พี่ชายจ๋า

เวป สวยงามมากมาก...
ได้อ่านถ้อยคำความหมายดีๆ ที่ พี่เขียนมาจากใจ
แค่นี้ก็รู้สึกดีแล้ว ...แถมยังได้เห็นดอกไม้ สวยๆ
มองแล้วชื่นใจ ...พี่ทำงานหนักหรือเปล่า

รักษา สุขภาพนะคะ

เพลง อิทธิ ดูแปลกไปตามคนร้องเลยนะคะ
ถ้อยคำงดงามดีค่ะพี่

Take care too

อ่านแล้วรู้สึกดีมากๆครับ

หากจะก้าวเดินไปข้างหน้า
แต่หากยังพะวงหลังอยู่
แล้วชีวิตจะเป็นเช่นไร
เรียกความกล้าความเชื่อมั่นกลับคืนมา
เมื่อชีวิตมีพลังภายในมากเพียงพอ
ความฝันคงอยู่ไม่ไกลห่าง


ชอบจังค่ะ

สวัสดีค่ะ

ไม่ค่อยเห็นคุณคนเดินดินออนหน้าแรก

ดอกไม้สวยค่ะ

สงสัยแขต้องไปหัดเดินกะพี่คนเดินดินแล้วมั้งคะ
แขเป็นงี้ปีละ 2 - 3 ครั้งน่ะค่ะ ซ้ำแผลเก่า

ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด และรับผลของการกระทำของตนเอง ด้วยความเต็มใจค่ะ

อ้าวเปลี่ยนเพลงซะแล้ว อิอิ


เฮ่อ ช่วงนี้ ทำไมหลายคนเศร้าจังเลยนะคะ

---ค่ำคืนนี้ ฝันดีนะคะ---

คัดจากกรุงเทพธุรกิจ Biznews


บทนำ : ใช้เศรษฐกิจพอเพียง สร้างความเข้มแข็ง

ในปีมหามงคลของสังคมไทย เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ถือว่าพระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์โลกและประวัติศาสตร์ไทย ซึ่งในฐานะพสกนิกรชาวไทย นอกจากรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระมหากษัตริย์ไทย ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจตลอดช่วงเวลาของการครองราชย์แล้ว เราคนไทยยังต้องเริ่มศึกษาแนวทางการพัฒนาต่างๆ ตามพระราชดำริอย่างจริงจัง ซึ่งพระราชดำริในเรื่องต่างๆ จนแทบนับไม่ถ้วน ล้วนแต่มีประเด็นที่คนไทยต้องหันมาคิดทบทวนเพื่อปรับใช้กับการดำเนินชีวิตและการพัฒนาประเทศ นับตั้งแต่เรื่องการดำรงรักษาไว้ซึ่งเอกลักษณ์ความเป็นไทย อย่างเช่น การใช้ภาษา การดูแลสิ่งแวดล้อม ฯลฯ จนถึงเรื่องใหญ่ที่กำลังพูดถึงกันในวงกว้างทั้งในและนอกประเทศในขณะนี้ ก็คือ ปรัชญาเศรษฐกิจแบบพอเพียง



แน่นอนว่าการพัฒนาประเทศเพื่อไปสู่ความเป็นอุตสาหกรรมและความทันสมัยเกือบครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา นับตั้งแต่เริ่มมีแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติฉบับแรก เมื่อปี พ.ศ.2504 ซึ่งรัฐบาลในทุกยุคทุกสมัยได้มุ่งพัฒนาประเทศตามแนวทางของแผนพัฒนาประเทศ แม้จะเกิดเสียงวิจารณ์ต่อเนื่องว่าแผนการพัฒนาตั้งแต่แรก เรายึดหลักตามกรอบแนวคิดของธนาคารโลก และรูปโฉมของสังคมไทยก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนับจากนั้นเป็นต้นมา แน่นอนว่าการพัฒนาประเทศในแนวทางดังกล่าวมีข้อดี ที่ทำให้ประเทศพัฒนาทัดเทียมนานาประเทศและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนได้ในระดับหนึ่ง แต่แนวทางดังกล่าวก็มีปัญหามากมายตามมา โดยเฉพาะปัญหาที่ตามมากับสังคมอุตสาหกรรม อาทิ ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาสังคมฯลฯ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นสิ่งที่เราในฐานะคนไทยต้องหันมาทบทวน

อันที่จริง แนวปรัชญาเศรษฐกิจแบบพอเพียง พระองค์ทรงมีพระราชดำริให้ราษฎรและหน่วยราชการนำไปใช้ แต่ที่ผ่านมา เรามักจะเข้าใจกันอย่างตื้นเขินและไม่ได้ตระหนักถึงความหมายอย่างดีพอ ทำให้มองว่าเป็นแนวปรัชญาการดำเนินชีวิตที่ไม่เหมาะสมกับปัจจุบัน เมื่อเปรียบเทียบกับแนวโน้มของโลกที่มุ่งหน้าเข้าสู่ความทันสมัยมากขึ้นแบบไม่มีจุดสิ้นสุด แต่เป็นความทันสมัยที่เรากำลังมุ่งหน้าตามโลกไปนั้น เราไม่เคยกลับมามองข้างหลังว่าเกิดอะไรขึ้นในสังคม อาทิ ปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำระหว่างภาคเมืองกับชนบท ความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยกับคนจน ปัญหาสถาบันครอบครัวที่ถือว่าเป็นจุดพึ่งพิงสุดท้ายแตกสลาย ปัญหาความขัดแย้งจากการแย่งชิงทรัพยากรเนื่องจากต้องการรายได้เพิ่มเพื่อไล่ตามกระแสวัตถุที่ไหลบ่าเข้ามา ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการเร่งตามโลกอย่างหลับหูหลับตา

เราคงต้องยอมรับความจริงว่าที่ผ่านมา คนไทยจำนวนไม่น้อยละเลยหลักเศรษฐกิจแบบพอเพียง ทั้งๆ ที่มีตัวอย่างที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้ว แต่คนไทยเริ่มหันมาให้ความสนใจมากขึ้นก็ต่อเมื่อเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในปี 2540 อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากประเทศเริ่มฟื้นจากภาวะวิกฤติ คนไทยจำนวนมากได้ละทิ้งแนวปรัชญาเศรษฐกิจแบบพอเพียง รวมทั้งคนที่เคยยึดหลักเศรษฐกิจแบบพอเพียงให้รอดพ้นจากวิกฤติมาก่อนด้วย จากนั้นเราก็กลับมามุ่งหน้าสู่ความทันสมัยเช่นเดิม โดยเฉพาะในรัฐบาลของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่พยายามหาเงินทุนให้กับระดับรากหญ้าจากนโยบายประชานิยม แต่ผลที่ตามมาคือเป็นการเร่งให้เกิดกระแสตามโลกทุนนิยมในระดับรากหญ้า ทุกอย่างเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจและเน้นแต่ภาพรวมระดับประเทศ ซึ่งเท่ากับทำให้ปัญหาเดิมๆที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ปะทุและนำไปสู่วิกฤติการเมืองของตัวเอง

ดังนั้น การหันมาทบทวนตัวเองของคนไทย โดยเฉพาะระดับนโยบายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างรีบด่วน เพื่อความอยู่รอดในระยะยาวของประเทศ เพราะอย่าลืมว่าสังคมไทยจะอยู่รอดหรือไม่นั้น ไม่ใช่เกิดจากกลุ่มผู้ได้เปรียบจากกระแสโลกเพียงไม่กี่คน แต่คนส่วนใหญ่ที่เป็นรากฐานของสังคมไทยทั้งหมดต้องอยู่รอดด้วย หาไม่แล้ว ความทันสมัยของคนไทยที่ปรากฏให้เห็น ก็จะเป็นเพียงแค่เปลือกนอก และมีความเสี่ยงที่จะล่มสลายได้เสมอเมื่อเผชิญกับผลกระทบ เนื่องจากสังคมไทยได้กลายเป็นสังคมที่ไร้รากฐาน และเป็นเรื่องยากที่จะอยู่รอดได้อย่างปกติในระยะยาว

บล็อคหวาน แต่ปนเศร้านิดๆนะคะ
เอ ตอนนี้อยู่ในอารมณ์ไหนมากกว่ากันหละคะ
ยังไง ก็ยังมีเพื่อนๆ คอยให้กำลังใจนะคะ

พักนี้ จุ๊บไม่ค่อยได้เข้าบล็อคเท่าไหร่น่ะค่ะ
นานๆ จะได้แวะมาทักทายกันสักที

ขอให้ทุกๆวัน เป็นวันแห่งความสุขนะคะ

เอาข้อความดีๆ มาฝากกันอีกแล้วนะคะ
ชอบจัง

ว้าว...
นึกว่าเข้า BLOG ผิด 5555

ชอบๆๆๆๆ เขียนแบบนี้บ่อย ๆ นะคะ

สบายดีหรือเปล่าคุณคนเดินดินฯ
หายไปเป็นพัก ๆ เน๊อะ

เข้ามาชมว่า ไปเม้นท์ซะหายคิดถึง
มาเชียงใหม่คราวหน้า คงไม่ต้องจ้างสามล้อนำทาง

แล้วไฉนจะให้ลืมนั้น
แม้ใครได้ไปเที่ยวพลัน หลงมั่นในเมืองเหนือเอย


หลงมั่นในเมืองเหนือเอย...เชียวนะ
คุณคนเดินดินฯ

ดอกไม้สวยจังเลยค่ะ ลมหายใจของชีวิต การเดินทางของชีวิต น่าคิดนะคะ

แม้จะเพิ่งเหยียบย่างเข้ามาในบ้านนี้ แต่ก็อบอุ่นและเบิกบานใจยิ่งนัก

ถ้อยคำที่เขียนงดงาม เป็นความจริง เป็นพลังใจให้แข็งแกร่ง

ชอบสรุปบทสุดท้าย ให้ข้อคิดดีมากค่ะ

"หากจะก้าวเดินไปข้างหน้า
แต่หากยังพะวงหลังอยู่
แล้วชีวิตจะเป็นเช่นไร
เรียกความกล้าความเชื่อมั่นกลับคืนมา
เมื่อชีวิตมีพลังภายในมากเพียงพอ
ความฝันคงอยู่ไม่ไกลห่าง"

ขอบคุณค่ะที่ไปเยี่ยมและฝากข้อคิดดี ๆ ไว้ให้

อันความรักคือสิ่งที่คนสองคนต้องปรับโครงสร้างทุกอย่างร่วมกัน

ถ้าคนหนึ่งคนใดทุ่มเทอยู่ฝ่ายเดียว..เมื่อถึงจุดถึ่งที่ล้า..แล้วจะมีคนไหนเหลือให้พยุงเอย?

ขอบคุณมากค่ะสำหรับกลอนแสนไพเราะ...เราก็แต่งเอง
ไปอ่านนะค่ะ...อยากให้อ่านว่าใช้ได้เปล่า...

บล็อคน่ารักดีค่ะ

สวยจังเลยค่ะ เหมือนเค้ามีชีวิตจิตใจเลยนะคะ

ขอบคุณทึ่เข้าไปทักทายค่ะ สบายดีนะคะ

ความฝันกับความจริง
เป็นสิ่งที่อาจจะต่างความหมาย
แต่หากผู้คนไม่มีสองสิ่งนี้
จะมีชีวิตอยู่อย่างไร

แม้อดีตอาจทำให้เราเจ็บปวดและขมขื่น
จนบางครั้งเมื่อคิดถึงมันคราใด
เราอาจทำใจยอมรับมันไม่ได้
แต่ชีวิตก็ยังคงต้องดำเนินต่อไป
ตามวิถีทางของมัน...

ปัจจุบันที่เผชิญหน้า
เป็นช่วงเวลาที่มีคุณค่าและมีความหมาย
แต่หากใจยังห่วงหน้าพะวงหลัง
ชีวิตจะดำเนินไปได้อย่างไร
ชีวิตอาจมีด้านที่สวยงามและโหดร้าย
บางครั้งการทำใจให้นิ่งและยอมรับ
กับสิ่งที่ผ่านมาและสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่
ก็น่าจะทำให้เราผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ด้วยดี...

เมื่อแรกรักดูหวานปานน้ำผึ้ง
ดูสุดซึ้งตรึงใจคนึงหา
เมื่อเวลาผ่านไปใยอุรา
ดูเหมือนว่าเธอเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม


ถ้าอยากมีรักแท้ไม่แปรผัน
ทุกคืนวันได้ประสบพบสิ่งสม
มีชีวิตอยู่ได้ไม่ตรอมตรม
อยู่อย่างกลมเกลียวกันตลอดไป

ขอแต่เพียงคิดได้ในมุมเขา
ร่วมแบ่งเบาภารกิจที่คิดฝัน
ขอให้มีระยะห่างในบางวัน
เธอกับฉันคงพบสุขทุกภพเลย

กลับมาอีกที ได้ฟังเพลงพี่เสือ


พี่เสือเป้นนักร้อง-นักดนตรี ที่จุชื่นชอบมาตั้งแต่ ยังไม่ออกอัลบั้ม


รักคงยังไม่พอ

ถ้อยคำดี และจุชอบมากค่ะ

ความรัก ศาสตร์ นี้เรียนมิรู้จบ ใช่ไหมคะพี่