มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
18 มีนาคม 2553
 

เที่ยวสองเมืองสมุทร - Part II





ความเดิมตอนที่แล้ว

และแล้วรถไฟท่องเที่ยวที่ติดสติกเกอร์สวยงามแล้ว ก็พาชาวคณะจาก สถานีบ้านแหลม มุ่งหน้าสู่สถานีแม่กลอง
ในเส้นทางนี้ ผ่านสถานีท่าฉลอม สถานีคลองนกเล็ก สถานีบางกระเจ้า สถานีบ้านบ่อ สถานีบางโทรัด
ซึ่งบางสถานที่นั้นก็เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญ ที่สามารถแวะชมได้เช่นกัน
เช่น พระุพุืทธรูปแห่งวัดชีผ้าขาว (วัดมะขาม) พระสีวลีแห่งวัดบางสีคต
ฝูงนกกระยาง นกกระสา นกกาน้ำ ออกบินโฉบหากินให้เห็นอยู่ด้านนึง
อีกด้านนึง ก็เป็นที่อาศัยและทำมาหากินของฝูงลิงแสม
เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ บ้านช่อง สลับกับถ่ายรูปคุณเืพื่อนไปบ้าง
คุณน้องไกด์ก็พาคนจากอบต.กาหลง (เราจำตำแหน่งคุณพี่ท่านนี้ไม่ไ่ด้) มาเล่าถึงพื้นที่ตำบลกาหลง



ตำบลกาหลง อยู่ในเขตเอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร
อยู่ติดชายทะเล เป็นที่ราบลุ่มมีน้ำท่วมถึง

ดังนั้น ชาวบ้านที่นี่จึงมีอาชีพทำนาเกลือ ...คุณพี่อธิบายขั้นตอนการทำนาเกลือให้ฟัง
แต่เสียงรถไฟฉึกฉัก และเสียงเจ๊าะแจ๊ะของคนที่ไม่ตั้งใจฟัง ทำให้เราจับใจความสำคัญไม่ค่อยได้มากนัก
ได้ยินว่า "เดี๋ยวรถไฟจะเสีย ประมาณ 15 นาที ให้ท่านไ้ด้ลงไปชมการทำนาเกลือและถ่ายภาพ"
นี่คือวิธีหยุดรถขบวนท่องเที่ยว สงสารชาวบ้านที่เดินทางปกติในขบวนเดียวกันนัก
แต่ว่า...เราจะรีบลงไป รีบวิ่ง รีบถ่ายรูป และกลับขึ้นตู้โดยสารภายใน 15 นาทีนะ

เราไม่รู้ว่าชาวบ้านบนขบวนรถไฟเดียวกัน จะนึก "ด่า" พวกนักท่องเที่ยวรึป่าวนะ
แต่ชาวบ้านตำบลกาหลงอ่ะ ...ดีใจที่มีนักท่องเที่ยว แวะลงมา จริงๆ นะ
ไม่มีของที่ระลึกขายหรอก แต่พวกเขารีบนำทางเราไต่คันนาเกลือ ออกไปดูวิธีการรื้อเกลือ ที่เว้นไว้ 1 แปลง เพื่อรอสาธิตให้ชาวคณะชมในวันนี้



เราไต่คันนา เดินตามคนอื่นๆ เรื่อยๆ ขอเร่งฝึเท้าทิ้งระยะห่างเพื่อหามุมเหมาะ กดชัตเตอร์
รอหยิบเอาเกล็ดเกลือมาชิมซะหน่อย .. เค็มอ่ะ ...<หล่อนไม่รู้เหรอยะ ว่า เกลือมันเค็ม>



เก็บภาพได้พอสมควร...ก็รีบวิ่งกลับมาขึ้นรถไฟ...เคลื่อนขบวนเดินทาง
รถไฟก็แวะจอดรับ-ส่งผู้โดยสารตามสถานีรายทางต่อไป
บางช่วง น้ำขึ้นสูงมากจนท่วมรางรถไฟด่วน...ชะโงกหน้าออกไปมองแล้ว ตื่นเต้นดี
เอาล่ะ ...ผ่านตลาดร่มหุบแล้วจ๊ะ เดี๋ยวนี้ไม่ไช้ร่มกันแล้ว แต่เป็นแผงผ้าใบ
เป็น UNSEEN (=มองไม่เห็น) ที่น่าประทับใจมากกกกกก ก็เราอยู่ในขบวนรถไฟ มันจะเห็นตอนแม่ค้าหุบร่ม (ลดผ้าใบลง) ได้ไงกันเล่า
ที่ได้เห็นคือ ก้มไปดูกระจาดผัก ที่วางชิดรางรถไฟเ้ท่านั้นเอง



สุดสายแล้ว ลงรถไฟที่ สถานีแม่กลอง ...มีเด็กๆ ชาวแม่กลองบรรเลงอังกะลุงต้อนรับ
ถ่ายรูปน้องๆ แล้ว ...ก็มาถ่ายรูปกันเองบ้าง ...



ตอนนี้เราอยู่ในพื้นที่เขตจังหวัดสมุทรสงครามกันแล้วจ๊ะ

สมุทรสงคราม เป็นจังหวัดเล็กๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงกว่าก็ถึง หากใครชอบการท่องเที่ยวที่ได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นอาชีพการทำสวนผักผลไม้ การเคี่ยวน้ำตาลมะพร้าว หรือ เที่ยวชมตลาดน้ำท่าคาที่ยังคงสภาพตลาดนัดแบบชาวบ้านชาวสวนของชุมชนริมคลอง จังหวัดสมุทรสงครามจึงเป็นจังหวัดที่น่าไปเยี่ยมเยือนสำหรับผู้สนใจการท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิตและวัฒนธรรม

เมืองสมุทรสงครามสร้างขึ้นเมื่อใดไม่ปรากฏหลักฐาน เดิมเข้าใจว่าเป็นแขวงหนึ่งของราชบุรี เรียกว่า “สวนนอก” ต่อมาในสมัยกรุงศรีอยุธยาต่อเนื่องกับสมัยกรุงธนบุรี จึงแยกจากราชบุรี เรียกว่า “เมืองแม่กลอง ”

สมุทรสงครามมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในช่วงที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานี พม่าส่งกองทัพผ่านเข้ามาถึงบริเวณตำบลบางกุ้ง พระเจ้าตากสินมหาราชทรงรวบรวมผู้คนสร้างค่ายป้องกันทัพพม่าจนข้าศึกพ่ายแพ้ไป ณ บริเวณค่ายบางกุ้ง นับเป็นการป้องกันการรุกรานของพม่าเข้ามายังไทยครั้งสำคัญในช่วงเวลานั้น


จากนั้นไกด์ก็เดินนำ...พาไปกราบนมัสการหลวงพ่อวัดบ้านแหลม ณ วัดเพชรสมุทร

วัดบ้านแหลม หรือ วัดเพชรสมุทรวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ตำบลแม่กลอง อำเภอเมือง บริเวณถนนเพชรสมุทร เป็นวัดที่สำคัญของจังหวัดเดิมชื่อ วัดศรีจำปา ตามพงศาวดารฉบับราชหัตถเลขา ปี พ.ศ. 2307 พม่ายกทัพเข้ามาตีเมืองเพชรบุรี แต่กองทัพของกรุงศรีอยุธยาได้ยกทัพมาช่วยรักษาเมืองไว้ได้ ชาวบ้านแหลมในเขตเมืองเพชรบุรีอพยพหนีพม่ามาตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณตำบลแม่กลองเหนือวัดศรีจำปา จึงเรียกหมู่บ้านนี้ว่า “บ้านแหลม” ตามชื่อบ้านเดิมของตนในเมืองเพชรและช่วยกันบูรณะวัดศรีจำปา เรียกวัดนี้ใหม่ว่า “วัดบ้านแหลม”

ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อวัดบ้านแหลมเป็นพระพุทธรูปสำคัญองค์หนึ่งของไทย ซึ่งไม่ได้เป็นแค่ศูนย์รวมศรัทธาและที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวแม่กลองแห่งสมุทรสงครามเท่านั้น แต่ยังเป็นที่เคารพสักการะอย่างกว้างขวางของชาวไทยทุกสารทิศมานานนับสมัยจนถึงกับมีคำกล่าวว่า หากไม่ได้มานมัสการหลวงพ่อวัดบ้านแหลมก็เสมือนมาไม่ถึงเมืองสมุทรสงคราม




องค์หลวงพ่อวัดบ้านแหลมนั้น เป็นพระพุทธรูปปางอุ้มบาตรขนาดเท่าคนจริง สูงประมาณ 167 เซนติเมตร สันนิษฐานว่าสร้างในมัยสุโขทัย-อยุธยาตอนต้น มีประวัติกล่าวว่า หลวงพ่อบ้านแหลมนั้นเป็นพระพุทธรูปที่ได้รับการค้นพบในลำน้ำแม่กลอง ดังตำนานเก่าเล่าว่าชาวประมงได้ลากอวนพบพระพุทธรูป 2 องค์ องค์หนึ่งเป็นพระพุทธรูปปางอุ้มบาตร ซึ่งได้มีการอัญเชิญไปประดิษฐานยังวัดเก่าแก่ในเมืองแม่กลองที่ชื่อว่าวัดศรีจำปา ซึ่งต่อมาได้ชื่อว่าวัดบ้านแหลม ทำให้ชาวบ้านเรียกพระพุทธรูปองค์นี้ว่าหลวงพ่อบ้านแหลมเรื่อยมา ขณะที่อีกองค์หนึ่งนั้นเป็นพระพุทธรูปนั่งซึ่งชาวประมงได้นำกลับไปประดิษฐานที่วัดเขาตะเครา จังหวัดเพชรบุรี บางกระแสกล่าวไว้ว่า การค้นพบหลวงพ่อนั้นเกี่ยวกับตำนานของห้าพระพุทธรูปพี่น้องที่ลอยน้ำมาพร้อมกันจากเมืองเหนือ คือ หลวงพ่อวัดบ้านแหลม หลวงพ่อโสธร หลวงพ่อโตวัดบางพลี หลวงพ่อวัดเขาตะเครา และหลวงพ่อวัดไร่ขิง ซึ่งชาวบ้านริมฝั่งน้ำที่พบเห็นและศรัทธาได้อัญเชิญไปประดิษฐานในแต่ละวัดตามท้องถิ่นของตนเพื่อกราบไหว้บูชาสืบไป

ต่อมาวัดนี้ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรีวรวิหาร ได้รับพระราชทานนามว่า “วัดเพชรสมุทรวรวิหาร” เปิดให้สักการะทุกวัน ตั้งแต่เวลา 6.00-17.00 น. ความเชื่อและวิธีการบูชา เชื่อกันว่าหากได้มาสักการะปิดทองหลวงพ่อบ้านแหลม แล้วจะช่วยเสริมอำนาจบารมีแก่ชีวิต บังเกิดแต่ความเป็นสิริมงคลสืบไป หากใครอธิษฐานของพรหลวงพ่อไว้ในเรื่องใดก็มักจะได้สมความปรารถนาและมักจะกลับมาแก้บนหลวงพ่อด้วยละครรำ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสิ่งที่ท่านโปรดปราน


ผู้คนมากมาย พากันขึ้นไปปิดทองพระพุทธรูปที่ด้านบน
ส่วนด้านนอกนั้นก็มีคณะนาฎศิลป์คอยรำแก้บนด้วย



ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีก็มาร่วมตัวกันที่ท่าน้ำ ...ขณะนี้ก็ล่วงเข้าเวลาบ่ายแล้วท้องเริ่มร้องเตือน
ลงเรือที่ท่าน้ำหลังวัด ล่องไปตามแม่น้ำแม่กลอง



ชมทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำ ชมบ้านเรือน พอเพลินๆ ..ลมพัดเย็น สบายตัว



เลี้ยวเข้าคลองผีหลอก ...
ชาวบ้านทำตุ๊กตาแขวนต้นไม้ไว้หลอกผี แต่เราว่ามันดูน่ากลัว เหมือนคนผูกคอตายอ่ะ



ฝั่งตรงข้ามคือ ร้านอาหารชาวเล ที่เรามุ่งหน้ากันมากินมื้อเที่ยง



ด้วยความหิวจัด...อาหารที่จัดไว้จึงอร่อยหมดทุกอย่าง และกินหมดทุกอย่างเช่นกัน
ทั้งหอยหลอดผัดฉ่า ต้มปลาทูแม่กลอง(ของแท้ต้องหน้างอหักหัก) ยำถั่วพู ไข่เจียว และผัดผักรวม
ตบท้ายล้างคอด้วย ลอดช่องวัดเจษ ที่เจ้าหน้าที่ซื้อจากมหาชัย มาให้ทางร้านจัดขึ้นโต๊ะให้
มีชาและกาแฟให้บริการตัวเองด้วย

อิ่มกันแล้วก็ลงเรือ เดินทางกันต่อไป มุ่งหน้าเข้าคลองอัมพวา



ชมทิวทัศน์ (อีกแล้ว) และวิถีชีวิตของชาวคลอง ..มีบ้านที่ยังเป็นเื่รือนไทยแบบเก่า
และบ้านที่ดัดแปลงตกแต่งเพื่อทำโฮมเตย์ รวมทั้งบ้านพักอาศัยธรรมดาๆ



ล่องเรือมาจนถึงช่วงพื้นที่ค้าขาย ...ผู้คนเดินกันขวักไขว่
เรือพาย เรือยนต์ แล่นสวนกัน ...เรือโดยสารของเราก็จอดแวะซื้อเครื่องดื่มจากร้านเก่าแก่กันนิดนึง



ผู้โดยสารและไกด์ได้ดับกระหายคลายร้อนกันแล้ว ...ก็มุุ่่่งหน้าสู่สถานที่ท่องเที่ยวแห่งต่อไป

โปรดติดตามตอนต่อไป


ปล.
(1) เนื้อหาเชิงประวัติเรียบเรียงจากเอกสารที่ได้รับแจกจากวัดและททท.
(2) อ่านทริปเดียวกันจาก Blog นู๋เมี่ยง คลิก
(3) เพลงประกอบ blog ชื่อ "ท่าฉลอม" เสียง "ธงไชย แมคอินไตย"




//thai.tourismthailand.org/destination-guide/samutsongkhram-75-1-1.html

คำขวัญประจำจังหวัด :
เมืองหอยหลอด ยอดลิ้นจี่ มีอุทยาน ร 2 แม่กลองไหลผ่าน นมัสการหลวงพ่อบ้านแหลม

ข้อมูลทั่วไป :
จังหวัดสมุทรสงครามอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 72 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 416 ตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองออกเป็น 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภออัมพวา และอำเภอบางคนที

อาณาเขต :
ทิศเหนือ ติดต่อกับจังหวัดราชบุรี
ทิศใต้ ติดต่อกับจังหวัดเพชรบุรี และอ่าวไทย
ทิศตะวันออก ติดต่อกับจังหวัดสมุทรสาคร
ทิศตะวันตก ติดต่อกับจังหวัดเพชรบุรีและราชบุรี





Create Date : 18 มีนาคม 2553
Last Update : 21 ธันวาคม 2553 23:25:06 น. 6 comments
Counter : 1611 Pageviews.  
 
 
 
 
ต้มปลาทูนี่อย่างเปรี้ยวๆหวานๆ มีขิงละเปล่าคะคุณนัทธ์ไม่ได้กินนานแล้ว อยากกินจัง สงสัยต้องหาสูตร
 
 

โดย: ตา (ta/'o-o/' ) วันที่: 18 มีนาคม 2553 เวลา:23:57:08 น.  

 
 
 
คุณตา >> ไม่ใช่ค่ะ ต้มปลาทูมื้อนี้เป็น "ต้มมะดัน" ค่ะ
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 19 มีนาคม 2553 เวลา:7:49:09 น.  

 
 
 
ชอบการท่องเที่ยวสไตล์นี้นะ แต่ยังไม่มีโอกาสไปซักที


ทำแท็กเมื่อไหร่บอกโตย จะตามมาอ่านเด้อ
 
 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 19 มีนาคม 2553 เวลา:11:03:05 น.  

 
 
 
คุณเต้ย >> ก็ลองซะทีนะ ..ส่วน tag ที่ว่าพอทำแล้ว จะรีบไปตามจ๊ะ
 
 

โดย: นัทธ์ วันที่: 19 มีนาคม 2553 เวลา:12:52:54 น.  

 
 
 
ตามติดแม่กลองสองฝากฝั่ง

หลีกหนีความวุ่นวายจากตัวเมือง

วาดการ์ตูนก็ช่วยคลายเครียดไปอีกแบบ

นะท่าน

 
 

โดย: chanpanakrit IP: 115.67.124.132 วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:16:53:26 น.  

 
 
 
คลองผีหลอกนี่น่ากลัวนะคะถ้ามาตอนกลางคืน
 
 

โดย: sierra whiskey charlie วันที่: 6 พฤษภาคม 2554 เวลา:20:09:56 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com