บทที่ 22 ยอดชีวิตของกิ่งดาว
บทที่ 22 ยอดชีวิตของกิ่งดาว

ถึงแม้ว่าเสื้อแขนยาวสีดำตัวใหญ่ที่กิ่งดาวสวมใส่จะพอปกปิดชุดนักศึกษาเธอได้ หากแต่ว่าสายตาของหญิงตั้งครรภ์ที่นั่งรอคิวอยู่ในคลินิกก็ต้องหันมาชำเลืองมองหญิงสาวเป็นระยะ แต่ก็ไม่เท่าเด็กสาววัยสิบห้าปีที่นั่งอยู่ด้านหน้าเธอที่ถูกเพ่งมองมากกว่า กิ่งดาวก้มหน้าลงน้อยๆ เสทำเป็นไม่เห็นสายตาของหญิงตั้งครรภ์รอบข้าง ก่อนยกมือขึ้นลูบหน้าท้องตัวเองเบาๆ

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปในภายภาคหน้า เธอก็จะรักและดูแลลูกของเธอให้ดีที่สุด !

“คุณกิ่งดาวเชิญด้านในค่ะ...” เสียงของเจ้าหน้าที่หน้าห้องตรวจขานชื่อ กิ่งดาวรีบหยัดกายลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินดุ่มๆ ตรงเข้าไปในห้องตรวจด้านในที่มีแพทย์รออยู่


วันนี้กว่าที่เทพพิพิธจะสะบัดตัวหลุดออกมาจากกล่อมแก้วก็แทบเหนื่อย ชายหนุ่มออกมาหาอะไรทานนอกวิทยาลัยร่วมกับชานนท์และคบเพลิงผู้เป็นเพื่อนสนิท ไอ้เจ้าเพื่อนทั้งสองคนของเขาต่างก็นั่งซึมด้วยกันทั้งคู่ ไม่รู้ว่าจะเครียดอะไรกันนักหนา แล้วทำไมต้องมาเครียดพร้อมๆ กันด้วยก็ไม่รู้...

“ไอ้นนท์... ตกลงแกจะเลิกกับช่อทิพย์จริงๆ เหรอวะ” คบเพลิงเปิดปากถามคนที่นั่งข้างกัน คำพูดของเขาทำให้เทพพิพิธต้องกลอกตามองชานนท์ตรงๆ

“ไม่รู้สิ...ข้าก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน” น้ำเสียงเย็นชาเอ่ยตอบ

“แต่เขาต้องกลายเป็น.... เอ่อ...ต้องไปทำอย่างนั้นก็เพราะแกเป็นต้นเหตุนะเว้ย” คบเพลิงว่าเสียงเครือ เทพพิพิธฟังแล้วก็ถอนหายใจยาว สิ่งที่เขาทำกับกิ่งดาวไปนั้นก็ทำให้เธอเจ็บช้ำน้ำใจไม่ใช่น้อย ได้แต่หวังเพียงว่ากิ่งดาวจะไม่คิดทำอะไรโง่ๆ แบบนั้น

“นี่ก็ใกล้บ่ายแล้ว ข้ากลับก่อนนะ...” ชานนท์ลุกพรวดขึ้น

“อ้าว วันนี้คาบบ่ายมีเรียนตอนบ่ายสองไม่ใช่เหรอ?”คบเพลิงร้องโหยงก่อนที่ชานนท์จะยิ้มเรียบๆ แล้วเดินจากไป

“ข้าว่าจะไปเดินเล่นแถวนี้หน่อย เอ็งไปด้วยกันมั้ยไอ้คบ” เทพพิพิธเสนอก่อนที่อีกฝ่ายจะถอนใจยาว

“ไม่เอาหรอก กลับไปนอนที่บ้านดีกว่าเหลือเวลาอีกตั้งชั่วโมงหนึ่งแน่ะ” ชายร่างหนายิ้มกวนๆ ก่อนลุกจากเก้าอี้และเดินจากไปอีกคน เมื่อชำระค่าอาหารเสร็จแล้วเทพพิพิธก็ลุกออกมาเดินชมข้าวของที่ตลาดแก้เซ็ง แต่พลันนั้นเองทั้งร่างก็ชนเข้ากับหญิงสาวเบื้องหน้าอย่างแรง

สมุดฝากครรภ์ของกิ่งดาวพลันร่วงหล่นจากมือ ชายหนุ่มตรงหน้ากล่าวขอโทษละล่ำละลั่ก มือหนาคว้าไปหยิบเอาสมุดเล่มเล็กก่อนจะย่นคิ้วหนาเข้าหากัน

มือเรียวสวยรีบฉวยเอาสมุดจากอีกฝ่ายมาในทันทีที่รู้ว่าคนตรงหน้าคือใคร เทพพิพิธรีบเงยหน้าขึ้นจ้องดวงพักตร์ตรงหน้าในทันที

“ดาว...” ชายหนุ่มรำพันเสียงค่อย หัวใจเต้นแรงเป็นเท่าทวีคูณ “นั่นมัน...” เทพพิพิธชี้ไม้ชี้มือไปยังสมุดในมือของหญิงสาว กิ่งดาวสะบัดหน้าหนีก่อนเอี้ยวตัวกลับแต่มือหนาก็คว้าแขนเธอไว้เสียก่อน

“ดาวท้องเหรอ?...ดาวท้องใช่มั้ยครับ?” เทพพิพิธปราดมายืนขวางหน้าเธอไว้

“อย่ามายุ่งกับฉัน” กิ่งดาวกัดฟันพูด สายตากร้านกร้าวที่ซ่อนความเจ็บช้ำเอาไว้ทำให้เทพพิพิธพูดอะไรไม่ออก ชายหนุ่มได้แต่ทอดมองหญิงสาววิ่งหนีไปต่อหน้าต่อตาด้วยความกระวนกระวายใจ กิ่งดาวท้องงั้นเหรอ?... เป็นไปได้ยังไง? แล้วเธอท้องกับใคร...

พลันนั้นเทพพิพิธก็ต้องเบิกตาโพลง สองเท้ารีบวิ่งดุ่มๆ ตรงไปเบื้องหน้าขณะที่สายตาก็กวาดมองหาร่างแบบบางด้วยความร้อนรุ่มใจ


เป็นที่รู้กันดีว่าด้านหน้าของสวนสาธารณะหลังวิทยาลัยจะเป็นแหล่งนัดพบของผู้ชายที่ต้องการหาความสุขก่อนกลับบ้าน นักศึกษาสาวราวสิบคนยืนหลบอยู่ใต้ร่มไม้ รอคอยเวลาที่จะมีชายมาสนใจและเรียกเธอขึ้นรถไปบำเรอความสุขให้กับพวกเขา วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ช่อทิพย์มายืนหลบใต้ร่มอโศกต้นใหญ่ หยดน้ำตาของผู้เป็นบิดายังทำให้หญิงสาวเจ็บปวดหัวใจเมื่อนึกถึงความเจ็บช้ำน้ำใจของนายบุญทิม หากแต่ใบหน้าของชานนท์ที่ยังคงวงเวียนอยู่ในหัวซ้ำไปซ้ำมาก็ยิ่งทำให้เธอรวดร้าวใจมากขึ้นไปอีก แต่บางที...บางทีสิ่งที่เธอได้ทำลงไปมันอาจจะไม่ได้ทำให้เขารู้สึกตัวก็ได้ เขาคงสมน้ำหน้าและสมเพชเวทนาเธอมากกว่า...

ขณะที่หยดน้ำตากำลังจะไหลลงเปื้อนแก้มนั้นเสียงบีบแตรน้อยๆ ของรถเก๋งสีขาวคันงามที่จอดลงตรงหน้าก็ทำให้ร่างบางต้องเงยหน้าขึ้นมองเสียก่อน ช่อทิพย์ก้าวขาออกมาจากใต้ร่มไม้ใหญ่ก่อนที่แขนซ้ายจะถูกชานนท์คว้าเอาไว้

ช่อทิพย์หันขวับมาจ้องหน้าชายหนุ่มด้วยความตกใจ สายตาที่จ้องมองมามันทำให้ช่อทิพย์ต้องสับสนก่อนที่จะสะบัดแขนออกจากการเกาะกุม

“ทำไมเธอต้องทำแบบนี้ด้วย ?” ชายหนุ่มเม้มปาก เบิกตารอฟังคำตอบจากหญิงสาว

ช่อทิพย์เบ้ปากทั้งน้ำตา นี่เขายังมีหน้ามาถามอีกเหรอว่าเป็นเพราะอะไร? มือเรียวสวยยกขึ้นฟาดแก้มซ้ายชานนท์อย่างแรงจนใบหน้าเกลี้ยงเกลาหันขวับไปอีกด้าน

“ที่ฉันเป็นแบบนี้ก็เพราะนาย นายทำลายชีวิตของฉัน ! “ ช่อทิพย์กัดฟันแน่น หยดน้ำตาร่วงเผาะลงมาจากขอบตาขณะที่ชานนท์สะบัดหน้ามาจ้องมองเธอ สายตาของชายหนุ่มนิ่งค้างในบัดดล ความเจ็บช้ำของหญิงสาวแผ่ซึมเข้าสู่หัวใจของชานนท์...

เสียงแตรที่ดังขึ้นอีกครั้งฉุดให้หญิงสาวต้องหันหลังกลับไป แม้อีกฝ่ายจะร้องเรียกแค่ไหนช่อทิพย์ก็ไม่หันหลังกลับไป ชานนท์ได้แต่ทอดมองรถยนต์คันงามขับหายลับไปกับท้องถนนยามค่ำคืนด้วยความรู้สึกผิด


เย็นวันนี้นางศิริจันทร์กับณภาผู้เป็นลูกสาวคนโตรีบบึ่งไปวัดที่อยู่นอกตัวเมืองเพื่อนำดวงชะตาของสามีไปให้สงฆ์สูงวัยผู้นับถือตรวจให้ ภายหลังที่นายภูมิออกจากโรงพยาบาลมาได้สามวันแล้ว

“ดวงชะตาของสามีเอ็งน่ะไม่ค่อยจะดีซักเท่าไหร่ ก็คงจะต้องมีเรื่องให้เจ็บออดแอดๆ ไปอีกสักระยะ ให้มันหมั่นทำบุญให้มาก” ผู้เป็นลุงแท้ๆ ของนางศิริจันทร์กล่าว ณภาหันไปสบสายตากับมารดาด้วยความกังวล

“แน่นะเจ้าคะหลวงลุง” นางศิริจันทร์ถามย้ำก่อนที่สงฆ์สูงวัยจะพยักหน้าเนิบนาบ ณภาหันไปกระซิบกระซาบมารดาก่อนที่ทั้งสองจะตัดสินใจให้สงฆ์ตรงหน้าตรวจดวงชะตาของณภัทร์ให้

ณภาเขียนวันเดือนปีเกิดของณภัทร์ส่งให้สงฆ์ผู้เป็นเจ้าอาวาสก่อนที่ผู้มีศักดิ์เป็นตาจะหยิบขึ้นมาดูและใช้ดินสอขีดๆ เขียนๆ ลงบนกระดาษสีขาวอีกแผ่นหนึ่ง

สองแม่ลูกต่างตั้งหน้าตั้งตารอคำทำนายอย่างใจจดใจจ่อ ศิริจันทร์นั้นเอาแต่เฝ้ารอวันที่ลูกชายจะยอมกลับบ้าน ภาวนาให้สามีเห็นใจและเข้าใจในตัวของณภัทร์ เช่นเดียวกับณภาที่รักและเป็นห่วงน้องชายคนนี้มาก ณภัทร์ต้องไปใช้ชีวิตข้างนอกเพียงลำพัง โดยที่คนเป็นพี่อย่างเธอมิอาจช่วยอะไรได้เลย

“อืมม์...ชะตาของไอ้ณภัทร์นี่...” สงฆ์สูงวัยลากเสียงก่อนจ้องหน้าศิริจันทร์ตรงๆ

“เป็นยังไงคะหลวงลุง ชะตาของณภัทร์เป็นยังไง ลูกชายฉันจะได้กลับบ้านรึเปล่า อนาคตภัทร์จะเป็นยังไงบ้าง?” ผู้เป็นมารดาร้องถามอย่างร้อนรน

“จากที่ข้าตรวจดูชะตาของลูกเอ็งทั้งสามคนมานะ ณภัทร์จะเป็นคนที่ได้ดีมีความสุข พรั่งพร้อมด้วยทรัพย์สินเงินทองและเกียรติยศ มากกว่าลูกทุกคนของเอ็งเลยหละนังศิริจันทร์...” คำตอบที่ได้ยินทำให้ณภาต้องหันไปมองหน้ามารดาแน่นิ่ง

“หากแต่ว่า มันจะต้องพลัดพรากจากครอบครัว อาจจะต้องไปไกลจากบ้านเกิด เพราะชะตาบอกว่าจะได้ดีเมื่อไปอยู่ที่อื่น แต่เชื่อเถอะว่าลูกคนนี้คงจะทำให้เอ็งกับนายภูมิภาคภูมิใจอย่างแน่นอน” รอยยิ้มของสงฆ์ผู้นับถือทำให้นางศิริจันทร์กับณภารู้สึกปลื้มใจอย่างบอกไม่ถูก อย่างน้อยทั้งสองก็ยังได้ยินเรื่องดีๆ เกี่ยวกับณภัทร์ ก็ได้แต่หวังเพียงว่าคำทำนายทายทักจะเป็นจริงตามนั้น...


ณภัทร์เก็บเสื้อผ้าทุกชุดใส่ในกระเป๋าเดินทางใบเดียวที่เขานำติดตัวออกมาจากบ้านเมื่อคราวนั้น ชายหนุ่มสอดจดหมายเล็กๆ ไว้ใต้ประตูห้องของนางบงกช กะว่าไม่คิดจะอยู่ลาผู้เป็นครูด้วยตัวเองเพราะเกรงว่าอาจจะใจอ่อน ไม่กล้าทำตามสิ่งที่หัวใจคิดไว้

เมื่อหอบกระเป๋าใบใหญ่ออกมาจนเกือบถึงบันไดบ้านร่างเพรียวลมก็ต้องชะงักงันกับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ในชุดนักกีฬาที่กำลังเดินดุ่มๆ ขึ้นบ้านมา

“จะไปไหน?...” ณภัทร์เบือนหน้าหนีไปอีกทาง คบเพลิงจ้องหน้าขาวสะอาดที่เรียบเฉยด้วยความงุนงง กระเป๋าเดินทางที่ณภัทร์ถือไว้แน่นมันทำให้เขาใจเสียพิกล

“หลีกไป...” ณภัทร์สั่งเสียงแข็ง ดวงตากลมใสหันมาจ้องหน้าคบเพลิงตรงๆ

“ไม่...นายจะไปไหนภัทร์ แล้วนั่นอะไร เก็บกระเป๋าเสื้อผ้าทำไม”

“ไปไหนมันก็เรื่องของฉัน...ฉันมันไม่สำคัญนี่ นายจะมาสนใจทำไม ฉันมันก็แค่ของเล่น !” รอยยิ้มเหยียดหยันจากอีกฝ่ายทำให้คบเพลิงใจหายวาบ
สายตาอันรวดร้าวของณภัทร์เสียดแทงเข้าไปกลางหัวใจ ความทรงจำที่ผ่านมา... ณภัทร์ไม่มีทางลืมมันไปได้แม้เสี้ยววินาที ยิ่งได้เห็นหน้าเขาก็ยิ่งทำให้ตัวเองอ่อนแอลงทุกที....

หยดน้ำตาน้อยๆ ไหลลงอาบแก้มของชายหนุ่ม “ตอบฉันมาอย่างหนึ่งได้มั้ยคบเพลิง...นายเคยรักฉันบ้างมั้ย?” สิ่งที่ได้ยินทำให้หัวใจของคบเพลิงเต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ชายหนุ่มรู้สึกสับสน ทั้งดีใจและหนักใจที่จะตอบ เสียงข้างหนึ่งเชียร์ให้ตอบไปว่ารัก แต่อีกข้างกลับแย้งว่ามันก็เป็นแค่เรื่องตลก

“ระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้ภัทร์...” เมื่อได้ยินดังนั้นณภัทร์จึงปิดเปลือกตาลงเบาๆ หยดน้ำตาพร่างพรูลงมาเป็นสาย ริมฝีปากเรียวบางเม้มแน่นเข้าหากัน
ร่างเพรียวลมเดินละลิ่วผ่านหน้าคบเพลิงตรงไปยังบันได รีบสาวเท้าลงไปให้เร็วที่สุด

“ภัทร์...” เสียงตะโกนของชายหนุ่มดังแว่วมาตามหลัง หากแต่มันยิ่งทำให้ณภัทร์ยึดกระเป๋าเดินทางใบเดียวในมือไว้แน่นขึ้นและรีบเร่งเท้าให้พ้นจากเขตบ้านหลังนี้โดยเร็วที่สุด

พอถึงหน้าปากซอยชายหนุ่มก็ต้องหยุดนั่งพักเหนื่อยที่ศาลาริมทาง ความมืดมิดของท้องถนนทำให้หัวใจที่แหลกสลายรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ แล้วจะไปที่ไหนเล่า?... จะกลับบ้านไปก็ไม่ได้ ขืนจะหันหลังกลับไปหาเขาก็ไม่มีประโยชน์ มีแต่จะต้องก้าวต่อไปข้างหน้าเท่านั้น...

ณภัทร์ยกมืดขึ้นปาดน้ำตาที่รินไหลลงมาอาบแก้มอย่างไม่ยอมหยุด สูดอากาศเย็นชื้นเข้าปอดพร้อมกับดีดตัวลุกขึ้น สองขาก้าวออกจากศาลา เดินไปตามทางที่มืดมิดอย่างไร้จุดหมายปลายทาง ไม่ต่างอะไรกับสุนัขจรจัดตัวหนึ่งที่ถูกทอดทิ้ง จนมาถึงสี่แยก... ร่างที่โซซัดโซเซมาอย่างเหนื่อยอ่อนก้าวขาข้ามถนนอย่างไม่ทันระวัง ในขณะที่มีรถกำลังวิ่งตรงมาด้วยความเร็วสูง แม้อีกฝ่ายจะบังคับพวงมาลัยเพื่อไม่ให้พุ่งชนร่างนั้นแต่มันก็ยังคงเฉี่ยวเอาจนชายหนุ่มล้มกลิ้งไปกลางถนน เลือดสีแดงฉานไหลอาบลงเปื้อนศีรษะที่กระแทกกับพื้นถนนและร่างกายที่ครูดไปกับผิวถนนอันขรุขระ...


ณภาชะลอรถเมื่อเห็นว่าข้างหน้าเกิดอุบัติเหตุ หญิงสาวปรับลดกระจกรถลงเมื่อพวกชาวบ้านที่ยืนมุงกันอยู่ข้างทางโบกให้จอด มีชายคนหนึ่งชะโงกหน้ามาบอกให้ช่วยพาคนเจ็บไปโรงพยาบาลที

“ลงไปดูหน่อยนะคะคุณแม่...” ณภากระซิบบอกมารดาก่อนที่ทั้งสองจะรีบก้าวขาลงจากรถ วิ่งตามชาวบ้านไปยังที่เกิดเหตุ ร่างคนเจ็บถูกพามาไว้ข้างถนน แม้ใบหน้าจะเปรอะเปื้อนเศษดินและโลหิตสีแดงฉานก็ตาม หากแต่ทั้งนางศิริจันทร์และณภาก็จำคนบนพื้นนี้ได้แม่น

“ณภัทร์ลูกแม่ !” นางศิริจันทร์กรีดร้องเสียงหลงก่อนจะปราดเข้าไปจับร่างลูกชายที่นอนจมกองเลือด

“ภัทร์...” ณภาอุทานเสียงเบาหวิว หัวใจแทบหล่นฮวบลงไปกองกับพื้นเมื่อเห็นสภาพน้องชายตรงหน้า “ช่วยหน่อยค่ะ ช่วยพาไปที่รถหน่อย” หญิงสาววิงวอนพวกชาวบ้านทั้งน้ำตาก่อนคนที่รายล้อมจะช่วยพยุงร่างที่ไม่ได้สติตรงไปยังรถกระบะที่จอดรออยู่ นางศิริจันทร์รีบปีนไปนั่งบนกระบะเคียงข้างร่างลูกชายในขณะที่ณภาตรงไปจับพวงมาลัย รีบออกรถโดยเร็วที่สุด

ไม่นานนักณภัทร์ก็มาถึงมือหมอ แต่มันก็ไม่ทำให้นางศิริจันทร์และณภาวางใจลงไปได้ ทั้งคู่ได้แต่ยืนมองร่างชายหนุ่มที่นอนอยู่บนรถเข็นหายเข้าไปในห้องฉุกเฉินทั้งน้ำตา นางศิริจันทร์เข่าอ่อนยวบลงกับพื้น หญิงสูงวัยยกสองมือที่เปื้อนเลือดขึ้นปิดหน้าพร้อมกับร้องไห้ออกมาด้วยความใจเสีย ณภารีบก้มลงประคองร่างมารดามายังเก้าอี้หน้าห้องฉุกเฉินอย่างทุลักทุเล

“แม่...ไม่เป็นไรนะคะ ภัทร์จะต้องไม่เป็นอะไร” ปลอบมารดาไปทั้งที่ยังใจหวิว หญิงสาวหันไปมองประตูห้องฉุกเฉินอีกครั้งก่อนตัดสินใจหยิบโทรศัพท์กดไปหาบิดา

“มีอะไรพี่ภา...” ณพิตรผู้รับสายแทนบิดาร้องถามเสียงก้อง

“เอาโทรศัพท์ไปให้พ่อหน่อย พี่มีเรื่องสำคัญจะบอก” พี่สาวบอกเสียงสั่นเครือ หยดน้ำตาทำท่าจะร่วงหล่นลงมาอีกครั้ง น้ำเสียงที่ได้ยินทำให้ณพิตรต้องย่นคิ้ว...

“มีเรื่องอะไรรึเปล่าพี่ภา...แล้วทำไมป่านนี้พี่กับคุณแม่ถึงยังไม่กลับบ้าน” น้องสาวซักไซ้

“ฟังพี่นะ ตอนนี้พี่กับแม่อยู่ที่โรงพยาบาล ภัทร์ถูกรถชน...อาการสาหัสมาก” ณภากลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว แม้จะไม่ค่อยชอบน้องชายสักเท่าไหร่หากแต่สิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่ก็ทำให้ณพิตรรีบส่งโทรศัพท์ให้บิดาทันที

“มีอะไรยัยภา...” นายภูมิจ้องหน้าณพิตรที่ยืนหน้าซีดอย่างสงสัยก่อนเอ่ยถามคนปลายสายไป ณภาสูดลมหายใจเข้าปอด พยายามระงับอาการสะอื้นไว้

“พ่อ...ภัทร์ถูกรถชน ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล พอรีบมานะคะ...” พลันนั้นเองนายภูมิก็นิ่งค้างไปชั่วขณะ ความเงียบทำให้ณภารู้สึกร้อนรนขึ้นมาในทันที

“พ่อคะได้ยินที่ภาพูดรึเปล่า...ภัทร์อาการสาหัสมากนะ พ่อมาดูภัทร์หน่อยนะคะ” หยดน้ำตาพร่างพรูลงมาอีกครั้ง

“งั้นเหรอ?...” สองคำที่เผลอหลุดออกมาจากปากของผู้เป็นบิดาอย่างไม่ตั้งใจ มันทำให้ณภาต้องกัดริมฝีปากแน่นอย่างเจ็บช้ำน้ำใจ นางศิริจันทร์ยังคงเอาแต่นั่งร้องไห้อย่างใจเสีย เสื้อของเธอและมารดาต่างเปรอะเปื้อนด้วยคราบโลหิตของน้องชายที่ไม่รู้จะเป็นตายร้ายดีอย่างไร แต่ทว่า...พ่อเธอก็ยังถือทิฐิอย่างไม่ยอมวางมันลง

“ตอนที่พ่อเข้าโรงพยาบาล ภัทร์เองก็มาเยี่ยมพ่อนะ แต่เพราะกลัวว่าถ้าพ่อลืมตาขึ้นมาแล้วเจอหน้าภัทร์...อาการพ่อก็อาจจะยิ่งกำเริบมากขึ้นไปอีก ถือว่าภาขอร้องเถอะนะคะ...ยังไงภัทร์ก็เป็นลูกของพ่อคนนึงเหมือนกัน”



Create Date : 21 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2554 22:29:57 น.
Counter : 479 Pageviews.

5 comments
  
ท้องกับใคร...เทพพคิดได้ไง
โดย: Vicky IP: 202.124.74.2 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2554 เวลา:4:41:32 น.
  
ติดตามต่อตอนหน้าครับ ^^
โดย: ผีเสื้อสีดำ วันที่: 22 พฤศจิกายน 2554 เวลา:16:49:08 น.
  
ใช่ๆ คิดได้ไง
โดย: Nui IP: 119.46.130.232 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2554 เวลา:12:24:39 น.
  
> <

เทพเดินชนดาว เห็นสมุดฝากครรภ์ ถ้าไม่คิดว่าท้อง แล้วจะคิดว่าอะไรล่ะครับ ?

แล้วก่อนหน้านั้น เทพ กับ ดาว ก็มีอะไรกันไปแล้ว...

บทต่อไป เทพจะไปที่คลินิกแห่งนั้น แล้วก็จะได้รู้ว่า ดาวท้องครับ

หรือคุณผู้อ่านคิดยังไงเหรอครับ มันดูไม่สมเหตุ สมผล รึเปล่า... แย้งได้นะครับ ผมจะได้แก้

ขอบคุณที่สงสัยและท้วงติงครับ ^^
โดย: ผีเสื้อสีดำ วันที่: 25 พฤศจิกายน 2554 เวลา:12:56:33 น.
  
ตายแล้ว ตาเทพ คิดได้น่าตบมาก ท้องกับใคร
อยากจะกระโดดหมุนตัวสามรอบแล้วกระโดดถีบจริงๆเลย
โดย: pearzilla IP: 97.87.4.236 วันที่: 15 กรกฎาคม 2555 เวลา:10:39:06 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ผีเสื้อสีดำ
Location :
ศรีสะเกษ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]



จงทำในสิ่งที่คุณคิดว่า...

ทำไม่ได้
พฤศจิกายน 2554

 
 
1
5
6
8
9
10
12
14
16
17
19
20
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
MY VIP Friend