ตอนที่สองกับการขับทดสอบ BMW New X5 xDRIVE30d+50i ท่ามกลางภูมิประเทศที่สวยงามของเมืองแวนคูเวอร์ ระบบขับเคลื่อน xDRIVE ประสิทธิภาพ กำลังและสภาพการขับขี่บนระยะทางทดสอบเกือบ 400 กิโลเมตร...

BMW EfficientDynamics as standard: eight-speed automatic transmission and ECO PRO mode with new functions เครื่องยนต์ทั้งหมดใน BMW X5 รุ่นใหม่ล่าสุดกลายเป็นบรรทัดฐานให้กับเครื่องยนต์ในยุคต่อๆ ไปของแบรนด์ BMW จากกำลัง ความประหยัดและความก้าวไกลของเทคโนโลยี TwinPower Turbo ซึ่งจะรวมเป็นมาตรฐานเดียวกันกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดอันลือลั่นของค่าย ZF เจ้าแห่งระบบส่งกำลังจากยุโรป ความเร็วของตัวรถเกิดจากประสิทธิภาพขององค์รวมที่ประกอบขึ้นจากแชสซีส์ เครื่องยนต์ เกียร์และช่วงล่างที่มีความแม่นยำ การพัฒนาในสองโมเดลของรถยนต์ในตระกูล X5 ช่วยให้การปรับปรุงประสิทธิภาพของตัวรถรุ่นใหม่มีความสมบูรณ์แบบ พวงมาลัยหรือชุดบังคับเลี้ยวแบบไฟฟ้า Electro hydraulic servo valve สำหรับรุ่นใหม่ BMW X5 การควบคุมผ่านฟังก์ชั่นที่ได้รับการปรับปรุงให้ความแม่นยำสูงขึ้น ระบบการควบคุมการลากจูงซึ่งจะช่วยให้กำลังเครื่องยนต์และเกียร์ผ่องถ่ายแรงบิดไปยังล้อแต่ละข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การออกตัวจากจุดหยุดนิ่งไปจนถึงความเร็วสูงสุด

ในโหมด ECO PRO, การจัดการเครื่องยนต์ผ่านการควบคุมด้วย ECU ตอบสนองคันเร่งและลักษณะการส่งถ่ายกำลังจะเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยเน้นไปที่ความประหยัดของอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง คันเร่งไฟฟ้าถูกปรับให้มีความยืดหยุ่นสูงสุด เกียร์จะชิฟตัวเองขึ้นสู่รอบสูงเพื่อหลีกเลี่ยงการขับลากรอบที่ทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ในเวลาเดียวกัน, โหมด ECO PRO ยังมีโปรแกรมที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าเชื่อมโยงการทำงานกับอุปกรณ์ไฟฟ้าเช่นการควบคุมอุณหภูมิและความชื้น, ระบบอุ่นที่นั่งและกลไกไฟฟ้าอื่นๆ สำหรับการจัดการพลังงานแบบพิเศษที่มีประสิทธิภาพ ในโหมด ECO PRO, ฟังก์ชั่นจะจัดการกับเครื่องยนต์จากส่วนที่เหลือของกำลัง เมื่อใดก็ตามที่คนขับยกเท้าออกจากคันเร่งที่ความเร็วระหว่าง 50 และ 160 กม. / ชม. (ประมาณ 30-100 ไมล์ต่อชั่วโมง) และไม่มีการใช้เบรก ตัวจัดการไฟฟ้าซึ่งใช้กำลังไฟจากแบตเตอรี่จะเข้ามารับหน้าที่ตัดกำลังจากเครื่องยนต์เพื่อให้เกิดความประหยัดสูงสุด ช่วยให้ BMW X5 มีการบริหารเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพร่วมกับระบบนำทางซึ่งสามารถเลือกเส้นทางที่ใกล้ที่สุดบน GPS ผ่านปุ่มควบคุม iDRIVE

ฟังก์ชั่นเพิ่มเติม Comfort Mode โหมดใหม่ใน BMW X5 F15 ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติอื่นๆ เทคโนโลยี BMW EfficientDynamics มีระบบสะสมพลังงานจากการเบรก ฟังก์ชั่น Auto Start-Stop หยุดการทำงานของเครื่องยนต์ทุกครั้งที่จอดนิ่งสนิทเพื่อลดการปล่อย CO2 และลดการใช้เชื้อเพลิงโดยไม่จำเป็นและสามารถกดปุ่มยกเลิกการทำงานในโหมดนี้ได้ตามต้องการ BMW EfficientDynamics ยังประกอบไปด้วยพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า ยาง Goodyear Eagle F1 SUV 4x4 ที่มีดอกยางลดแรงเสียดทานกับผิวถนน คุณสมบัติของการรีดน้ำหนักใน New X5 โครงสร้างและชิ้นส่วนหลักที่มีน้ำหนักเบา ฝาสูบและชิ้นส่วนบางชิ้นผลิตจากแมกนีเซียม ทำให้มันกลายเป็นยานพาหนะแบบ SUV ที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในรถ Class เดียวกัน น้ำหนักที่เบาขึ้นเกิดจากการออกแบบที่ชาญฉลาดในขั้นตอนของการพัฒนาตัวรถรุ่นใหม่ รถ BMW X5 รุ่นล่าสุดมีน้ำหนักเบาขึ้นอีก 90 กิโลกรัม เมื่อเปรียบเทียบน้ำหนักตัวกับรุ่นที่ผ่านมา ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ (Cd) เท่ากับ 0.31 (BMW X5 xDrive30d) ไม่มากเกินไปสำหรับรถขับเคลื่อน 4 ล้อตัวโตน้องๆ ช้าง การตั้งค่าระบบขับเคลื่อนหลากหลายรูปแบบและอารมณ์ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่ผู้ขับขี่กำลังเผชิญ ผู้ขับขี่สามารถปรับความต้องการของช่วงเวลาหรือสถานการณ์การขับขี่ที่แตกต่างกันออกไปด้วยโหมดการขับเคลื่อน COMFORT, SPORT, SPORT + และโหมด ECO PRO โดยใช้การเลือกกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับแต่งลักษณะการตอบสนองของคันเร่ง น้ำหนักและการตอบสนองของชุดบังคับเลี้ยว การผ่องถ่ายอัตราทดของของเกียร์อัตโนมัติ และการยึดเกาะที่นำพาความสะดวกสบายขณะขับขี่ในระดับต่างๆ ตัวเลือกและแพ็กเกจมืออาชีพส่งการควบคุมไปยังแดมเปอร์แบบไดนามิก บนรถที่มีความเป็นไดนามิกสูงสามารถปรับแต่งได้ตลอดเวลาแม้ขณะที่ทำการขับเคลื่อน

ชุด Adaptive Damper ประกอบด้วยการควบคุมแบบไดนามิก ระบบจะปรับให้รถมีความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงสภาพถนนและสถานการณ์ของการขับขี่ โหมด SPORT + หรือโหมดการขับเคลื่อนในระดับสูงสุด ให้อารมณ์แบบสปอร์ตที่เน้นความคล่องแคล่วว่องไว อัตราเร่งและความกระชับของย่านกำลัง ส่วนประกอบต่างๆ ของแพ็กเกจ Suspension แบบไดนามิกปรับพลศาสตร์ของช่วงล่างอย่างมีนัยสำคัญ ในการทรงตัวทุกๆ ย่านความเร็วด้วยความเสถียร ในการปฏิบัติงานแบบ Dynamic Drive ที่ต้องการเสถียรภาพสูง กันสะเทือนแบบปรับตัวได้จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย บูรณาการความเพลิดเพลินในการขับขี่ในทุกสถานการณ์ ทุกรุ่นของ BMW X5 มีการติดตั้งพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้าเป็นมาตรฐาน สำหรับ BMW X5 xDrive50i และ BMW X5 xDrive30d พวงมาลัยสามารถใช้งานได้อย่างใจนึกด้วยการปรับอินพุตที่พวงมาลัยผ่าน ECU เชื่อมโยงกับโหมดการขับเคลื่อน 4 รูปแบบ ทำให้น้ำหนักของชุดบังคับเลี้ยวมีความสัมพันธ์กับความเร็วของรถ ซึ่งจะช่วยลดความพยายามในการควบคุมหรือประคองพวงมาลัยโดยไม่จำเป็น มันจะให้การตอบสนองที่แม่นยำขณะที่ขับด้วยความเร็วสูงหรือขับเข้าโค้ง เบรกมือแบบไฟฟ้าที่มีฟังก์ชั่นออโตเป็นอุปกรณ์มาตรฐานใหม่ใน BMW X5 สำหรับชุดห้ามล้อ ระบบเบรกที่ให้ประสิทธิภาพของการเบรกในระดับที่ดี ให้เสถียรภาพและความสม่ำเสมอในการถ่ายเทน้ำหนักขณะเบรก รองรับการห้ามล้อผ่านความช่วยเหลือจากระบบควบคุมเสถียรภาพ (DSC) ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบควบคุมการทรงตัว (DTC)-(CBC), การควบคุมเสถียรภาพขณะขึ้น-ลงทางลาดชัน Hill Descent Control (HDC)

การควบคุมตัวรถหนัก 2.1 ตันให้อยู่หมัดคือสิ่งที่นักขับและเจ้าของรถทุกคนต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขับฝ่าสภาพอากาศที่เลวร้ายด้วยรถยนต์แบบ SUV ที่มีสัดส่วนของความสูงมากกว่ารถทั่วไป ความใหญ่โตขนาดและน้ำหนักทำให้การจัดการในสภาวะคับขันมีความสำคัญอยู่ในอันดับต้นๆ ของการพัฒนา ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาแบบ xDRIVE ของ BMW Group ในรถ X5 2014 มีการเสริมแชสซีส์ เพื่อเพิ่มเติมความสามารถและความกระฉับกระเฉงหลากหลายระดับ ระบบควบคุมความสมดุลแบบมาตรฐานนั้น ด้วยค่าที่ปกติมันจะไม่สามารถเข้ามาจัดการตัวรถให้เกิดความเสถียรสูงสุดได้ เนื่องจากขนาดและน้ำหนักที่มากกว่ารถปกติรวมถึงสัดส่วนของความสูง สำหรับรถยนต์ BMW ที่มีระบบขับเคลื่อนแบบ xDRIVE ระบบควบคุมการทรงตัวรับหน้าที่คอยแก้ใขอาการอันเดอร์หรือโอเวอร์สเตียร์โดยไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับกำลังของเครื่องยนต์ หากสถานการณ์คับขันเกินกว่าระบบช่วยทรงตัวจะรับมือไหว ยังมีระบบ Dynamic Stability Control เข้ามาช่วยเสริมอีกแรง ระบบขับเคลื่อนทุกล้อของ BMW ซึ่งเรียกกันว่า xDRIVE นี้ ถูกปรับตั้งค่าสำหรับการกระจายแรงบิดหน้า-หลังมาจากโรงงานบนตัวเลข 40-60 (หน้า 40% หลัง 60%) โดยสามารถแปรผันแรงบิดอย่างรวดเร็วเพื่อรับมือกับสถานะของตัวรถที่มีต่อเส้นทางในขณะนั้นๆ ชุดควบคุมอิเล็กทรอนิกส์มีการสั่งงานที่รวดเร็วเพื่อให้ทันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า ด้วยการใช้คลัตช์แบบหลายแผ่นในชุด Transfer Case ตัวกลาง หากระบบควบคุมสั่งให้เปิดจนสุด แรงบิดทั้งหมดจะถูกส่งถ่ายไปยังล้อคู่หลังทั้งหมด และถ้าปิดจนสุดแรงบิดจะถ่ายเทไปที่ล้อหน้าทั้งหมดเช่นกัน ฟังก์ชั่น Performance Control คอยรับมือกับอาการอันเดอร์สเตียร์ โดยจะส่งแรงบิดไปยังล้อหลัง สั่งเบรคแบบอัตโนมัติไปยังล้อหลังด้านที่อยู่ในโค้ง เพื่อดึงหน้ารถให้กลับเข้าสู่เส้นทาง ระบบจะเพิ่มกำลังของเครื่องยนต์จากการตัดสินใจด้วยตัวของมันเองเพื่อรักษาทิศทาง

xDRIVE ใน BMW ยุคใหม่ยังมีควบคุมเสถียรภาพของตัวรถจากการสั่งงานอีกชั้นโดย Integrated Chassis Management หรือ ICM ซึ่งผนวกอยู่ในระบบ xDRIVE มันคือคอมพิวเตอร์ที่จะคอยตัดสินใจสั่งงานว่าจะใช้ฟังก์ชั่นใดรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น อาจเป็น DSC Performance Control , xDRIVE หรือใช้ผสมกัน สิ่งที่นับเป็นความชาญฉลาดของระบบหลักนี้คือ การที่ ICM จะคอยสอดส่องสถานะของรถอยู่ตลอดเวลา และคอยตรวจจับองศาของการหมุนพวงมาลัย การใช้คันเร่งและการลื่นไถลของล้อขับเคลื่อนทุกๆ ล้อ ด้วยการประเมินผลอย่างรวดเร็วของ ICM มันอาจตัดสินใจก่อนหน้าคนขับว่ารถกำลังจะเกิดอาการโอเวอร์หรืออันเดอร์สเตียร์ ก่อนที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้นด้วยซ้ำ ICM จะทำการกระจายแรงบิดทั้งหมดจากด้านหลังมาด้านหน้า เพื่อป้องกันอาการโอเวอร์สเตียร์ หรือทำในทางกลับกันเพื่อป้องกันอาการอันเดอร์สเตียร์ หรือสั่งให้ Performance Control ทำงาน กลไกสุดท้ายของ xDRIVE คือ Dynamic  Performance Control ซึ่งมีอยู่ใน X5M และ X6M รุ่นที่แล้ว ระบบนี้ประกอบไปด้วยเกียร์ Planetary 2 ชุด กับคลัตช์แบบหลายแผ่น ทำหน้าที่ส่งแรงบิดจากล้อใดล้อหนึ่งไปยังอีกล้อหนึ่งแบบเดียวกับรถแข่ง World Rally ทำให้การตอบสนองของพวงมาลัยดีขึ้นและช่วยเพิ่มเสถียรภาพของตัวรถ

13.30 น. เครื่องบิน Boeing 777-300 ER ของสายการบิน Cathay Pacific เที่ยวบินที่ CX837 ซึ่งนำสื่อมวลชนของประเทศไทยบินตรงจากฮ่องกงมายังเมืองแวนคูเวอร์ แล้วร่อนลงจอดยังสนามบินนานาชาติภายในเมืองริมชายฝั่งทะเลแปซิฟิกเหนือ เป็นการบินระยะไกลยาวนานกว่า 18 ชั่วโมงจากสุวรรณภูมิไปเปลี่ยนเครื่องที่ฮ่องกงเพื่อตรงมายังเมืองท่องเที่ยวที่งดงามของประเทศแคนาดา จากจดหมายเชิญทดสอบรถยนต์ New X5 2014 ของ BMW Group Thailand ซึ่งถูกส่งมาถึงมือสื่อมวลชนทั้งไทยรัฐออนไลน์ คมชัดลึก เดลินิวส์ และนิตยสารรถยนต์ออโตบิลฉบับภาษาไทย หลังจากเช็กอินเข้าสู่โรงแรมที่พักในช่วงบ่ายแก่ๆ ตอนหัวค่ำ 1 ทุ่มตรงเป็นงานเปิดตัวรถ BMW New X5 2014 ต่อสายตาของสื่อมวลชนนานาชาติที่เดินทางมาทำข่าวในแวนคูเวอร์ โดยวิศวกรและผู้อำนวยการแผนก R And D ของ BMW Group ที่รับผิดชอบพัฒนาตัวรถรุ่นใหม่ในโมเดล X5 ทำหน้าที่บรรยายสรุปเกี่ยวกับการพัฒนาตัวรถ เครื่องยนต์ อุปกรณ์เสริมรวมถึงโหมดการขับขี่ หลังจากฟังการบรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับตัวรถและเส้นทางที่จะใช้ในการทดสอบแล้ว ในตอนเช้า 8.00 น. ของวันที่ 13 กันยายน 2556 จะเป็นการขับทดสอบรถ BMW New X5 ซึ่งมีให้ขับสองรุ่นคือ X5 xDRIVE 30d เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร 258 แรงม้า กับแรงบิด 560 นิวตันเมตร เป็น X5 ใหม่ล่าสุดประจำปี 2014 ซึ่งนับเป็นรุ่นแยกย่อยที่ BMW Group Thailand จะนำเข้ามาขายในประเทศไทย กับรุ่นบ้าพลัง X5 xDRIVE 50i เครื่องยนต์เบนซินแบบ V8 ปริมาตรความจุ 4.4 ลิตร 450 แรงม้ากับแรงบิดมหาศาลที่ 650 นิวตันเมตร สำหรับการขับทดสอบในครั้งนี้ เป็นการรวบรวมเอานักข่าวและคอลัมนิสต์รถยนต์จากประเทศไทย มาเลเซีย สิงคโปร ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฮ่องกง แอฟริกาใต้ สเปนและอิตาลี ด้วยรถทดสอบทั้งหมด 28 คัน แบ่งเป็น X5 xDRIVE 30d 14 คัน และ X5 xDRIVE 50i อีก 14 คัน

เมืองแวนคูเวอร์มีที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลแปซิฟิกบนแผ่นดินของทวีปอเมริกาเหนือ นับเป็นช่องทางที่ค่ายรถแบรนด์หรูนิยมนำรถรุ่นใหม่มาทดสอบหรือเก็บภาพทำโฆษณาได้อีกช่องทางหนึ่ง จากความงดงามเกินบรรยายของพื้นที่แห่งนี้ แวนคูเวอร์มีทิศเหนือจรดอ่าวเบอร์ราร์ด ทิศตะวันตกจรดช่องแคบจอร์เจีย และทิศใต้จรดแม่น้ำเพรเซอร์ ส่วนทิศตะวันออกเป็นภูเขาสูงซึ่งถูกกำหนดเป็นเส้นทางทดสอบระยะทางเกือบ 400 กิโลเมตร ด้วยสภาพภูมิประเทศที่ล้อมรอบด้วยภูเขาและมหาสมุทร ทำให้แวนคูเวอร์เป็นเมืองที่มีภูมิอากาศอบอุ่นที่สุดในประเทศแคนาดา ลักษณะภูมิประเทศของแวนคูเวอร์ อาณาบริเวณ 3 ใน 4 ของเมืองท่องเที่ยวทางแปซิฟิกเหนือแห่งนี้ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาที่มีความสูงชัน เป็นเมืองที่ห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติอันสวยงาม เหมาะสำหรับผู้ที่รักความสงบเงียบด้วยกิตติศัพท์ความสวยงามของภูมิประเทศ ที่รายล้อมไปด้วยเทือกเขาสูงมียอดปกคลุมด้วยหิมะตลอดทั้งปี น้ำทะเลใสสีคราม ทรัพยากรป่าไม้โดยเฉพาะไม้สนภูเขาที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงมากทำให้ "แวนคูเวอร์" เป็นเมืองในฝันของนักท่องเที่ยวหลายๆ คนที่อยากจะเดินทางมาสัมผัสกับทัศนียภาพความงดงามเหล่านี้ แต่เดิมเมืองแวนคูเวอร์มีการทำอุตสาหกรรมป่าไม้พวกไม้สนภูเขาที่มีอยู่เยอะมาก รวมถึงการทำเหมืองแร่ การทำประมงจับปลาและเกษตรกรรม แต่ปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนมาสู่อุตสาหกรรมการบริการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง เพื่อให้มีความสอดรับกับการเป็นเมืองที่มีทัศนียภาพงดงามทั้งป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ โอบล้อมด้วยภูเขาและทะเล มีอากาศอบอุ่นตลอดทั้งปี เมืองแห่งนี้ยังกลายเป็นศูนย์กลางการถ่ายทำภาพยนตร์ และมีการจัดเทศกาลภาพยนตร์ทุกปี

08.00 น. เช้าวันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน ผมจับคู่กับพี่หน่อย ภูวนาถ เผ่าจินดา อุปนายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) คอลัมนิสต์ของนิตยสารรถยนต์ Auto Bild Thailand โดยในการทดสอบภาคเช้าพี่หน่อยกับผมเลือกรถ X5 รุ่น xDRIVE 50i จอมพลัง 450 แรงม้ากับแรงบิด 650 นิวตันเมตรสำหรับการไต่เขาในแถบแวนคูเวอร์ ส่วนรถ X5 รุ่น xDRIVE 30d 258 แรงม้า 560 นิวตันเมตร ซึ่งเป็นรถที่ BMW Group Thailand จะนำเข้ามาขายนั้น พี่กุ้ง ยุทธพงษ์ ภาษี จากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก กับ เจ สมฤกษ์ รื่นสัมฤทธิ์ จาก เดลินิวส์ และคุณจอน กฤษฎา อุตตโมทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรของ BMW Group Thailand รับหน้าที่ขับจากจุดสตาร์ตไปจนถึงจุดวกกลับในช่วงทดสอบตอนเช้า ระยะทางจากหน้าโรงแรม Fairmont Pacific Rim ไปจนถึงจุดวกกลับมีความยาวถึง 220 กิโลเมตร ไม้แรกเป็นหน้าที่ของพี่หน่อย ภูวนาถ เผ่าจินดา ที่เพิ่งจะได้รับตำแหน่ง อุปนายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) จากการโหวดของพี่น้องสื่อมวลชนสายรถยนต์ไปเมื่อเร็วๆ นี้ พี่หน่อยรับงานขับจากโรงแรมไปจนถึงจุดวกกลับที่ค่อนข้างยาว ในห้องโดยสารของ X5 xDRIVE 50i การตกแต่งด้วยสีน้ำตาลเข้มของเบาะนั่งกับการจัดวางจอมัลติฟังก์ชั่นใหม่หมดรวมถึงคอนโซลที่โค้งมนช่วยสร้างบรรยากาศของความหรูหราผ่านชิ้นงานและวัสดุที่ประดับประดาอยู่ทั่วทั้ง Cockpit ตำแหน่งของเบาะคู่หน้าที่สูงยังเปิดมุมมองรอบๆ ตัวให้ไกลออกไปอีก การขับรถออฟโรดแบบพรีเมี่ยม นอกจากเรือนร่างที่ใหญ่โตแล้ว ท่านั่งที่สบายจากความโปร่งโล่งของห้องโดยสารทำให้ไม่มีอาการอึดอัดเมื่อต้องขับเดินทางไกลกันทั้งวันแบบนี้

การจราจรตอนเช้าในเมืองแวนคูเวอร์แทบจะไม่แตกต่างจากกรุงเทพฯ เนื่องจากขับออกมาบนชั่วโมงเร่งด่วนรถราจึงมากเป็นพิเศษ รถยนต์ส่วนใหญ่ในเมืองท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นรถหรูของคนรวย คุณจะพบเห็นทั้ง Mercedes Benz SL / Ferrari 458 Spyder / Lamborghini แทบทุกสายพันธุ์ / Aston Martin DBS , DB9 / Bentley Continental GT กับรถสปอร์ตเปิดหลังคาและรถ SUV ตระกูลหรูทั้งจากยุโรปและของอเมริกันวิ่งกันให้เกลื่อนเมือง บนดินแดนแห่งความงดงามนี้ เมื่อปี 1999 เกาะฮ่องกงได้กลับไปอยู่ในการปกครองของจีน ทำให้คนรวยซึ่งเป็นคนฮ่องกงย้ายถิ่นพำนักมาอาศัยอยู่ในแวนคูเวอร์เป็นจำนวนมาก รถและเรือยอชท์ราคาแพงส่วนใหญ่นั้น นอกจากฝรั่งแคนาดาจะเป็นเจ้าของแล้ว กลุ่มคนรวยชาวเอเชียจำนวนไม่น้อยที่นี่ยังชอบที่จะครอบครองรถหรือเรือยอชท์หรูหราอีกด้วย พี่หน่อยและผมฝ่าฟันการจราจรที่ค่อนข้างวุ่นวายของแวนคูเวอร์เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 99 Trans-Canada Hwy โดยมีเสียงดุๆของสุภาพสตรีชาวเยอรมันใน GPS คอยบอกจุดเลี้ยวตามโปรแกรมที่ทีมทดสอบของ BMW กำหนดมาให้ จอมัลติฟังก์ชั่นขนาด 10.2 นิ้วที่มีรูปทรงคล้ายกับจอของ Series-3 F30 แต่มีขนาดที่ใหญ่กว่าคอยบอกพิกัดของรถและทิศทางที่กำลังเคลื่อนที่อย่างชัดเจน มันสะดวกและตัดปัญหาเรื่องการหลงทางเมื่อนักข่าวต่างประเทศต้องมาขับทดสอบบนทางที่ไม่มีความคุ้นชิน หลังจากขับออกมาจากเมืองได้ไม่ไกลนัก วิวทิวทัศน์สองข้างทางเริ่มเปลี่ยนไปจากความจอแจมาเป็นความสงบเงียบ รถในบริเวณชานเมืองแวนคูเวอร์ทางด้านทิศเหนือซึ่งมีภูมิประเทศเต็มไปด้วยเทือกเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อนทอดตัวไปมาอยู่เหนือทะเลสาบสีฟ้า ความเร็วที่ป้ายบอกทางตามกฎหมายของแคนาดาอยู่ที่ 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บางช่วงบางตอนเป็นทางสองเลนสวนกันที่วกไปวนมาอ้อมขึ้น-ลงเขาและเนินเตี้ยๆ วิวที่เปิดโล่งกับอุณหภูมิ 18 องศาของช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิตในเดือนกันยายนที่แวนคูเวอร์คล้ายกับที่นิวซีแลนด์อยู่บ้างในบางจุด เพียงแต่ภูเขาของที่นี่สูงชันจนเกือบทุกยอดมีหิมะปกคลุมขาวโพลนไปหมด

ใน X5 xDRIVE 50i F15 ซึ่งเป็น SAV หรือรถลุยระดับสูงค่าตัวแพง (Sports Activity Vehicle ตามแบบอย่างที่ BMW เรียก) มันส่งถ่ายความสนุกสนานเพลิดเพลินให้กับทั้งคนขับและผู้โดยสารไปตลอดเส้นทาง เมื่อผมลองตะกายไปนั่งที่เบาะผู้โดยสารตอนหลังก็พบว่ามันดีกว่ารุ่นที่ผ่านมา ตัวรถมีมิติที่ถูกขยายออกไปอีกเล็กน้อย พื้นที่สำหรับวางเท้า ส่วนที่โปร่งโล่งเหนือศีรษะ พื้นที่สำหรับเก็บสัมภาระส่วนท้ายก็ยังเพิ่มมากขึ้น ถึงแม้จะดูด้วยสายตาว่ามันไม่ได้ตัวโตไปกว่ารุ่นที่แล้วมากนัก แต่เจ้า F15 คันนี้ก็ใหญ่ยักษ์สมกับมาดตัวลุยที่ผู้ดีมีเงินนิยมชมชอบ ย่านของกำลังนั้นไม่ต้องพูดถึง แรงบิด 650 นิวตันเมตรจากผลิตผลของเครื่องยนต์ V8 4.4 ลิตร ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบแฝด เทอร์โบคู่ที่รับผิดชอบอัดอากาศฝั่งใครฝั่งมันข้างละสี่สูบส่งเสียงคำรามไปตลอดทางเมื่อขับขึ้นสู่เนินเขา พี่หน่อยเริ่มเปิดฉากบรรเลงลงน้ำหนักคันเร่งทันทีที่รถบนถนนบางตาลง เจ้า X5 xDRIVE 50i พุ่งทะยานไปตามแรงกดพร้อมๆ กับเสียงการทำงานของเครื่อง V8 ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เสียงเครื่องยนต์รูปตัว V สไตล์ BMW ในรอบเครื่องยนต์กลางๆ ไปจนถึงรอบสูงสุดนั้น สร้างความเร้าใจให้กับการโดยสารไปบนรถคันนี้ แม้จะมีการผลึกปิดกั้นเสียงแปลกปลอมจากภายนอกได้ในระดับที่ดีตามราคาค่าตัว แต่เสียงของเครื่องยนต์ซึ่งครางออกมาในย่านความถี่ต่ำนั้นทำให้ผู้ขับเกิดอารมณ์ร่วมไปกับตัวรถได้อย่างแปลกประหลาด ส่วนผสมที่ดีของแชสซีส์ทำให้การเร่งความเร็ว การเลี้ยวลัดเลาะไปตามโค้งและการถ่ายเทน้ำหนักอยู่ในค่าที่น่าพึงพอใจ ความรู้สึกมั่นคงเมื่อนั่งอยู่ในตำแหน่งเบาะด้านหน้าคู่กับคนขับกับความนิ่มนุ่มของเบาะหนังแท้สีน้ำตาล พนักพิงศีรษะนั้นจัดได้ว่าแข็งกว่า Porsche Cayenne การที่มันสามารถปรับองศาของพนักพิงได้ช่วยให้ต้นคอของคุณมีจุดรองรับที่ถูกต้อง มันจะทำให้คุณไม่เกิดอาการปวดเมื่อยเมื่อต้องขับหรือนั่งยาวเกือบๆ 400 กิโลเมตรแบบนี้

คุณสามารถรับประทานเค้กชิ้นโตที่มีครีมใส่มาเต็มได้อย่างสะดวกโยธินบน X5 ใหม่ โดยที่เค้กไม่เลอะเทอะติดหน้าติดตาของคุณแม้แต่น้อย ระบบกันสะเทือน Adaptive Suspension ของ New X5 ปรับตัวเองด้วยความยืดหยุ่นเมื่อพี่หน่อยขับผ่านสภาพทางที่ไม่มีความสม่ำเสมอในบางช่วงบางตอนบนทางขึ้น-ลงเขา ความนิ่มนวลใน Comfort mode ส่งถ่ายทั้งความหนึบและความนิ่มไปพร้อมๆ กัน ใน BMW ยุคใหม่เกือบทุกรุ่นยกเว้นรุ่น M ช่วงล่างที่ชัดเจนของพวกมันถูกปรับให้ลดความกระด้างสะเทือนออกไปจนเกือบหมด ระบบรองรับที่ให้ทั้งความนิ่มนวลและการยึดเกาะที่ดีเยี่ยมเกิดจากต้นทุนที่สูงลิบ ในขั้นตอนของการพัฒนารวมถึงราคาของชิ้นส่วนที่ใช้ประกอบขึ้นเป็นช่วงล่างของรถทดสอบคันนี้ซึ่งมีทั้งก้านปีกนกแบบอัลลอย จุดยึดและมุมของช่วงล่างที่มีค่าทางกลศาสตร์ค่อนข้างเป็นกลาง Adaptive Suspension ปรับตัวเองให้เข้ากับทุกสภาพทางและโดดเด่นมากบนทางลาดยางเรียบๆ แบบนี้ แรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลางหรือแรงจีที่เกิดขึ้นในโค้งเมื่อขับเข้าสู้หัวโค้งด้วยความเร็วสูง มันยังให้ความรู้สึกที่มั่นคง แม้กระทั่งการใช้เบรกแบบหนักๆ การถ่ายเทมวลของมันก็ยังอยู่ในระดับที่ดีมาก ความเร็วที่ใช้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากความนิ่งของตัวรถ พี่หน่อยลองกดดูบนจอ MID เพื่อเช็กอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยหลังจากขับบนไฮเวย์มาได้เกือบ 100 กิโลเมตร โดยได้ตัวเลขที่ 5.4 กิโลเมตรต่อลิตรบนตัวรถ X5 รุ่น xDRIVE 50i อย่าลืมว่านี่คือการขับทดสอบที่เน้นอัตราเร่งโดยเน้นไปที่ย่านของกำลังและสภาพการยึดเกาะที่ไม่มีการเน้นไปที่ความประหยัดแม้แต่น้อย.

PHOTO BY Nikon D7100 + Nikkor 70-200 f2.8 G ED VR NANO + Nikkor 17-55 f2.8

VDO