บทที่ 16 คบเพลิงกลางสายฝน
เมื่อมาถึงเรือนพักณภัทร์ก็รีบเดินดุ่มๆ ตรงไปยังห้องนอนทันทีก่อนที่คบเพลิงจะรีบสาวเท้าเดินตามชายหนุ่มไปและคว้าแขนไว้ คนที่กำลังจะก้าวขาเข้าห้องหันมามองหน้าคบเพลิงตรงๆ

“ฉันหิวข้าวน่ะ...” คนพูดยิ้มแหย ใช้อีกมือลูบหน้าท้องตัวเองเบาๆ เสียงท้องร้องดังจ๊วกๆ นั้นทำให้ณภัทร์ต้องแอบลอบยิ้ม “ทำกับข้าวให้กินหน่อยได้มั้ย?...”

“แล้วนายทำไม่เป็นหรือไง ไข่ก็มี บะหมี่ก็มี ทำเองก็ได้นี่”

“ก็ฉันทำไม่อร่อยนี่... นะภัทร์ ทำให้กินหน่อยนะครับ” ชายหนุ่มยื่นมือไปยึดสองแขนของอีกฝ่ายไว้ก่อนกระเซ้าเบาๆ ณภัทร์ถอนหายใจห้วนๆ ก่อนพยักหน้าสามสี่ครั้ง เดินละลิ่วตรงไปยังส่วนของครัวในขณะที่คบเพลิงมองตามร่างเพรียวลมพร้อมรอยยิ้มหวาน

ไม่นานนักบะหมี่ผัดขี้เมาก็มาเสิร์ฟให้กับคุณชายหนุ่มที่นั่งรออยู่กลางเรือน ณภัทร์เองก็รู้สึกหิวเหมือนกันเลยแบ่งให้ตัวเองด้วยอีกชามนึง เมื่อเห็นชายหนุ่มทานอาหารที่เขาทำอย่างเอร็ดอร่อยก็พลอยทำให้อดปลื้มใจไม่ได้ ตัวก็โตยังกับยักษ์แต่นิสัยนี่เหมือนเด็กสิบขวบไม่มีผิด อยากจะเอื้อมมือไปหยิกแก้มที่ตูมเพราะอาหารในปากนั้นทีนึงจัง

“เออ...ว่าแต่กิ่งดาวเขามีปัญหาอะไรรึเปล่า เห็นสีหน้าไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่เลย” คบเพลิงพูดขึ้นลอยๆ ก่อนที่ณภัทร์จะคว้าเอาแก้วน้ำขึ้นจิบ

“ไปถามเพื่อนนายดูสิว่าทำอะไรให้เพื่อนฉันไม่สบายใจ...” ณภัทร์เน้นเสียงกระแทกกระทั้นทำเอาคบเพลิงต้องเบิกตามองดวงหน้าเนียนละเอียดราวอิสตรีตรงๆ

“ไอ้เทพมันทำอะไรดาวเหรอ?...” เอ่ยปากถามออกไปก็เหมือนกับย้อนถามตัวเองยังไงยังงั้น ณภัทร์เอาตะเกียบคีบเนื้อหมูสามชั้นในจานตัวเองส่งให้คบเพลิงก่อนบอก

“เพื่อนอย่างเราก็มีสิทธิ์แค่คอยดูอยู่ห่างๆ เท่านั้นแหละ เรามีหน้าที่แค่แนะนำและคอยรับฟังเท่านั้น” ณภัทร์คลี่ยิ้มบางๆ ก่อนคีบหมูอีกชิ้นนึงใส่จานคบเพลิง

“อ้าว...ไหงทำงี้ล่ะ?” ชายหนุ่มอ้าปากค้างมองคนตรงข้ามที่ยิ้มร่า

“ฉันกินไม่หมดอ่ะ เสียดายมัน...กินเสร็จแล้วก็แช่จานไว้นะ เดี๋ยวตอนเช้าฉันจะมาล้าง” จบคำณภัทร์ก็คว้าเอาจานและแก้วน้ำของตัวเอง หยัดกายลุกขึ้นเดินละลิ่วสู่ห้องครัวไป

เมื่อเข้านอนได้ไม่ถึงชั่วโมงณภัทร์ก็ต้องลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเคาะประตูที่ดังอยู่หน้าห้อง เสียงลมพัดทิวไม้ดังกรูเกรียวอยู่ด้านนอกก่อนที่ชายหนุ่มจะเบิกตาโพลงเพราะได้ยินเสียงคล้ายฝนตก ฝนตกต้นเดือนธันวาคมเนี่ยนะ?

เมื่อเปิดประตูห้องออกไปก็เห็นคบเพลิงยืนหน้าเหยเกอยู่ตรงหน้า ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ในคราบเสื้อกล้ามสีขาวและกางเกงบ๊อกเซอร์สั้นๆ ส่งยิ้มเจื่อนๆ ให้ณภัทร์

“สงสัยว่าเมื่อกี้ท่อนไม้คงหล่นใส่หลังคามั้ง... นายได้ยินเสียงมั้ย?” ณภัทร์ย่นคิ้ว ก่อนจะเงี่ยหูฟัง...

“ฝนตก...” อากาศบนโลกช่างแปรปรวนขึ้นทุกวัน ฝนจะมาตกอะไรกลางฤดูหนาวแบบนี้ได้นะ

“สงสัยหลังคามันรั่ว น้ำมันเลยไหลลงมาใส่ห้องนอนฉันน่ะ เตียงก็เปียกหมดเลย...” คบเพลิงเสยผมยุ่งๆ ทีนึง

“แล้วทำไงล่ะทีนี้... อย่าบอกนะว่า...”
“ใช่...ขอฉันนอนด้วยคนนะ” คำขอร้องของชายหนุ่มทำให้ณภัทร์ใจเต้นอย่างไม่รู้ตัว เดาไม่ถูกเลยว่าภายในดวงตาสีดำเข้มตรงหน้านี้แอบแฝงอะไรไว้รึเปล่า? ร่างเพรียวลมหันไปมองที่นอนขนาดสองคนนอนก่อนหันขวับมายังคบเพลิง
“อืมม์...แล้วมีหมอนกับผ้าห่มมั้ยล่ะ?”

“หมอนน่ะมี แต่ผ้าห่มเปียกแล้ว” คบเพลิงยิ้มแห้งๆ ก่อนที่ณภัทร์จะถอนหายใจยาว เจ้าของห้องหันหลังกลับก่อนเดินไปล้มตัวลงนอนที่เตียงดังเดิมขณะที่คบเพลิงรีบวิ่งกลับไปยังห้องนอน คว้าเอาหมอนสีขาวใบโปรดรีบตรงมายังห้องของแขกหนุ่มอย่างรวดเร็ว

เมื่อร่างหนาทรุดตัวลงยังที่นอนนุ่มนิ่มหัวใจของณภัทร์มันก็เต้นแรงขึ้นมาในทันใด อากาศภายนอกนั้นหนาวจับใจแต่ทำไมเขาถึงรู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัวก็ไม่รู้นะ ด้วยความที่นอนตะแคงหันหลังให้คบเพลิงจึงไม่รู้ว่าคนข้างๆ หลับไปแล้วรึยัง? ณภัทร์ค่อยๆ พลิกตัวให้นอนหงายก่อนเอนหน้าไปมองใบหน้าคร้ามคมข้างๆ

เสื้อกล้ามบางๆ ที่สวมใส่และอากาศอันเหน็บหนาวทำให้คบเพลิงต้องเบียดกายเข้าหาไออุ่น มือหนาดึงผ้าห่มนวมจากร่างณภัทร์มาห่มไว้ก่อนตะแคงร่างเอาแขนโอบกอดคนข้างกายไว้แน่น ศีรษะได้รูปซบลงกับบ่าของณภัทร์ มือหนายึดแขนเจ้าของห้องไว้ราวกับเด็กน้อยที่หวงของเล่น

คบเพลิงจะรู้บ้างรึเปล่าว่าคนที่เขานอนกอดอยู่นี้เอาแต่นอนมองหน้าเขาเกือบค่อนคืน สิ่งที่เขาแสดงออกมานั้นมันมีความหมายอะไรลึกซึ้งหรือไม่นะ? หรือเขาเพียงแค่ขอไออุ่นพอให้คลายหนาวเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะเพราะอะไร... ร่างหนาๆ ที่โอบกอดณภัทร์ไว้มันทำให้เขาคลายหนาวใจไปด้วย ขอให้ค่ำคืนนี้ยาวนานกว่าทุกคืนด้วยเถิด...

วันนี้ช่อทิพย์ต้องแปลกใจที่ชานนท์ไม่ได้มารอรับเธอที่หน้าบ้านเหมือนอย่างเคย พอหญิงสาวโทร.ไปอีกฝ่ายก็ไม่รับสาย วันนี้เธอจึงต้องอาศัยรถของกล่อมแก้วไปเรียนด้วย แต่เมื่อแยกจากเพื่อนสาวได้ไม่เท่าไหร่เธอก็ต้องประจันหน้ากับสุทธิดาอีกครั้งอย่างไม่ตั้งใจ

รสจูบอันหวานหอมเมื่อคืนนี้ที่เธอได้รับจากชานนท์ยังคงติดตรึงใจหญิงสาวอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก ในขณะที่สุทธิดายืนมองช่อทิพย์ด้วยสีหน้าขมวดมุ่นคล้ายไม่สบายใจ เธอกำลังจะเอ่ยปากบอกเรื่องสำคัญแก่คนตรงหน้าแต่ทว่าช่อทิพย์กลับแสยะยิ้มส่งให้และเดินเชิดหน้าจากไปอย่างหยิ่งผยอง
เธอแน่ใจว่าเธอคือคนที่ชานนท์รักมากที่สุด รักเพียงคนเดียว หญิงสาวคลี่ยิ้มกว้างอย่างเป็นสุขเมื่อคิดถึงอนาคตที่เธอวาดฝันไว้ งานแต่งงานและความรักที่ผลิบานอย่างงดงาม เขาเป็นดังเทพบุตรมาจุติยังโลกมนุษย์เพื่ออยู่เคียงคู่กับเธอ

เมื่อเดินมาจวนจะถึงหน้าตึกคณะบริหารธุรกิจช่อทิพย์ก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นร่างสูงสง่ายืนรออยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ หญิงสาวรีบเดินดุ่มๆ ตรงไปหาเขา แต่ว่าก็ต้องหยุดกึกลงกลางทางเสียก่อน

นักศึกษาสาวสะสวยคนหนึ่งเดินลิ่วมาหาชานนท์ก่อนจับมือชายหนุ่มไว้แน่น ทั้งสองยืนคุยกันอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส สีหน้าและแววตาของชานนท์ที่ทอดมองร่างอรชรตรงหน้านั้นเหมือนกับสายตาตอนที่เขาจ้องมองเธอตอนที่นอนไร้อาภรณ์บนเตียงในห้องของเขา...

ช่อทิพย์กำมือแน่น... รีบก้าวขาฉับๆ เข้าไปหาชายหนุ่มก่อนจะคว้าแขนเขาไว้ ร่างสูงโปร่งหันขวับมาเพราะแรงดึงแต่ทว่าบนใบหน้าอันหล่อเหลาได้รูปกลับเรียบเฉยไร้อารมณ์

“นี่มันอะไรกันนนท์...” ช่อทิพย์ถามเขาเสียงสั่นเครือ ริมฝีปากเรียวบางเม้มแน่นเข้าหากันก่อนที่แพรดาวจะดึงมือเธอออกจากแขนชายหนุ่ม

“เธอเป็นใคร?...แล้วมีสิทธิ์อะไรมาจับมือชานนท์แบบนี้” ช่อทิพย์หันไปตวาดใส่หน้าหญิงสาวข้างกายเขา เหล่านักศึกษาที่เดินผ่านไปมาต่างหันมามองกันเป็นแถว

“หนูเป็นแฟนพี่นนท์ค่ะ...แล้วพี่ล่ะคะ?...เป็นอะไรกับพี่นนท์” หญิงรุ่นน้องเชิดหน้าถามก่อนคลี่ยิ้มเย้ยหยัน แพรดาวสอดมือน้อยๆ ยึดแขนชานนท์ไว้ ช่อทิพย์รู้สึกเหมือนว่าหัวใจตัวเองหล่นฮวบลงไปกองกับพื้นยังไงยังงั้น ชานนท์ไม่แม้แต่จะหันมามองหน้าเธอเลย สายตาอันเย็นชาของเขามันทำให้หญิงสาวหนาวยะเยือกจับขั้วหัวใจ

“นนท์... ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมนนท์ถึงทำแบบนี้” ช่อทิพย์ถลากายเข้าไปหาชายหนุ่ม สองมือเขย่าแขนเขาอย่างแรงก่อนที่ชานนท์จะจ้องมองเธอตาขวาง

“ช่อ... มันก็แค่...ความสัมพันธ์ข้ามคืนน่ะ ผมไม่ได้คิดอะไรกับคุณมากไปกว่านั้น...หวังว่าคงเข้าใจนะ” น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยบอกก่อนแกะมือทั้งสองข้างของหญิงสาวออกจากนั้นจึงควงแขนหญิงคนใหม่เดินหนีไปต่อหน้าต่อตา ช่อทิพย์ร้องเรียกเขาทั้งน้ำตาแต่ร่างสูงสง่านั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะหันมาแม้แต่น้อย ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้?...เธอทำอะไรผิดงั้นเหรอ? ทำไมชานนท์ถึงทำแบบนี้กับเธอ !



กิ่งดาวพยายามเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเมื่อต้องเดินผ่านหน้าแผนกช่างยนต์แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ไม่พ้นสายตาของเทพพิพิธที่ดักรอเธออยู่หน้าแผนกวิชาของตน ชายหนุ่มรีบกระหืดกระหอบวิ่งมาดักหน้าหญิงสาวเอาไว้ทันที ใบหน้าขาวสะอาดชุ่มด้วยเหงื่อเม็ดน้อย สองตาจับจ้องที่ดวงหน้านวลเนียนของกิ่งดาว

“ดาว... ดาวไม่โกรธผมแล้วใช่มั้ย?” เทพพิพิธยืนรอคำตอบจากหญิงสาวอย่างใจเต้น กิ่งดาวสะบัดหน้าหนีไปอีกทางก่อนที่เทพพิพิธจะช้อนมือเธอขึ้นมากุมไว้ “ที่ผมทำไปก็เพราะว่ารักดาวนะครับ...ผมรักดาวมากนะ” คำรักที่ฟังดูจนเลี่ยนทำให้กิ่งดาวเม้มปากแน่น ศักดิ์ศรีที่เสียไปนั้นมันไม่มีวันจะกลับคืนมาได้... ท่าทีเฉยชาของเธอมันทำให้เทพพิพิธเริ่มใจไม่ดี ชายหนุ่มค่อยๆ ปล่อยมือนุ่มนิ่มออก ถอยออกห่างจากร่างอรชรตรงหน้า

“เป็นเพราะไอ้สุรเดชใช่มั้ย?...” ชายหนุ่มตะคอกถามเลือดขึ้นหน้า ชื่อที่ได้ยินมันทำให้กิ่งดาวต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจ ทำไมเทพพิพิธถึงเป็นพาลคนอื่นแบบนี้นะ

“นายอย่าไปเอาเดชเขามาเกี่ยวกับเรื่องนี้นะ เดชเค้าไม่เคยทำอะไรให้ฉันต้อง...” ยังไม่ทันจะจบประโยคหญิงสาวนิ่งค้างกับคำพูดของตัวเอง ภาพวันที่เธอไปเก็บดอกบัวแล้วสุรเดชตรงเข้ามาลวนลามฉายวาบในห้วงคำนึง หากแต่ว่าสายตาอันอบอุ่นและหวังดีนั้น... คอยถามไถ่เมื่อเธอมีปัญหากับเทพพิพิธนั้นเล่า?....

ชายหนุ่มตรงหน้ายักไหล่ก่อนแสยะยิ้ม แววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บแค้นและรวดร้าวใจถูกส่งให้กิ่งดาว “แล้วที่ไอ้เดชมันจะข่มขืนดาวคราวนั้นล่ะ?.... ดาวก็ไม่เสียใจอย่างนั้นเหรอ” เทพพิพิธตะโกนใส่หน้าจนกิ่งดาวสะดุ้งเฮือก

“เทพ...” หญิงสาวจ้องหน้าเขา ไม่คิดว่าเทพพิพิธจะกลายคนเป็นคนอารมณ์ร้ายแบบนี้ “ฉันว่าเราคงคุยกันไม่รู้เรื่อง ได้โปรดอยู่ห่างๆ ฉันจะได้มั้ย?” หญิงสาวถอยหลังไปสองก้าวก่อนเอี้ยวตัวกลับ

“ไม่... ยังไงวันนี้เราก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่องดาว” ชายหนุ่มตรงปรี่ไปคว้าแขนกิ่งดาวไว้ พยายามฉุดกระชากให้เธอหยุดแต่กิ่งดาวก็ขัดขืนไม่ยอมเขาง่ายๆ สองร่างยื้อยุดกันอยู่นานจนกระทั่งหญิงสาวล้มฟาดลงยังขอบถนน

“ดาว...” เทพพิพิธครางแผ่วเบาขณะที่กิ่งดาวเอามือปัดเศษดินที่เปื้อนกระโปรงนักศึกษา สองตาจ้องมองเลือดสีแดงสดที่ไหลซิบออกมาจากหัวเข่าที่ถลอก เทพพิพิธค่อยๆ เดินเข้าไปหาหากแต่ว่าหญิงสาวกลับรีบถอยกายออกห่าง

“ดาว ผมขอโทษ...” กิ่งดาวเบ้ปากก่อนถอนหายใจ หยดน้ำตาร่วงหล่นลงมาจากขอบตาอย่างไม่รู้ตัว หญิงสาวรีบกัดฟันวิ่งหนีไปจากผู้ชายคนนี้ให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่คิดเลยจริงๆ ว่าเธอต้องพบเจอกับอะไรแบบนี้ สิ่งที่เขาทำกับเธอมันยิ่งทำให้เธอรู้สึกเกลียดเขามากขึ้นทุกวัน ทั้งที่เราทั้งสองต่างก็...รักกัน

กิ่งดาวหวังว่าความรักที่มีจะทำให้เราทั้งสองเข้าใจกันในเร็ววัน หากเธอให้อภัยเทพพิพิธและชายหนุ่มก็ไม่ระแวงสงสัยเธอเรื่องสุรเดชจนหาเรื่องมาทะเลาะ ทุกอย่างก็คงจบลงด้วยดี

กิ่งดาวก้าวเดินตรงไปยังแผนกวิชาอย่างอ่อนแรง เมื่อเลี้ยวที่มุมตึกทั้งร่างก็กระทบเข้ากับหญิงสาวคนหนึ่งที่วิ่งตรงมา สองร่างล้มครืนลงไปนอนบนพื้นก่อนจะเงยหน้ามาสบสายตากันแน่นิ่ง

“ช่อ...” กิ่งดาวอุทานเสียงเบาหวิว จ้องมองใบหน้าของเพื่อนสนิทสาวที่เปรอะเปื้อนด้วยคราบน้ำตา “เกิดเรื่องอะไรขึ้นช่อ... เธอร้องไห้ทำไม?” รีบหยัดกายลุกขึ้นก่อนตรงไปหาช่อทิพย์อย่างเป็นห่วง

ช่อทิพย์สะอื้นไห้ออกมาอีกครั้งเมื่อเห็นหน้ากิ่งดาวก่อนที่เธอจะถลาเข้าไปกอดผู้เป็นเพื่อนไว้แน่น กิ่งดาวยกมือขึ้นลูบหลังอีกฝ่ายเบาๆ สัมผัสได้ถึงหยดน้ำตาที่ไหลลงเปียกเสื้อนักศึกษาของเธอ

“เป็นอะไรไปทิพย์... เกิดอะไรขึ้น” กิ่งดาวตบหลังอีกฝ่ายเบาๆ ร่างที่สั่นเทิ้มนั้นทำให้กิ่งดาวรู้สึกไม่ดีเลย ช่อทิพย์กอดร่างหญิงสาวแน่นขึ้นก่อนกลั้นใจบอกสิ่งที่ทำให้เธอรวดร้าวและทรมานใจจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไปได้

“ดาว... ชานนท์เค้า ชานนท์เค้ามีคนอื่น เค้าไปมีผู้หญิงคนอื่นแล้ว”



Create Date : 04 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2554 19:40:45 น.
Counter : 381 Pageviews.

2 comments
  
นิยายของคุณสนุกทุกๆเรื่องเลยค่ะ เป็นกำลังใจและจะติดตามผลงานนะคะ สู้ๆๆ
โดย: airplane IP: 203.144.220.246 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2554 เวลา:16:00:42 น.
  
ขอบคุณคร๊าบ !!!

ดีใจจังเลยมีคนมาเมนต์ให้แล้ว T_T
โดย: ผีเสื้อสีดำ วันที่: 7 พฤศจิกายน 2554 เวลา:22:21:48 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ผีเสื้อสีดำ
Location :
ศรีสะเกษ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]



จงทำในสิ่งที่คุณคิดว่า...

ทำไม่ได้
พฤศจิกายน 2554

 
 
1
5
6
8
9
10
12
14
16
17
19
20
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
MY VIP Friend