Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
26 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 

+++++ ปิดเทอมเวลาสวรรค์ของนักศึกษา แต่เป็นเวลา "นรก" ของผู้สอน +++++

ช่วงนี้ในมหาวิทยาลัยช่างเงียบได้ใจเหลือเกิน ยิ่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่ผมแวะผ่านไปมาทุกวัน เด็กเริ่มทยอยกลับกันแล้ว ปิดเทอมใหญ่หลายคนก็คงวางแผนไปเที่ยวทะเลหนีอากาศร้อน บ้างก็กลับบ้านหาพ่อแม่ จะได้เสียวอีกทีก็ตอนเกรดออกนับไปสองอาทิตย์ต่อจากนี้

เด็ก ๆ สอบเสร็จก็ร่าเริง แต่ครูบาอาจารย์ก็หนักใจ เริ่มจากการตรวจข้อสอบที่กองพะเนิน ล่าสุดผมพึ่งตรวจข้อสอบไฟนอลวิชาวิจัยวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ อันเป็นวิชาที่ผมสอน ณ ราชภัฏเชียงใหม่ เสร็จไปหมาด ๆ เหลือจะต้องตรวจมินิรีเสิร์ชที่สั่งให้เด็กไปทำแล้วส่งวันศุกร์นี้ ผมต้องรีบให้คะแนน ทำเกรดให้เสร็จ เพื่อส่งในวันจันทร์เส้นตาย

เหมือนกรรมตามสนอง สมัยเป็นนักศึกษา ทักษะการเขียนของผมอ่อนด้อยมาก ผมเขียนอธิบายให้ใครรู้ไม่ค่อยได้ คือมีความรู้แต่เล่าไม่เป็น ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร ประเด็นไหนควรขึ้นก่อนหลัง และที่สำคัญคือยกตัวอย่างไม่เป็น (ถือเป็นเด็กที่สร้างจุดด่างพร้อยของวงการการศึกษาไทยเสียเหลือเกิน) จนอาจารย์หลายท่านจำฝังใจว่าทักษะการเขียนของผมอยู่ในขั้น 'หน่อม' มาก โชคดีที่พยายามพัฒนาตัวเองมาเรื่อย ๆ จนทุกวันนี้ก็พอเขียนไปวัดไปวากับเขาได้บ้าง

ที่บอกว่ากรรมตามสนองก็เพราะเวลาอ่านข้อสอบ เหมือนได้เห็นตัวเองตอนเด็ก ๆ ร้อยละเจ็ดสิบของข้อสอบที่ตอบมาบอกได้คำเดียวเลยว่า "กูจะให้คะแนนยังไงดีวะ" บ้างก็ตอบมาบรรทัดเดียว บ้างเขียนอธิบายไม่มีตัีวอย่าง บ้างพูดไม่รู้เรื่อง

ก่อนให้คะแนน ผมจะอ่านคร่าว ๆ สักสิบคนก่อน ดูว่าสุ่มโดยรวมเป็นอย่างไรบ้าง พร้อมกับคิดเกณฑ์การให้คะแนน ว่าสิ่งที่เราคาดหวังไว้คือคะแนนเต็ม เด็ก ๆ เหล่านี้น่าจะได้เท่าไร ซึ่งเป็นเรื่องยากมากกว่าจะได้คะแนนที่ลงตัว

การตอบข้อสอบสะท้อนให้เห็นทักษะและนิสัยของนักศึกษาได้ อย่างน้อย ๆ เรื่องการเชื่อมโยงประเด็นเพื่อมาเป็นตัวอย่างประกอบคำตอบ ก็แสดงให้เห็นถึงความรู้ที่ขวนขวายจากภายนอก อย่างวันนี้น้องเมอร์ส่ง sms มาบอกว่าพึ่งตรวจข้อสอบเสร็จ นักศึกษาของน้องเมอร์บอกว่า ความสุขของกะทิเป็นหนังวิทยาศาสตร์ บ้างก็เขียนราโชมอนว่า Salmon บ้าง แสดงว่าเด็ก ๆ ขาดความรู้รอบตัวยิ่งนัก (ซึ่งเป็นปัญหามาก ๆ ของเด็กที่เรียนนิเทศศาสตร์ คือโง่ แต่ไม่รู้ว่าตัวเองโง่)

พอตรวจให้คะแนนเสร็จก็ถึงเวลาตัดเกรด รวมคะแนนกับส่งเกรดนี่เหนื่อยมาก การบวกเลขเป็นสิ่งที่ผมไม่สันทัดเลย บวกกันงงไปเลย ต้องใช้วิธีให้คนอื่นช่วยตรวจว่ารวมคะแนนถูกหรือเปล่า เพราะเรื่องแบบนี้หากพลาดคนเสียประโยชน์ก็คือนักศึกษา

ตอนนี้ผมมีงานสำหรับวิชาที่สอนแม่โจ้อีกเยอะ ไฟนอลวิชาการรณรงค์ที่จะสอบวันที่ 4 นี่ร่วมร้อยคน แถมยังต้องตรวจให้คะแนนวิชาการเขียน ซึ่งมีนักศึกษาราวร้อยคนเช่นกัน แถมแต่ละคนส่งงานสองชิ้น คือบทความและสารคดีอย่างละหนึ่ง เอาละครับ เวลานรกมาแล้ว ยังดีที่แม่โจ้ส่งเกรดวันที่ 16 ถ้าส่งก่อนหน้านี้มีตายกับตายแน่

ว่าแล้วก็ขอจรลีไปตรวจงานเด็กก่อนเน้อครับ




 

Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2552
18 comments
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2552 13:26:18 น.
Counter : 678 Pageviews.

 

อ่า เอาใจช่วย นะ คร้าา

 

โดย: *o*_OiL_^o^ IP: 158.108.228.119 26 กุมภาพันธ์ 2552 13:41:03 น.  

 

มาส่งกำลังใจด้วยคน..

ป้าเอง ไม่เคยมองในมุมของคนเป็นครูเลย.. มีแต่นึกว่า..สั่งงานอะไรนักหนา.. โดยลืมนึกไปว่า.. คนสั่งงานนั่นแหละ.. หนักหนากว่า เพราะต้องอ่านทั้งหมด..

 

โดย: ป้าแก่ .. (elastigirl ) 26 กุมภาพันธ์ 2552 14:06:01 น.  

 

สู้ๆ เด้อ 55

 

โดย: แพนด้ามหาภัย 26 กุมภาพันธ์ 2552 17:19:07 น.  

 

เด็กสมัยนี้เป็นจริงดังว่าจริงๆแหละครับ ... ผมเห็นแล้วก็ได้แต่เอน็จอนาถใจ - -''

คงมีเรื่องอื่นให้สนใจอีกเยอะแยะมากมาย จนลืมที่จะสนใจเรื่องของการเขียนอ่าน หรือทำความเข้าใจในสิ่งต่างๆให้ถ่องแท้ป ...

ก็ต้องขอฝากแม่พิมพ์ของชาติทั้งหลายไว้ด้วยนะครับ งานหนักหน่อยแล้ว :p

ปล. ผมสงสัยอ่ะครับ อย่างถ้าคุณดองรู้ว่านักศึกษาบางคนเป็นแบบนี้แล้ว คุณเลือกที่จะพูดกับนักศึกษาตรงๆเลยรึเปล่าครับ? หรือเมื่อพูดไปแล้ว คนเหล่านั้นเขาตอบมาว่ายังไงบ้าง? สงสัยครับ สงสัย ^^

 

โดย: Soundsyndrome (เด็กน้อยกว่า ) 26 กุมภาพันธ์ 2552 17:23:31 น.  

 

มาให้กำลังใจ คนหัวอกเดียวกันค่ะ
เพิ่งสอบเสร็จวันนี้ เก็บเข้าลิ้นชัก ยังไม่เริ่มตรวจเลยค่ะ วันส่งคะแนนวันที่ 6
กะว่าตัดเกรดเสร็จ วันที่ 5 เที่ยงคืน

 

โดย: redclick 26 กุมภาพันธ์ 2552 20:23:40 น.  

 

- คุณแอ็ด

ผมพูดกับเด็กเรื่องนี้เสมอครับ ผมมักนำเอาบทความหรือสารคดีสั้นมา(บังคับ)ให้อ่าน

ปัญหาของเด็กสายนิเทศศาสตร์ที่ผมได้พบเจอไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยท๊อปอย่างนิเทศ จุฬาฯ หรือตามราชภัฏ (พูดว่าทุกที่เลยดีกว่า) คือ เด็กเหล่านี้มีทัศนคติเกี่ยวกับการเรียนที่ผิด ดังนี้ครับ

เด็กส่วนใหญ่เชื่อว่าคนที่เก่งคือคนที่สามารถทำหนังสั้นได้ดี ตัดต่อเก่ง พูดเก่ง กล้าแสดงออก มั่นอกมั่นใจเกินชาวบ้าน อะไรทำนองนี้ ซึ่งพูดตามตรงเลยคือทักษะแบบนี้มันเป็นทักษะทางช่าง เหมือนเด็กเทคนิคเรียนแหละครับ

ทีนี้เด็กมหาวิทยาลัยจะต่างจากเด็กเทคนิคได้อย่างไร ง่าย ๆ ก็คือคุณต้องมีความรู้เหมือนเป็น software ต่าง ๆ พูดเรื่องนี้ก็รู้ พูดเรื่องนั้นก็รู้ ต้องไ่ม่ใช่รู้แค่พื้น ๆ เท่านั้นนะครับ ต้องรู้ลึกรู้จริง มิฉะนั้นเจ้านายสั่งอะไรคุณไป คุณก็ทำให้ไม่ได้สักอย่าง

ผมเป็นอาจารย์ที่ออกนอกเรื่องบ่อย เพราะสิ่งที่ผมออกนอกเรื่อง คือความรู้ใหม่ซึ่งเด็กแทบไ่ม่เคยรู้เลย ล่าสุดผมก็คุยเรื่อง "กึ่งพุทธกาล" ซึ่งพม่าและอินเดียนับ พ.ศ. เร็วกว่าเมืองไทยหนึ่งปี ผมเองก็พึ่งทราบจากข้อเขียน อ.สุลักษณ์ ศิวลักษณ์ ในนิตยสารช่อการะเกด เด็กก็ได้อึ้งครับ

ถามว่าพอบอกไปแล้วเด็กสนใจไหม อันนี้แล้วแต่คนครับ ส่วนมากมักไม่สนใจ ไม่ต้องแปลกใจครับ เพราะว่าคนมาเรียนนิเทศส่วนใหญ่ก็เพราะคิดว่ามันเท่ เก๋ สวย หารู้ไม่ว่างานหนักโคตร

 

โดย: I will see U in the next life. 26 กุมภาพันธ์ 2552 20:38:18 น.  

 

oh grading season...หวังว่านักศึกษากลับจากสวรรค์แล้วจะไม่ต้องตก(นรก)เพราะสอบตกวิชาคุณครู

 

โดย: woodchippath ...bloggang kept me signed off IP: 124.157.149.188 26 กุมภาพันธ์ 2552 20:50:29 น.  

 

ผ่านช่วงนรกมาแล้วครับ 5555 แต่ดีนะ ตรวจแล้ว ตลกดี มีอะไรขำๆ อยู่เรื่อย

 

โดย: merveillesxx 26 กุมภาพันธ์ 2552 22:50:56 น.  

 

เอาใจช่วยเช่นกันค่ะ

ของเราเพิ่งจะเริ่มสอบวิชานอกคณะสัปดาห์นี้เองค่ะ วิชาในคณะจะสอบสัปดาห์หน้าพร้อมๆ กับการส่งสารพัดโปรเจกส์

สัปดาห์นรกของเรา...คงจะเป็นช่วงที่เด็กๆ ส่งโปรเจกส์เสร็จแล้วอ่ะค่ะ

เด็กทำคนละชิ้น...อาจารย์ตรวจทุกชิ้น

เรื่องมันเศร้าจริงๆ

 

โดย: NooNok [MiChiYo] 26 กุมภาพันธ์ 2552 22:58:43 น.  

 

ปล. เรามีเทมเพลทสำหรับการตัดเกรดค่ะ ทำไว้นานแล้วค่ะ ตั้งแต่ช่วงร้อนวิชา แล้วก็ใช้มาตลอด ถ้าสนใจก็ทิ้งเมลล์ไว้ที่หลังไมค์ได้นะคะ

 

โดย: NooNok [MiChiYo] 26 กุมภาพันธ์ 2552 23:01:51 น.  

 

จริงด้วยเนอะ เคยคิดว่าเป็นอาจาร์ยแล้วสบาย จริงๆแล้วมันก็มีงานตลอดนิ

 

โดย: Special Ed. 28 กุมภาพันธ์ 2552 7:49:16 น.  

 

เข้ามาด้วยคำถามเดียว มีเด็กๆน่ารักเยอะใหม๊ครับ ทางโน้น



 

โดย: joblovenuk 28 กุมภาพันธ์ 2552 13:34:19 น.  

 

อ.ดองคับ..

ไม่บอกไม่รู้นะเนี่ย...5555

"ปัญหาของเด็กนิเทศคือโง่..แต่ไม่รู้ว่าโง่"

อ๊ากกสส....หยั่งงี้มันมิต้องฆ่าทิ้งทั้งคณะเรยเรอะ....

เอ..ตกลงมันเป็นปัญหาของเด็ก หรือระบบการเรียนการสอนกันแน่ะฮิ....

 

โดย: พี่หมี (Bkkbear ) 1 มีนาคม 2552 0:43:15 น.  

 

ผมว่าเป็นด้วยกันทั้งสองอย่างนะพี่

แ่ต่ประโยคข้างบนนี่ขอเว้นคุณพี่ ๆ ที่ำทำงานกันจนเชี่ยวชาญไว้แล้วนะครับ อิอิ ขอเก็บไว้ให้เฉพาะนักศึกษาพอ

 

โดย: I will see U in the next life. 1 มีนาคม 2552 11:09:16 น.  

 

เด็กส่วนใหญ่เชื่อว่าคนที่เก่งคือคนที่สามารถทำหนังสั้นได้ดี ตัดต่อเก่ง พูดเก่ง กล้าแสดงออก มั่นอกมั่นใจเกินชาวบ้าน อะไรทำนองนี้ ซึ่งพูดตามตรงเลยคือทักษะแบบนี้มันเป็นทักษะทางช่าง เหมือนเด็กเทคนิคเรียนแหละครับ

ทีนี้เด็กมหาวิทยาลัยจะต่างจากเด็กเทคนิคได้อย่างไร ง่าย ๆ ก็คือคุณต้องมีความรู้เหมือนเป็น software ต่าง ๆ พูดเรื่องนี้ก็รู้ พูดเรื่องนั้นก็รู้ ต้องไ่ม่ใช่รู้แค่พื้น ๆ เท่านั้นนะครับ ต้องรู้ลึกรู้จริง มิฉะนั้นเจ้านายสั่งอะไรคุณไป คุณก็ทำให้ไม่ได้สักอย่าง

**********

I think many thai artists lack this software, so many movies, music books is shallow

 

โดย: ฟ้าดิน 1 มีนาคม 2552 23:50:48 น.  

 

55 สู้ต่อไป

 

โดย: pick IP: 58.137.81.212 2 มีนาคม 2552 7:02:26 น.  

 

เขียนให้รู้เรื่อง มันเริ่มมาจากการอ่านให้แตกฉานด้วย

อ.ดองลุ้นให้เด็กๆ อ่านหนังสือกันเถอะ

ฝากความหวังไว้ที่อาจารย์ดองด้วยนะ

 

โดย: grappa 4 มีนาคม 2552 10:52:34 น.  

 

อ.ดองสู้ๆ เด็ก mju จะเป็นกำลังให้นะ อิอิ

 

โดย: คิคุจัง IP: 114.128.107.227 4 มีนาคม 2552 11:05:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


I will see U in the next life.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add I will see U in the next life.'s blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.