|
17 ธันวาคมในอดีต
17 ธันวาคม พ.ศ. 2458 กระทรวงทหารเรือออกข้อบังคับว่าด้วยระเบียบการใช้คำนามรวมทั่วไปของทหารเรือเรียกว่า ราชนาวี เขียนเป็นอักษรย่อ ว่า ร.น. ตรงกับภาษาอังกฤษว่า Royal Navy เขียนเป็นอักษรย่อว่า R.N.
เพลงราชนาวี เนื้อร้อง/ทำนอง น.อ. ภิญโญ พงษ์สมรวย *หนึ่งพันห้าร้อยไมล์ทะเลไทยมีนาวีนี้เฝ้า ข้าศึกฮึกเข้าระดมโจมตีนาวีนี้รบรับอยู่ ใหญ่กี่ตันต้องสู้กัน ฟาดฟันให้รู้ ไม่ปล่อยให้ฝ่ายศัตรู ล้ำอธิปไตย (ซ้ำ *) *เหมือนดอกประดู่ ชื่อดีนาวีเมืองทอง เราชาตินักรบเกียรติก้องยามศึกเราต้องชิงชัย เกิดมาทั้งทีไม่ทุกข์ก็สุขใจ ไม่ว่าศึกเสือเหนือใต้ จมมันลงไปใต้บาดาล (ซ้ำ *) ...แต่รบเราไม่ขลาด... *ราชนาวี ชาติไทย เราใจทหารเรือกล้าหาญ ราชนาวีต้องการ เราทหารเรือรักชาติ รบช่วยกันรบรั้วเราเข้มแข็ง ทุ่มด้วยแรงนักรบองอาจ สามัคคีในหมู่ทหารเหมือนญาติ รบเพื่อชาติ ราชนาวี (ซ้ำ*) 17 ธันวาคม พ.ศ. 2483 รัฐบาลไทยโดยมี จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี ออกประกาศกำหนดให้ใช้วันที่ 1 มกราคม เป็นวันขึ้นปีใหม่ ตั้งแต่ พ.ศ. 2484 เป็นต้นไป เพื่อให้เหมือนสากลนิยม ดังนั้นปี พ.ศ. 2483 จึงมีเพียง 9 เดือน (เดิมใช้วันที่ 1 เมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่)
1 มกราคม ของทุกปี ความหมาย ความหมายของวันขึ้นปีใหม่ ตามพจนานุกรม ฉบับราชตบัณฑิตยสถาน ให้ความหมายของคำว่า " ปี" ไว้ดังนี้ ปี หมายถึง เวลา ชั่วโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ครั้งหนึ่งราว 365 วัน : เวลา 12 เดือนตามสุริยคติ
ความเป็นมา ในอดีต วันขึ้นปีใหม่ของไทยได้มีการเปลี่ยนแปลงมาแล้ว 4 ครั้งคือ ครั้งแรกถือเอาวันแรม 1 ค่ำ เดือนอ้าย เป็นวันขึ้นปีใหม่ซึ่ง ตรงกับเดือนมกราคม ครั้งที่ 2 กำหนดให้วันขึ้นปีใหม่ตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ตามคติพราหมณ์ ซึ่งตรงกับเดือนเมษายน
การกำหนดวันขึ้นปีใหม่ใน 2 ครั้งนี้ ถือเอาทางจันทรคติเป็นหลัก ต่อมาได้ถือเอาทางสุริยคติแทน โดยกำหนดให้วันที่ 1 เมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่ ตั้งแต่ พ.ศ.2432 เป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่โดยเฉพาะตามชนบทยังคงยึดถือเอาวันสงกรานต์เป็น วันขึ้นปีใหม่อยู่ ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตย ทางราชการเห็นว่าวันขึ้นปีใหม่วันที่ 1 เมษายน ไม่สู้จะมีการรื่นเริงอะไรมากนัก สมควรที่จะฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ จึงได้ประกาศให้มีงานรื่นเริงวันขึ้นปีใหม่ในวันที่ 1 เมษายน 2477 ขึ้นใน กรุงเทพฯเป็นครั้งแรก
การจัดงานวันขึ้นปีใหม่ที่ได้เริ่มเมื่อวันที่ 1 เมษายน ได้แพร่หลายออกไปต่างจังหวัดในปีต่อๆมา และในปี พ.ศ.2479 ก็ได้มีการ จัดงานรื่นเริงปีใหม่ทั่วทุกจังหวัด วันขึ้นปีใหม่วันที่ 1 เมษายน ในสมัยนั้นทางราชการเรียกว่า วันตรุษสงกรานต์
ต่อมาได้มีการพิจารณาเปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยคณะรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้น ซึ่งมีหลวงวิจิตรวาทการ เป็นประธานกรรมการ ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้เปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่เป็นวันที่ 1 มกราคม โดยกำหนดให้วันที่ 1 มกราคม 2484 เป็น วันขึ้นปีใหม่เป็นต้นไป
เหตุผลที่ทางราชการได้เปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่จากวันที่ 1 เมษายนมาเป็นวันที่ 1 มกราคม ก็คือ 1. ไม่ขัดกับพุทธศาสนาในด้านการนับวัน เดือน และการร่วมฉลองปีใหม่ด้วยการทำบุญ 2. เป็นการเลิกวิธีนำเอาลัทธิพราหมณ์มาคร่อมพระพุทธศาสนา 3. ทำให้เข้าสู่ระดับสากลที่ใช้อยู่ในประเทศทั่วโลก 4. เป็นการฟื้นฟูวัฒนธรรม คตินิยม และจารีตประเพณีของชาติไทย
กิจกรรมที่ชาวไทยส่วนใหญ่มักจะยึดถือปฏิบัติในวันขึ้นปีใหม่ได้แก่ 1. การทำบุญตักบาตร โดยอาจตักบาตรที่บ้าน หรือไปที่วัดหรือตามสถานที่ต่างๆที่ทางราชการเชิญชวนไปร่วมทำบุญ 2. การกราบขอพรจากผู้ใหญ่ และอวยพรเพื่อนฝูง การมอบของขวัญ การมอบช่อดอกไม้ หรือการส่งบัตรอวยพร 3. การจัดงานรื่นเริง การจัดเลี้ยงในหมู่เพื่อนฝูง ญาติพี่น้องหรือตามหน่วยงานต่างๆ
วันขึ้นปีใหม่นับเป็นโอกาสดีที่จะทำให้เราได้ทบทวนถึงการดำเนินชีวิตในอดีต เพื่อจะได้แก้ไขข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นในอดีตให้ดีขึ้น
17 ธันวาคม 2519 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงหมั้น ม.ล.โสมสวลี กิติยากร ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ที่มา : หนังสือจดหมายเหตุเฉลิมพระเกียรติ 5 ทศวรรษ(2539) โดย : มูลนิธิ 5 ธันวามหาราช
Events from History on December 17
Create Date : 14 ธันวาคม 2548 |
Last Update : 22 ธันวาคม 2548 18:24:47 น. |
|
3 comments
|
Counter : 786 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ป้ามด วันที่: 18 ธันวาคม 2548 เวลา:7:08:01 น. |
|
|
|
|
|
|
|