Shangri La มนต์เสน่ห์...ดินแดนสุดขอบฟ้า 8
การเดินทางวันที่ 6 ต่อ ระหว่างทางกลับเราแวะชมวัดเฟยไหล วัดลามะเล็กๆแต่เก่าแก่และสวยงามตามแบบวัดทิเบตโดยเฉพาะตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บริเวณนั้น เบื้องล่างมองเห็นหุบเหวที่มีแม่น้ำหลินชางไหลเลี้ยวลดคดเป็นงูเลื้อย พวกเราเดินชมภาพวาดในวิหารกันและหมุนกงล้อมนต์ที่อยู่รอบๆวิหารจนครบ จากนั้นพากันกลับไปเก็บกระเป๋าที่โรงแรมเพื่อเดินทางกลับไปจงเตี้ยน ด้านหลังวัดเฟยไหล มองจากทางเดินลงไปวัด บ้านนี้อยู่ตรงปากทางเดินลงไปวัด น่ารักดี ระหว่างเดินทางกลับเส้นทางเดิมที่เรามาเมื่อวาน แต่วันนี้ไม่ต้องเร่งงรีบแล้ว ไกด์เองก็ดูเหมือนจะอยากชดเชยให้เราที่เราไม่ได้ไปหมิงหย่งกัน จึงบอกว่าถ้าชอบตรงไหนอยากแวะถ่ายรูปก็ให้บอกได้เลย คราวนี้เราเลยแวะหลายจุดหน่อย ถ่ายรูปกันไปตลอดทาง ก่อนถึงจงเตี้ยนรถจอดเพื่อให้เรามีเวลาถ่ายรูปและชื่นชมกับทะเลสาบนาพาไห่ ที่ขาไปไม่ได้แวะ ทะเลสาบนาพาไห่ยามบ่ายจัดดูสงบเงียบ มองเห็นริ้วน้ำที่เคลื่อนไปตามแรงลมธรรมชาติสะท้อนแสงอาทิตย์ยามบ่าย สวยงามมาก สมควรแก่เวลาก็ออกเดินทางต่อกันเกรงว่าถึงจงเตี้ยนค่ำเกินไปจะไม่ได้ชมเมืองเก่าจงเตี้ยนกันอีก เมืองเก่าจงเตี้ยน ถึงจะดูไม่เก่าเหมือนลี่เจียง เพราะส่วนใหญ่เพิ่งสร้างหรือปรับปรุงขึ้นมาใหม่ บ้านแต่ละหลังสร้างด้วยไม้มีเสาบ้านขนาดใหญ่ ประตูแบบบานเฟี้ยมที่บรรจงแกะสลักอย่างสวยงาม รวมไปถึงกรอบหน้าต่างและบานหน้าต่างแกะสลักด้วยลวดลายแบบทิเบต บรรยากาศดูสงบกว่าลี่เจียงมากทีเดียว เราเดินชมเข้าไปเรื่อยๆ สองข้างทางเป็นร้านขายของที่ระลึกไม่ต่างจากลี่เจียง แต่สินค้าที่ขายส่วนใหญ่ดูเป็นงานฝีมือจากท้องถิ่นมากกว่าที่ลี่เจียง ส่วนใหญ่จะมีส่วนประกอบที่ทำจากขนหรือหนังจามรี บ้านนี้อายุ 400 ปี ร้านอาหารและGallery ข้างนอกเก๋ ข้างในก็สวย แอบถ่ายค่ะที่จริงเขามีประตูปิดอีกชั้นหนึ่งจังหวะคนเปิดพอดี เมื่อเดินไปจนสุดทางอีกด้านหนึ่งของหมู่บ้าน จะมองเห็นวัดตั้งอยู่บนเชิงเขา วัดนี้มีกงล้อมนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อเดินขึ้นบันไดไป 151 ขั้น(น้องแพรสาวน้อยวัย 7 ขวบขวัญใจทริปนี้เป็นผู้นับ) จะพบวิหารแบบทิเบตตั้งอยู่ ถัดจากวิหารจะเป็นลานกว้างที่เป็นที่ตั้งของกงล้อมนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก กงล้อมนต์นี้ต้องใช้คนช่วยกันหมุนอย่างน้อยห้าหกคนจึงจะเริ่มหมุน เนื่องจากขนาดอันใหญ่และหนัก จากลานกว้างของวัดจะมองเห็นตัวเมืองจงเตี้ยนทั้งส่วนเมืองเก่าและเมืองใหม่ได้อย่างชัดเจน ถ้าอากาศดีจะมองเห็นได้ไกลถึงวัดซงจ้านหลินที่ตั้งอยู่ทางด้านเหนือของเมืองเลยทีเดียว จากจุดนี้จะเห็นได้ชัดเจนถึงการเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในที่ราบกลางหุบเขาที่ถูกโอบล้อมด้วยเทือกเขาสูงชันอันสลับซับซ้อนโดยมีเทือกเขาหิมะเป็นปราการโอบล้อมด้านนอกสุด ลงจากวัดเราพากันเดินเที่ยวชม ถ่ายรูปเมืองเก่า อาคารบ้านเรือนรวมถึงร้านค้าต่างๆกัน อีกพักใหญ่ก่อนจะอำลาเมืองเก่าจงเตี้ยนเพื่อไปทานอาหารเย็นกัน โดยอาหารเย็นในวันนี้เราไปทานกันที่โรงแรม ZA XI DE LE HOTEL ที่เราเคยพักและฝากกระเป๋าใบใหญ่ไว้ แต่คืนนี้เราไม่ได้พักที่โรงแรมนี้เนื่องจากเราเปลี่ยนโปรแกรมกะทันหันทางทัวร์เลยต้องหาโรงแรมอื่นให้เราพักกัน โดยโรงแรมที่เราจะพักในคืนนี้ตั้งอยู่กลางเมืองจงเตี้ยนเลยทีเดียว ปิดท้ายวันนี้ด้วยภาพหนูน้อยหมวกแดงในเมืองเก่าจงเตี้ยน
Create Date : 01 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2550 7:40:22 น.
6 comments
Counter : 1604 Pageviews.
โดย: malarn cha วันที่: 1 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:16:35 น.
โดย: พนบ. วันที่: 1 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:24:03 น.
โดย: Kidnapper IP: 124.121.194.171 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:01:33 น.
โดย: ขอโทษนะคร้าบฯ IP: 125.25.222.152 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2550 เวลา:18:52:31 น.
โดย: Cookie Nim วันที่: 2 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:26:22 น.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 71 คน [? ]
ขอสงวนสิทธิ์ภาพถ่ายทุกภาพในบล็อคนี้ มีหลายๆคนสงสัยว่าทำไมต้อง Cookie Nim (คุกกี้นิ่ม) ที่มาของชื่อนี้มาจากชอบกิน soft cookie มาก หัดทำขนมใหม่ๆก็เริ่มจากเจ้านี่แหละ พอมาเล่นเนทนึกชื่อไม่ออก ก็เลยใช้ คุกกี้นิ่ม ตั้งแต่นั้น หลุดพ้นจากการเป็นมนุษย์เงินเดือน ทำให้มีเวลาว่างทำอะไรๆที่ชอบมากขึ้น ทำขนม ทำสบู่ และทำงานฝีมือ ถึงแม้ว่าสิ่งที่ชอบนั้นจะไม่ก่อให้เกิดรายได้เท่ากับเงินเดือนที่เคยได้ แต่ก็มีความสุขที่ได้ทำ ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณผู้มีอุปการะคุณคนเดียวของเรา ซึ่งก็คือ"คุณพ่อบ้าน" นั่นเอง สำหรับเพื่อนๆที่อยากได้ภาพ หรือบทความในบล็อกนี้ไปใช้ในทางบริสุทธิ์ใจ เช่น อยากนำไปตกแต่งบล็อคของคุณ หรือสูตรขนมไปทำแล้วเผยแพร่ต่อโดยไม่ได้หาผลประโยชน์ส่วนตน จขบ.ยินดีค่ะ รบกวนแค่อ้างอิงแหล่งที่มาสักหน่อยเท่านั้น
1 2 3
4 5 6 7 8 9 10
11 12 13 14 15 16 17
18 19 20 21 22 23 24
25 26 27 28 29 30
สวย ขลัง ดูมีมนต์เสน่ห์ ค่ะ
ชอบบ้าน 400 ปีจังเลย