Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2554
 
7 สิงหาคม 2554
 
All Blogs
 
I Spit On Your Grave (2010) : แค้นนี้ต้องฆ่า



--
I Spit On Your Grave (2010)
ความยาว : 108 นาที ประเภท :Crime,Horror,Thriller
ผู้กำกับ : Steven R.Monroe
บทประพันธ์/เขียนบท : MeirZarchi,Stuart Morse
ดารานำแสดง : Sarah Butler,Jeff Branson และ Andrew Howard

--

I Spit On Your Grave เป็นเรื่องของการทวงคืนความแค้นของลูกผู้หญิงได้อย่างสาสม และสะใจสำหรับคนดูเป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าจะมันดูไม่สมจริงไปบ้างในแง่ที่ว่าเหตุใดผู้หญิงตัวเล็กๆ เพียงคนเดียวสามารถกระทำการใหญ่ได้ขนาดนั้น แต่เอาเถอะ บางครั้งเราก็อยากเชื่อในสิ่งที่เราอยากให้เป็นมากว่าความสมเหตุสมผลใดๆ เช่นเดียวกับการแก้แค้นของนางเอกในหนังเรื่องนี้

เรื่องราวเริ่มต้น จากวันที่นางเอกของเรา เจนนิเฟอร์ ฮิลล์ (Sarah Butler) เดินทางมาที่เมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง เพื่อปลีกตัวเงียบๆ เขียนนวนิยายเรื่องใหม่ เธอได้เช่าบ้านพักตากอากาศหลังเล็กๆ น่ารัก มีบึงตรงหน้าบ้าน ภายในป่าที่เงียบสงบ..

แต่ก่อนจะถึงบ้านพัก เธอแวะเติมน้ำมันในปั๊มแก๊สแห่งหนึ่ง และได้พบกับอันธพาลวัยรุ่น 3-4 คน ด้วยท่าทีที่ไม่ตั้งใจ เจนนิเฟอร์ทำให้ชายคนหนึ่งเกิดความขุ่นเคืองใจ และนำมาซึ่งอันตรายต่อผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอ เมื่อถูกก่อกวนมากเข้าๆ เจนนิเฟอร์แจ้งไปยังนายอำเภอ หวังจะได้ที่พึ่งพา แต่ที่ไหนได้เธอได้ค้นพบว่าความจริงนายอำเภอผู้ที่ต่อหน้าผู้คนเป็นคนรัก ครอบครัว หมั่นเข้าโบสถ์กลับกลายเป็นหัวโจกกลุ่มคนชั่วพวกนี้เสียเอง พวกมันพากันมารุมทำร้ายร่างกายเธอเจียนตาย.. ถึงตอนนี้มีฉากหลายๆ ฉากที่โหดเหี้ยมมาก ไม่ว่าจะเป็นการข่มขืน ทำร้ายร่างกาย ฯลฯ แม้ว่าจะชินกับการดูหนังโหด แต่ถึงฉากพวกนี้ ขอสารภาพว่าฉันต้องกดเดินหน้าเครื่องเล่นดีวีดีไปเลย เพราะมันชวนหดหู่ และจิตตกอย่างแรง..

หลังจากที่เหล่าคนชั่วจัดการเธอสมความปรารถนา แล้ว ก็เตรียมการจะฆ่าปิดปากเจนนิเฟอร์ต่อ แต่เธอกลับเลือกที่จะจัดการชีวิตตัวเองด้วยการกระโดดจากสะพานสูงลงไปสู่ลำ น้ำที่ไหลเชี่ยวกราก พวกคนชั่วพยายามเท่าไหร่ก็หาร่างเจนนิเฟอร์ไม่ พบ พวกมันค้นหาทุกซอกทุกมุมแต่ยังไม่พบแม้แต่ชิ้นส่วนใดๆ ของร่างเธอ จนพวกมันหยุดการค้นหาและกลับไปใช้ชีวิตตามปกติของแต่ละคน แต่ทว่า... เรื่องไม่จบอย่างง่ายดายเพียงนั้น เจนนิเฟอร์มีชีวิตรอดกลับมาทวงคืนความแค้นทีละคน ๆ
---
หนังเรื่องนี้ใน ความเห็นของฉันแม้จะรู้สึกสนุกในช่วงท้ายๆ ที่มีการเอาคืนจากนางเอกแล้วเพราะแก้แค้นได้โหดสะใจแต่เมื่อดูจนจบก็เิกิด อาการหดหู่เพราะคิดว่า แท้จริงแล้วคนเราทุกคนเกลียดกลัวความเจ็บปวด ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเรา และคนที่เรารัก แต่ดันกลับไม่คิดถึงเวลาที่เราไปทำให้ใครเจ็บปวดบ้างเลยเหมือนเช่นตัวร้ายที่ทำกับนางเอก แล้วถึงเวลานางเอกเอาคืนบ้างก็กลับโวย แต่ฉันก็ไม่ได้สนับสนุนให้คนลุกขึ้นมาล้างแค้นกันนะ

เพราะสุดท้าย แล้วไม่ว่าคนๆ นั้นจะเป็นอย่างไร เมื่อถึงคราวผิดพลาดโดย ธรรมชาติเราย่อมร้องขอให้อภัย ฉันใดก็ฉันนั้น ถ้าคนเราคิดถึงใจเขาใจเราบ้าง การอโหสิกรรมและให้อภัยย่อมเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับการอยู่ร่วมกัน นี่เป็นหลักการเดียวที่จะหยุดวงจรของการพยาบาทได้ ตามวิถีพุทธศาสนา


Create Date : 07 สิงหาคม 2554
Last Update : 13 ตุลาคม 2554 14:36:22 น. 1 comments
Counter : 2906 Pageviews.

 
เวอร์ชั่นนี้ลดความดิบลงแต่เติมความซาดิสม์เข้าไป เห็นด้วยครับว่าดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือว่านางเอกจะลุกขึ้นมาเอาคืนได้แบบนี้

ปล.ฉากริบของกลางทำให้ผมหวาดเสียวยิ่งนัก กึ๋ยย


โดย: Nanatakara วันที่: 7 สิงหาคม 2554 เวลา:17:26:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

CyberAngel
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add CyberAngel's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.