Happiness is always here and now
|
|
...ปัจจุบัน อันเป็นสุข(2)"ก้อนแห่งความคิด"... จากBlogที่แล้ว ผมเขียนค้างไว้ถึงความสำคัญของการอยู่กับปัจจุบัน ที่จะนำความสุขมาให้เรา หลายคนพออ่านแล้วคงคิดว่า"เป็นปรัชญาไปรึเปล่า ใครจะไปทำได้" แน่นอนครับ แม้ว่าจะเป็นเรื่องไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไป หากเราเริ่มฝึกฝนและลงมือทำ จะว่าไปก็เหมือนการที่เราได้สูตรทำอาหารมาจากพ่อครัวมือหนึ่ง เราดีใจมากเที่ยวอวดคนนั้น คนนี้ แต่เราก็เก็บสูตรนั้นไว้ ไม่เคยลงมือฝึกฝนทำอาหารตามสูตรนั้นซักที เราจะรู้ได้อย่างไรล่ะครับว่า อาหารนี้มีรสชาติดีจริงๆ
มีคนเคยบอกไว้ว่าจริงๆแล้ว คนเราก็คือ ก้อนแห่งความคิด ที่คิดนู่นคิดนี่ คิดไปถึงอนาคต คิดย้อนไปในอดีต ในวันหนึ่งๆเราใช้ความคิดกันมากมายหลายเรื่อง แทบจะตลอดเวลา ความคิดหลายๆอย่างเป็นสิ่งดีนะครับ แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้เราเกิดความทุกข์ขึ้นมาได้ด้วย เพราะคนเรามักจะลืมตัวว่าเรากำลังคิด ทำให้ความคิดมากมายนั้นนำความทุกข์มาให้
ผมขออนุญาตยกบทความของท่านกฤษณมูรติ(หลายๆคนอาจไม่เคยได้ยินชื่อของท่าน เอาไว้ผมจะหาเวลาเขียนถึงท่านอีกทีนะครับ ขอรับรองว่าท่านผู้นี้ไม่ธรรมดาเลยครับ) เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น เกี่ยวกับความหมายของความคิด บางทีอาจจะทำให้พวกเราอยากหลุดออกจากความคิดที่ทำให้เป็นทุกข์ของเราดูบ้าง "ท่านกล่าวไว้จริงๆแล้ว ความคิดก็คือความทรงจำในอดีต เป็นประสบการณ์และความรู้ที่ถูกเก็บสะสมมาต่อเนื่องเป็นเวลานานอยู่ในสมองเรา ดังนั้นเมื่อเป็นผลของความทรงจำจึงทำให้ความคิดนั้น มีความเป็นอดีตอยู่เสมอ นอกจากนี้ความคิดนั้นยังพยายามที่จะก้าวล้ำไปในอนาคตในรูปแบบของความหวัง ความหวังเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นเพื่อจับยึดกับประสบการณ์ในอดีตที่มีความสุขที่ถูกเก็บอยู่ในสมอง โดยหวังว่าจะพบกับความสุขแบบในอดีตอีก"
ดั้งนั้น เราจะเห็นได้ว่า การที่กล่าวว่า ให้เราอยู่กับปัจจุบันนั้น ก็เพื่ออยากให้เรากลับมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง หลุดออกมาจากประสบการณ์ในอดีต ที่ก่อให้เกิดความคิดซ้ำๆ จนนำมาซึ่งความทุกข์นั่นเอง ในปัจจุบันได้มีการทดลองและตรวจวัดคลื่นสมองด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ พบว่ามนุษย์นั้นสามารถควบคุมคลื่นสมอง และ สารที่หลั่งจากสมอง ได้หากมี การฝึกฝนทางจิต ให้ควบคุมสภาวะอารมณ์และจิตใจได้ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่อง เหนือธรรมชาติ หรือ เร้นลับหาคำอธิบายไม่ได้ แต่เป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถฝึกฝนได้ ในขณะที่เราดำเนินชีวิตประจำวันตามปรกติ
ผมว่าสิ่งเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่ตอกย้ำถึงสิ่งที่พระพุทธองค์ ได้ตรัสสอนพวกเราไว้มาตั้งสองพันหกร้อยกว่าปีนะครับ โดยท่านได้ให้วิธีการกลับมาสู่ปัจจุบันแก่เราไว้แล้ว วิธีนั้นก็คือ อานาปานสติ หรือเรียกง่ายๆว่า การเจริญสติ นั่นเองครับ เอาไว้ผมจะเขียนในBlogต่อไปนะครับ(ปล.ช่วงนี้ยุ่งเหลือเกินครับ) ขอบคุณที่แวะมาเยียมเยียนและความเห็นที่ฝากไว้ครับ
สวัสดีตอนเช้าค่ะพี่หมอ เห็นด้วยค่ะ ที่ว่าคนเราต้องอยู่ในโลกปัจจุบัน โลกแห่งความเป็นจริง มากกว่าที่จะจมอยู่กับอดตี แล้วคิดแต่เรื่องของอดีตจนทำให้เราเป็นทุกข์
ช่วงนี้พี่หมองานยุ่งมาก ๆ อย่าลืมรักษาสุขภาพด้วยน่ะค่ะ โดย: Enjoy with me วันที่: 6 ตุลาคม 2555 เวลา:9:03:51 น.
แล้วจะแว๊บมาอ่านอีกนะ . . . ยินดีในสิ่งที่ตนได้ . . . *~*~*~*...ขอให้มีความสุข สดใส..หัวใจเบิกบาน..*~*~*~*
|
"ความคิด" เป็นสิ่งที่สำคัญจริงๆ
สำหรับผม
ความคิด คือ จิต
จิต คือ ตัวกำหนดและสร้า้งทุกอย่างที่เป้นเราจริงๆครับ
ชอบอ่านงานของกฤษณมูรติเช่นกัน
คุณหมอชอบอ่านงานของโอโชไหมครับ
ผมว่างานนักเขียนนักคิดอินเดีย
มีหลายคนที่น่าสนใจมากจริงๆครับ