มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
20 มีนาคม 2553
 

เที่ยวสองเมืองสมุทร - Part III (จบ)




ความเดิมตอนที่แล้ว



เรือยนต์บรรทุกผู้โดยสาร 20 กว่าคน ก็พาล่องคลองอัมพวาเรื่อยมาจนมาส่งชาวคณะที่ท่าเรือวัดบางแคน้อย
วัดบางแคน้อย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง คุณหญิงจุ้ย (น้อย) วงศาโรจน์ เป็นผู้สร้างเมื่อ พ.ศ.2441 เดิมอุโบสถของวัดสร้างบนแพไม้ไผ่ผูกไว้กับต้นโพธิ์ ต่อมาพระอธิการรอด เจ้าอาวาสองค์ที่ 2 ได้สร้างอุโบสถบนพื้นดิน ในปี พ.ศ.2418 ต่อมาอุโบสถหลังเดิมได้ชำรุดทรุดโทรม พระอธิการเขียว เจ้าอาวาสองค์ที่ 6 ได้สร้างอุโบสถขึ้นใหม่ ใรปี พ.ศ.2492 จนกระทั่งปี พ.ศ.2540 อุโบสถหลังเดิมเกิดชำรุดอีก เนื่องจากขาดแคลนวัสดุและคุณภาพเพราะตอนสร้างอยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พระครูสมุทรนันทคุณ (แพร) จึงได้ดำเนินการสร้างอุโบสถหลังใหม่ขึ้น อุโบสถที่สร้างขึ้นใหม่นี้ ภายในจะเป็นไม้สักแกะสลักทั้งหมด อุโบสถหลังนี้มีความงดงามยิ่ง




อุโบสถภายในไม้สักแกะสลักที่น่าสนใจและหาดูได้ยาก ทรงคุณค่าทางด้านศิลปะ ด้วยเป็นฝีมือช่างแกะสลักจากเพชรบุรี ซึ่งมีชื่อเสียงทางด้านแกะสลักไม้เป็นอย่างมาก


รวมทั้งมีงานประดับลายไม้สวยงามมาก เป็นเรื่องทศชาติชาดก (หรือว่าเฉพาะเรื่องเวสสันดรชาดกหว่า ..จำไม่ได้)
เพดานระเบียงโบสถ์ เมื่อเงยหน้าขึ้นไปมอง ก็จะเห็นงานไม้แกะสลักเรื่องราวบางตอนจากรามเกียรติ์





จากพระอุโบสถเราก็เคลื่อนย้ายตัวเอง ขึ้นไปชมกุฎิไม้สัก สักการะพระบรมสารีริกธาตุ
และทำสังฆทานสักหน่อย เข้าวัดทั้งที่ก็ทำบุญกันบ้าง
และสิ่งสวยงามที่เราถ่ายจากด้านหลังอีกอย่างคือ มณฑป รายรอบด้วยรูปพระสงฆ์สาวกจำนวนมาก



ทำบุญ ทำทาน ถ่ายรูปกันเรียบร้อย สมควรแก่เวลา ก็ออกเดินทางกันต่อ
คราวนี้เปลี่ยนพาหนะเป็นรถบัส ...วันนี้ขึ้นรถ ลงเรือ นั่งรถไฟ ครบภายในวันเดียว ...
จุดหมายต่อไปคือ ค่ายบางกุ้ง
เป็นค่ายทหารเรือไทยที่มีความสำคัญทาง ประวัติศาสตร์ สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ยกกองทัพเรือมาตั้งค่ายที่ค่ายบางกุ้ง เรียกว่า "ค่ายบางกุ้ง" โดยสร้างกำแพงล้อมวัดบางกุ้งให้อยู่กลางค่าย เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและเป็นที่เคารพบูชาของทหาร ภายหลังเสียกรุงครั้งที่ 2 ค่ายบางกุ้งก็ร้างไปจนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงสถาปนากรุง ธนบุรี เป็นราชธานีจึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้ชาวจีนจากระยอง ชลบุรี ราชบุรี และกาญจนบุรีรวบรวมผู้คนมาตั้งกองทหารรักษาค่าย จึงมีชื่อเรียกอีกหนึ่งว่า "ค่ายจีนบางกุ้ง" ในปี พ.ศ. 2311 พระเจ้ากรุงอังวะทรงยกทัพผ่านกาญจนบุรีมาล้อมค่ายจีนบางกุ้ง สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงโปรดเกล้าฯ ให้พระมหามนตรี (บุญมา) เป็นแม่ทัพยกไปช่วยเหลือทหารจีนขับไล่กองทัพพม่าทำให้ข้าศึกแตกพ่าย หลังจากนั้นค่ายบางกุ้งแห่งนี้ก็ถูกปล่อยให้รกร้างเกือบ 200 ปี จนมาถึง พ.ศ.2510 กระทรวงศึกษาธิการ จึงได้ตั้งเป็นค่ายลูกเสือขึ้น (ปัจจุบันได้ยกเลิกไปแล้ว) และได้สร้างศาลพระเจ้าตากสินไว้เป็นอนุสรณ์



อนุสาวรีย์นี้ สังเกตเห็นว่าพระพักตร์พระเจ้าตากสิน ยังหนุ่มอยู่มากเลย


ติดกันนั้นคือ วัดบางกุ้ง ซึ่งมีรูปปั้นจำลองแม่ไม้มวยไทยเรียงรายให้เห็นเป็นตัวอย่าง





วัดบางกุ้งเป็นวัดเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยาเช่นกัน อยู่คนละฝั่งกับค่ายบางกุ้งโดยมีถนนผ่านกลาง สิ่งที่น่าสนใจในวัดนี้ได้แก่ คัมภีร์โบราณ ส่วนมากจะเป็นตำรายาโบราณ และบริเวณหน้าวัดด้านที่ติดกับแม่น้ำแม่กลอง จะมีปลาน้ำจืดต่างๆ อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จนได้ชื่อว่า "วังมัจฉา"


เราไม่ได้เข้าไปชมในวัดเพราะไม่เปิด และไกด์ก็พามาดู Unseen นั่นก็คือ
โบสถ์ปรกโพธิ์ โบสถ์เก่าแก่หลังนี้ถูกปกคลุมด้วยไม้ใหญ่ 4 พันธุ์ คือ โพธิ์ ไทร ไกร กร่าง
มองจากด้านนอกจะไม่เห็นตัวอุโบสถหลังนี้เลย ภายในประดิษฐานพระพุทธรูป ชาวบ้านเรียกว่า "หลวงพ่อดำ หรือ หลวงพ่อนิลมณี"



ไหว้พระ ทำบุญ ปิดทอง ขอพร แล้วเดินดูภาพจิตรกรรมฝาฝนังที่ยังไม่จางหายเป็นเรื่องราวพุทธประวัติ



หวังว่าวัดจะดูแลให้คงสภาพนี้ให้นานเท่าที่จะทำได้นะ
หากซ่อมด้วยการลงสีปิดทองใหม่ (รวมทั้งเขียนต่อเติม) ความขลังคงจางไป
จากนั้นก็ออกมาหามุมเด็ดๆ แบบที่หนังสือนำเที่ยวชอบถ่ายมาลงบ้าง



ใกล้กันนั้น ก็มีการจัดสรรพื้นที่ให้ขายสินค้า OTOP บ้าง รวมทั้งตุ๊กตาทหาร หน้าตาน่ารักเหล่านี้



หมดเวลาที่วัดนี้แล้ว ...ขึ้นรถบัสมุ่งหน้าตลาดน้ำอัมพวา
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสมุทรสงครามจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงมื้อเย็น
เรามาเคยมาเดินเที่ยวตลาดน้ำอัมพวา ในบรรยากาศช่วงเช้า
และผ่านเรือนสำนักงานอัมพวาชัยพัฒนานุรักษ์มาแล้ว
ไม่รู้เลยว่า พื้นที่บริเวณหลังเรือนแถวริมน้ำช่วงนั้น ได้พัฒนาและจัดสรรเป็นร้านค้าและการสาธิต เวทีแสดงดนตรีไทย




ได้บรรยากาศน่าจับจ่ายซื้อของมากเลย
...ส่วนริมน้ำนะเหรอ ...ไม่ต้องเป็นห่วง หกโมงเย็นอย่างนี้ คนเพียบอยู่แล้ว



รู้ทั้งรู้ว่า มื้อเย็นกินฟรี ...แต่ว่าเดินชมบรรยากาศยามเย็นไปพลาง



ถ่ายภาพไปพลาง หอมกลิ่นกุ้งเผา ปลาเผา ก๋วยเตี๋ยว



ผสมผสานด้วยแรงโปรโมทของคุณไกด์บนจากบนรถบัสระหว่างทาง
ก็อดไม่ได้ต้องซื้อ ผัดไทเกี๊ยวกรอบ ของคุณป้าที่ลอยเรือหน้าร้านชานชาลา มาแบ่งกันชิม
ซะหน่อย ..อ่ะนะ




ขนมลืมกลืน อยากชิมแค่คำเดียว เค้าไม่แบ่งขายอ่ะ ไม่ชิมก็ได้


เดินเล่นเก็บภาพบรรยากาศยามเย็นไปเรื่อยๆ ก่อน ...





ใกล้จะถึงเวลานัดหมาย ก็พากันมาเดินชมการสาธิตและร้านค้าในพื้นที่อัมพวาชัยพัฒนานุรักษ์
เจอะร้านรับพิมพ์ภาพบนเสื้อ ได้การแล้ว เราได้ของที่ระลึกของตัวเองแล้ว
จัดแจงคัดเลือกรูปถ่ายจากทริปนี้ ตั้งแต่ช่วงเช้าจรดเย็นให้น้องที่ร้านจัดวางให้สวยงามเหมาะสม
จ่ายไปในราคาที่เหมาะสม 299 บาท จากนั้นก็เข้าไปที่ศาลากลางน้ำ
มีเจ้าหน้าที่แจกสมุดโน้ตของททท.เป็นที่ระลึกด้วย



มื้อนี้เป็นบุฟเฟต์ จำไม่ได้ว่ามีอะไรบ้าง เพราะหมดไวมาก
เราตักมาได้แค่ ข้าวราดปลาทูต้มเค็ม ...มาถึงแม่กลอง ยังไงก็อย่าพลาดปลาทู
แน่นอนว่า ..มันก็ต้องมีพิธีการขอบคุณอะไรต่อมิอะไรบ้าง
พออิ่มแล้วก็นั่งรอเวลา ...เพราะกิจกรรมช่วงต่อไป ...น่าตื่นเต้น
เราไปรับเสื้อที่สั่งพิมพ์ไว้แล้ว เค้าเอาภาพที่เลือกมาจัดวางสวยดี ...ชอบมาก



รถบัสมารับตามเวลานัดหมาย...จุดสุดท้ายมุ่งหน้า ตลาดน้ำท่าคา
เราจะไปลงเรือพาย..ชมหิ่งห้อยกันล่ะ
ถือว่าเป็นไฮไลท์ของทริปนี้เลยก็ว่าได้นะ
ตอนช่วงกินข้าว ทีมงาน PhotoTech ก็แนะนำวิธีถ่ายภาพหิ่งห้อยด้วยล่ะ
แต่ว่า กล้อง compact น้อยๆ ของเรารึจะสามารถบันทึกความงามระยิบระยับนี้ได้

พอรถมาถึงท่าน้ำ ก็จัดกลุ่มลงไปนั่งในเรือลำละ 6 คน ..มีคนพายคัดหัวท้ายคัดท้าย
เพิ่งรู้ว่า เพื่อนเราตัวหนา...คุณเธอเบียดเราซะตัวลีบไปเลย
นั่งกันไปเงียบๆ ได้ยินแต่เสียงพายกระทบผิวน้ำ
แสงจันทร์คืนเพ็ญสาดส่องสว่าง ... สว่างเกินไปรึป่าว ..แล้วเราจะมองเห็นหิ่งห้อยเหรอ

แต่ก็ได้เห็นค่ะ ..เห็นแสงวิบ วับ บนยอดไม้ ฝั่งซ้าย ฝั่งขวา
สวยงามแบบเป็นหย่อมๆ สวยจริงๆ นะ
บันทึกไว้แล้วในความทรงจำส่วนตัว ...ไม่รู้จะบรรยายเป็นตัวหนังสืออย่างไรได้อีก

เรือพายไป แล้วก็กลับเรือพาพวกเรากลับมาเทียบท่า
ขึ้นรถบัส...เข้ากรุงเทพโดยสวัสดิภาพ

ทริปนี้ สนุกสนาน อิ่มอร่อย ได้เห็นวิถีชีวิตเรียบง่าย สุขสงบ
ได้ชมอัศจรรย์ธรรมชาติ และความงดงามเชิงช่างในแง่มุมต่างๆ
ขอบคุณ "คุณเพื่อน" ที่โทรมาชวน
ขอบคุณการรถไฟแห่งประเทศไทยที่เปิดเส้นทางท่องเที่ยวเส้นทางนี้
ขอบคุณทีมงาน PhotoTech เจ้าหน้าที่ททท. และเจ้าหน้าที่บริษัททัวร์ ที่ดูแลและให้ข้อมูลต่างๆ นานา
ขอบคุณชาวเมืองสมุทรสาครและสมุทรสาครที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยรอยยิ้ม ตลอดรายการ


ปล.
(1) เนื้อหาเชิงประวัติเรียบเรียงจากเอกสารที่ได้รับแจก
(2) อ่านทริปเดียวกันจาก Blog นู๋เมี่ยง คลิก
(3) ภาพเยอะ อาจโหลดช้าไปบ้าง ก็คลิก banner ไปบ้าน Multiply ที่ด้านขวาได้เลยค่ะ
(4) เพลงประกอบ blog ชื่อ "แม่กลอง" เสียง สุเทพ วงศ์กำแหง





Link ข้อมูลเพิ่มเติม
วัดบางแคน้อย //www.maeklongtoday.com/tour/watbangkaenoi.php
วัดบางกุ้งและค่ายบางกุ้ง //www.maeklongtoday.com/tour/bangkung.php




 

Create Date : 20 มีนาคม 2553
8 comments
Last Update : 21 ธันวาคม 2553 23:26:16 น.
Counter : 1698 Pageviews.

 
 
 
 

ตามมาเที่ยวด้วยคนจ๊ะข้อมูลเพียบดีจังเน๊าะ
หลับฝันดีจ้า
 
 

โดย: อุ้มสี วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:23:59:30 น.  

 
 
 
มาท่องเที่ยวด้วยอีกคนจ่ะ
 
 

โดย: Bua_Jantra วันที่: 21 มีนาคม 2553 เวลา:11:26:18 น.  

 
 
 
คุณอุ้ม คุณ Bua_Jantra >> ยินดีที่แวะมาค่ะ
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 21 มีนาคม 2553 เวลา:13:43:34 น.  

 
 
 
บางกุ้ง

ตกลงก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกุ้งเลยนิครับ

ออกไปในทางสมัยพระเจ้ากรุงธนเสียมากกว่าน้อ
 
 

โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 21 มีนาคม 2553 เวลา:19:22:48 น.  

 
 
 
คุณชาญ >> มันไม่เกี่ยวเลยล่ะ แล้วในประวัติก็ไม่ได้บอกซะด้วยว่าทำไมเรียก บางกุ้ง
หรือว่า ตะก่อนย่านนั้นทำนากุ้ง
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 21 มีนาคม 2553 เวลา:21:30:04 น.  

 
 
 
ขอตามไปเที่ยวด้วยอีกคนนะคะ.. (ผัดไทน่ากินจัง)
 
 

โดย: ศุภมาศ วันที่: 21 มีนาคม 2553 เวลา:23:39:08 น.  

 
 
 
คุณศุภมาศ >> ด้วยความยินดีเลยค่ะ ...ผัดไทอร่อยจริงๆ
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 22 มีนาคม 2553 เวลา:7:38:10 น.  

 
 
 
ที่เที่ยวบล๊อกนี้ชาลีเคยไปกับพ่อแม่มาแล้วค่ะชอบมาก ^^
 
 

โดย: sierra whiskey charlie วันที่: 6 พฤษภาคม 2554 เวลา:20:12:25 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com