ชี้ระบบศึกษาสอนสิ่งไม่จำเป็น-ฉาบฉวย  ย้ำหลักสูตรชีวิตสร้างภูมิเผชิญปัญหา ปรับวาเลนไทน์ให้เกียรติหญิง...

จากการเสวนา “เมื่อวัยเรียนก้าวพลาดในความรัก เราจะตั้งหลักกันอย่างไร” นางทิชา ณ นคร ผอ.ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก กล่าวว่า เด็กเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีซึ่งมีอยู่ 15 ล้านคน ในจำนวนนี้มีกว่าแสนคนที่ตั้งครรภ์ระหว่างเรียน และอีก 5 หมื่นคนตกเป็นผู้ก่อคดี เด็กเหล่านี้ไม่ใช่อาชญากรที่ต้องถูกสังคมประณามหรือย้ำแต่สถิติที่เพิ่มขึ้นให้หวาดกลัวเพื่อกลายเป็นจำเลยของสังคม เด็กเหล่านี้ไม่ใช่ไม่ผิด แต่ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพ่อแม่รวมถึงระบบการศึกษาไม่ได้สร้างภูมิการจัดการชีวิตเมื่อเด็กต้องเผชิญสถานการณ์ที่กระตุ้นเร้าให้เกิดพฤติกรรมเสี่ยง โดยเฉพาะระบบการศึกษาถือเป็นตัวการใหญ่ที่ทำให้พื้นที่ด้านมืดขยายเพิ่มโดยอาจไม่ได้ตั้งใจ ใช้เวลาไปกับการเรียนสิ่งที่ไม่จำเป็นมากมาย และแก้ปัญหาที่ฉาบฉวย ทั้งที่ควรสอนหลักสูตรชีวิตที่สอนการจัดการชีวิต เมื่อออกนอกห้องเรียนสามารถเผชิญปัญหาได้จริง

นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผอ.มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า สังคมไทยยังมองวันวาเลนไทน์เป็นวันที่ต้องแสดงความรักในทัศนคติเชิงลบ โดยเฉพาะผู้ชายที่มองว่าต้องมีเพศสัมพันธ์กับหญิง จึงต้องเร่งเปลี่ยนมุมมองนิยามความรักไม่ใช่การครอบครอง แต่เป็นการให้เกียรติผู้หญิง และอยากฝากผู้หญิงให้ตระหนักคิด อย่าประมาทฤทธิ์แอลกอฮอล์ นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการควรเน้นสอนเรื่องการป้องกันและเน้นบทบาทขอบเขตของผู้หญิงผู้ชาย

ด้าน น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 24 ปี กล่าวว่า ช่วงจบ ม.6 ไปฉลองกับเพื่อนและแฟนด้วยการดื่มแอลกอฮอล์จนขาดสติและพลาดพลั้งมีเพศสัมพันธ์กับแฟนจนตั้งครรภ์ เพื่อนก็แนะนำให้เอาเด็กออก แต่ปฏิเสธและตัดสินใจบอกพ่อแม่ซึ่งก็เสียใจ กระทั่งผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงให้แต่งงานกัน แต่ชีวิตคู่ที่ไม่พร้อมด้วยวุฒิภาวะทำให้มีปัญหาจนต้องแยกทางกัน ตนก็เลี้ยงลูกตามลำพังโดยมีพ่อแม่เป็นกำลังใจ จึงอยากฝากเยาวชนให้มีระเบียบการใช้ชีวิต มีรักอย่างปลอดภัย ขณะที่พ่อแม่ก็ควรให้เวลากับลูก.