มศว เผยผลวิจัย คู่รักวัยรุ่นมักมีรักเสน่หามากกว่าผูกพัน
อธ. มศว เปิดประเด็นวันวาเลนไทน์ เปิดผลงานวิจัยความรักตามช่วงวัย 4 กลุ่ม เผยคู่รักวัยรุ่นชายหญิงมีรักเสน่หามากกว่าผูกพัน ส่วนคู่รักแม่ลูกแนะต้องสร้างสัมพันธภาพที่ดีตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ขณะที่คู่สมรสปัจจุบันต้องมีความอ่อนโยน ใจกว้าง มีสติ สำหรับคนสูงอายุไม่ว่าจะเป็นเพศหญิงหรือชายต่างก็มีความรู้สึกที่ดีกับความรักไม่แตกต่างกัน ผศ.นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เปิดเผยเนื่องในวันวาเลนไทน์ หรือวันแห่งความรักในปี 2556 สังคมควรจะให้ความสนใจและตื่นตัวกับเรื่องความรักที่มากกว่าความรักของหนุ่มสาวเพียงแค่นั้น หากแต่ความรักที่มีระดับจิตใจที่สูงกว่าความรักนั้นต้องมีความเมตตาเข้าไปประกอบด้วย ในปี พ.ศ. 2530-2552 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒมีงานวิจัยและวิทยานิพนธ์ที่เกี่ยวในประเด็นของความรักและความเมตตาที่เผยแพร่แล้ว จำนวน 18 เรื่อง งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับความรักมีการจำแนกกลุ่มที่ศึกษาออกตามช่วงวัยได้ 4 กลุ่ม คือ ความรักของวัยรุ่น ความรักของคู่สมรส ความรักของแม่ที่มีต่อลูก ความรักระหว่างสามีภรรยาของผู้สูงอายุ งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับความเมตตาส่วนใหญ่ศึกษาในเด็กปฐมวัยและประถมศึกษา การวิจัยพบว่า ความรักในวัยรุ่นมีความแตกต่างจากวัยอื่นๆ เพราะวัยรุ่นให้ความสำคัญกับความรักแบบเสน่หาและผูกพัน โดยเฉพาะในเพศชายจะสูงกว่าเพศหญิง และเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นตอนปลายในระดับอนุปริญญาจะให้ความสำคัญกับความรักแบบเสน่หามากกว่าในช่วงมัธยมศึกษา แต่ความรักแบบผูกพันกลับไม่เพิ่มขึ้นตามวัย ในวัยสมรสพบว่า คู่สมรสที่มีความเปิดเผย มีความอ่อนโยนต่อกัน เปิดใจกว้าง และมีสติจะมีความสุขในชีวิตสมรสมากกว่าคู่สมรสที่หวั่นไหวง่ายและเก็บตัว ความรักของแม่ที่มีต่อลูกจะเป็นความรักแบบรักผูกพัน ซึ่งศึกษากับแม่วัยรุ่นพบว่า แม่ที่ยังอยู่ในวัยรุ่นถ้าได้รับคำแนะนำการดูแลตนเองและทารกตั้งแต่ขณะตั้งครรภ์และมีสัมพันธภาพกับคู่สมรสดีจะทำให้มีความรักผูกพันกับลูกดีตั้งแต่อยู่ในครรภ์ และถ้าได้รับคำแนะนำพร้อมกันกับคู่สมรสจะยิ่งทำให้มีความรักผูกพันกับลูกเพิ่มสูงขึ้นทุกระยะของการตั้งครรภ์จนกระทั่งหลังคลอด ในคนสูงอายุไม่ว่าจะเป็นเพศหญิงหรือชายต่างก็มีความรู้สึกที่ดีกับความรักไม่แตกต่างกัน แต่ในผู้ที่ยังมีรายได้ มีการศึกษา และออกกำลังกายสม่ำเสมอจะมีความรู้สึกที่ดีกับความรักสูงมากกว่า ความรักเป็นความรู้สึกที่อาจกล่าวได้ว่าเกิดจากการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงของแต่ละคน คนที่มีประสบการณ์ความรัก ก็จะมีนิยามความรักของตัวเอง ที่ไม่ต้องเหมือนกับใครเลยก็ได้ เมื่อนักวิชาการจัดประเภทนิยามของความรักจึงต้องคำนึงถึงบทบาทและหน้าที่ของคนคนนั้นที่มีต่อคนที่เขารัก และประสบการณ์ที่เขาพบ จะเห็นว่าในคนแต่ละวัยหรือแต่ละบทบาท จะให้นิยามความรักต่างกัน สำหรับเด็กวัยรุ่นกำลังอยู่ในช่วงที่มีประสบการณ์การสร้างความรู้สึกรักกับเพื่อนทั้งที่เป็นเพศเดียวและต่างเพศกันในลักษณะที่เป็นความเสน่หา การเรียนรู้ที่จะสร้างความรักแบบนี้ให้ยืนยาวและควบคู่ไปกับความรักแบบผูกพัน จึงต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจ และการมีตัวแบบที่ดีจากครอบครัว สื่อมวลชน เพื่อที่เขาจะสามารถเริ่มต้นมีความรักแบบเสน่หาที่มีขอบเขตและจะนำไปสู่พัฒนาการของความรักในช่วงต่อๆ ไปได้ ผศ.นพ.เฉลิมชัย กล่าวอีกว่า ในด้านความเมตตา พบว่า งานวิจัยส่วนใหญ่เน้นการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาคุณลักษณะความเมตตาของนักเรียนอนุบาลและประถมศึกษา พบว่า การพัฒนาความเมตตากรุณาของเด็กไม่ว่าจะเป็นความเมตตากรุณาที่มีต่อบุคคล และต่อสัตว์ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงปฐมวัย ด้วยวิธีการเล่านิทาน ใช้บทบาทสมมติ ใช้เกม สำหรับนักเรียนประถมศึกษาสามารถสามารถใช้ การ์ตูนจริยธรรม และหนังสือภาพที่ตัวละครเอกมีพฤติกรรมทั้งในทางบวกและทางลบเพิ่มเติม และพบด้วยว่าพฤติกรรมทางลบของตัวละครเอกสามารถพัฒนาความเมตตากรุณาของนักเรียนได้สูงกว่า
Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2556 |
|
0 comments |
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2556 23:07:42 น. |
Counter : 1100 Pageviews. |
|
|
|