บทที่ 19 ไออุ่นของณภัทร์
บทที่ 19 ไออุ่นของณภัทร์

ช่อทิพย์ฝืนใจมาเรียนอย่างยากลำบาก ถ้อยคำของสุทธิดาที่บอกกับเธอยังคงดังแว่วอยู่ในสองหูทุกเวลา จะให้เธอตัดใจจากชานนท์อย่างนั้นหรือ?... เธอทำไมได้หรอก !

วันนี้หญิงสาวมานั่งทานข้าวที่โรงอาหารเพียงคนเดียว ไม่เห็นกิ่งดาว กล่อมแก้ว และณภัทร์... ตอนนี้เธอรู้สึกเดียวดาย อ้างว้าง เหมือนกับว่าเธอถูกทอดทิ้ง จู่ๆ หยดน้ำตามันก็รินไหลลงมาอาบแก้มทั้งสองข้างเมื่อคิดถึงคืนวันอันแสนสุขที่เธอมีกับชายหนุ่มที่รักสุดหัวใจ...

หญิงสาวปาดน้ำตาออกอย่างลวกๆ ก่อนจะเบิกตาค้างเมื่อเห็นร่างสูงสง่าของชานนท์เดินเคียงคู่มากับผู้หญิงคนใหม่ของเขา พลันนั้นช่อทิพย์ก็ดีดตัวลุกจากเก้าอี้ ตรงปรี่เข้าไปหาทั้งสองทันที

ชานนท์จ้องมองหญิงตรงหน้าด้วยความตกใจก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติเหมือนไม่รู้สึกอะไร แพรดาวเดินเข้ามาขวางร่างเขาไว้ก่อนที่เธอจะจ้องหน้าช่อทิพย์ตรงๆ

“ถอยไป...ฉันมีเรื่องจะคุยกับชานนท์” ช่อทิพย์แผดเสียงใส่แต่แพรดาวกลับยักไหล่และแสยะยิ้ม

“ไม่...ฉันไม่ถอย ฉันกับพี่นนท์ไม่มีอะไรปิดบังกัน ถ้าจะคุยอะไรกับพี่นนท์ฉันก็จะฟังด้วย” ความอดทนที่เคยมีมันได้หมดลงแล้ว ช่อทิพย์ผลักร่างคนตรงหน้าออกไปเต็มแรงจนอีกฝ่ายเซล้มลงใส่โต๊ะอาหารของเหล่านักศึกษาที่ทานอาหารกันอยู่

“นี่...” แพรดาวจ้องมองเสื้อนักศึกษาที่เลอะเทอะของตัวเองก่อนจะหันมาจ้องอีกฝ่ายตาขวาง เธอตรงปรี่เข้ามาหาช่อทิพย์ เงื้อมือขึ้นสูงหมายจะฟาดใส่ใบหน้าอีกฝ่ายแต่ทว่าช่อทิพย์ก็ยึดแขนศัตรูตรงหน้าไว้ได้เสียก่อน

เธอสะบัดแขนแพรดาวออกก่อนจะตบหน้าหญิงคนใหม่ของชานนท์เข้าไปเต็มแรง เมื่ออีกฝ่ายล้มคว่ำลงบนพื้นก็รีบตรงปรี่เข้าไปคร่อมร่างแพรดาวไว้พร้อมกับฟาดฝ่ามือลงใส่หน้าหญิงรุ่นน้องอย่างไม่ยั้งมือ ชานนท์ได้แต่ยืนอึ้งอย่างทำอะไรไม่ถูก เหล่านักศึกษามากมายต่างกรูกันเข้ามามุงดูก่อนที่เสียงของอาจารย์ฝ่ายปกครองจะทำให้เสียงเชียร์เหล่านั้นจางหายไป

“หยุด หยุดเดี๋ยวนี้...” เสียงของอาจารย์ชายร่างใหญ่วัยห้าสิบทำให้เหล่านักศึกษาที่มุงดูกันอยู่ต้องแตกกระเจิงไปคนละทิศละทาง ณภัทร์ที่เพิ่งมาถึงที่เกิดเหตุรีบไปดึงร่างช่อทิพย์ออกมาอย่างทุลักทุเลในขณะที่ชานนท์คอยพยุงร่างแพรดาวออกมายืนเคียงข้างอาจารย์ฝ่ายปกครอง ทั้งสองฝ่ายยืนจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใครก่อนที่ทั้งหมดจะถูกสั่งให้ไปยังห้องฝ่ายปกครอง

ทั้งสองคนที่มีเรื่องกันถูกตัดคะแนนความประพฤติด้วยกันทั้งคู่ แต่ที่เลวร้ายกว่านั้นก็คือคนที่เริ่มเรื่องก่อนคือช่อทิพย์ เธอเป็นนักศึกษาที่ได้รับทุนการศึกษาจากวิทยาลัยตั้งแต่เรียนปีหนึ่งเพราะว่าทางบ้านมีฐานะยากจน แต่สิ่งที่เธอได้กระทำลงไปในวันนี้ มันจึงส่งผลให้ทางวิทยาลัยตัดสิทธิ์ที่จะได้รับทุนการศึกษาจากทางวิทยาลัยอีกต่อไป

เมื่อการสอบสวนเสร็จสิ้นลงณภัทร์ก็ได้แต่ยืนจ้องหน้าชานนท์ตรงๆ อยากได้ยินคำพูดสักคำจากปากของผู้ชายคนนี้ เขาควรจะขอโทษช่อทิพย์บ้าง... แต่ไม่เลย... พอแพรดาวออกมาจากห้องแล้วเขาก็รีบจูงมือเธอเดินจากไปทันที ไม่คิดจะเหลียวหันมามองช่อทิพย์เลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้หญิงสาวที่รักเขาทั้งหัวใจต้องกัดฟันมองตามหลังทั้งน้ำตา...

ณภัทร์ทรุดนั่งลงยังระเบียงหน้าห้องฝ่ายปกครองอย่างเหน็ดเหนื่อย สายตาทอดมองร่างของเพื่อนสนิทที่ยังคงยืนนิ่งมองชานนท์ที่เดินจากไปจนลับสายตา

“มันคุ้มแล้วเหรอช่อ...เธอต้องมาเดือดร้อนเพราะผู้ชายคนเดียวแท้ๆ เธอเปลี่ยนไปมากรู้รึเปล่า...” คำพูดของณภัทร์ทำให้น้ำตาต้องรินไหลลงมาจากสองตาร้อนผ่าวของหญิงสาว ช่อทิพย์เม้มปากแน่น... จ้องหน้าณภัทร์ทั้งน้ำตา

“แล้วสิ่งที่ชานนท์ทำกับฉันล่ะ จะให้ฉันทนเฉยๆ โดยไม่ทำอะไรเลยงั้นเหรอ? แกไม่เคยรักใคร แกไม่รู้หรอกภัทร์...” หญิงสาวรำพันเสียงสั่นเครือก่อนจะสะบัดกายเดินดุ่มๆ จากไป

ณภัทร์ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง สิ่งที่เพื่อนสนิทพูดเมื่อครู่ไม่ถูกต้องเท่าไหร่นัก ตอนนี้เขามีความรัก...แม้จะเกรงกลัวกับอาณุภาพของมันมากแต่ก็ยังจะอยากเดินเข้าไปสัมผัสมันดูสักครั้ง

ร่างเพรียวลมหยัดกายลุกขึ้นยืน เดินตรงไปยังห้องสมุดเพื่อสงบจิตใจ แต่เมื่อได้เห็นร่างหนาของคบเพลิงที่ยืนยิ้มแป้นอยู่ใต้ร่มไม้หน้าห้องหนังสือก็ทำให้ณภัทร์ผายยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว

แต่เมื่อกำลังจะก้าวขาเข้าไปหาเขาร่างแน่งน้อยของหญิงสาวสะสวยคนหนึ่งที่ถลาเข้ามาหาคบเพลิงก็ต้องทำให้ณภัทร์หยุดนิ่งเสียก่อน นักฟุตบอลหนุ่มสนทนากับมยุรีอย่างออกรสชาติ ทั้งสองส่งยิ้มให้แก่กัน สีหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุขของเขานั้นมันทำให้ณภัทร์รู้สึกเจ็บแปลบกลางใจยังไงไม่รู้

“ภัทร์...” เสียงเรียกจากด้านหลังทำให้ณภัทร์ต้องสะดุ้งโหยง เขารีบเอี้ยวตัวหันหลังกลับมามองคนข้างหลัง นักศึกษาสาวร่วมห้องยืนกระหืดกระหอบอยู่เบื้องหน้าก่อนที่เธอจะบอกเรื่องสำคัญแก่ณภัทร์

“ตอนนี้ดาวเป็นลม อยู่ที่ห้องพยาบาล...”

“อะไรนะ กิ่งดาวเป็นลมงั้นเหรอ?” ณภัทร์ลากเสียงค้าง รีบวิ่งตรงไปยังห้องพยาบาลทันที ระหว่างทางที่มุ่งไปนั้นนักศึกษาร่วมห้องผู้มาแจ้งข่าวก็ถามไถ่ถึงเรื่องของกิ่งดาวกับเทพพิพิธที่ณภัทร์คงยังไม่ทราบ

“ฉันไม่คิดว่ากล่อมแก้วจะทำแบบนั้นได้...เทพพิพิธก็เหมือนกัน” คำพูดของคนที่วิ่งไปข้างๆ กันทำให้ณภัทร์ต้องหยุดกึกลงกลางทาง ชายหนุ่มย่นหัวคิ้วก่อนหรี่ตามองคนข้างๆ

“ทำอะไร...เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”

“ก็นายเทพพิพิธหมั้นกับกล่อมแก้วแล้วน่ะสิ เขาลือกันว่าเป็นเพราะสองคนนั้นเกิดได้เสียกันแล้วฝ่ายผู้หญิงไม่ยอม ฉันว่ามันต้องเป็นแผนของกล่อมแก้วที่คิดจะจับเทพพิพิธแน่เลย” นักศึกษาตรงหน้ายิ้มมาดมั่นในขณะที่ณภัทร์ได้แต่ยืนนิ่งค้างราวกับรูปปั้นไร้ชีวิต ไม่คาดคิดจริงๆ เลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้... ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ

เมื่อนึกไปถึงกิ่งดาวผู้กำลังตกอยู่ในสถานการณ์อันยากลำบากจึงทำให้ณภัทร์รีบสาวเท้าไปให้ถึงห้องพยาบาล แต่เมื่อได้พบหน้ากิ่งดาวได้ไม่นานครูศศิมาก็เดินตรงมาหาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ห้องพยาบาล

“ครูว่านะ...เดี๋ยวครูพากิ่งดาวไปโรงพยาบาลดีกว่า พอดีครูจะไปเยี่ยมญาติด้วย เห็นกิ่งดาวอาเจียนแบบนี้สงสัยคงเป็นโรคกระเพาะ ไปให้หมอตรวจดูหน่อยก็ดี...” หญิงสูงวัยบอกเสียงขรึมก่อนที่ณภัทร์จะพยักหน้ารับ ค่อยๆ ประคองร่างแบบบางของกิ่งดาวมายังรถของผู้เป็นครู

เมื่อได้เห็นใบหน้าอันซูบซีดของผู้เป็นเพื่อนก็ทำให้ณภัทร์ยิ่งรู้สึกเจ็บใจ กล่อมแก้วและเทพพิพิธ ทั้งสองคนไม่น่าทำแบบนี้กับกิ่งดาวได้เลย คิดบ้างหรือเปล่าว่ากิ่งดาวจะเจ็บปวดสักแค่ไหน?

“แกไม่น่าต้องมาลำบากเพราะฉันเลย...ภัทร์” คนข้างกายหันมาบอกณภัทร์เบาๆ เมื่อรถยนต์มาถึงโรงพยาบาล

“ดาว...เราเป็นเพื่อนกันนะ เพื่อนก็ต้องอยู่เคียงข้างกันสิ...” ณภัทร์กุมมือกิ่งดาวไว้ เม้มปากยิ้มส่งให้หญิงสาว นางศศิมาจัดการพาทั้งสองไปส่งยังห้องตรวจก่อนที่จะแยกตัวไปเยี่ยมญาติที่ตึกผู้ป่วยใน เมื่อพากิ่งดาวเข้าไปพบหมอแล้วณภัทร์ก็ออกมานั่งรอด้านนอกพร้อมกับถอนหายใจเป็นครั้งที่ร้อย

ไม่รู้ว่าวันนี้มันเป็นวันอะไร ทำไมถึงแต่เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นก็ไม่รู้ ทั้งเรื่องของช่อทิพย์และกิ่งดาว ทั้งสองคนต้องถูกคนรักทรยศพร้อมๆ กัน อานุภาพของมันช่างร้ายแรงและน่ากลัวยิ่งนัก ณภัทร์ไม่อยากคิดเลยว่า หากตัวเองต้องตกอยู่ในสภาพดังเช่นช่อทิพย์และกิ่งดาว ตัวเองจะเป็นยังไง? คบเพลิง...จะทำให้เขาเสียใจรึเปล่า?

ชายหนุ่มนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ทบทวนเหตุการณ์ต่างๆ ที่ได้เกิดขึ้นอยู่นานก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นนางพยาบาลกำลังประคองร่างกิ่งดาวออกมาจากห้องตรวจ ณภัทร์จึงรีบดีดตัวลุกจากเก้าอี้ตรงไปหาผู้เป็นเพื่อนทันที
ดวงหน้านวลเนียนที่ซีดเผือดและสายตาที่นิ่งค้างอยู่กลางอากาศของกิ่งดาวทำให้ณภัทร์ใจคอไม่ค่อยดี เขาเดินเข้าไปใกล้และถามอีกฝ่ายเบาๆ

“ดาว...ตกลงหมอว่ายังไงบ้าง เธอเป็นอะไรรึเปล่า?” ณภัทร์จ้องหน้าอีกฝ่ายเพื่อรอฟังคำตอบก่อนที่หยดน้ำตาจะค่อยๆ รินไหลลงมาจากดวงตาของหญิงสาว

ริมฝีปากอวบอิ่มสั่นระริกก่อนจะเม้มเข้าหากันแน่น ดวงตาที่คลอด้วยม่านน้ำตาเงยขึ้นมองหน้าณภัทร์ตรงๆ

“ภัทร์...ฉัน...” กิ่งดาวคว้าเอามือณภัทร์มากุมไว้แน่นในขณะที่อีกฝ่ายได้แต่กลั้นใจฟัง กิ่งดาวพยายามระงับอาการสั่นเทิ้มและหยดน้ำตาไม่ให้รินไหลลงมาแต่ทว่าก็กลับห้ามไม่อยู่ เธอรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังจมดิ่งสู่ก้นเหวอันมืดมิดและไม่มีวันจะได้พบแสงสว่างอีกแล้ว ณภัทร์ค่อยๆ ก้มลงมองกระดาษแผ่นเล็กๆ ในมือของกิ่งดาวก่อนจะหยิบมาอ่าน พลันนั้น...ชายหนุ่มก็ใจหายวาบ รู้สึกเหมือนว่าหัวใจหล่นลงไปกองที่ตาตุ่ม กิ่งดาวบีบมือณภัทร์แน่นขึ้นก่อนบอกเสียงพร่า

“ฉันท้อง...ภัทร์ ฉันท้อง...!!!”


วันนี้ทั้งบ้านต้องแปลกใจที่กิ่งดาวกลับจากวิทยาลัยเร็วกว่าปกติ เมื่อถึงบ้านแล้วก็กักตัวเงียบอยู่แต่ในห้องไม่ยอมออกไปไหนเลย ทุกคนในบ้านต่างรู้ดีถึงความเจ็บช้ำที่กิ่งดาวได้รับ แม้แต่กลอยใจก็ยังรู้สึกเจ็บใจแทนน้องสาวไม่หายที่ถูกเพื่อนรักอย่างกล่อมแก้วมาแย่งเอาเทพพิพิธไปอย่างหน้าไม่อาย หากแต่ว่าอาการอ่อนเพลียของกิ่งดาวที่ยังคงไม่จางหายไปนี่สิ ก็ทำให้เหล่าสมาชิกในบ้านอดเป็นห่วงไม่ได้

พอทำการบ้านเสร็จแล้วกอบกุลก็รีบเข้าครัวไปหั่นแตงโมลูกใหญ่เพื่อจะนำไปให้พี่สาวคนกลางบนห้องทานทันที แต่เมื่อกำลังจะก้าวขาขึ้นบันไดเสียงเคาะประตูหน้าบ้านก็ทำให้เด็กสาวชะงักเสียก่อน

กอบกุลวางจานผลไม้ลงบนโต๊ะกลมหน้าโซฟา รีบเดินดุ่มๆ ไปเปิดประตูบ้าน ก่อนจะได้พบกับชายหนุ่มร่างสูงสง่าที่ยืนเด่นอยู่หน้าประตู

“มาทำไม...พี่ยังมีหน้ามาที่นี่อีกเหรอ?” กอบกุลตวาดใส่หน้าเทพพิพิธ หากแต่ชายหนุ่มก็ไม่ถือสาหาความ เขาเมียงมองเข้าไปในบ้านเพื่อหาร่างของกิ่งดาว “คนบ้านนี้ไม่มีใครต้อนรับพี่อีก...อย่ามาที่นี่อีกนะ” กอบกุลผลักประตูใส่หน้าชายหนุ่มก่อนที่มือหนาจะดันไว้

“กุล...ขอพี่คุยกับดาวหน่อยได้มั้ย? พี่ขอร้องนะ...” สายตาวิงวอนตรงหน้าไม่ได้ทำให้เด็กสาวใจอ่อนเลยแม้แต่น้อยเมื่อเธอนึกถึงหยดน้ำตาของพี่สาว กอบกุลเม้มปากแน่นก่อนจะมองอีกฝ่ายตาขวาง

“ไม่ได้...” เด็กสาวปิดประตูใส่หน้าอีกฝ่ายอย่างแรงก่อนลงกลอนแน่นหนารีบเอี้ยวตัวเดินมาถือเอาจานผลไม้ตรงสู่ห้องพักของกิ่งดาวที่ชั้นสอง


กล่อมแก้วถอนหายใจด้วยความรู้สึกปลอดโปร่งก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดจนสุด หญิงสาวนั่งเก็บข้าวของเสื้อผ้าเพื่อเตรียมจะย้ายไปพักอยู่กับเทพพิพิธที่บ้านของชายหนุ่มผู้เป็นคู่หมั้นตามที่มารดาเธอเรียกร้อง

กล่อมแก้วหยิบเอารูปถ่ายของเทพพิพิธที่ซุกไว้ในใต้หนังสือเล่มหนาออกมาพร้อมกับจ้องมองด้วยรอยยิ้ม ต่อจากนี้ไปเธอก็จะไม่ต้องปิดบังใครอีกแล้วว่าเธอคิดเช่นไรกับเขา เธอรักเขา เธอได้ครอบครองเขาแล้ว...

หญิงสาวเอารูปถ่ายที่เธอรักใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายก่อนรื้อเอาข้าวของในลิ้นชักใต้โต๊ะหนังสือออกมา พลันนั้น...รูปถ่ายใบหนึ่งก็ร่วงหล่นออกมาจากเอกสารในมือที่ถือไว้ สองตาของกล่อมแก้วจ้องมองคนในรูปแน่นิ่งราวกับกำลังตกอยู่ในภวังค์ของบางอย่าง ช่อทิพย์กับณภัทร์นั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะม้าหินอ่อนใต้ร่มพิกุลของวิทยาลัย ด้านหลังคือเธอและกิ่งดาวที่ยืนเอามือโอบเอวของกันและกันไว้...

จู่ๆ หยดน้ำตามันก็ไหลลงมาจากดวงตาของหญิงสาวอย่างไม่รู้ตัว นึกถึงมิตรภาพอันหอมหวานและเสียงหัวเราะอันมีความสุข เธอได้ทำลายมันลงด้วยมือของเธอเองแล้ว... มันไม่มีวันจะย้อนกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีกต่อไปแล้ว...


อย่างน้อยวันนี้ก็มีเรื่องที่ทำให้ณภัทร์ต้องดีใจได้บ้าง นางบงกชกลับมาจากสัมนาแล้ว แถมยังซื้อของฝากตั้งมากมายมาให้ตนและคบเพลิง วันนี้ทั้งสามจึงตั้งหน้าตั้งตาเข้าครัวทำอาหารเย็นกินกันอย่างเอร็ดอร่อย

“ภัทร์...ตอนที่ครูไม่อยู่นี่ไอ้เจ้าคบมันไปเถลไถลที่ไหนรึเปล่า?” นางบงกชหรี่ตามองหลานชายแวบนึงก่อนหันมารอฟังคำตอบจากปากของณภัทร์ อีกฝ่ายจุดยิ้มน้อยๆ ก่อนบอกเสียงใส

“ไม่ครับ...แต่มีวันนึงที่...”

“เอ่อ...น้าบงกชเดี๋ยวผมเอาจานไปล้างก่อนนะครับ” คบเพลิงรีบคว้าเอาจานกองโตตรงหน้าก่อนยืนขึ้นอย่างเก้กังพร้อมกับหันขวับมาทำตาเขียวใส่ณภัทร์
“ไม่มีหรอกครับ คบเพลิงเขาไมได้ไปเถลไถลที่ไหนเลย” ณภัทร์ว่าก่อนจะลุกขึ้นตามร่างหนา “เดี๋ยวฉันไปล้างช่วย” จบคำก็รีบเดินนำหน้าหลานชายของนางบงกชตรงไปยังห้องครัวทันที

ได้เห็นไอ้เจ้าหลานตัวแสบของเขามีพฤติกรรมที่ดีขึ้นกว่าเดิมผู้เป็นน้าก็พลอยโล่งใจไปได้บ้าง ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นไอ้เจ้าคบเพลิงอาสาล้างถ้วยล้างจาน ไม่รู้ว่าณภัทร์ไปทำอีท่าไหนเข้าถึงเปลี่ยนนิสัยของหลานชายจอมแสบของเธอได้เนี่ย...

ณภัทร์วางจานลงไปในอ่างก่อนเปิดน้ำให้ชะล้างคราบเศษอาหาร คบเพลิงฉวยเอาฟองน้ำมาไว้ในมือก่อนกดน้ำยาล้างจานใส่

“วันนี้เป็นอะไรเหรอ? ดูสีหน้าไม่ค่อยดีเลย” ร่างหนาที่ยืนเคียงข้างเอ่ยถามเสียงเรียบก่อนหยิบเอาจานในอ่างมาล้างทำความสะอาดและหย่อนลงใส่อ่างน้ำอีกฝั่ง

“ก็มีเรื่องนิดหน่อยน่ะ...เพื่อนนายทั้งสองคนทำให้เพื่อนฉันต้องเจ็บ” จบคำคบเพลิงก็หันขวับมามองณภัทร์ตาโตทันที

“ไอ้เทพกับไอ้นนท์เหรอ?...” เขาถามเสียงหลงก่อนที่ณภัทร์จะพยักหน้าเนิบนาบ สองร่างก้มหน้าก้มตาล้างจานต่อไปโดยที่ณภัทร์ไม่คิดจะเปิดปากเล่าเรื่องของกิ่งดาวและช่อทิพย์ให้คบเพลิงได้ฟัง สักวันคบเพลิงคงได้รู้เรื่องทุกอย่างเอง

“เอ่อ...วันนี้ฉันเห็นนายคุยกับใครที่หน้าห้องสมุดเหรอ?” คำถามของณภัทร์ทำให้ชายหนุ่มข้างกายต้องหยุดนิ่งไปชั่วขณะ คบเพลิงวางจานใบสุดท้ายลงยังอ่างก่อนเปิดน้ำล้างมือทั้งสองข้างให้สะอาด

“อ๋อ...น้องมยุรีน่ะ เธอเป็นแฟนคลับทีมฟุตบอลวิทยาลัยเรา ก็...คุยกันไปเรื่อยเปื่อยน่ะ”

“นายรู้จักกับเขามาก่อนเหรอ?” ณภัทร์เลิกคิ้ว สิ่งที่รู้สึกอยู่จะเรียกว่าหึงก็คงไม่ผิดนัก คบเพลิงหันมาส่งยิ้มเรียบๆ ให้ก่อนบอก

“ก็พึ่งรู้จักได้ไม่นานหรอกนะ น้องเขาก็น่ารักดี เอ่อ...เดี๋ยวฉันไปทำการบ้านก่อนนะ” คบเพลิงยิ้มแห้งๆ ก่อนเดินดุ่มๆ จากไปทิ้งให้คนข้างหลังต้องมองตามอย่างสงสัย

ณภัทร์รู้สึกว่าช่วงนี้ตนกับคบเพลิงไม่ค่อยได้คุยกันเหมือนแต่ก่อน รู้สึกเหมือนว่าเราทั้งสองคนกำลังออกห่างกันเรื่อยๆ ไม่สิ...ไม่ใช่เขาที่ออกห่าง แต่เป็นคบเพลิงต่างหาก ไม่รู้ว่านายนั่นกำลังคิดอะไรอยู่... รอยจูบอันหอมหวานในคืนนั้นที่มอบให้ณภัทร์... อยากจะรู้ว่าคบเพลิงได้ลืมมันแล้วรึยัง?



Create Date : 13 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2554 16:20:00 น.
Counter : 384 Pageviews.

1 comments
  
เจ็บใจแทนกิ่งดาวโดนเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด.....
............!
โดย: nui IP: 110.77.140.252 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:12:29:42 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ผีเสื้อสีดำ
Location :
ศรีสะเกษ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]



จงทำในสิ่งที่คุณคิดว่า...

ทำไม่ได้
พฤศจิกายน 2554

 
 
1
5
6
8
9
10
12
14
16
17
19
20
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
MY VIP Friend