BlogGang.com : : amulet108 : PORSCHE WORLD ROADSHOW 2013 ขับสนุกสไตล์กบ (ตอนที่1)

PORSCHE WORLD ROADSHOW 2013 ขับสนุกสไตล์กบ (ตอนที่1)

PORSCHE WORLD ROADSHOW 2013 ขับสนุกสไตล์กบ (ตอนที่1)

AAS Auto Service จับมือกับ Porsche AG จัดเต็มขนทัพรถสปอร์ตหรูกว่า 20 คัน ให้สื่อมวลชนและลูกค้าลงทดสอบสมรรถนะอย่างเต็มพิกัดในกิจกรรม Porsche World Roadshow 2013 ที่สนามพีระเซอร์กิต พร้อมเปิดตัว New Cayman รุ่นล่าสุด ครั้งแรกในไทย...

บริษัท AAS Auto service ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ Porsche ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ร่วมกับค่าย Porsche AG ประเทศเยอรมนี จัดการทดสอบรถยนต์ Porsche กันแบบครบๆ ทุกรุ่นด้วยรถ Porsche รุ่นใหม่ล่าสุดที่มากันครบทุกโมเดลจำนวน 23 คัน สำหรับกิจกรรม Porsche World Roadshow 2013 เป็นการหมุนเวียนกันจัดการทดสอบรถยนต์ Porsche กระจายไปยังประเทศต่างๆทั่วโลกเพื่อให้สื่อมวลชนสายยานยนต์และลูกค้าที่ครอบ ครองรถสปอร์ตยี่ห้อ Porsche ได้สัมผัสกับประสิทธิภาพและสมรรถนะของตัวรถ โดยเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 1-12 มีนาคม ที่สนามแข่งรถพีระเซอร์กิต พัทยา

VDO

Porsche World Roadshow 2013 นับเป็นกิจกรรมที่ AAS Auto service จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องและถือได้ว่าเป็นงานทดสอบการขับรถยนต์ Porsche ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เริ่มต้นขึ้นด้วยการอบรมทักษะของการขับขี่และท่านั่งที่ถูกต้อง หลังจากนั้นจึงเป็นการลงทดสอบรถยนต์ทุกโมเดลของ Porsche กันแบบครบๆ เช่น Panamera สุดยอดรถสปอร์ตแนว Gran Turismo หรือ Cayenne รถ SUV สายพันธ์ุแกร่งซึ่งขนมากันครบๆ เช่น S-Hybrid / Diesel / Turbo / Turbo S / GTS รวมถึงรถสปอร์ตคูเป้ในตำนานอย่าง Porsche 911/991 Carrera / Carrera S / Carrera S Convertible กับ Roadster สายพันธ์ุสปอร์ตรุ่น Boxster ที่ขนมากันครบทั้งรุ่นมาตรฐานและรุ่นสูงสุด บริษัท AAS Auto serviceได้จัดทีมนักแข่งจากเยอรมนีผู้เชี่ยวชาญด้านการขับรถอย่างถูกต้องและ ปลอดภัย พร้อมกับการแนะนำเทคนิคใหม่ๆ เกี่ยวกับการควบคุมสปอร์ตคาร์พลังสูง รวมถึงให้ความรู้เกี่ยวกับระบบการทำงานและเทคโนโลยีที่ Porsche ได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงระบบความปลอดภัยสำหรับยนตรกรรมพลังสูงจากเยอรมนียี่ห้อนี้

ใน งานเดียวกันนี้เอง บริษัท AAS Auto service ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ Porsche ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ได้ทำการเปิดตัวรถยนต์สปอร์ตคูเป้สองที่นั่งเครื่องวางกลางลำรุ่น Cayman S เจนเนอเรชั่นที่ 3 นับเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ตามติดการเปิดตัวแบบสดๆ ร้อนๆ ทั่วโลกของ Cayman รุ่นล่าสุดไปเมื่อไม่นานมานี้ (รถ Cayman เปิดตัวครั้งแรกในงานแสดงรถยนต์ LA Motor Show 2013) สำหรับ New Cayman S คันนี้ ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่หมดจดตั้งแต่เปลือกตัวถัง เครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง ระบบรองรับและงานตกแต่งภายในที่งดงาม คุณภาพจากวัสดุที่ใช้ในงานตกแต่งห้องโดยสารและสไตล์ที่ดีขึ้นอย่างผิดหู ผิดตา ตัวถังใหญ่ขึ้นอีกเล็กน้อย บั้นท้ายดูชัดเจนมากยิ่งขึ้นด้วยไฟท้ายที่ใช้ร่วมกันกับรุ่น Boxster ส่วนช่องรับอากาศด้านข้างตัวถังหลังบานประตูดูสะดุดตามากกว่ารุ่นที่แล้ว แนวของหลังคาใน Cayman รุ่นใหม่ไม่ได้เทลาดเอียงไปยังส่วนท้ายเหมือนกับรุ่นที่แล้ว สำหรับ Cayman คันล่าสุด แนวหลังคายังคงความสูงในระดับเดิมจนเกือบจะจดกับแนวของฝาท้าย หลังคาค่อยๆ ลาดไปจนถึงสปอยเลอร์ทรงกว้างด้วยการออกแบบที่เน้นให้สัดส่วนด้านท้ายมีมิติ มุมมองที่กว้างมากขึ้น ฝาท้ายและแนวกระจกบานหลังดีไซน์ให้มีความกลมกลืนกับไฟท้ายแบบใหม่ บานกระจกฝาท้ายเรียบเสมอกับแนวของตัวถังคล้ายกับ Panamera

เครื่อง ยนต์ แบบสูบนอน วางไว้กลางลำตัวโดยอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำมากกว่าปกติเพื่อเน้นในเรื่องของการ ลดจุดศูนย์ถ่วง ช่องรับลมที่ด้านข้างเพื่อนำมาระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ บ่งบอกให้รู้ว่า Cayman เป็นรถสปอร์ตเครื่องกลางลำที่สวยงามและดุดัน เป็นเอกลักษณ์พิเศษสำหรับรุ่น Cayman และ Boxster เครื่องยนต์ของ New Cayman S วางเครื่องยนต์แบบสูบนอน 6 กระบอกสูบ หริือ Boxer ปริมาตรความจุ 3.4 ลิตร 3,436 ซีซี 321 แรงม้า ส่วนรุ่นมาตรฐานมีเครื่องยนต์ที่เล็กลงมาที่ 2.7 ลิตร 271 แรงม้า มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงดีขึ้นมาอีก 15% จากระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบไดเรคอินเจคชั่น ระบบ Stop /Start รวมถึงระบบสำรองพลังงานไฟฟ้าด้วยการเบรคแล้วแปรเปลี่ยนมาเป็นประจุกระแส ไฟฟ้า ซึ่งจะนำมาเก็บไว้ในแบตเตอร์รี่เพื่อหมุนเวียนกลับมาใช้งาน รวมถึงยางชนิดพิเศษที่มีแรงเสียดทานต่ำ ระบบส่งกำลังของ New Cayman วางเกียร์ 6 สปีดรุ่นมาตรฐาน และมีออปชั่นพิเศษซึ่งเป็นเกียร์คลัตช์คู่แบบ PDK-7 เมื่อยกคันเร่ง เซ็นเซอร์จะตัดการส่งกำลังของเกียร์ลงทันที เพื่อไม่ให้มีการหน่วงความเร็ว และที่โดดเด่นมากขึ้นคือ เมื่อรอบของเครื่องยนต์ต่ำกว่า 1,000 รอบต่อนาที ระบบจะเข้าเกียร์ว่างให้ทันทีและมันช่วยประหยัดเชื้อเพลิงได้ถึง 1 ลิตรในระยะ 100 กิโลเมตร จากระบบดังกล่าว ช่องรับอากาศด้านข้างมีมิติที่ลึกมากขึ้นและทำให้ด้านข้างของตัวรถดูเป็น จริงเป็นจังสำหรับการทำความเร็ว ปีกหลังที่ทำงานผ่านระบบไฮดรอลิกใหญ่ขึ้นอีก 40% มันพร้อมจะยกตัวขึ้นทันทีที่เซ็นเซอร์จับได้ว่าความเร็วกำลังสูงขึ้นจนถึง ขอบเขตที่ได้ตั้งค่าเอาไว้ให้วิ่งหลังยกตัว มันสูงขึ้นและทำองศาของการเอียงได้มากกว่า Boxster ตัวถังของ Cayman ยังมีชิ้นส่วนที่เล็กลงเพื่อและคงประสิทธิภาพของระบบอากาศพลศาสตร์ เอาไว้

ฐาน ล้อของ New Cayman ถูกขยายออกไปอีก 60 มิลลิเมตร และมีความยาวมากกว่ารุ่น 911 อยู่ถึง 25 มิลลิเมตร ฐานล้อหน้าของ New Cayman S นั้น กว้างขึ้นอีก 40 มิลลิเมตร สำหรับรุ่นมาตรฐานมีระยะฐานล้อหน้าที่ 36 มิลลิเมตร ตัวถังของมันถูกออกแบบให้เตี้ยลงอีก 11 มิลลิเมตร รถ New Cayman หันกลับมาใช้ระบบบังคับเลี้ยวแบบไฟฟ้า ท่อทางต่างๆ ของระบบไฮดรอลิกสำหรับพวงมาลัยในรุ่นเก่าถูกเอาออกไปจนหมดสิ้น ทำให้มันมีน้ำหนักที่เบาขึ้นและมีตัวเลขการกระจายน้ำหนักในระดับที่ดีเยี่ยม ซึ่งจะส่งผลไปถึงการควบคุมรถอีกด้วย ช่วงล่างยังคง DNA ของ Porsche เอาไว้อย่างเหนียวแน่น ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช๊คอัพและเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังยังคงเป็นแบบมัลติลิงค์เหมือนเดิม

44% ของตัวถังใน New Cayman เช่น ประตู ฝากระโปรงหน้า-หลัง ทำจากอัลลอย แม้จะมีพื้นที่ีของกระจกบังลมที่มากกว่ารุ่นที่แล้ว รวมถึงน้ำหนักของอุปกรณ์รุ่นใหม่ที่ประดังใส่เข้าไปก็ไม่ทำให้มันตัวอ้วน หรือหนักขึ้นแม้แต่น้อย น้ำหนักที่เบาลงกว่ารุ่นเก่าถึง 20 กิโลกรัมในรุ่นมาตรฐาน ส่วนรุ่น Cayman S นั้นเบาขึ้นไปอีกถึง 30 กิโลกรัมเมื่อเปรียบเทียบกับน้ำหนักตัวของเจ้าจรเข้รุ่นที่ผ่านมา ทั้งหมดเกิดจากการออกแบบและคัดสรรวัสดุที่เน้นความเบาและแข็งแรง โครงรถยังทนแรงบิดได้ดีขึ้นอีก 40% ทำให้มันเป็นรถที่เข้าโค้งได้เร็วที่สุดคันหนึ่งในวงการรถสปอร์ตขนาดเบา สำหรับสปริงและโช๊คอัพก็ถูกทำขึ้นมาใหม่ทั้งหมด รวมถึงเหล็กกันโคลงที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ การปรับปรุงเปลี่ียนแปลงครั้งใหญ่เกิดจากโครงสร้างที่แข็งขึ้นมากนั่นเอง เป็นเรื่องแปลกที่มันมีขนาดของจานเบรกหน้า 330 มิลลิเมตรเท่ากันกับ 911 รุ่นมาตรฐาน และถึงแม้ในรุ่น Cayman S จะมีเรี่ยวแรงน้อยกว่า 991 อยู่ถึง 24 แรงม้า แต่อัตราเร่งกลับทำได้เหนือกว่าถึง 0.2-0.3 วินาที น้ำหนักตัว 1,320 กิโลกรัมกับพลัง 325 แรงม้า ทำให้มันเป็นรถที่มีอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักอยู่ในระดับแนวหน้าของวงการ เลยทีเดียว

เสร็จ สิ้นพิธีการเปิดตัว Porsch New Cayman S เข้าสู่สถานีทดสอบแรกสุดในภาคเช้ากับการทดสอบรถยนต์ Porsche ครบๆ ทั้ง 23 คัน โดยแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกที่ผมเข้าร่วมตามการจัดของเจ้าหน้าที่จาก AAS AUTO และ Porsche AG เป็นกลุ่มสีเหลือง ซึ่งต้องทำการขับทดสอบบนสนามพีระแบบเต็มรอบ ด้วยรถ Porsche 911 Carrera / 911 Carrera 4 / 911 Carrera S Cabriolet / Boxster / Boxster S รวมถึง New Cayman S ที่เพิ่งจะถูกเปิดผ้าคลุมไปเมื่อตอนเช้าก็ยังถูกนำลงทดสอบในสนามอีกด้วย สำหรับรถนำของครูฝึกในกลุ่มสีเหลืองนั้นเป็นรถ Porsche 911/997 Carrera GTS สีน้ำเงิน 402 แรงม้า ส่วนอีกกลุ่มต้องไปขับรถ Porsche ที่มีสัดส่วนใหญ่โตน้องๆ ยักษ์ เช่น Panamera และ Cayenne รถเหล่านี้จอดรอให้ขับกันครบทุกรุ่น เช่น Panamera 4 / Panamera Turbo / Panamera Turbo S สำหรับ SUV สุดหรูโมเดล Cayenne นั้นก็มาแบบจัดเต็มจากเยอรมนี เริ่มจาก Cayenne GTS / S-Hybrid / Diesel / Turbo / Turbo S ส่วนรถนำของครูฝึกในกลุ่มนี้เป็นรถ Panamera 4 กับพลัง 360 แรงม้าบนระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เช้าวันอังคารที่ 12 มีนาคม บริเวณสนามแข่งรถพีระเซอร์กิต ภาพของรถ Porsche ที่จอดเรียงรายกว่า 20 คัน บนแทร็คสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับพวกบ้ารถสปอร์ตแบบที่ไม่เคยพบเห็นจำนวน รถทดสอบพลังสูงที่มากมายแบบนี้มาก่อน

ผม กับคุณแมน ทัศไนย ไรวา บก.นิตยสารหัวนอก Car Thai Edition เหมือนเด็กที่หลุดเข้าไปในร้านขายของเล่นที่เจ๋งที่สุด รถที่เราทั้งคู่เล็งไว้ตั้งแต่แรกคือ 911/991 Carrera S Cabriolet สีแดงหลังคาผ้าใบสีดำ เครื่องยนต์ 3.8 ลิตร 6 สูบนอนแบบ Boxer ปั่นเรี่ยวแรงได้ถึง 400 แรงม้า และมีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรใน 4.3 วินาทีด้วยเกียร์คลัตช์คู่ PDK-7 สำหรับการทดสอบบนสนามพีระในช่วงเช้าจะสลับกันขับทีละคันคนละสองรอบสนาม เจ้า 911 Carrera S Cabriolet สีแดงแสบสันคันนี้มีฝีเท้าที่ใกล้เคียงกับ GT3 และมีปุ่มกดที่จะทำให้ท่อไอเสียระเบิดเสียงคำรามแบบรถซุปเปอร์คาร์เมื่อเปิด ใช้งาน หากรำคาญก็สามารถปิดได้โดยไม่ไปรบกวนโสตประสาทยามต้องการสมาธิในการขับขี่ หลังคาผ้าของ Carrera S Cabriolet มีมาให้ถึงสองชั้น เป็นหลังคาไฟฟ้าแบบใหม่ที่ทำงานได้เร็วเพียงแค่ 9 วินาทีในการกางออกหรืิอพับเก็บ มันสามารถทำงานได้ที่ความเร็วต่ำ (ไม่เกิน 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ภายในสีเหลืองอ่อนสะท้อนกับแสงแดดในช่วงสายจนรู้สึกแปลกๆ กับโทนสีในห้อง โดยสารของรถสปอร์ตเปิดประทุนคันนี้ สำหรับ 991 รุ่นล่าสุด ห้องโดยสารสามารถสร้างความรู้สึกกว้างและมั่นคง แรงบันดานใจในการออกแบบภายในของรถคันนี้เชื่อมโยงกับ Panamera และ Carrera GT แบบแยกกันไม่ออก แผงคอนโซลกลางนั้นยกระดับจากพื้นได้อย่างงดงาม แผงหน้าปัดทำให้เกิดแสงสะท้อนมากจนเกินควรในวันที่มีแดดจัด ส่วนตำแหน่งท่านั่งนั้นอยู่ในระดับที่ดีเยี่ยม พวงมาลัยและเบาะปรับได้ครอบคลุมไม่ว่าคุณจะตัวเตี้ยเหมือนคนแคระหรือสูงโย่ง เป็นเสาไฟฟ้า เบาะและพวงมาลัยจะปรับเข้าออก - สูงต่ำได้อย่างสะดวก

ระบบ PASM ช่วยปรับช่วงล่างให้ออกมาในแนวทางสปอร์ตสำหรับการขับใช้งานในสนามแข่งรถ มันส่งถ่ายความแน่นและมั่นคงของระบบบังคับเลี้ยวไฟฟ้าและระบบรองรับที่ปรับ ได้ถึง 3 ระดับ ความแม่นยำและการตอบสนองในการควบคุมทิศทางบนสนามพีระเซอร์กิตของ 911/991 Carrera S Cabriolet ทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม แม้ในยามกระแทกเบรกแรงๆ ก่อนที่จะเข้าสู้หัวโค้ง มันก็ยังนิ่งและแสดงออกถึงประสิทธิภาพความเป็นไดนามิกของตัวรถในระดับสูง กำลังที่มากถึง 400 แรงม้า ทำให้มันขับได้สนุกสุดๆโดยมีระบบรองรับที่จะทำให้คุณเป็นพระเอกในสนามแข่ง เมื่อมันสามารถมุดเข้าออกโค้งได้ด้วยความเร็วที่เกินบรรยายเพียงแค่ผมคอย ประคองคันเร่งและพวงมาลัยให้สัมพันธ์ไปกับความเร็วและสภาพของโค้งในพีระ สัมผัสที่ได้รับทั้งตอนเปิดและปิดหลังคาขับคือจิตวิญญาณของม้าป่าจาก สตุ๊ตการ์ทที่ไม่เคยจืดจาง มันเป็น 911 ที่พัฒนาจนเข้าถึงอารมณ์ของการขับขี่แบบสปอร์ตได้ดีอีกคันจนทำให้ลืม 997 รุ่นที่แล้วอย่างง่ายดายเลยทีเดียว

รถ ทดสอบของ Porsche คันต่อมาเป็น 911 Carrera 4 เครื่องยนต์ 6 สูบนอน 3.4 ลิตร 350 แรงม้า ระบบส่งกำลังของรถคันนี้ยังคงวางเกียร์ Porsche Doppelkupplungsgetriebe หรือ PDK- 7 พร้อมชุดขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาแบบ Active All Wheel Drive กับ Porsche Traction Management หรือ PTM มันสามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรได้ใน 4.7 วินาที ความเร็วตีนปลายมากถึง 283 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อผมลองขับเข้าโค้งด้วยความเร็วที่มากยิ่งขึ้น โดยเพิ่มลิมิตของการอัดเข้าสู้ทางโค้งมากกว่าตอนควบคุม Carrera S Cabriolet ระบบ PTM และน้ำหนักที่เบาขึ้นของ Carrera 4 ส่งผลให้มันมีการทรงตัวที่ดีมาก แม้กำลังของมันจะด้อยว่ารุ่น 911 Carrera S แต่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อได้เข้ามาช่วยให้การทำความเร็วในโค้งเป็นเรื่องที่ง่ายดายขึ้นมาก แรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลางหรือแรงจีที่มากขึ้นจากความเร็วที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยที่รถไม่ได้คลายแรงยึดเกาะลงเลยแม้แต่น้อย ทำให้ข้อมือกับเอวของผมเริ่มออกอาการเมื่อผ่านรอบที่ 2 สมองกลในระบบ PTM รวบรวมการขับขี่ที่สนุกสนานและจังหวะจะโคนของการเข้าออกโค้งโดยประเมินผล แล้วทำการเฉลี่ยแรงบิดของแต่ละล้อได้อย่างเหลือเชื่อ ระบบ PTM จะทำการกระจายแรงบิดของเครื่องยนต์เข้าสู่เพลาหน้าผ่านชุดคลัตช์ที่ทับซ้อน กันหลายแผ่นหรือ Multiplate Clutch ผู้ขับขี่ยังสามารถรับรู้ถึงการทำงานและการกระจายแรงบิดผ่านจอแสดงผลบนแผง หน้าปัด ระบบดังกล่าวยังรองรับต่อทุกสภาพผิวถนนได้ดีกว่าการตอบสนองของเครื่องยนต์ ที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงและยังรวดเร็วมากจนทำให้ไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง ขณะที่มันกำลังทำงาน ในทางปฏิบัตินั้น หมายถึงระบบ PTM จะคอยช่วยเหลือให้รถทรงตัวบนทางตรงเมื่อต้องวิ่งบนระยะทางไกลๆ และเกาะถนนได้ ดีเมื่อพบกับสภาพอากาศที่เลวร้ายบนหิมะหรือน้ำฝนบนผิวทาง บนพีระเซอร์กิต รถ 911 Carrera 4 สีน้ำตาลสามารถไล่ตามรถที่มีเครื่องยนต์แรงกว่าอย่าง 911 Carrera S ได้อย่างสบาย สมกับคำร่ำลือว่า 911 Carrera 4 และ Carrera 4 S คือสปอร์ตคาร์ขับเคลื่อน 4 ล้อที่ดีที่สุดของเยอรมนี เทียบชั้น Audi R8 V10 ด้านการให้สัมผัสบนทางโค้งได้อย่างน่าตกตะลึง

ลง จาก 911 Carrera 4 สีน้ำตาลด้วยร่างกายที่เริ่มออกอาการอ่อนล้าจากสภาพอากาศในสนามพีระที่ยิ่ง ใกล้เที่ยงแดดก็ยิ่งแรงขึ้นทุกขณะ อุณหภูมิ 37 องศา กับการขืนตัวสู้กับแรงเหวี่ยงบนทางโค้งของสนามพีระส่งผลให้ผมและคุณทัศนัย ไรวาเริ่มเหนื่อยล้าหลังจากผ่านการทดสอบไปเพียงแค่ 8 รอบสนามกับรถทดสอบ 911 ทั้งสองรุ่น ผมและคุณแมน เดินไปขึ้นรถสปอร์ตคันเล็กกะทัดรัดที่เพิ่งจะถูกเปิดผ้าคลุมไปเมื่อเช้า นี่คือ New Cayman S สปอร์ตคาร์แนวคูเป้เครื่องวางกลางรุ่นล่าสุดที่สื่อต่างประเทศบางสำนักยัง ไม่ได้ทดสอบอะไรกับตัวรถแม้แต่น้อย คุณแมน ทัศไนย ไรวา ซึ่งเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์เพิ่งจะไปควบเจ้า New Cayman มาสดๆ ร้อนๆ ที่โปรตุเกสรับหน้าที่ขับเป็นคนแรกโดยขับตามหลังเจ้า 911 Carrera 4 อย่าดูถูกรถคันเล็กรุ่นนี้อย่างเด็ดขาด เพราะถึงแม้จะมีขนาดที่เล็กที่สุดในค่าย (New Cayman S มีขนาดเท่าๆ กันกับ New Boxster) แต่การเร่งความเร็วและการยึดเกาะนั้นไม่เป็นรองรถอย่าง 911 ซึ่งบางจังหวะดูจะเหนือกว่านิดๆ ด้วยซ้ำ ผลจากการวางเครื่องไว้ที่กลางลำตัวแบบรถแข่งสมรรถนะสูง คล้ายกับการวางเครื่องยนต์ของซุปเปอร์คาร์ระดับโลก มันจะส่งมอบความมั่นใจในการอัดเข้าโค้ง การเบรกและการเร่งความเร็วออกจากปลายโค้งได้ยอดเยี่ยมไร้ที่ีติ เมื่ออยากจะลองทดสอบการยึดเกาะของช่วงล่างเจ้า New Cayman S ผมผ่อนคันเร่งลงเล็กน้อยเพื่อทิ้งระยะการไล่ตามรถคันข้างหน้า เมื่อดึงให้ระยะห่างให้อยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัยแล้วก็กดสวนตรงทางโค้งรูปตัว เอสแล้วเลี้ยงคันเร่งหักพวงมาลัยเข้าออกโค้ง พวงมาลัยไฟฟ้าแบบใหม่ของ New Cayman แม้จะด้อยกว่าระบบไฮดรอลิกแบบเก่ากลับช่วยแก้อาการขืนเมื่อความเร็วเกิน ขอบเขตที่กำหนดในโค้ง การทำงานของเกียร์ PDK เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบการขับแบบลากรอบ ถอนคันเร่งนิดเดียวเกียร์จะเปลี่ยนลงต่ำให้เมื่ออยู่ในโหมดสปอร์ต มันช่วยให้คุณเข้าโค้งได้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้นทั้งระบบช่วยทรงตัว ระบบรองรับ Porsche Torque Vectoring หรือ PTV ชุดส่งกำลังทวินคลัตช์ PDK และเครื่องยนต์ 6 สูบหายใจเองกับแรงบิด 370 นิวตันเมตร ซึ่งทำงานประสานเป็นหนึ่งเดียว บนออปชั่น Sport Chrono Package เครื่องยนต์จะตอบสนองได้ดีขึ้น ระบบจะรวม Dynamic Gearbox Mounts ทำให้การซิ่งมันไปบนสนามแข่งมีความคล่องตัวมากกว่า 911/991 แบบเห็นๆ เมื่อม้า 325 ตัวแบกรับภารกรรมซึ่งเป็นน้ำหนักรถทั้งคันแค่ 1.3 ตันเท่านั้น

Create Date : 21 มีนาคม 2556

Last Update : 21 มีนาคม 2556 13:12:14 น.

0 comments

Counter : 1639 Pageviews.