Welcome to my blog…………..http://cookie-nim.bloggang.com
Be my guest I baked I churned I cooked I quilted I made I traveled
จาก Delhi ถึง Haridwar เส้นทางเริ่มต้นสู่ The Valley of Flowers






ในที่สุดก็สามารถทำให้เป็นจริงได้อีกหนึ่งทริป เป็นทริปที่ตื่นเต้นและรอคอยที่สุด ทั้งสนุก โหด มันส์ ฮา
โชคดีที่ได้เพื่อนร่วมทริปที่ดีน่ารักทุกๆคน จึงทำให้ทริปนี้เป็นอีกหนึ่งความทรงจำดีๆสำหรับเรา

24 กค.54 5 โมงเย็น 12 สาวงาม พร้อมเพรียงกันที่สุวรรณภูมิ บางคนรู้จักกันมาแล้วจากทริปอื่น บางคนก็รู้จักกันผ่านตัวอักษรทางหน้าเวบ บางคนก็ยังไม่เคยพูดคุยกันเลย
ผู้ร่วมทริปคราวนี้มี พี่น้อยจากเชียงใหม่ น้อยจากศรีราชาและหมอต่วนที่เราเคยไปทริปเลห์ด้วยกัน มีน้องฝนคนงาม แหม่ม ม่าน เปิ้ลและนก 2 สาวเท่ห์ ปลา นุ้ยและตาลที่ช่วยเป็นธุระจัดการทริปนี้ทั้งหมด

เครื่องถึงเดลีประมาณเกือบ 5 ทุ่ม คืนนี้เราพักที่รร. Castle wood กว่าจะถึง รร.ก็เที่ยงคืนเข้าไปแล้ว ทาง รร.ยังมีการให้นั่งรอเวลคัมดริ้งอีกนะ (ก็เขาหวังดีกลัวหิว) กว่าจะทำการเช็คอินกันได้ครบทุกคน ก็ปาเข้าไปตี 1 พอดี กว่าจะเข้านอนตี 2 แล้วคืนนี้ไหง๋กลับนอนไม่หลับไม่รู้ ทั้งๆที่ง่วงตาจะปิด
ตี 5.30 ก็ลุกมาแต่งตัวเก็บข้าวของเตรียมพร้อมเดินทางต่อ



เมือง Haridwar มุมสูง


25 กค. 54. วันนี้เราพร้อมเพรียงกันประมาณ 6 โมงเช้า พวกเราจะไปเมือง Haridwar เพื่อหยุดพักค้างคืนที่นี่ เราเรียกแทกซี่ไปส่งที่สถานีรถไฟ เจอผู้คนขวักไขว่วุ่นวายแต่เช้า ระหว่างทางเดินในสถานีรถไฟสกปรกมาก ราวบันไดเลื่อนเห็นแล้วต้องรีบกระเถิบตัวมาอยู่กลางๆ อย่าได้เผลอจับเข้าไปเชียว อัลกอร์ฮอร์เจลทั้งหลอดอาจจะยังไม่รู้สึกว่าสะอาดพอ รออยู่ประมาณ 1 ชม.รถไฟก็เข้าเทียบชานชลา (เฮ้ออ โล่งใจ) ปลาได้จองตั๋วมาตั้งแต่เมืองไทยแล้ว เป็นตู้แอร์ เพราะรู้ว่าพวกเราคงรับไม่ได้กับตู้ธรรมดาแน่ๆ ตอนมองจากภายนอกตู้รถไฟค่อนข้างเก่าและสกปรก แต่พอเดินเข้าขบวน ความรู้สึกก็เปลี่ยน ภายในสะอาดสะอ้าน ไม่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ทั้งหลาย มีปลั๊กไฟสำหรับชาร์จแบตหรือเล่นโน้ตบุ๊คก็ได้ (หุหุ เมืองไทยมียังหว่า) ม่านบังแดดสไลด์ม้วนขึ้นม้วนลง ไฮโซซะไม่มี (บ้านเรามียังคะ ใครรู้ช่วยบอกที) พอรถไฟออกได้ไม่นาน ก็มีน้ำแร่ขวดโตมาเสริฟ ต่อจากนั้นก็น้ำร้อน 1 กระติกและชุดกระตุ้นน้ำย่อย มีบิสกิต ชา และลูกอม พอกินเสร็จก็เตรียมจะหลับ ปรากฏว่ามาอีกยกค่ะ คราวนี้เป็นมันฝรั่งบดทอด คล้ายโครเก็ต ปรุงรสด้วยเครื่องเทศ รสชาติอร่อยใช้ได้ อิ่มค่ะทีนี้ก็เตรียมตัวจะหลับ ยังค่ะยังไม่จบ น้ำร้อนและชามาอีก 1 ยก อะไรจะเยอะแยะขนาดนี้ น้องตาลบอกว่า ถ้าเป็นอีกขบวนที่ราคาสูงกว่านี้อีกนิด
ปลุกให้กินทั้งคืนไม่เป็นอันนอนกันเลยทีเดียว















ประมาณ 11 โมงกว่าก็ถึงเมือง Haridwar พวกเราแบกเป้เดินหา รร.ที่เจ้าตาลจองไว้
กว่าจะถึงก็เล่นเอาเหงื่อตกเหมือนกัน หลังจากเช็คอินเรียบร้อยก็ถึงเวลาตามล่าหาอะไรลงท้อง ปลาเลือกร้านที่หน้าตาดูดีที่สุดซึ่งเป็นห้องอาหารของ รร.แห่งหนึ่ง พวกเราเตรียมควักเสบียงที่เตรียมไปออกมาแจมกับอาหารแขกที่สั่ง แต่พบว่าร้านนี้เป็น Pure Vegetarian ซึ่งแม้แต่ไข่ก็ไม่มี แต่มีหรือพวกเราจะยอม
ในที่สุดก็งัดไส้อั่วออกมากินกันจนได้ โดยนัดแนะกันว่าถ้าแขกถามว่าอะไร เราจะบอกว่ามันคือ Veg Sausage 555
อิ่มกันเรียบร้อยแล้วก็เตรียมตัวเดินเที่ยวชมเมืองกัน ปรากฏว่าช่วงที่เราไปกำลังเป็นช่วงเทศกาลบูชาพระศิวะพอดี






ที่สถานีรถไฟเมือง Haridwar



หน้าสถานีรถไฟ Haridwar

เมือง Haridwar หรือภาษาไทยเรียก หริทวาร ซึ่งหมายถึง ประตูสู่พระเจ้า อันเป็นหนึ่งในเมืองศักดิ์สิทธิ์ของประเทศอินเดีย ช่วงเวลาเทศกาลนี้ชาวอินเดียที่นับถือพระศิวะ จะเริ่มออกเดินทางมาที่ Haridwar นี้
เพื่อตักน้ำจากแม่น้ำคงคา กลับไปบูชาพระศิวะที่บ้าน หรือวัด หรือหมู่บ้านของตน
โดยที่เมื่อตักน้ำแล้วจะต้องเดินเท้า กลับไปยังที่ที่จะบูชาพระศิวะ ให้ทันวันที่ 31 กค. ไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหนก็ตาม












พวกเราไม่ได้คาดคิดว่าผู้คนมากมายที่กำลังร่วมเทศกาล จะมาสนใจใยดีกับนักท่องเที่ยวอย่างพวกเรา แต่ที่ไหนได้เพียงแค่เริ่มออกเดินเที่ยว เหล่าหนุ่มฮินดูชนก็พุ่งเข้ามาล้อมหน้า ล้อมหลัง ขอถ่ายรูป รูปแล้วรูปเล่าไม่รู้จักพอ จนหลังๆพวกเราต้องเสียมารยาท ไม่หยุดเดิน ไม่รับไม่ยิ้ม ทำหน้าบึ้งตลอด เอาแมสปิดจมูก ใส่หมวก ใส่แว่นกันแดด ให้เห็นหน้าน้อยที่สุด ไม่ว่าพวกเราจะหยุดยืนกันอยู่ตรงไหน ก็โดนล้อมกรอบเข้ามามุงดู
จนพวกเราชักจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นแพนด้าหลินปิงในสวนสัตว์ยังไงยังงั้น







เด็กคนนี้ตาสวยมากกก






ด้วยความที่ไม่รู้ว่าจะไปไหน ปลาได้ซื้อตั๋วขึ้นกระเช้าเพื่อไปวัดแห่งหนึ่งบนเขา
กว่าจะขึ้นกระเช้าได้ก็ฝ่าด่านล้านฮินดี้
ปรากฎว่าขึ้นไปถึงก็เจอชาวฮินดี้อีกมากมายบนนั้น ตัดสินใจกันว่ากลับลงไปข้างล่างดีกว่า แต่ไม่สามารถนั่งกระเช้ากลับลงมาได้ เพราะผู้คนที่รอคิวยาวเหยียดไม่รู้ว่าอีกกี่ชั่วโมงถึงจะได้ลง คราวนี้ต้องเริ่มออกกำลังขากันแล้ว เดินลงเขาระยะทางประมาณ 1.3 กิโล แต่ด้วยอากาศที่ร้อนจัด แดดเปรี้ยง และสถาพแวดล้อมที่โดนเหล่าหนุ่มฮินดี้รุม (ตอนนี้เริ่มคิดว่าตัวเองเป็นอุนจิแล้ว เหอๆ)
กว่าจะหลุดพ้นเดินกลับถึงรร.ก็ทำเอาพวกเราสะับักสะบอมกันเลยทีเดียว ทุกคนมุ่งมั่นที่จะกระโจนเข้าห้องน้ำอาบน้ำทันทีที่ถึง รร. พร้อมด้วยเดดตอล 1 ขวด จบวันนี้กลุ่มเราก็เลยมีคนกลายร่างเป็นน้องพลอยดาราดังแห่งยุค ที่ถูกหนุ่มฮินดี้รุมมากที่สุด ปลาและตาลบอกว่า ยังดีที่พวกเราฟังภาษาฮินดี้ไม่ออก ถ้าฟังออกแล้วพี่จะหนาว เอิกส์ๆ แค่นี้พวกเราที่ฟังไม่ออกก็สยองขนลุกเกรียวแล้ว ปล่อยให้ปลากับตาลรู้เรื่องกัน 2 คนละกัน ตลอดทั้งทริปพวกเราก็เลยเป็นพวกหวาดผวาเสื้อส้ม เห็นที่ไหนก็เริ่มสยอง รีบหลบๆให้พ้นไป













เย็นวันนั้น พวกเราตัดสินใจกินอาหารเย็นกันในห้อง โดยสั่งจากรร. นิดหน่อย แต่หนักไปทางปีกไก่ทอดที่แม่เลี้ยงน้อยหอบหิ้วมาจากศรีราชา บางคนก็ขอบายอาหารเย็น สลบไสลอยู่ในห้อง



ติดตามการเดินทางสู่ The Valley of Flowers ได้ตามนี้

เกริ่นนำ นับถอยหลังสู่ Valley of Flowers ดินแดนในฝัน

ตอนที่ 1 จาก Delhi ถึง Haridwar เส้นทางเริ่มต้นสู่ The Valley of Flowers

ตอนที่ 2 Joshimath ถึง Ghangaria เมืองสุดท้ายก่อนถึง Valley of Flowers

ตอนที่ 3 เดินชมทุ่งดอกไม้ สายธาร ท่ามกลางหุบเขาน้ำแข็ง

ตอนที่ 4 Hemkund Sahib : The Paradise on Earth

ตอนที่ 5 (จบ) สุดท้ายของการเดินทาง


ใครที่ไม่เห็นรูป ลองรีเฟรชหลายๆครั้งนะคะ





Create Date : 05 สิงหาคม 2554
Last Update : 1 กันยายน 2554 8:31:18 น. 6 comments
Counter : 3553 Pageviews.

 
อิจฉาพี่ตุ๊กที่สุดที่ได้ไปถึง VOF กะซิกๆ

คิดถึงอินเดียมากมาย คิดถึงข้าวหมก คิดถึงแกงกะหรี่ หู๊ยยย แล้วพี่ตุ๊กได้หม่ำอะไรเจ๋งๆไหมคะ


โดย: Jolly Joey วันที่: 5 สิงหาคม 2554 เวลา:19:07:55 น.  

 
เจเจ เมืองแถบที่ไปนี้ เป็นเมืองมังสวิรัติแทบทุกเมืองค่ะ เราได้กินกันแต่ข้าวผัด หมี่ผัด ซุบผัก ผัดผักใส่เครื่องเทศ บางมื้อได้แกงกระหรี่ไข่ บางมื้อก็มีชีสทอดบ้าง ใครอยากลดความอ้วน ทริปนี้สุดยอดเลย 555


โดย: Cookie Nim วันที่: 5 สิงหาคม 2554 เวลา:19:19:05 น.  

 
ตุ๊กน่ะ กินอะไรก็อร่อยไปหมดแหละ


โดย: พี่อ๋อย IP: 118.173.112.91 วันที่: 5 สิงหาคม 2554 เวลา:19:44:08 น.  

 
มาตอกบัตรจ้า รอตอนหน้าอย่างใจจดใจจ่อนะ


โดย: flymom IP: 74.113.221.122 วันที่: 6 สิงหาคม 2554 เวลา:4:14:20 น.  

 
"ไส้กรอกผัก"

พวกแขกคงแอบดู น่ากินจัง ใส่ไรมั่ง จะได้ทำกินกัน



โดย: Nie IP: 125.25.8.198 วันที่: 6 สิงหาคม 2554 เวลา:19:49:25 น.  

 
สนุกมากแต่ที่สำคัญภาพสวยมากๆเหมือนเได้เห็นภาพและบรรยากาศตรงนั้นด้วยตัวเองเลยค่ะ น้องตุ๊ก ขอบคุณที่shareประสพการณ์แบบนี้นะคะ


โดย: woranat IP: 61.90.87.72 วันที่: 6 สิงหาคม 2554 เวลา:21:27:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Cookie Nim
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 71 คน [?]




ขอสงวนสิทธิ์ภาพถ่ายทุกภาพในบล็อคนี้

มีหลายๆคนสงสัยว่าทำไมต้อง Cookie Nim (คุกกี้นิ่ม)
ที่มาของชื่อนี้มาจากชอบกิน soft cookie มาก หัดทำขนมใหม่ๆก็เริ่มจากเจ้านี่แหละ พอมาเล่นเนทนึกชื่อไม่ออก ก็เลยใช้ คุกกี้นิ่ม ตั้งแต่นั้น

หลุดพ้นจากการเป็นมนุษย์เงินเดือน ทำให้มีเวลาว่างทำอะไรๆที่ชอบมากขึ้น ทำขนม ทำสบู่ และทำงานฝีมือ ถึงแม้ว่าสิ่งที่ชอบนั้นจะไม่ก่อให้เกิดรายได้เท่ากับเงินเดือนที่เคยได้ แต่ก็มีความสุขที่ได้ทำ
ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณผู้มีอุปการะคุณคนเดียวของเรา ซึ่งก็คือ"คุณพ่อบ้าน" นั่นเอง

สำหรับเพื่อนๆที่อยากได้ภาพ หรือบทความในบล็อกนี้ไปใช้ในทางบริสุทธิ์ใจ เช่น อยากนำไปตกแต่งบล็อคของคุณ หรือสูตรขนมไปทำแล้วเผยแพร่ต่อโดยไม่ได้หาผลประโยชน์ส่วนตน จขบ.ยินดีค่ะ รบกวนแค่อ้างอิงแหล่งที่มาสักหน่อยเท่านั้น
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2554
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
5 สิงหาคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Cookie Nim's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.