บทที่ 18 หัวใจของกิ่งดาว
บทที่ 18 หัวใจของกิ่งดาว

เสียงเคาะประตูห้องที่ดังกว่าปกตินั้นทำให้เทพพิพิธต้องฝืนลืมตาตื่นขึ้นมา เมื่อลืมตาขึ้นได้ภาพแรกที่ได้เห็นคือดวงหน้าหวานละมุนของหญิงสาวคนหนึ่งที่ซบอยู่บนแผงอกของเขา สายตาที่ยังพร่าเลือนทำให้ชายหนุ่มต้องเอานิ้วขยี้ตาตัวเองสองสามครั้ง จนเมื่อภาพเบื้องหน้าชัดเจนขึ้นชายหนุ่มจึงรีบดันร่างลุกขึ้นนั่งในทันที

คนที่ถูกผลักออกห่างเริ่มบิดกายไปมาในขณะที่เทพพิพิธสำรวงมองเรือนร่างเปลือยเปล่าของตัวเองก่อนหันมาจ้องมองอีกฝ่ายเขม็ง ตกลงว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่... !

เสียงเคาะประตูของผู้เป็นบิดายังคงดังกระหน่ำอยู่ด้านนอกในขณะที่กล่อมแก้วค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองหน้าชายหนุ่มอย่างงัวเงีย

“นี่มันอะไรกันแก้ว...ทำไมเธอถึงมานอนอยู่ในห้องฉันแบบนี้ แล้ว...” ชายหนุ่มรู้สึกจุกอยู่ที่ลำคอ จ้องมองร่างอรชรที่คว้าเอาผ้าห่มขึ้นคลุมร่างกายเปลือยเปล่าตรงหน้า

ดวงหน้านวลเนียนของกล่อมแก้วคล้ายถูกบางอย่างบีบอัด หญิงสาวนิ่วหน้าขณะที่เม้มปากแน่นไม่กล้าสบตาชายหนุ่มก่อนที่นายทรงยุทธ์จะเอากุญแจสำรองไขเข้าห้องมา เมื่อผู้เป็นพ่อได้เห็นสภาพของลูกชายตรงหน้าก็แทบเข่าอ่อนยวบลง นี่เทพพิพิธพาผู้หญิงมานอนในบ้านหรือนี่ !

“ไอ้เทพ...” ผู้เป็นพ่ออุทานเสียงหลงขณะที่ลูกชายได้แต่นั่งหน้าเสียอยู่บนเตียงนอน นายทรงยุทธ์ค่อยๆ หันมายังเด็กสาวที่ทรุดนั่งอยู่ปลายเตียง เมื่อได้เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายแล้วเขาก็ใจหายวาบลงไปในทันใด... ผู้หญิงที่มานอนค้างกับเทพพิพิธไม่ใช่กิ่งดาวที่ลูกชายเขาบอกว่ารักนักหนา แต่กลับเป็น...

สองพ่อลูกได้แต่นิ่งมองร่างแบบบางที่ค่อยๆ ก้มหน้าร้องไห้กระซิก เสียงสะอึกสะอื้นและหยดน้ำตาของกล่อมแก้วทำให้นายทรงยุทธ์ต้องหันมามองเทพพิพิธอย่างสงสัย

“นี่มันเกิดเรื่องอะไร ทำไมแม่หนูนี่ถึงร้องไห้?” ทรงยุทธ์ร้องถามเสียงดังจนผู้เป็นลูกสะดุ้งโหยง เทพพิพิธสั่นศีรษะหงึกหงักก่อนที่กล่อมแก้วจะเงยหน้าขึ้นมองเขาทั้งน้ำตา

“เมื่อคืนเทพเมามากรู้รึเปล่า?...” คำพูดของหญิงสาวทำให้เทพพิพิธต้องนิ่วหน้า ชายหนุ่มยกมือขึ้นกุมศีรษะที่รู้สึกมึนน้อยๆ ใช่...เมื่อคืนนี้เขาคงเมามาก แต่เขาก็ไม่มีทางทำอะไรกล่อมแก้วแน่นอน

“แก้วเผอิญไปเจอเทพเข้า กลัวว่าเทพอาจถูกพวกมิจฉาชีพทำร้าย เลยพาเทพมาส่งที่บ้าน แล้วจากนั้น...” กล่อมแก้วเอาสองมือปิดหน้าก่อนพร่ำไห้ออกมา ทรงยุทธ์กัดริมฝีปากตัวเองเบาๆ ขณะหันไปจ้องหน้าบุตรชายแน่นิ่ง

“แกทำอะไรแม่หนูคนนี้เทพ...” ผู้เป็นบิดาตะคอกถามหากแต่เทพพิพิธกลับกระอึกกระอักพูดอะไรไม่ออก นายทรงยุทธ์ตัดสินใจหันมาถามหญิงสาวที่ทรุดนั่งอยู่ปลายเตียง

“ว่าไงแม่หนู ไอ้เทพพิพิธลูกชายฉันมันทำอะไรเธอ” กล่อมแก้วกัดฟันเงยมองหน้าชายสูงวัยกว่าในขณะที่เทพพิพิธรอฟังคำตอบจากปากเธออย่างใจเต้น เขาเชื่อว่าตัวเองบริสุทธิ์... เขาไม่มีทางทำอะไรแบบนั้นกับกล่อมแก้วเด็ดขาด


วันนี้เป็นวันที่สองที่ช่อทิพย์ต้องนั่งรอใครบางคนที่หน้าบ้านเหมือนที่เคยทำทุกเช้า แต่ก็ไร้วี่แววของชานนท์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนั้นแทบจะทำให้หญิงสาวไม่ทันจะได้ตั้งตัว

เมื่อความคิดถึงและอาวรณ์ยังคงอัดแน่นอยู่ในหัวใจมันก็ผลักดันให้ช่อทิพย์ต้องเดินทางไปหาชายหนุ่มยังบ้านพัก แต่ทว่าหญิงแม่บ้านกลับบอกว่าเขาออกไปนานแล้ว ครั้นเธอไปตามหาเขาที่วิทยาลัยก็กลับไม่พบ ตอนนี้หญิงสาวรู้สึกสิ้นหวังและท้อแท้ใจเป็นที่สุด ขอแค่ให้ได้พบหน้าเขาอีกสักครั้ง ได้ถามเขาให้แน่ใจว่าคิดจะตัดสัมพันธ์กับเธอจริงๆ แล้วหรือ จะถามเขาว่าเธอมันทำตัวไม่ดีตรงไหน เธอพร้อมจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างเพื่อให้เขารัก เพื่อให้เขาพอใจ ขอเพียงแค่ชานนท์ให้โอกาสเธอเท่านั้น

หญิงสาวสูดหายใจเข้าปอดจนสุด จุดหมายแห่งสุดท้ายของเธอก็คือบ้านนางรำของคุณย่าสินีนาฏ บางทีหญิงสูงวัยอาจสงสารเห็นใจและเกลี้ยกล่อมให้ชานนท์กลับมาหาเธออีกครั้งก็เป็นได้ ใช่...คุณย่าสินีนาฏต้องช่วยได้แน่


วันนี้กิ่งดาวต้องขาดเรียน เพราะอากาศวิงเวียนศีรษะและอีกทั้งยังรู้สึกคลื่นไส้อาเจียนอีกต่างหาก ได้กลิ่นอะไรก็รู้สึกเหม็นและสำรอกอาหารที่ทานลงไปออกมาจนหมด นางทับทิมจึงให้ลูกสาวนอนพักอยู่บ้าน ส่วนวันนี้ที่โรงเรียนของกอบกุลก็ปิดกะทันหันเนื่องจากครูอาจารย์ต้องพานักศึกษาเกือบค่อนโรงเรียนไปแข่งขันทักษะวิชาการในตัวจังหวัด

เวลาใกล้จะเพลแล้วนางทับทิมจึงรีบจัดเตรียมสำรับสำหรับไปวัด ผู้เป็นร้องแม่เรียกให้กอบกุลช่วยจับโน่นจับนี่ให้ด้วยความเร่งรีบ กิ่งดาวที่เพิ่งค่อยยังชั่วจึงเดินมาช่วยมารดาอีกแรง

“แม่จ้ะ...ต้มยำปลากะพงในถ้วยนี้เทใส่ปิ่นโตเลยใช่มั้ยจ้ะ?” ลูกสาวคนกลางโก่งคอถามออกมาจากในครัว

“จ้ะ...” นางทับทิมขานรับก่อนมองหากอบกุลลูกสาวคนเล็ก “ไอ้กุล...กุลเอ้ย...ใช้ไปซื้อของหวานที่ร้านค้าในหมู่บ้านป่านนี้ยังไม่มาอีกเหรอเนี่ย?” บ่นอุบอิบอย่างหัวเสียก่อนที่เสียงตะโกนร้องของกอบกุลจะดังแว่วมาแต่ไกล เด็กสาวรีบผลักประตูบ้านเข้ามาอย่างตื่นตระหนก จ้องหน้ามารดาตาโตก่อนจะหยุดหอบหายใจแฮ่กๆ อย่างเหนื่อยอ่อน

“แย่แล้วๆ...” กอบกุลบอกเสียงสั่นขณะที่กิ่งดาวกำลังถือปิ่นโตออกมาจากครัวตรงมาหามารดา กอบกุลพยายามสูดหายใจเข้าไปลึกๆ ริมฝีปากเรียวบางเม้มแน่นขณะจ้องมองใบหน้าที่ซูบซีดของกิ่งดาว

“พี่แก้วกำลังจะหมั้นกับพี่เทพพิพิธค่ะ...” ปิ่นโตที่ถืออยู่พลันหลุดออกจากมือของกิ่งดาวในทันทีที่ได้ยินคำจากปากของน้องสาว นางทับทิมเบิกตาค้างด้วยความตกใจก่อนเดินเข้าไปยึดสองแขนของกอบกุลพร้อมกับเขย่าร่างถาม

“เมื่อตะกี้หนูไปซื้อของหวานที่ร้านค้า พวกคนในหมู่บ้านเขาพูดกันว่าพี่เทพพิพิธพาพ่อแม่มาหมั้นพี่แก้วที่บ้าน ตอนนี้ก็คงกำลังทำพิธีกันอยู่...” กิ่งดาวรู้สึกเวียนศีรษะขึ้นมาอีกครั้ง สายตาอันพร่าเลือนจ้องมองไปยังประตูหน้าบ้านที่เปิดอ้าออกกว้างก่อนจะรีบสาวเท้าวิ่งตรงออกไปให้เร็วที่สุด

รถยนต์คนงามที่จอดอยู่หน้ารั้วบ้านของนางละมุนแทบจะทำให้กิ่งดาวต้องเข่าอ่อนยวบล้มลงตรงนั้นเสียให้ได้ เสียงผู้คนคุยกับจอแจดังมาจากบนเรือนไม้ตรงหน้า หญิงสาวพยายามประคองร่างตัวเอง เดินตรงไปยังบันไดด้วยหัวใจที่สั่นไหว

หญิงสาวจ้องมองรองเท้ามากมายหลายคู่ถอดทิ้งกันไว้หน้าบันได หนึ่งในนั้นมีรองเท้าของผู้ชายคนหนึ่งที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี... จู่ๆ หยดน้ำตามันก็ร่วงลงมาเองอย่างไม่รู้ตัว มือเรียวรีบจับราวบันไดไว้แน่น สาวเท้าขึ้นไปข้างบนให้เร็วที่สุด

ผู้คนมากมายนั่งห้อมล้อมหญิงสาวกับชายหนุ่มทั้งสองคน นายทรงยุทธ์ยื่นเงินจำนวนหนึ่งส่งให้นางละมุนเพื่อเป็นสินสอดสำหรับหมั้นหมาย ร่างระหงที่ยืนตระหง่านอยู่นั้นทำให้ทุกร่างต้องหันมามองเป็นตาเดียว

ทั้งร่างของกิ่งดาวสั่นเทิ้มขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัวในขณะที่กล่อมแก้วได้แต่อ้าปากค้างอย่างตกใจ เธอรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่ฉายชัดอยู่ในสองตาของเพื่อนรักตรงหน้า กิ่งดาวจ้องมองกล่อมแก้วแน่นิ่ง... ดวงตากลมใสที่รื้นด้วยม่านน้ำตาทำให้กล่อมแก้วต้องก้มหน้างุดอย่างไม่กล้าสู้หน้า เทพพิพิธกำลังจะถลากายลุกไปหากิ่งดาวหากแต่ผู้เป็นพ่อก็รั้งตัวไว้เสียก่อน

“อย่าไปนะเทพ...” น้ำเสียงแข็งกร้าวหลุดออกมาจากปากของกล่อมแก้ว นั่นทำให้กิ่งดาวปวดร้าวเข้าไปถึงขั้วหัวใจ ไม่คิดว่าจะถูกทรยศจากคนที่รักและเพื่อนที่คบหากันมานาน ไม่คิดเลยจริงๆ ว่าพวกเขาจะทำกับเธอแบบนี้

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น...ทำไมถึงได้...” น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยถามออกไปก่อนที่หยดน้ำตาจะร่วงเผาะลงมา เทพพิพิธกันฟันแน่นอย่างเจ็บปวด พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาจากสองตาร้อนผ่าว เขารู้สึกผิดนักหนา รู้สึกว่าตัวเองไม่ควรจะได้รับการให้อภัย

“นี่เอ็งไม่รู้เรื่องหรอกเหรอนังดาว พ่อทรงยุทธ์เขาเอาสินสอดมาหมั้นหมายนังกล่อมแก้วมัน ก็พ่อเทพพิพิธน่ะสิใจร้อน... ฉันไม่ยอมให้ลูกสาวของฉันเสียสาวฟรีๆ หรอกนะ” นางละมุนสะบัดเสียงสูงจนพวกชาวบ้านที่มาในงานต้องหันไปกระซิบกระซาบกัน

กล่อมแก้วค่อยๆ ช้อนสายตาขึ้นมองรูปหน้าขาวสะอาดอันงดงามของเทพพิพิธ หยดน้ำตาน้อยๆ ค่อยๆ รินไหลลงมาจากหางตาของชายหนุ่ม สีหน้าเรียบเฉยเย็นชากักเก็บความทุกข์ตรมเอาไว้อย่างยากลำบาก สองตาแดงก่ำยังคงจ้องมองกิ่งดาว ก่อนที่ร่างแบบบางจะเอี้ยวตัวกลับและวิ่งดุ่มๆ ลงบันไดไป

“ดาว...” เทพพิพิธร้องเรียกเสียงหลงหากแต่ก็มิอาจลุกจากพิธีหมั้นวิ่งตามกิ่งดาวไปได้

กิ่งดาววิ่งเตลิดหนีออกมาจากบ้านนางละมุนทั้งน้ำตาก่อนที่ทั้งร่างจะชนเข้ากับสุรเดชอย่างแรง ชายหนุ่มที่เพิ่งทราบข่าวสำคัญยึดร่างเล็กไว้แน่น สองมือจับที่ต้นแขนของหญิงสาวไว้

“ดาว...” เขาเอ่ยเสียงกระซิบขณะที่ดวงหน้าหวานละมุนที่ประเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาค่อยๆ ช้อนสายตาขึ้นมองเขา กิ่งดาวถลาร่างเข้าสวมกอดสุรเดชไว้แน่น รู้สึกเจ็บหัวใจราวกับว่ามันกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เสียให้ได้ ไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องเจอเรื่องแบบนี้ ไม่คิดเลยว่าเธอจะถูกทรยศจากคนที่เธอรักถึงสองคน...

สุรเดชค่อยๆ ยกมือขึ้นลูบหลังกิ่งดาวเบาๆ หยดน้ำตาที่รินไหลเปื้อนบ่าทำให้ชายหนุ่มรับรู้ได้ถึงความเจ็บช้ำที่หญิงสาวได้รับ หากแต่ว่า...เขากลับรู้สึกยินดีที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น ในที่สุดเทพพิพิธก็ออกไปจากชีวิตของกิ่งดาวเสียที

สุทธิดาชะเง้อคอมองหญิงสาวที่นั่งกอดเข่าอยู่ใต้ร่มไม้หน้าบ้านนางสินีนาฏด้วยความสงสาร หลังจากที่ทราบจากหญิงสูงวัยว่าช่อทิพย์เดินทางมาที่นี่เพื่อตามหาชานนท์ หากแต่ว่าผู้เป็นเจ้าของบ้านก็ไม่ทราบเช่นกันว่าตอนนี้หลานชายของเขาอยู่ที่ไหน

“เกิดเรื่องขึ้นเหรอ?...ไอ้เจ้านนท์มันทำอะไร” นางสินีนาฏลากเสียงถามสุทธิดา ในขณะที่อีกฝ่ายอ้ำอึ้งอยู่พักหนึ่งก่อนตัดสินใจปกป้องชานนท์อีกครั้ง

“ไม่มีอะไรหรอกมั้งคะคุณย่า... เขาสองคนคงผิดใจกันนิดหน่อยน่ะค่ะ” พูดไปแล้วก็ถอนใจ เธอสัญญาว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะปิดบังนิสัยของชานนท์ไม่ให้ผู้ใหญ่ได้รับรู้ เขาควรจะได้รับการว่ากล่าวตักเตือนจากผู้ที่เขาเคารพสักครั้ง เพื่อที่ว่าจะได้ไม่ไปทำอะไรให้ผู้หญิงคนอื่นๆ เสียใจอีก

วันนี้สุทธิดาลากลับบ้านเร็วกว่าทุกวัน เธอรีบตรงมาหาคนที่นั่งเศร้าสร้อยอยู่ใต้ร่มไม้คนเดียว และทันทีที่เธอบอกว่าจะพาช่อทิพย์ไปพบกับชานนท์ อีกฝ่ายก็รีบเดินตามมายังรถยนต์เธอทันที

ทั้งสองอยู่บนรถที่กำลังมุ่งหน้าออกจากบ้านนางสินีนาฏ หากแต่หนทางที่สุทธิดาขับไปนั้นกลับเป็นทางที่มุ่งหน้าสู่หมู่บ้านของช่อทิพย์...

“เธอจะพาฉันไปที่ไหนกันแน่...แล้วชานนท์อยู่ที่ไหน?” ช่อทิพย์หันมาถามสารถีสาวเสียงเครือ

“ฉันโกหกเธอ...ฉันจะพาเธอไปส่งที่บ้าน ส่วนชานนท์...ตอนนี้เขาก็คงกำลังอยู่กับผู้หญิงคนใหม่ของเขา...คนที่เธอเจอวันนั้นนั่นแหละ” สุทธิดาหันมาจ้องหน้าช่อทิพย์แวบหนึ่งก่อนจะหันไปมองเส้นทางเบื้องหน้า สิ่งที่ได้ยินมันทำให้คนฟังต้องเม้มปากแน่นด้วยความเจ็บช้ำ

“แล้วเธอ...ไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอ” คำถามของช่อทิพย์ทำให้สุทธิดาเบิกตากว้างขึ้นมาในทันที

“รู้สึกสิ...แต่มันชินชาไปแล้วหละ” รอยยิ้มเรียบสวยอันแสนเจ็บปวดนั้นทำให้ช่อทิพย์แทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ สุทธิดาคงรักชานนท์มานานแล้ว... รักมานานกว่าที่เธอรัก แต่เธอก็มาแย่งชานนท์ไปจากสุทธิดา ผลกรรมมันถึงได้ตามมา ทำให้ชานนท์ทิ้งเธอไปเช่นกัน

สุทธิดาระบายลมหายใจออกเบาๆ ปรับกระจกรถให้สายลมเย็นๆ ด้านนอกได้พัดโชยเข้ามา “ก่อนหน้านี้ฉันพยายามเตือนเธอมาโดยตลอด ทั้งเรื่องนักศึกษาที่รุมตบตีเธอ เรื่องที่ทำให้เธอไม่ได้ขึ้นรำ แต่เธอก็ยังดึงดันจะรักชานนท์ต่ออย่างไม่ยอมแพ้ง่ายๆ”

“นี่...หมายความว่าทั้งหมดเป็นฝีมือของเธองั้นเหรอ?” ชาทิพย์อ้าปากค้าง หัวใจเต้นระรัวอยู่ในอก

“ใช่...แต่อย่าคิดว่าที่ฉันทำไปเพราะจงเกลียดจงชังเธอนะช่อทิพย์...” สุทธิดาค่อยๆ ลดความเร็วเมื่อรถใกล้ถึงหน้าบ้านของผู้โดยสารข้างกาย ใบหน้าเกลี้ยงเกลาหันมามองช่อทิพย์ รอยยิ้มอันอาทรของสุทธิดาทำให้เธอตื้นตันจนพูดอะไรไม่ออก “ฉันทำไป...เพราะหวังดีกับเธอ ไม่อยากเธอต้องมาเป็นเหมือนฉัน...ตัดใจจากชานนท์ซะเถอะนะ”



Create Date : 11 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2554 11:27:40 น.
Counter : 410 Pageviews.

5 comments
  
อัพแล้วนะครับ

ใครมาอ่านแล้วลงชื่อทักทายกันด้วยนะครับ...ได้โปรด T_T
โดย: ผีเสื้อสีดำ วันที่: 11 พฤศจิกายน 2554 เวลา:11:52:13 น.
  
มาแว้ว....ทรมานใจไปแล้ววววว
โดย: Vicky IP: 202.124.75.99 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2554 เวลา:19:21:05 น.
  
เย้...............!
มารายงานตัวแล้วครับ
ผมรอลุ้นว่ามันจะป็นยังไงต่อไปอ่ะ
สงสารกิ่งดาวครับ
โดย: NUI IP: 110.77.140.252 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2554 เวลา:13:13:06 น.
  
ครับ ขอบคุณทุกคนที่มาอ่านและทักทายกันนะครับ

ต่อไป...บอกได้คำเดียวว่า...เศร้าครับ
ไม่ใช่เฉพาะแค่กิ่งดาว แต่ทั้งสี่คนจะต้องเจอกับอุปสรรค มากมาย...

ขอบคุณอีกครั้งนะครับ
โดย: ผีเสื้อสีดำ วันที่: 12 พฤศจิกายน 2554 เวลา:21:43:05 น.
  
ไม่อยากให้เศร้าเลย อ่านแล้วทรมารจาย......!
โดย: Nui IP: 110.77.140.252 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:12:31:57 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ผีเสื้อสีดำ
Location :
ศรีสะเกษ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]



จงทำในสิ่งที่คุณคิดว่า...

ทำไม่ได้
พฤศจิกายน 2554

 
 
1
5
6
8
9
10
12
14
16
17
19
20
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
MY VIP Friend