บ้านที่มีความรักและความอบอุ่นคือจินตนาการของคนไทยยามนี้ !
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2548
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
27 พฤศจิกายน 2548
 
All Blogs
 
วัฒนธรรมชุมชน : ทุนทางสังคมวัฒนธรรมที่กำลังจะหายไป




วันนี้มาพูดกันเรื่องวัฒนธรรมกันหน่อย
เป็นวัฒนธรรมที่มีอยู่ในชุมชนชนบท
ในสังคมไทยที่มีความหลากหลายสูงมาก
วัฒนธรรมสี่ภาคที่มีอยู่ในภาคกลาง,ภาคอีสาน,ภาคเหนือและภาคใต้นั้น
ได้สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นชาติเก่าแก่ที่มีมรดกทางวัฒนธรรมที่ควรอนุรักษ์ไว้ให้กับคนรุ่นลูกรุ่นหลาน

วัฒนธรรมชุมชนอันสะท้อนจากการดำเนินชีวิต,ภาษา,ความเชื่อ,ประเพณีและการแต่งกาย
ที่รวมเป็นค่านิยมในสังคมชนบทที่มีมาอย่างยาวนานนั้น
บัดนี้คงเหลืออะไรให้เห็นบ้าง

วันนี้จะมาพูดถึงวัฒนธรรมเงินตราที่แผ่เข้าไปในสังคมชนบท
โดยผ่านทางนักการเมืองและกลุ่มทุน
ที่เริ่มเข้าไปบงการชีวิตความเป็นอยู่ของคนชนบทมากขึ้นเรื่อย ๆ

วันนี้เงินนอกงบประมาณที่ใช้กันอย่างมากมายมหาศาล
ผ่านโครงการประชานิยมต่าง ๆ
ทั้งจากโครงการกองทุนหมู่บ้าน,ธนาคารประชาชน,พักชำระหนี้เกษตรกรและ 30 บาทรักษาทุกโรคนั้น

อาจได้ผลในแง่การฟื้นเศรษฐกิจระยะสั้น
แต่ผลระยะยาวในแง่ของวัฒนธรรมการสร้างหนี้
ที่ได้เข้าไปในชนบทนั้นมันมีผลรุนแรงเพียงใด
เงินหนึ่งหมื่นถึงสองหมื่นบาทที่ได้จากกองทุนหมู่บ้าน
เพียงเพื่อไปซื้อมอเตอร์ไซด์และโทรศัพท์มือถือ
และต้องไปกู้เงินจากนายทุนเงินกู้นอกระบบ
เพื่อมาใช้หนี้เงินกู้กองทุนหมู่บ้าน
มันสะท้อนอะไร นี่หรือผลของการเมืองในยุคการปฏิรูปการเมือง
ที่ได้ทำลายความเข้มแข็งของชุมชนไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เงินหนึ่งหมื่นบาทสำหรับคนเมืองอาจไม่มากนัก
แต่สำหรับชาวบ้านในชนบทนั้นถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก
เพราะรายได้จากภาคเกษตรเพียงน้อยนิด
จะมีความสามารถเพียงใดในการจะมาชำระหนี้คืน

จากเดิมที่เคยสัมผัสในสมัยก่อนที่มีประเพณีลงแขกช่วยกันเกี่ยวข้าว
เดี๋ยวนี้มีแต่การใช้เงินจ้างกันเท่านั้น
วัฒนธรรมเงินตราที่เข้าไปได้ค่อย ๆทำลายวัฒนธรรมชุมชนเดิมไปเรื่อย ๆ
เมื่อมาได้รับเงินจากรัฐอย่างง่าย ๆ
และรัฐเองขาดการให้การศึกษาที่ดีแก่ประชาชน
ใช้เงินเหล่านี้เพียงเพื่อการหาเสียงให้ชนะการเลือกตั้งเท่านั้น
ก็ยิ่งทำให้คนชนบทจมปรักอยู่กับหนี้สินมากขึ้นเรื่อย ๆ

วันนี้วัฒนธรรมชุมชนกำลังถูกแทนที่ด้วยวัฒนธรรมเงินตรา
เป็นความจริงที่เผชิญหน้าอยู่ของคนชนบทยามนี้
ปราชญ์ชาวบ้านที่มีอยู่ในชุมชนเองนั้น
จะมีพลังเพียงพอที่จะไปต้านกระแสเหล่านี้ล่ะหรือ?
วัฒนธรรมทุนนิยมโลกาภิวัตน์ที่เป็นสากล
กำลังรุกเข้าไปในชนบทไทย
การเมืองที่นำโดยทุนใหม่และทุนผูกขาด
กำลังสยายปีกยึดกุมพื้นที่ในสังคมไทยมากขึ้นเรื่อย ๆ
จะมีที่ว่างเหลือให้สำหรับชาวบ้าน,คนธรรมดา
ในสังคมนี้บ้างไหม บ้างไหม ถามหน่อย?

=================================

กล่อมนางนอน

คำร้อง/ทำนอง ไพบูลย์ บุตรขัน
เรียบเรียง วันชัย อยู่พัฒนะวงศ์


*นอนเสียเถิดน้องนอน อย่ามัวอาวรณ์อาลัยใจหวั่น
มองฟ้าคืนนี้ไม่มีดวงจันทร์ จะกล่อมจอมขวัญด้วยเพลงชาวนา
(จะกล่อมจอมขวัญด้วยเพลงชาวนา)
เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ
กระท่อมปลายนาหลังคามุงจาก พื้นปูด้วยฟากไม้ไผ่
มันเป็นรังรักของเราชาวนาไร่

นอนเสียเถิดดวงใจ จะกล่อมให้น้องนอน
เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ
นอนเสียเถิดเอวกลม เยือกเย็นสายลมโชยมาพริ้วอ่อน
หลับเสียเถิดหนา อย่ามัวอาวรณ์
แขนพี่แทนหมอนหนุนนอนนิทรา
(แขนพี่แทนหมอนหนุนนอนนิทรา)
ฮา เอา ฮาไฮ

**เจ้าเป็นเทวีพี่เป็นเทวา วิมานคือนากว้างใหญ่
มีดนตรีคือเสียงสำเนียงกาไก่
ดาวสวยเด่นอำไพต่างโคมไฟทุกคืน
เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ เฮ(ซ้ำ **, *)

--------------------------------------



Create Date : 27 พฤศจิกายน 2548
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2548 16:30:43 น. 15 comments
Counter : 1748 Pageviews.

 
วัฒนธรรมสี่ภาคที่มีอยู่ในภาคกลาง,ภาคอีสาน,ภาคเหนือและภาคใต้นั้น
ได้สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นชาติเก่าแก่ที่มีมรดกทางวัฒนธรรมที่ควรอนุรักษ์ไว้ให้กับคนรุ่นลูกรุ่นหลาน


เป็นคำพูดที่ถูกที่สุดอะ


โดย: อินทรีทองคำ วันที่: 27 พฤศจิกายน 2548 เวลา:8:43:37 น.  

 
เห็นด้วยครับ บางสิ่งบางอย่างดีๆในอดีตกำลังหายไป


โดย: ตี๋น้อย (Zantha ) วันที่: 27 พฤศจิกายน 2548 เวลา:8:45:45 น.  

 
บางอย่างกำลังเปลี่ยนไปคนรุ่นหลังเริ่มไม่เห็นคุณค่าชอบมองข้ามวัฒนะธรรมของตน แต่ก็ชอบเห็นค่าวัมนะธรรมของคนเมืองอื่น ....น่าเสียดายแทน..........


โดย: ครีเอทีฟ หัวเห็ด วันที่: 27 พฤศจิกายน 2548 เวลา:9:39:54 น.  

 
คนเราควรพัฒนาสิ่งต่างๆจากรากเหง้าค่ะ
การลืมรากเหง้าเหมือนลืมตัวตน แล้วจะมานั่งเรียนรู้กับสิ่งใหม่ที่ไม่คุ้นเคยมาก่อน
แล้วมันจะดีรึ


โดย: p_tham วันที่: 27 พฤศจิกายน 2548 เวลา:11:18:41 น.  

 
วัฒนธรรมเงินตรา.............ฟังดูน่ากลัวจัง

มันจะเข้าไปแทนที่ในทุกท้องถิ่นหรือเปล่านี่


โดย: Batgirl 2001 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2548 เวลา:14:30:39 น.  

 

มัชมองเรื่องนี้ว่ามันมีผลมาจากค่านิยมเรื่องการศึกษาด้วยนะคุณคนเดินดิน
คนส่วนใหญ่มักมองว่าการศึกษาที่ดีคือ
จะต้องเรียนแล้วก็เรียนต่อให้สูงขึ้นไปอีก
เพื่อที่จะได้มีโอกาสทำงานที่คิดว่า ดี
ดีของคนส่วนใหญ่คือ มีเกียรติ มีหน้ามีตา และทำเงิน
หลักสูตรการศึกษาของไทยที่มีก็เหมือนตัดขาดจากความเป็นชุมชนท้องถิ่น

ในหมู่บ้านชาวประมง....เด็กเรียนคอมพิวเตอร์
เรียนภาษาอังกฤษ...แต่เด็กไม่รู้วิธีจับปลา


แล้วอาชีพในท้องถิ่นก็ถูกดูถูกโดยคนที่กำลังประกอบอาชีพนั้นๆ อยู่
ขาดความภาคภูมิใจในตัวเอง ชุมชนของตัวเอง

เงินถูกจัดให้เป็นตัวตั้งในการประกอบอาชีพ
เป็นตัวตั้งในการเป็นเป้าหมายของการเรียน

ไม่แปลกที่วัฒนธรรมดั้งเดิม วัฒนธรรมชุมชนจะถูกกลืนหาย



ขาดความภาคภูมิใจ



โดย: มัชฌิมา วันที่: 27 พฤศจิกายน 2548 เวลา:15:07:38 น.  

 
เหอ..พูดยากค่ะ


โดย: erol วันที่: 27 พฤศจิกายน 2548 เวลา:21:02:56 น.  

 
พี่ชาย จะนอนดึกไหมนี่?
คนอายุมากๆๆ ๆๆ นอนดึกไม่ดีนา

อย่าง คุณ me เค้านอนดึก เพราะเค้าติดภาระกิจนี่คะ


เรื่องวัฒนธรรม ในท้องถิ่น นี่ หนูว่า มันขึ้นอยู่กับแต่ละท้องถิ่น ซึ่งมาต้องมาจาก ความภาคภูมิใจและความรักในท้องถิ่นนั้นๆ ซึ่งต้องอาศัยพึงพิง ผู้นำในชุมชน มังคะ
ถึงความเจริญเข้ามา แต่ถ้าเค้าตระหนักในคุณค่า และ
ความ น่าชื่นชมของวัฒนธรรมที่มี เค้าก็จะรู้วิธีรักษาและดูแล ซึ่งเดี๋ยวนี้ หนูเห็นหลายๆ ชุมชน เริ่มเข้าใจ
อย่างตลาดร้อยปีที่สามชุก เมืองเก่าที่ น่าน

ส่วนระบบ เศรษฐกิจฉาบฉวยแบบล้างสมอง ด้วยเงิน
ของ ตาคนนั้น ฮึ

ไม่อยากพูดตรงนี้ ค่ะ พี่

ฝันดี ค่ะ


โดย: ประกายดาว วันที่: 27 พฤศจิกายน 2548 เวลา:22:20:41 น.  

 
สังคมแบบชุมชนดั้งเดิมของไทย...อ่อนแอลงทุกขณะ..

เฮ้ออออ...


โดย: กุมภีน วันที่: 28 พฤศจิกายน 2548 เวลา:0:03:12 น.  

 
เห็นด้วยค่ะ

แบลดพิชที่รัก







แบลดพิชที่รัก


โดย: แบลดพิชที่รัก IP: 58.8.54.99 วันที่: 24 สิงหาคม 2550 เวลา:21:27:37 น.  

 
การเวลาเปลี่ยนไปสภาพสังคมก้อเปลี่ยน
เดี๋ยวนี้...แต่ละบ้านแข่งขันกันรวย เหอๆ โดยการแต่งงานกับสามีฝรั่ง...โอ้วว แล้วผมจะขายออกมั้ยเนี่ย

แต่อย่างว่าแหละ ทุกอย่างมันต้องเปลี่ยนไป ไม่ว่าวันใดก้อวันหนึ่ง ....เราเองก้อคงได้แต่มองดู..และเข้าใจในความเป็นไปอ่ะนะ


โดย: <- RYUKENDEN -> วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:41:33 น.  

 
อยากเห็นวัฒนธรรมเก่า ๆที่ทรงคุณค่าคงอยู่อย่างไม่หวาดหวั่นอิทธิพลใด ๆเพราะหนูคาดหวังที่จะได้เห็นมันดำรงอยู่ต่อไปเรื่อย ๆ


โดย: นันท์กร IP: 202.149.24.3 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:52:35 น.  

 
ส่งดีๆ ในชุมชนมันไม่หายไปไหนหรอก เพียงแต่ว่าจะมีใครเห็นหรือว่าจะมีใครที่ให้ความหมาย ให้ความสำคัญมากน้อยขนาดไหน อยางน้อยๆ เราต้องมีความเชื่อว่าสิ่งที่เราต้องการยังมีอยู่รอบๆข้างเรานีเอง


โดย: มั่วๆ เดี๋ยวก็ดีเอง IP: 125.24.240.231 วันที่: 24 เมษายน 2551 เวลา:13:35:31 น.  

 
ก็ดีค่ะ


โดย: เด็กๆชอบโคโยตี้ IP: 202.149.25.241 วันที่: 8 มกราคม 2552 เวลา:20:02:28 น.  

 
ก็ดีค่ะ


โดย: เด็กๆชอบโคโยตี้ IP: 202.149.25.225 วันที่: 8 มกราคม 2552 เวลา:20:02:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คนเดินดินฯ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








ปณิธาน

การเดินทางของชีวิตของทุกผู้คน
ทุกคนต่างต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต
แต่จะมีสักกี่คนที่จะก้าวไปถึง
เมื่อเราก้าวถึงจุดนั้น
ขออย่าลืมการแบ่งปันและเจือจาน
แก่ผู้ด้อยโอกาสในสังคม

เราจะเติบโตและก้าวไปข้างหน้าพร้อม ๆ กัน
เพื่อสร้างสรรค์สังคมใหม่ที่ดีงาม

เพื่อให้อนุชนคนรุ่นหลัง
ได้ใช้ชีวิตของเขา
ตามศักยภาพและความตั้งใจของเขา
ตราบเท่าที่เขาต้องการ







เดินไปสู่ความใฝ่ฝัน


ชีวิตหนึ่งร่วงหล่นไปตามกาลเวลา
คลื่นลูกใหม่ไล่หลังคลื่นลูกเก่า
นั่นคือวัฏจักรของชีวิตที่ดำเนินไป

เยาว์เธอรู้บ้างไหม
ว่าประชาราษฎรนั้นทุกข์ยากเพียงใด
เสี้ยวหนึ่งของชีวิตที่เหลืออยู่
เธอเคยมีความใฝ่ฝันที่แสนงามบ้างไหม

สักวันฉันหวังว่าเธอจะเดินไปตามทางสายนี้
ที่อาจดูเงียบเหงาและโดดเดี่ยว
แต่ภายใต้ฟ้าเดียวกัน
ฉันก็ยังมีความหวัง
ว่าผู้คนในประเทศนี้
จะตื่นขึ้นมา
เพื่อทวงสิทธิ์ของพวกเขา
ที่ถูกย่ำยีมาช้านาน
และฉันหวังว่าเธอจะเดินเคียงคู่ไปกับพวกเขา

เพื่อสานความใฝ่ฝันนั้นให้เป็นความจริง
สัญญาได้ไหม
สัญญาได้ไหม
เยาว์ที่รักของฉัน


***********



ขอมีเพียงเธอเป็นกำลังใจ




ทอดสายตามองออกไปยังทิวทัศน์ข้างหน้า
แลเห็นต้นหญ้าโบกไสว
เห็นดอกซากุระบานอยู่เต็มดอย
ความงามที่อยู่ข้างหน้า
เป็นสิ่งที่ฉันจะเก็บมันไว้
ยามที่จิตใจอ่อนล้า...

ชีวิตยามนี้แม้ผ่านมาหลายโมงยาม
แต่จิตใจข้างในยังคงดูหงอยเหงา
หลายครั้งอยากมีเพื่อนคุย
หลายครั้งอยากมีคนปรับทุกข์
และหลายครั้งต้องนั่งร้องไห้คนเดียว

รางวัลสำหรับชีวิตที่ผ่านมา
มันคืออะไรเคยถามตัวเองบ่อย ๆ
ความสำเร็จ...เงินตรา...เกียรติยศชื่อเสียง
มันใช่สิ่งที่เราต้องการหรือเปล่า
ถึงจุดหนึ่งชีวิตต้องการอะไรอีกมากไปกว่านี้

หลายชีวิตยังคงดิ้นรนต่อสู้
เพื่อปากท้องและครอบครัว
มันเป็นความจริงของชีวิตมนุษย์
ที่ต้องดำรงชีพเพื่อความอยู่รอด
มีทั้งพ่ายแพ้ มีทั้งชนะ
แต่ชีวิตต่างต้องดำเนินไป
ตามวิถีทางของแต่ละคน

ลืมความทุกข์ ลืมความหลังที่เจ็บปวด
มองออกไปข้างหน้า
ค้นให้พบตัวตนของตนเองอีกครั้ง
แล้วกลับไปสู้ใหม่
การเริ่มต้นของชีวิตจะต้องดำเนินต่อไป
จะต้องดำเนินต่อไป

ตราบจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต....




@@@@@@@@@@@




การเดินทางของความรัก

...ฉันเดินไปด้วยหัวใจที่ว่างเปล่า
สมองได้คิดใคร่ครวญ
ความรักในหลายครั้งที่ผ่านมา
ทำไมจึงจบลงอย่างรวดเร็ว

ฉันเดินไปด้วยสมองอันปลอดโปร่ง
ความรักทำให้ฉันเข้าใจโลก
และมนุษย์มากขึ้น
และรู้ว่าความแตกต่าง
ระหว่างความรักกับความหลงเป็นอย่างไร?

ฉันเดินไปด้วยดวงตาที่มุ่งมั่น
บทเรียนของรักในครั้งที่ผ่าน ๆ มา
มันย้ำเตือนอยู่เสมอว่า
อย่ารีบร้อนที่จะรัก
แต่จงปล่อยให้ความสัมพันธ์
ค่อย ๆ พัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เรียนรู้และทำเข้าใจกันให้มากที่สุด

ก่อนที่จะเริ่มบทต่อไปของความรัก...




*******************



จุดไฟแห่งศรัทธาและความมุ่งมั่น

เข้มแข็งกับอ่อนแอ
สับสนหรือมุ่งมั่น
จะยอมแพ้หรือลุกขึ้นท้าทาย
กับชีวตที่เหลืออยู่
ทุกสิ่งล้วนอยู่ที่ใจเราจะกำหนด

ไม่ใช่เพราะอิสระเสรี
ที่เราต้องการหรอกหรือ?
ที่มันจะนำทางชีวิต
ในห้วงเวลาต่อไป
ให้เราก้าวทะยานไป
สู่วันพรุ่งที่สดใส

มีแต่เพียงคนที่รู้จักตนเองอย่างดีพอเท่านั้น
จะสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้
เมื่อผ่านการสรุปบทเรียน
จากปัญหาต่าง ๆ ที่ประสบ
เราก็จะมีความจัดเจนกับชีวิตมากขึ้น
และการเผชิญกับอุปสรรคต่าง ๆ
ในอนาคตก็จะเป็นเพียงปัญหาที่เล็กน้อยสำหรับเรา
ในการที่จะก้าวผ่านไป



ด้วยศรัทธาและความมุ่งมั่นที่มีอยู่ในใจ
ที่จะต้องย้ำเตือนตัวเองอยู่เสมอ
หนทางในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ
ย่อมอยู่ไม่ไกลห่างอย่างแน่นอน

*********************



ก้าวย่างที่มั่นคง

บนทางเดินแคบ ๆ ที่เหลืออยู่
หากขาดความมั่นใจที่จะก้าวเดินต่อไป
ชีวิตก็คงหยุดนิ่งและรอวันตาย
แม้ทางข้างหน้าจะดูพร่ามัว
และไม่รู้ซึ่งอนาคต
แต่สิ่งที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
คือก้าวย่างไปอย่างมั่นคง
และมองไปข้างหน้าอย่าเหลียวหลัง
เก็บรับบทเรียนในอดีต
เพื่อจะได้ระมัดระวังไม่ให้ผิดพลาดอีกในอนาคต

"""""""""""""""""""""""""""""""""



ใช้สามัญสำนึกทำงาน

ไม่มีแผนงานที่สวยหรู
ไม่มีปฏิบัติการใดที่สมบูรณ์แบบ
ในยามนี้มีเพียงการทำงานด้วยการทุ่มเท
ลงลึกในรายละเอียดเท่านั้น
จึงจะสามารถคลี่คลายปัญหาของงานลงได้
บางครั้งโจทย์ที่เจออาจยากและซับซ้อน
แต่เมื่อลงไปคลุกคลีอย่างแท้จริง
โจทย์เหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

""""""""""""""""""""""""""""""""



เรียบ ๆ ง่าย ๆ


อย่ามองสิ่งต่าง ๆ ด้วยแว่นสีที่ซับซ้อน
เพราะในโลกนี้มีเพียงสิ่งสามัญที่เรียบง่าย
สำหรับคนที่สงบนิ่งเพียงพอเท่านั้น
จึงจะแก้โจทย์และปัญหาต่าง ๆ
ด้วยกลวิธีที่เรียบ ๆ ง่าย ๆ
ไม่ซับซ้อนและตรงจุดได้อย่างเพียงพอ

""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

ใจถึงใจ

บนหนทางไปสู่ความสำเร็จ
บนหนทางของการสร้างสรรค์สิ่งใหม่
มีเพียงคนที่เข้าใจในสภาพจิตใจของคนทำงานเท่านั้น
จึงจะสามารถนำทีมงานไปสู่เป้าหมายได้
อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน








Friends' blogs
[Add คนเดินดินฯ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.