ย้อนรอยการโค่นเผด็จการมาร์กอส(3)--สุทธิชัย หยุ่น
ย้อนรอยการโค่นเผด็จการมาร์กอส (3)
23 กุมภาพันธ์ 2549 17:41 น. นาทีสุดท้ายก่อนล่มสลาย เผด็จการจะส่งเสียง "สู้ๆ" เสมอ
เมื่อเห็นประชาชนเป็นเรือนแสนเรือนล้านออกมาชุมนุมขับไล่เผด็จการโกงกินเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ผู้นำทหารที่มีความคิดแนวประชาธิปไตยก็ตัดสินใจเดินข้ามจากฝั่งอำนาจการเมืองสกปรกมาอยู่ข้างเดียวกับประชาชนผู้เรียกร้องความชอบธรรมของแผ่นดิน
รัฐมนตรีกลาโหมฮวน เอ็นรีเล่ กับรองเสนาธิการทหารฟิเดล รามอส ประกาศเลิกสนับสนุนมาร์กอส ทั้งๆ ที่ผู้นำยังมีอำนาจล้นฟ้า และสั่งการปลดนายทหารคนไหนเมื่อไรก็ได้
นายทหารทั้งสองประกาศพร้อมกับทหารหาญผู้รักชาติกลุ่มหนึ่งว่าพร้อมที่จะตายดีกว่าที่จะได้ชื่อว่า "พายเรือให้หัวหน้าโจรปล้นประเทศ"
มาร์กอสตอบโต้ด้วยการประกาศว่า เขาไม่ได้เกรงกลัวทหารกลุ่มที่ประกาศอยู่ข้างผู้ชุมนุมและเรียกร้องให้เขาลาออกเลยแม้แต่น้อย
จอมเผด็จการออกวิทยุตัดไม้ข่มนามด้วยการประกาศว่า
"พวกขบถถูกต้อนจนมุมแล้ว ผมจะกวาดล้างพวกเขาด้วยปืนใหญ่และรถถังได้อย่างง่ายดาย ผมขอประกาศว่าจะยังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อไป และหากจำเป็นผมจะปกป้องตำแหน่งของผมด้วยกำลังทุกอย่างที่ผมมี..."
มาร์กอสรู้ตัวว่ามาถึงเฮือกสุดท้ายแห่งลมหายใจของการกุมอำนาจเบ็ดเสร็จแล้ว เสียงแข็งขันของเขาต่อสาธารณชนคือเสียงของคนดิ้นรนวาระสุดท้าย โดยหวังว่าการประกาศด้วยถ้อยประโยคดุดันนั้น จะทำให้ฝ่ายเรียกร้องให้เขาก้าวลงจากตำแหน่งต้องถอยไป
แต่มาร์กอสไม่ได้สำเหนียกแม้แต่น้อยว่า "กำลัง" กับ "อำนาจ" นั้น มิจำเป็นต้องเป็นเรื่องเดียวกันเสมอไป
แม้เขาจะยังหลงคิดว่ายังมี "กำลัง" ที่จะปกป้องตำแหน่งเขาอย่างเหลือเฟือ, มาร์กอสหารู้ไม่ว่า "อำนาจ" อันชอบธรรมนั้นได้หดหายไปหมดสิ้นแล้ว เมื่อประชาชนลุกขึ้นมาประกาศรวมตัวกันให้เขารู้ว่าประเทศชาติมิอาจจะให้เขาดำรงตำแหน่งทางการเมืองสูงสุดของชาติได้อีกต่อไปแม้แต่วันเดียว
Radio Veritas ซึ่งเป็นสถานีวิทยุอิสระของฝ่ายศาสนาคาทอลิกประกาศให้ประชาชนออกมาปกป้องนายทหารผู้รักชาติ ด้วยการไปล้อมกระทรวงกลาโหมอันเป็นที่ทหารประชาธิปไตยปักหลักต่อต้านมาร์กอส
ชาวบ้านหลายหมื่นคนออกมาตั้งด่าน เพื่อกั้นไม่ให้ทหารที่ยังถูกบังคับให้ต้องจงรักภักดีต่อมาร์กอสเข้าไปถล่มโจมตีฐานที่มั่นแห่งการคัดค้านของเหล่าทหารหาญได้
เป็นเวลา 4 วันเต็มๆ ที่ประชาชนและสมาชิกครอบครัวหลายหมื่นคนปักหลักตั้งแคมป์กลางถนน ประกาศพร้อมจะสละชีวิตเพื่อปกป้องไม่ให้ทหารฝ่ายเผด็จการเข้ามาปะทะกับทหารฝ่ายประชาชน
บรรยากาศของการประท้วงกลายเป็นการรวมตัวชุมนุมอย่างเป็นกันเองของประชาชนผู้ประกาศว่า "ไม่ชนะ...ไม่เลิก" ผู้คนหอบลูกจูงหลานและนัดหมายเพื่อนฝูงมาพบกันที่ลานถนนอันเป็นศูนย์กลางแห่งการประท้วง ฟังวิทยุเสรีไป ร้องรำทำเพลงและตั้งวงถกการเมืองเพื่อขับไล่มาร์กอสไป
พระสงฆ์หลายองค์เข้ารวมตัวกันกลางถนน เพื่อสวดมนต์วิงวอนให้ประเทศชาติรอดพ้นจากภัยพิบัติ ขอให้ผู้นำเผด็จการได้สำนึกถึงความชั่วร้ายที่ตนและพรรคพวกได้กระทำลงไป และขอให้พวกเขาออกไปจากตำแหน่ง เพื่อสังคมจะได้กลับสู่ภาวะปกติ
มาร์กอสวางแผนสู้ด้วยการซื้อเวลา และเตรียมการนองเลือด เขาบอกคนใกล้ชิดในยามที่วิกฤติพุ่งถึงระดับสูงสุดว่า
"เราจะรอเวลา... เราต้องสลายการชุมนุมของพลเรือน...เพื่อเราจะได้ถล่มทหารขบถพวกนี้..."
ว่าแล้วมาร์กอสก็ส่งทหารนาวิกโยธิน, รถถัง, และยานเกราะเข้าบุกยึดค่าย Camp Crame
ประชาชนเรือนแสนปักหลักอยู่กลางถนน ไม่ยอมถอยให้รถถังและทหารฝ่ายเผด็จการที่ดาหน้าเข้ามา
ขณะที่รถถังขยับจะเข้าบดขยี้ค่ายทหารแห่งนี้ ประชาชนนั่งลงตรงหน้ารถถังเหล่านั้น
รถถังหยุด...ประชาชนผู้ประท้วงยื่นบุหรี่, ขนมและดอกไม้ให้ทหารที่ถูกมาร์กอสสั่งให้มาสังหารประชาชน
รถถังเดินหน้าต่ออีก...ชาวบ้านผู้ประท้วงก็ไม่ยอมขยับหนี...นั่งขวางทางของรถถังอยู่บนถนนแห่งนั้น
ขบวนรถถังหยุดอีก...ทหารนาวิกโยธินคนหนึ่งขู่ว่าจะเริ่มยิงผู้ขัดขวางการปฏิบัติการ พระและชีคุกเข่าต่อหน้ารถถังและเริ่มสวดมนต์
ไม่มีเสียงปืนดังแม้แต่นัดเดียว...ขบวนรถถังหันกลับ...ประชาชนส่งเสียงเชียร์ด้วยความปีติ
พลังประชาชนย่อมอยู่เหนืออำนาจของอาวุธใดๆ ที่จอมเผด็จการจะใช้มาข่มขู่ประชาชนได้
ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น, มาร์กอสและครอบครัวก็หนีหัวซุกหัวซุนผ่านประตูหลังของทำเนียบมาลากันยัง...ลงเรือที่รออยู่เพื่อข้ามแม่น้ำปาซิกไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์ที่รออยู่...มุ่งสู่ฐานทัพเรือที่คลาก จากนั้นก็ขึ้นเครื่องบินของกองทัพอากาศมะกันมุ่งหน้าสู่เกาะกวมและต่อไปลี้ภัยที่เกาะฮาวายในท้ายที่สุด
ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยอาทิตย์ที่จะถึงนี้ในประเทศไทยหรือไม่ อยู่ที่ความสำนึกของผู้ที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จจะยอมรับรู้ว่าเมื่อเวลามาถึง, เขาควรจะต้องตัดสินใจลงจากเวทีเอง
ก่อนที่จะต้องหนีหัวซุกหัวซุนจนไร้แผ่นดินอาศัยสำหรับทั้งครอบครัว
........................................................
@@ รับฟังข่าวสารบ้านเมืองจากคลื่นประชาธิปไตย--FM 92.25 MHz--click
@@บล็อกเมื่อวาน คลิกที่นี่
@@ลิ้งค์บทความ "เสียงสู้จากโลกเสมือน" จากจุดประกายของนสพ.กรุงเทพธุรกิจ--click
@@ลิ้งค์บทความ"การต่อสู้ระหว่างอำนาจเงินกับอำนาจธรรม--ดร.ชัยอนันต์ สมุทวณิช --click
**ลิ้งค์ล่าสุด 26 กพ. 49--->
ฟังข่าวสารและเพลงจากคลื่น "วิทยุเพื่อศิลปะวัฒนธรรมและเวทีประชาธิไตย คลิก --->
@@วิทยุเพื่อศิลปะวัฒนธรรมและเวทีประชาธิปไตย --click
Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2549 |
|
28 comments |
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2549 9:51:27 น. |
Counter : 560 Pageviews. |
|
|
|
และหวังว่าคงไม่เกิดเหตุการณ์อย่างนั้น
แม้ว่า บางสิ่ง บางอบ่าง มันจะคล้ายเอามากๆ ก็ตาม