Hemkund Sahib : The Paradise on Earth 29 กค.54. วันนี้เราจะขึ้น Hemkund Sahib กัน สมาชิกส่วนใหญ่จะนั่งม้าขึ้นไป เพราะจากข้อมูลทราบมาว่าทางชันมาก มี 3 สาวอึดที่จะเดินขึ้น คือ ตาล ต่วน (2 สาวอึดประจำทริป) และ ปลาซึ่งยังเข็ดกับการนั่งม้า เมื่อลงมานั่งที่โต๊ะกินข้าวประจำที่นั่งกันทุกวัน พนักงานก็ยกหม้อข้าวต้มหอมฉุยมาตั้ง อีกสักพักก็มีไข่เจียวมาวาง ใครลงมาก่อนก็จัดแจงบรรเลงกันไปก่อน โดยที่เราคิดว่าปลาสั่งไว้ตั้งแต่เมื่อวาน ถามกันไปถามกันมาได้ความว่าไม่มีใครสั่ง แต่ทาง รร.จัดเตรียมให้เอง แปลกที่ว่าพ่อครัวต้มข้าวต้มได้เหมือนเรากินอยู่บ้านมาก ไข่เจียวก็เจียวได้หน้าตาไทยๆ ซึ่งปกติถ้าสั่งไข่เจียวเมืองแขกทีไรจะออกมาด้านๆแบนๆ เช้านี้พวกเราก็เลยอิ่มอร่อยถูกปากถูกใจ จากนั้นก็ออกเดินทาง 9 สาวงามขึ้นประจำที่บนหลังม้า ทะยอยเดินตามๆกันไป ทางขึ้นเฮมกุนค่อนข้างชันมาก เป็นทางขึ้นตลอดไม่มีลง ไม่มีทางราบ ผู้ที่เดินขึ้นส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ที่นับถือซิกส์และฮินดู มีนักท่องเที่ยวขึ้นมาน้อยมาก ภาพนี้อภินันทาการจากพี่น้อยเชียงใหม่ หมอกลงจัด อาการเย็นสบาย อาจเพราะทางชันม้าจึงค่อยๆเดินช้าๆ ไม่เร่งมาก วันนี้ก็เลยนั่งกันแบบไม่กระแทกเท่าไหร่ อีกอย่างทุกคนเตรียมตัวมาพร้อมรับแรงกระแทก ก็เลยค่อนข้างสบายไม่เกร็ง วิวสองข้างทางสวย ยิ่งสูงขึ้นไปก็สวยมากขึ้นเรื่อยๆ ผ่านธารหิมะขนาดใหญ่ ที่ด้านล่างละลายเป็นธารน้ำไหลตัดถนนที่เราผ่านด้วย เส้นทางนี้มีการพักม้าเพียงครั้งเดียว เพราะมีระยะทางแค่ 6 กิโลเท่านั้น แต่ก็เป็น 6 กิโลที่ค่อนข้างโหดทีเดียว เพราะชันมาก บางช่วงทางก็ดี บางช่วงก็ไม่ดี ถ้าเดินขึ้นก็หนักเอาการทีเดียว โดยเฉพาะคนที่เข่าไม่ดี ระหว่างพักม้าพวกเราก็นั่งจิบชาร้อนๆ อากาศหนาวๆได้จิบชาร้อนๆแล้วสบายดีจัง ที่ระยะทางประมาณ 2-3 กิโลสุดท้ายก่อนถึงยอดเฮมกุน วิวสองข้างทางสวยมาก มองไปรอบตัว ขุนเขายิ่งใหญ่อลังการ มีหมอกโรยตัว บางช่วงก็จางให้ได้มองเห็นออกไปไกลๆ บางช่วงหมอกก็หนาจัด อย่างกับอยู่ในฝัน ไม่รู้ว่าจะสรรหาคำไหนมาบรรยายได้ คำว่า “สวย” มันไม่พอกับความรู้สึก (ขอยืมน้องนี้มาใช้หน่อยนะ) ถ้าจะบอกว่าเป็นสวรรค์บนดิน ก็ไม่รู้ว่าสวรรค์สวยแบบนี้หรือเปล่า เพราะไม่เคยไป 555 มันสวยจนพวกเราต้องร้องบอกคนจูงม้าว่าขอหยุดลงไปถ่ายรูป อยากจะอยู่ซึมซับความงามนานๆแต่ก็ทำไม่ได้ ต้องรีบขึ้นม้าไปต่อ ระหว่างทางเริ่มเห็นดอก ฺBlue Poppy มากขึ้น แต่ขึ้นไปถ่ายรูปไม่ได้ อีกช่วงเขาก็เห็นดอก Lotus of god ขึ้นเต็มไปหมด หมายมั่นว่าขาลงจะต้องแวะถ่ายรูปสักหน่อย คุรุโกวินท์ สิงห์ ศาสดาคนที่สิบของศาสนาซิกส์ ได้นิมิตว่าชาติก่อนได้มาบำเพ็ญเพียร นั่งสมาธิที่ทะเลสาบน้ำแข็ง ซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขา 7 ลูก และได้บันทึกสถานที่นี้ไว้ในบทกวีที่ชื่อ วิจิตรานาฏ Bichittar Natak ทำให้ชาวซิกส์พากันเสาะหาสถานที่ในตำนานแห่งนี้ ในปี 1930 (ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่ Frank Smythe ได้หลงป่าจนมาพบ Valley of Flowers ) ทหารชาวซิกส์จากเมือง Haridwar ก็มาพบทะเลสาบแห่งนี้ ซึ่งตรงตามบันทึกในบทกวี นั่นคือ ทะเลสาบน้ำแข็ง ( Hemkund ) ล้อมด้วย เขา Saptashringa ซึ่งมีเจ็ดยอด ต่อมาชาวซิกส์ก็ได้ตั้ง คุรุทวาร Gurudwara ( แปลว่า ประตูสู่พระศาสดา) ซึ่งเป็นวัดทางศาสนาซิกส์ขึ้นที่ริมทะเลสาบ Hemkund การจาริกแสวงบุญของชาวซิกส์มายังทะเลสาบ Hemkund จึงเป็นประเพณีนิยม ในแต่ละปีจะมีชาวซิกส์กว่าห้าแสนคนมาจาริกแสวงบุญที่นี่ และทะเลสาบแห่งนี้ก็เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาฮินดู โดยมี Lakshman Temple ตั้งอยู่ เพราะมีความเชื่อว่าพระลักษณ์ ได้มาบำเพ็ญเพียรที่นี่ เพื่อฟื้นฟูร่างกาย หลังจากได้รับบาดเจ็บจากการรบกับอินทรชิตลูกของทศกัณฐ์ ในเรื่องรามเกียรติ์ ทำให้แม่น้ำที่ไหลจากทะเลสาบ Hemkund ได้ชื่อว่า Lakshman Ganga Blue Poppy : Queen of The Himalayan เมื่อขึ้นไปถึง กลุ่มนุ้ย ฝน แหม่ม ม่าน ไปถึงก่อนแล้ว กำลังเริงร่าทำท่า Plangking ถ่ายรูปกันอยู่ พวกเรามี พี่น้อย น้อย นก เิปิ้ล เลยต้องรีบทำเวลาถ่ายรูปบ้าง ที่เนินเขาด้านข้างคุรุทวาร ดอกไม้สีบานเย็นขึ้นอยู่เต็มพื้นหญ้าและซอกหิน สวยน่ารัก อยากจะลงไปนอนแผ่ท่ามกลางดอกไม้ถ้าดินไม่แฉะ เลยได้แต่อาศัยก้อนหินก้อนโตๆเอนๆไป มองไปเห็นมีดอก Blue Poppy ขึ้นอยู่ใกล้ๆกอ Lotus of God พอดี แต่ต้องตะกายขึ้นไปแถวๆเนินหินนิดกว่าจะได้เชยชมโฉมงาม Queen of The Himalayan ทั้ง 2 พวกเราเริงร่ากันอยู่ได้ประมาณชั่วโมงเดียว ฝนก็เริ่มลงและลงหนักขึ้นเรื่อยๆ ต้องฝ่าสายฝนไปหาร้านชานั่งหลบฝนกัน ถึงแม้ร้านชาจะเป็นเพิ่งแคบๆก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการถ่ายรูป พี่น้อย Queen of Trip สามารถถ่ายได้ทุกช็อต พวกเราก็เลยได้สนุกสนานไม่เบื่อระหว่างรอฝนหยุด Lotus of God หนึ่งใน Highlight ของ 2 ดอกไม้ที่นี่ เมื่อฝนซา พี่น้อย น้อย เราและนก ก็ออกไปเดินเล่นถ่ายรูปกัน ส่วนคนอื่นๆที่นั่งม้าขึ้นมาตั้งใจว่าจะเดินลงก็เตรียมตัวกันแล้ว เราเดินถ่ายรูปกันได้ไม่นานนัก ฝนก็ตกลงมาอย่างแรง ตอนนี้ 3 สาวที่เดินขึ้นเพิ่งขึ้นมาถึง ยืนหลบฝนก้ันจนดูท่าว่าคงไม่หยุดง่ายๆ พวกเราตัดสินใจหาม้ากลับ โชคดีมากๆขาลงเจอคนจูงม้าดี ค่อยๆเดินแบบใจเย็นฝ่าสายฝนลงมาเรื่อยๆ วันนี้ก็เลยไม่บอบช้ำ ที่ตั้งใจว่าจะแวะถ่ายรูปดอกไม้ริมทางก็เป็นอันอดไป กว่าจะถึง รร. ก็เปียกมะล่อกมะแล่ก หนาวก็หนาว จะอาบน้ำอุ่น รร.ก็ยังไม่ถึงเวลาต้มน้ำต้องรอจน 6 โมงเย็น ทนไม่ไหวตัดสินใจอาบน้ำเย็นด้วยความรวดเร็ว แต่ละคนพออาบเสร็จมานั่งห่มผ้าสั่นผับๆ แล้วรีบลงมาหาอะไรร้อนๆกินแก้หนาวระหว่างคนอื่นๆที่เหลือ ก่อนนอนไม่ลืมที่จะต้องกินยาแก้หวัด และแก้ปวดเมื่อยอีกตามเคย ติดตามการเดินทางสู่ The Valley of Flowers ได้ตามนี้ เกริ่นนำ นับถอยหลังสู่ Valley of Flowers ดินแดนในฝัน ตอนที่ 1 จาก Delhi ถึง Haridwar เส้นทางเริ่มต้นสู่ The Valley of Flowers ตอนที่ 2 Joshimath ถึง Ghangaria เมืองสุดท้ายก่อนถึง Valley of Flowers ตอนที่ 3 เดินชมทุ่งดอกไม้ สายธาร ท่ามกลางหุบเขาน้ำแข็ง ตอนที่ 4 Hemkund Sahib : The Paradise on Earth ตอนที่ 5 (จบ) สุดท้ายของการเดินทาง ใครที่ไม่เห็นรูป ลองรีเฟรชหลายๆครั้งนะคะ   Create Date : 11 สิงหาคม 2554 3 comments Last Update : 1 กันยายน 2554 8:29:16 น. Counter : 3270 Pageviews. Share Tweet

เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆเลยค่ะน้องตุ๊ก ทั้งเนื้อหาทางประวัติศาสตร์ และความสนุก หาข้อมูลได้เยี่ยม รูปสวยมากกก...   โดย: woranat IP: 171.97.2.34 11 สิงหาคม 2554 22:54:07 น.

ติดตามอ่านทุกตอนเลยค่ะ สนุกเหมือนได้ไปด้วยเลย ขอบคุณมากๆค่ะ   โดย: พี่นุช IP: 118.173.224.184 12 สิงหาคม 2554 17:34:15 น.

สวัสดีค่ะ รับแอดบล้อกนู๋ด้วยนะคะ ^^   โดย: Muffintar (Muffintar ) 24 กรกฎาคม 2555 11:46:50 น.