# 9 :: The Man from Beijing : Henning Mankell :: :: The Man from Beijing : Henning Mankell :: คดีฆ่าล้างหมู่บ้านกว่าสิบศพที่ตอนเหนือของสวีเดน เกิดขึ้นเมื่อต้นปี 2006 ผู้ตายทั้งหมดเป็นญาติกันทางการแต่งงาน ทุกคนอายุเกินหกสิบปี แต่มีหนึ่งรายเป็นเด็ก ตำรวจสืบสวนสอบสวนทำงานกันจนหัวหมุ่น ก็ยังหาตัวคนร้ายไม่เจอ Birgitta ผู้พิพากษาหญิงวัยใกล้ห้าสิบได้เข้าไปพัวพัน เพราะพบว่าแม่ของตัวเอง เคยเป็นลูกบุญธรรมของหนึ่งในผู้เคราะห์ร้าย การฆาตกรรมอย่างทารุณนี้ ทำให้ Birgitta เดินทางไปสืบค้นความเป็นจริงเองด้วยความสงสัย จนบังเอิญพบกับริบบิ้นสีแดง ที่โยงเธอไปถึงตัวผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นคนจีน และเธอก็ได้รูปภาพจากกล้องวงจรปิดมา เธอส่งเรื่องต่อให้ตำรวจ แต่ไม่ได้รับการตอบรับ เพราะขณะนั้นมีคนออกมารับผิดแล้ว แต่เธอไม่ปักใจเชื่อ เรื่องตัดฉากย้อนไปในปี 1863 ที่จีน สามพี่น้อง San, Wu และ Guo Si หนีความยากจนจากบ้านเกิด ไปหางานทำที่กวางตุ้ง แต่โดนลักพาตัวไปขายเป็นแรงงานทาสทำรางรถไฟที่เนวาดา อเมริกา โดย Wu โดนฆ่าทิ้งก่อนขึ้นเรือเพราะป่วยหนักทำงานไม่ได้ เหลือสองพี่น้องเท่านั้น ที่อเมริกา ทั้งคู่ถูกกดขี่อย่างหนักโดยมีผู้คุมเป็นคนสวีเดิน ชื่อ JA ย่อมาจาก Jan Andren ซึ่งกระทำทารุณกรรมกับคนจีนอย่างมาก อย่างไรก็ดี สองพี่น้องทำงานต่อมาอีกสองถึงสามปีก็เสร็จงาน จึงคิดเดินทางไปยังนิวยอร์ก โชคดีได้ทำงานพอเป็นค่าจ้างลงเรือไปยังอังกฤษ เพื่อต่อเรือกลับไปยังบ้านเกิดที่จีน น่าเสียดายที่จวนถึงบ้านแล้ว Guo Si ก็ป่วยตายบนเรือเสียก่อน  บนเรือนั้น San ได้พบกับนักบวชชาวสวีเดนสองคนที่ต้องการไปเผยแผ่ศาสนาที่จีน จึงตกลงจ้าง San เป็นผู้ช่วย ขณะอยู่ที่จีนแรกๆ นักบวชสองคนนั้นก็ดีต่อเขา แต่อยู่ไปอยู่มา San เริ่มตั้งคำถามกับความมีน้ำใจที่นักบวชกล่าวอ้าง เขาคิดลงหลักปักฐานกับเด็กสาวคนหนึ่ง ก็ถูกห้าม บอกว่าคริสต์ที่เคร่งครัด ไม่อาจแต่งงานก่อนได้รับอนุญาตได้ จนวันหนึ่งเด็กสาวตั้งท้อง ถูกไล่ออกจากที่พัก จนไปตายที่ริมน้ำ ทำให้ San แค้นเคือง เขาจึงเก็บความคับแค้นใจที่มีต่อคนสวีเดนเขียนเป็นไดอะรี่เก็บไว้ ก่อนออกเดินทางจากไป และไดอะรี่ก็ตกทอดไปสู่ลูกหลานรุ่นต่อๆ ไป เรื่องตัดกลับมายังยุคปัจจุบัน หมอสั่งให้ Birgitta พักงาน เพราะความดันเลือดสูง เธอจึงตัดสินใจไปเที่ยวปักกิ่งกับเพื่อนสมัยวัยรุ่นซึ่งทำงานเป็นอาจารย์ทางด้านจีนวิทยา และกำลังไปสัมมนาที่ปักกิ่งพอดี ที่นั่น Birgitta อดใจที่จะไปสืบหาตัวผู้ต้องสงสัยหรือคนร้ายในจินตนาการของเธอเองไม่ได้ เธอใช้รูปที่เธอมีสอบถามไปยังสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งเธอสงสัยอย่างแรงกล้าว่าอาจเกี่ยวพัน จนสุดท้ายเธอถูกทำร้ายกลางถนน จากนั้นก็มีผู้หญิงจีนชื่อ Hong Qui ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงมาคอยดูแล แต่เธอคิดว่าเหมือนเป็นการจัดฉาก เพราะระหว่างที่เธอไม่อยู่ห้องพัก ต้องมีคนมาค้นห้องพักอย่างแน่นอน อย่างไรก็ดี ผู้หญิงจีนคนนั้นดูแลเธอเป็นอย่างดี เธอจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่สวีเดนให้ฟังทั้งหมด พร้อมโชว์รูปสแน็ปช็อตผู้ต้องสงสัย Hong Qui ไม่มีปฏิกิริยา จึงทำให้ Birgitta คิดจะปล่อยเรื่องนี้ไปเสีย ไม่อยากเก็บมารกสมองอีก เดินทางกลับไปสวีเดนทำงานตามเดิม ฝ่าย Hong Qui รู้ตั้งแต่เห็นภาพนั้นแล้วว่า ชายในรูปเป็นบอร์ดีการ์ดของน้องชายของเธอเอง Ya Ru ซึ่งเป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวยมาด้วยการคอร์รัปชัน Hong Qui ไม่กินเส้นกับน้อง เพราะเธอเป็นข้าราชการจีนระดับสูงที่ยึดถือหลักการปฏิบัติของประธานเหมาฯ มาโดยตลอด แม้แต่การเปิดประเทศของเติ้งฯ ก็ไม่เห็นด้วย เพราะคิดว่าจะทำให้จีนกลับไปแบบเดิม เธอคิดว่า Capitalism คือ Second Dynasty ที่มีแต่จะสร้างให้จีนมีความเหลื่อมล้ำสูง อย่างไรก็ดี เธอได้เดินทางพร้อมคณะผู้บริหารประเทศของจีนไปยัง Zimbabwe เพื่อเจรจาให้ความช่วยเหลือ ที่นั่น Ya Ru เดินทางไปด้วย เธอเริ่มรู้สึกถึงอันตรายใกล้เข้ามา เพราะรู้นิสัยน้องชายตนเองดี เธอจึงเขียนจนหมายปิดผนึกให้เพื่อนสมัยเรียนซึ่งเดินทางไปพร้อมคณะเก็บไว้ ถ้าเธอตายค่อยเปิดอ่าน และเธอก็ตายจริงๆ น้องชายลงมือฆ่าพี่สาวทิ้งเพื่อกำจัดคนที่คิดจะล้มเขาก่อนให้สิ้นซาก และปิดปากคนที่เริ่มระแคะระคายสิ่งที่เขาใช้ให้บอร์ดีการ์ดไปทำไว้ที่สวีเดนด้วย อย่างไรก็ดี Ya Ru สืบค้นต่อไปอีกว่าพี่สาวอาจเคยเตือนคนอื่นถึงความฉ้อฉลของเขา จึงคิดตามไป "เก็บกวาด" ให้สิ้นซาก รวมถึงผู้พิพากษาชาวสวีเดนคนนั้นด้วย เพราะเธอคือคนที่อาจสืบไปถึงเบื้องหลังว่าเขาส่งคนไปฆ่าคนในตระกูล Andren ซึ่งปู่ทวดของเขาระบายความเจ็บแค้นไว้ในไดอะรี่ซึ่งตกทอดมาถึงเขา Birgitta กลับไปใช้ชีวิตตามเดิม อยู่ๆ วันหนึ่งก็มีหญิงจีนชื่อ Ho มาบอกว่า Hong Qui ตายแล้ว และส่งข่าวผ่านเพื่อนอีกคนหนึ่งมาให้เตือนเธอ ถ้าเกิดอะไรขึ้น ให้ไปหา Ho ได้ที่ลอนดอน Birgitta เก็บความแปลกใจไว้จนกระทั่งได้ข่าวว่าเจ้าของโรงแรมคนที่เธอได้รูปของชายชาวจีนมานั้นถูกฆาตกรรม เธอเข้าใจทันทีว่าความตายใกล้มาเยือน ด้วยความตระหนกจึงเดินทางไปลอนดอนทันที ขณะอยู่ที่โน่น Ya Ru ก็ติดตามไปด้วย หลังจากตัดสินใจจะลงมือสะสางเรื่องทั้งหมดด้วยตัวเอง เขาฆ่าเจ้าของโรงแรมปิดปากไปหนึ่งราย แอบเข้าไปในบ้าน Birgitta จนคิดว่าเธอมาที่ลอนดอน และคิดฆ่าเธอที่นั่น อย่างไรก็ดี ยังไม่ทันที่จะได้สังหาร เรื่องกลับตาลปัตร เขาถูกลอบยิงจนเสียชีวิตเสียก่อนโดยลูกชายของ Hong Qui ซึ่ง Ho ให้การช่วยเหลืออยู่อย่างลับๆ  เมื่อจบเหตุการณ์นั้น Brigitta เขียนจดหมายปิดผนึกไปถึงตำรวจสอบสวนคดีที่สวีเดน เล่าความจริงเรื่องคดีฆาตกรรมที่หมู่บ้านตอนเหนือว่าเป็นผลพวงมาจากความแค้นซึ่งส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่น จนมาถึงรุ่นหลานที่มีความผิดปกติทางจิต ซ้ำยังเป็นคนรวย มีอำนาจ จึงทำให้เกิดการล้างแค้นและคดีฆาตกรรมขึ้น อ่านจบแล้ว ชอบบรรยากาศแบบ Suspense ในเรื่องนี้มาก คือคนเขียนเขียนให้เรารู้สึกหวาดระแวงตามตัวละคนได้ โดยเฉพาะในช่วงที่รู้ว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตรายแล้วหวาดกลัวไปหมด ไม่รู้ว่าคนร้ายจะมาเมื่อไหร่ แต่เรื่องนี้ เหตุจูงใจที่คนเขียนพยายามโยงไปถึงเรื่องความพยายาทในอดีตเมื่อกว่าร้อยปีก่อน ก็ดูอ่อนเหตุผลไปหน่อย ให้ 4.5 ดาว เพราะสไตล์การเขียนและพล็อตที่ซับซ้อน Mankell, H. (2010). The Man from Beijing, trans. by Laurie Thompson. London: Harvill Secker.    Create Date : 29 มกราคม 2557 3 comments Last Update : 30 มกราคม 2557 8:50:05 น. Counter : 1127 Pageviews. Share Tweet

แค่อ่านรีวิวก็สนุกแล้วค่ะ ส่วนตัวคิดว่าคนเขียนพยายามทำให้คนอ่านเชื่อถือในพล็อตที่สร้างขึ้น โดยให้คนร้ายเป็นโรคจิตค่ะ   โดย: Sab Zab' 30 มกราคม 2557 14:41:46 น.

ในการดูหนังและอ่านหนังสือ ไม่กล้าอ่านแนว Suspense ที่สุดเลยค่ะ มันจำติดสมองไปเลย (เป็นเอามาก 555)   โดย: คุณหนูฤดูร้อน 1 กุมภาพันธ์ 2557 12:18:19 น.

คุณ Sab Zab' - ผมก็เห็นด้วยฮะ เพราะถ้าคนร้ายไม่เป็นโรคจิต คงไม่วางแผนฆาตกรรมบ้าระห่ำเกินจริงได้ขนาดนั้น คือโรคจิตแล้วต้องรวยมากด้วย 555 คุณ คุณหนูฤดูร้อน - คนเขียนถ้าเขียนดีๆ นี่ภาพติดตาติดในหัวอยู่นานเลยจริงๆ แหละฮะ   โดย: Boyne Byron 3 กุมภาพันธ์ 2557 19:16:02 น.