิษุวัต ก็เท่าว่าท่านขืนกฎแห่งสภาเทพ มิต่างอะไรกับขัดพระบัญชาแห่งองค์มหาเทวะ”

“ที่เจ้าว่าก็มีเหตุผล ซึ่งข้าก็รู้ดีอยู่แล้ว แต่ข้าเบื่อกับการรอเวลา ข้าทำงานตามวิถีของข้า องค์มหาเทวะก็ทรงทราบดี...”

“แต่เทพที่โดนลงทัณฑ์ คือท่านวิษุวัต! ไม่ใช่ท่าน...มิใช่ดอกหรือเทวี”

เทวนารีชนิกรรดาถอนหายใจยาวกับประโยคของเทพอธิปติ อันส่งผลให้นางนึกไปถึงคำอธิษฐานด้วยสัจจะแห่งเทพวิษุวัตด้วยความน้อยใจ

ความรักฉันใดที่ปิดบังดวงตายอมเสียสละรับโทษทัณฑ์ทั้งปวงแทนตัวนาง และนางก็ช่างขยันทำผิดกฎระเบียบแห่งสภาสวรรค์เสียอย่างเหลือเกิน ซึ่งนั่นก็หมายถึงการทอดยาวแห่งเวลาในการลงทัณฑ์แห่งเทพวิษุวัตให้เนิ่นนานออกไป…

การลงทัณฑ์ให้ต้องห่างไกลกัน เทพวิษุวัตเองก็ยอมรับกับการถูกส่งไปบำเพ็ญตบะ เพิ่มบารมีในที่ปกปิด ซ่อนเร้นด้วยม่านแห่งองค์เทวะ ณ สถานที่ลงทัณฑ์แห่งสวรรค์ ตัดขาดจากสังคมแห่งเทวะทั้งปวง

สถานที่ที่นางไม่อาจเข้าไปถึงตัวได้โดยง่าย ไม่ว่าด้วยกายทิพย์ หรือจิต เมื่อเป็นเยี่ยงนี้ก็ไม่ต่างกับลงทัณฑ์ให้กับนางเฉกเช่นกัน ที่มิอาจได้ครองคู่กับคู่บุญบารมีของนาง

แม้ทุกครั้งที่มีภารกิจร่วมกันในเมืองมนุษย์ ไม่ว่ากี่ภพกี่ชาติมาแล้วก็ตาม นาง และ วิษุวัตก็มิได้เคยได้สมรักครองคู่ ดั่งเทวะคู่อื่นที่ลงไปจุติ...

แต่ครั้งนี้ ต้องต่างออกไป...

นางตั้งจิตมุ่งมั่น การผสานอณูร่างมนุษย์ก่อนกำหนดภารกิจ หากครั้งนี้โทษทัณฑ์ใดที่จะเกิดขึ้น นางยินดีจะรับผลแห่งการกระทำด้วยตนเอง และความปรารถนาที่จะได้พบเพื่อครองคู่กับวิษุวัต ไม่ว่าจะภพไหนๆ ไม่ว่าจะในทิพยวิมานของนางแห่งนี้ หรือโลกมนุษย์เบื้องล่าง หรือแม้แต่ยมโลกอันมืดมิด นางก็จะติดตามวิษุวัตไปทั่วทุกจักรวาล...

อย่างมากก็แค่เกษียณราชการจากการเป็นแม่ทัพเอกขององค์มหาเทวะก่อนกำหนด การใช้ชีวิตธรรมดาสามัญเยี่ยงนางฟ้า นางอัปสรทั่วไป หรือจะถูกส่งให้ไปจุติเป็นหญิงสาวธรรมดาบนโลกมนุษย์ นางก็พึงพอใจแล้ว ...

เทวีชนิกรรดารู้ดีว่า เรื่องการส่งไปจุติเห็นจะเป็นไปได้ยาก เพราะการปฏิบัติภารกิจ หนึ่งในตำแหน่งแม่ทัพเอกขององค์มหาเทวะ หากมีศึกกับจอมทัพแห่งมาร ยากนักที่จะมีนักรบเทพแห่งสรวงสวรรค์องค์ใด ที่จะมีความสามารถทางยุทธวิธีต่อกรเสมอเหมือนกันนางได้ ยกเว้นเพียงแต่เทพวิษุวัต ที่รั้งตำแหน่งแม่ทัพเอกแห่งองค์มหาเทวะเช่นเดียวกัน

ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นยุคที่สรวงสวรรค์ขาดองค์เทพนักรบที่เก่งกล้าเพื่อนำทัพเสียจริงๆ ...

ดังนั้น การลงทัณฑ์ใดๆ ทั้งนางและเทพวิษุวัตจึงไม่อาจมากไปกว่านี้ และยิ่งหากเป็นปฏิบัติการบนโลกมนุษย์ด้วยแล้ว มีเพียงนาง และเทพวิษุวัตที่จะสามารถต่อกรกับหมู่มารได้

เทวนารีชนิกรรดายังรู้ตัวเสมอว่า สิ่งที่นางกระทำลงไปมักจะขวางหู ขวางตา และขัดใจกับเหล่าเทพองค์อื่นๆ นางไม่ได้อวดอ้างใช้สิทธิ์แห่งความสามารถใหญ่โต เก่งกล้า กับเหล่าเทพองค์ใด เพียงแค่เป็นการทำเพื่อสิทธิ และความสุขส่วนตัวของนางเองเท่านั้น

ซึ่งเหล่าเทพเทวาใหญ่น้อยทั่วทั้งสามภพ ต่างก็รู้ถึงฤทธิ์เดชส่วนตัวของนาง แม้จะระอาเพียงใด แต่เมื่อนึกถึงความสงบสุขแห่งสรวงสวรรค์ และสันติแห่งสามโลกแล้ว แม้แต่องค์มหาเทพยังปล่อยให้นางอิสระเสรีในการกระทำ มีเพียงนานๆ ครั้ง ท่านจึงจะบัญชาผ่านสภาเทพ หรือเอ่ยโอษฐ์ด้วยองค์เองมาห้ามปรามนาง


“เทวีชนิกรรดา ข้าเข้าใจความรู้สึกของท่านดีแล้ว... อย่าเป็นห่วงสิ่งใดเลย ข้าเองก็ให้สัตยาอธิษฐานไว้แล้วในการดูแลร่างหยาบของท่าน... ดังนั้นกายหยาบของอธิปบนโลกมนุษย์ จะทำหน้าที่ปกป้องเป็นผู้อภิบาลร่างของท่าน... ถึงแม้ว่าการรวมอณูก่อนกำหนดอันเป็นสิ่งอันพึงประสงค์ของท่าน จะส่งผลขัดกับกฎใดๆ ก็ตาม”

“หมายความว่า...!?” เทวนารีทำตาโตกับสิ่งที่เทพอธิปติเอ่ยออกมา เทวะหนุ่มพยักหน้า

“ข้าจะทำเท่าที่ข้าสามารถทำได้... ข้าอาจพอมีความสามารถ ในการผ่านร่างหยาบได้ในบางครั้ง เพื่อให้ปรากฎเป็นนิมิตแห่งฝัน... แต่ข้าคงมิอาจรวมอณูแห่งเทวะได้ก่อนตามกำหนดบัญชาขององค์มหาเทพ และสภาเทวะ”

“ขอบใจนะอธิปติ ท่านเป็นขุนศึก เป็นสหายรักของข้า ที่รับรู้และเข้าใจถึง ความรู้สึกของข้ามาตลอด เจ้าก็คงรู้ดีว่า หากเป็นเรื่องงาน เป็นพระบัญชา เป็นโองการแล้ว ข้ามิเคยทำให้กิจการงานใดๆ เสียหาย อย่างที่เทวะองค์ใดๆ จะวิตกกังวล... "

แม้น้ำเสียงที่ทอดถอนออกมาในตอนแรกจะฟังดูเหนื่อยหน่ายแต่สุดท้ายองค์เทวีก็ย้ำด้วยเสียงที่หนักแน่นมากกว่าเดิม

"ภารกิจครั้งนี้ก็คงยิ่งใหญ่ไม่แพ้กับทุกคราว มิเช่นนั้นแล้ว ท่านวิษุวัต ตัวท่าน และองค์เทวะอีกหลายองค์ คงไม่ต้องแบ่งอณูลงไปจุติเพื่อร่วมงานกัน และข้าเองก็มิเคยทำให้องค์มหาเทพผิดหวังเลยสักครั้งมิใช่ดอกหรือ?”

นางหยุดเงียบไปชั่วขณะ ถอนหายใจช่วงสั้นๆ ก่อนเอ่ยปากอีกครั้งเพื่อให้เทพอธิปติรู้สึกมั่นใจ และไม่ต้องหวั่นเกรงกับข้อบังคับ กฎกติกาใดๆ ของสภาแห่งเทวะ

“เอาล่ะเทพอธิปติ...ข้าจะออกวาจา...ข้าจะไม่ทำสิ่งใดเกินว่าเหตุ มากไปกว่านี้กับกายมนุษย์ของข้า รวมถึงการตามหาท่านวิษุวัต ข้าจะรอจนกว่าเวลานั้น ...เมื่อถึงเวลา...”




อธิปสะดุ้งตื่น ภาพในฝันแจ่มชัด ราวกับภาพบนจอภาพยนตร์ ภาพแห่งอุทยานยังงดงามในความจำ กลิ่นหอมจากดอกไม้ยังคงอยู่ในประสาทความรู้สึก เขาค่อยๆ ลูบหน้าตัวเอง ความตื่นกลัวเล็กน้อยปรากฎขึ้นในจิต แต่ผ่านพ้นหายไปอย่างรวดเร็ว

ชนิกรรดา อธิปติ วิษุวัต ชื่อเหล่านี้ติดแน่นอยู่ในความทรงจำ เขาคงไม่ได้กินอะไรหนักสาหัสเมื่อหัวค่ำนี่นา ความฝันจึงไม่น่าพิสดารเป็นตุเป็นตะไปไกลได้ขนาดนี้ ...

แล้วใครกันคือ วิษุวัต ที่ตัวเขา และชนิกรรดาในฝันเอ่ยถึง...

หรือจะเป็นภาพแห่งนิมิตจริงๆ หากเป็นเช่นนั้นจะเกี่ยวเนื่องกันระหว่าง เขา กับ อธิปติ ความคุ้นเคยจนเหมือนเป็นอนึ่งเดียวกัน ดังนั้นภาพที่เห็นในฝัน อาจเป็นคำตอบกับอาการแปลกๆ ของชนิกรรดาหรือเช่นไร

การรวมอณู คืออะไร อธิปไม่ค่อยมั่นใจ ภารกิจสิ่งใด เมื่อถึงเวลาเพื่อการใด...
หลายคำถาม หลายคำตอบวนเวียนอยู่ในสมองแห่งห้วงความคิด แม้ไม่ได้ทำให้สับสนงุนงน แต่ตัวรู้ ตัวเข้าใจกำลังบอก และเตือนเขาว่า เขาควรต้องหยุดการข้องใจสงสัยใดๆ รวมทั้งการเป็นห่วงชนิกรรดา เพื่อนสาวของเขา เกินกว่าเหตุ และเพียงแต่รอคอยเมื่อเวลาที่กำหนดไว้มาถึงเช่นกัน


ดังนั้น สิ่งแรกที่อธิปจะต้องทำเช้านี้ก็คือ รีบออกจากห้องนอนแล้วไปบอกพ่อของเขา เพื่อยกเลิกการพาชนิกรรดาไปตรวจหาความผิดปกติ หาโรคภัยไข้เจ็บของตัวเธอ ก่อนที่ความไม่รู้ของเขา และของผู้อื่น อาจจะทำให้เรื่องราวของเธอวุ่นวายไปมากยิ่งขึ้น และตรงนั้นดูน่าอันตรายสำหรับชนิกรรดามากกว่า

สองสิ่งในความคิดย้ำเตือนอธิปอีกครั้ง สิ่งหนึ่งคือชนิกรรดาแม้จะดูไม่ปกติ แต่เธอก็ปกติ และพิเศษเกินพอกว่าคนธรรมดาทั่วไป และสองคือการดูแลอภิบาลเธอ ในขณะที่เธอไม่ปกตินั้นเป็นหน้าที่ที่เฉพาะเจาะจงมาเฉพาะเขาเพียงคนเดียว

แม้ตัวเขาเองจะไม่เข้าใจ วิธีการ เรื่องราว หรือสิ่งใดๆ ได้อย่างละเอียดนัก แต่เขาก็รู้สึกถึงเส้นทางที่ถูกต้องในหน้าที่ของตัวเอง...

ความปิติอันงดงามเกิดขึ้นในดวงจิต เป็นสุขหนึ่งที่เขาไม่เคยรู้สึก ไม่เคยสัมผัสมาก่อนเลยในชีวิตจริงๆ ...


***โปรดติดตามอ่านบทต่อไป***





 

Create Date : 30 มกราคม 2555
11 comments
Last Update : 31 มกราคม 2555 7:03:28 น.
Counter : 770 Pageviews.

 

แวะมาแปะหัวใจดวงน้อยๆ ของคอปเตอร์
เพื่อเป็นกำลังใจให้ค่ะ

เชียร์ๆๆๆ

 

โดย: คอปเตอร์ (copter-forwriter ) 4 กุมภาพันธ์ 2555 13:28:36 น.  

 

คงเป็นบทนี้เองที่ทำให้ผมหลงอธิปติเอาจริงๆ จังๆ หลังจากกรี๊ดอธิปมาหลายบท

ร่างกำยำหยอกล้อกับกระต่ายน้อย อ๊ากกกกกกกกก (น้ำลายร่วง)

ดูเหมือนในสามคน ตอนนี้อธิปเริ่มได้รับรู้อะไรๆ มากที่สุดนะครับ ชนิกรรดายังมีสองภาคสองอารมณ์เป็นส่วนใหญ่ วิษุวัต (ภาคมนุษย์) ก็คงยังไม่รู้เรื่องรู้ราว

รู้สึกไปเองรึเปล่าว่าบทนี้มันสั้น แหะๆๆ

ป.ล. เพิ่งหัดเล่นแปะหัวใจ งงอยู่ตั้งนาน อิๆ

 

โดย: คุณพีทคุง (ลายปากกา ) 5 กุมภาพันธ์ 2555 5:52:26 น.  

 

แวะมาแปะหัวใจให้พี่อ้องับ

 

โดย: หนึ่งดาววอนฟ้า 5 กุมภาพันธ์ 2555 14:18:13 น.  

 

หัวใจ ดวงสุดท้ายของวันนี่

มอบให้คุณอ้อ

สู้ๆ นะคะ

^--^

 

โดย: ตันตราวี 5 กุมภาพันธ์ 2555 20:51:07 น.  

 

พี่คอป

ขอบคุณ ไปปะให้แล้วนาาาา

 

โดย: พรายทราย 5 กุมภาพันธ์ 2555 21:50:45 น.  

 

คุณพีท

5555 บทเดียวมันสั้นไงคะ ว่าจะลงสองบท ยังไม่ได้รีไรต์เลย

อย่างที่คุณพีทว่าแหละค่ะ

ตามหน้าที่ อธิปเลยจำเป็นต้องรับรู้ ไม่งั้นภารกิจอาจเสียหายได้ ส่วนชนิกรรดาก็อย่างที่รู้ๆ เลยมาแบบเอ๋อๆ อย่างนั้น 5555 วิษุวัต ถือว่าปกติตามกติกาสวรรค์ แต่เวลาถูกเลื่อนออกไปอีก เพราะเทวีนั่นแหละ...


คราวหน้าถึงคิวมารออกโรงแระ เลยอยากรีไรต์ละเอียดหน่อย อิอิ (ทำไมวันนี้เหมือนเชียร์ข้างมาร หุหุห)


เรื่องปะหัวใจงงเหมือนกัน แล้วถ้าไม่บอกว่าใครมาปะ แล้วจะรู้ไหมว่าใครปะให้เรา มีต้องไปรับหัวใจก่อนด้วย

ไม่ได้เล่นนาน เหมือนเชยมากเลย แหะ แหะ

 

โดย: พรายทราย 5 กุมภาพันธ์ 2555 22:37:25 น.  

 

คุณหนึ่งดาววอนฟ้า

ขอบคุณมากๆ ค่ะ ตามไปปะหัวใจบนฟ้าแล้วนาาาา บล็อกสวยค่ะ

 

โดย: พรายทราย 5 กุมภาพันธ์ 2555 22:40:34 น.  

 

คุณตันตราวี

โอ้ พี่ฟี ตื่นเต้น กรี้ดดดดดด กรีดดดด คนดังมาสตูฯ ขอบคุณมากๆ ค่ะ อ้อไปปะหัวใจตอบแล้วนะคะ

 

โดย: พรายทราย 5 กุมภาพันธ์ 2555 22:41:59 น.  

 


อ่อ เข้าใจล่ะ

...หัวใจจะพองโตขึ้นตามจำนวนหัวใจที่มีผู้มาแปะให้ค่ะ ...

หงือ หงือ แต่ถ้าคนไม่บอก เราก็ไม่รู้สินะว่าใครมาปะ แถมวันหนึ่งปะได้แค่ 5 ดวง เอง


อย่างนั้นขอขอบคุณผู้ไม่ประสงค์แจ้งว่าเป็นหัวใจของใครไว้ด้วยนะคะ

 

โดย: พรายทราย 5 กุมภาพันธ์ 2555 22:45:10 น.  

 

นานๆเข้ามาทีเลยจ่อมอยู่กับบ้านคุณอ้อนานมากกกกกกกกกกกกก
คลิกเข้าไปดูนั่นดูนี่ตามลิงค์ไปเรื่อยๆ

ถ้าป้าเป็นนักอ่านมือฉกาจหยั่งก่อน
ที่นี่คงยิ่งกว่าห้องหนังสือยักษ์ที่จ่อมอยู่ได้ทั้งวันไม่ต้องขยับไปไหน

แต่ตอนนี้หูตาและเวลารวมทั้งความเร็วไม่เป็นใจให้สว.ค่ะ
กระนั้นก็เก็บเป็นเฟเวอริทไว้นะคะ
เผื่อจะได้มาเก็บเกี่ยวความสุนทรีทางใจบ้างเป็นครั้งคราว
...........................................

ส่งความคิดถึงเพิ่มความเอิบอิ่มของหัวใจด้วย.........แปะค่ะคุณอ้อ

คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ พรายทราย เรียบร้อยแล้วนะคะ

คุณเหลือ อีก 0 ดวง สำหรับวันนี้ค่ะ

 

โดย: ร่มไม้เย็น 7 กุมภาพันธ์ 2555 13:07:51 น.  

 

มาแปะหัวใจ ให้คุณอ้อ ได้อบอุ่น
จะได้หายเหงา
ไปลุยเดี่ยว ตั้งหลายวัน

ฝากรักฝากไปข้างใจค่ะ
(เพลง)

^--^

 

โดย: ฟีลิปดา (ตันตราวี ) 9 กุมภาพันธ์ 2555 20:50:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


พรายทราย
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








** ภาพสวยๆ เล็กตรงนี้ Tuscan Terrace ผลงานของ Sung Kim

เคยมั้ยนั่งอยู่ในสวนสวย พร้อมกับจิบกาแฟนั่งมองเกลียวคลื่นซึมซับเข้าหาทราย มันเป็นมุมพักผ่อนที่แสนจะเป็นสุขของเรา...

ขอยืมภาพวาดสวยๆ มาใช้ประดับบ้านเฉพาะกิจก่อน
เก็บไว้นานแล้ว ของใครบ้างหนอ...



**สำหรับคนชอบลอก แอบโกปี้ และตัดปะ**

คิดเอง เขียนเองเถอะค่ะ ...

ความสนุกของการเป็นนักเขียนเรื่องสั้น นิยาย มันอยู่ตรงนี้
แม้มันจะเหนื่อย ล้า เปลี้ย หมดพลัง แค่ไหนเราก็ยังพอใจ ที่ได้สนุกสนาน ได้ร่วมโลดลิ่ว..

ได้รัก ได้เกลียด ได้กินข้าว ได้เต้นระบำ ได้ตบตี ได้เจ็บช้ำ ไม่สบาย ร้องไห้ หัวเราะ ได้ร่วมไปในทุกๆ อารมณ์ กับตัวละคร

ที่พวกชอบลอกนี่จะไม่มีวันได้รู้แน่ๆ ว่าอารมณ์อย่างนั้นมันเป็นอย่างไร...

**และคุณก็ไม่มีวันเป็นคนเขียน เป็นนักเขียนได้เลย


******************************


Friends' Blogs

ลายปากกา

นิตยสารออนไลน์รายสัปดาห์ อ่านสนุก


Branica Web Counters
Friends' blogs
[Add พรายทราย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.