พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2556
 
24 สิงหาคม 2556
 
All Blogs
 
ทดสอบ CHEVROLET CAPTIVA LTZ E85 (Part1)

ทดสอบ CHEVROLET CAPTIVA LTZ E85 (Part1)

หลักแนวคิดในการออกแบบยานยนต์ Crossover รุ่นใหม่ของ Chevrolet ในโมเดล Captiva ถูกพัฒนาให้มีรูปลักษณ์และประสิทธิภาพที่เฉียบคมขึ้นจากการออกแบบระบบจุด ระเบิด ท่อทางเดินของเชื้อเพลิงและระบบจ่ายเชื้อเพลิงเพื่อรองรับเชื้อเพลิงทาง เลือกแบบเอทานอล 85% ถึงแม้จะมีเชื้อสายอเมริกันอย่างเต็มตัวแต่รถ Chevrolet รุ่นล่าสุดทุกโมเดลทั้งเก๋งและรถแนวลุยแบบครอสโอเวอร์หันมาใช้แนวทางในการ ใช้เชื้อเพลิงที่มีราคาถูก ทำให้ได้รูปแบบของรถ Chevrolet ในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากยอดขายที่สูงขึ้นทุกปีโดยเฉพาะในประเทศไทย เมื่อมาถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพตัวรถรุ่น Captiva ภาพลักษณ์ที่ถูกนำเสนอเป็นอันดับแรกคือความแข็งแกร่งของรูปทรงซึ่งต้องการสื่อให้เห็นถึงความตั้งใจในการทำงาน โครงสร้างที่แข็งแกร่งแบบอเมริกันและการรองรับเชื้อเพลิงเอทานอลเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสำหรับการเคลื่อนที่เดินทางของมนุษย์

New Captiva เครื่องยนต์เบนซิน E85 คันทดสอบเป็นรุ่นสูงสุด LTZ ใช้หลักการออกแบบตัวถังโดยเชื่อมโยงรูปลักษณ์ภายนอกให้มีความอเนกประสงค์ เน้นการใช้งานของครอบครัวซึ่งมีตำแหน่งที่นั่งโดยสารจำนวน 6 ที่นั่ง เพิ่มเส้นสายของภายนอกที่สื่อให้เห็นถึงความแข็งแรงบึกบึน พลังของเครื่องยนต์แบบ FlexFuel E85 ที่สอดประสานไปบนงานวิศวกรรมโครงสร้างของแชสซีส์แบบใหม่ โดยภาพรวมแล้วมันดูคล้ายกับรถ SUV จากเยอรมันมากกว่าจะเป็นรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อของพวกอเมริกัน กระจังหน้ารูปแบบใหม่แนว Dual Port ขนาดใหญ่พร้อมด้วยกรอบโครเมี่ยมเพื่อเน้นความสวยงาม คาดกลางด้วยตราสัญลักษณ์โลโก้โบไทสีทองซึ่งถูกใช้เป็นรูปแบบใหม่ของรถยนต์ ภายในร่มเงา GM-Chevriolet รูปทรงด้านหน้าที่มีความคล้ายคลึงกันในผลิตภัณฑ์รุ่นล่าสุดทุกโมเดล สปอยเลอร์หน้าชิ้นเดียว มีกรอบไฟตัดหมอกทรงกลมกับตะแกรงพลาสติกลายรังผึ้งที่ออกแบบได้อย่างลงตัว ชายล่างของสปอยเลอร์หน้ามีงานพลาสติกกันกระแทกสีเงินเพื่อความสวยงามลงตัว

กรอบไฟหน้าใช้โพลิเมอร์พลาสติกใสทรงสี่เหลี่ยมยาวรี ภายในบรรจุไฟหน้าแบบโปรเจกเตอร์พร้อมจานสะท้อนแสง ไฟเลี้ยวและไฟหรี่อยู่ในกรอบเดียวกันทั้งหมด ระบบไฟหน้าของ New Captiva LTZ E85 ชุดไฟหน้าทำงานด้วยระบบอัตโนมัติติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจจับระดับของความสว่าง ภายนอก หากระบบพบว่าแสงไม่เพียงพอจะสั่งให้ไฟหน้าติดขึ้นทันที ไฟหน้าของ Captiva ปรับระดับความสูง-ต่ำได้ 4 ระดับ ระบบ Automatic Parking Lamp ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าของรถยามจอดรถในที่มืด โดยชุดเซ็นเซอร์จะทำการเปิดไฟหน้าค้างไว้หลังจากเจ้าของลงจากรถไปแล้ว 30 วินาที กระจกบานหน้าขนาดใหญ่มีมุมลาดเอียงที่ลงตัวกับแนวด้านข้างของตัวถัง ฝากระโปรงหน้ายกสันนูนเพื่อเพิ่มมิติของแสงและเงา ด้านหน้าของ New Captiva ใช้การออกแบบที่ต้องการสื่อให้เห็นถึงแนวทางในการนำเอากระจังหน้าแบบใหม่มา ปรับใช้ให้มีความกลมกลืนกับตราสัญลักษณ์บนกระจังและชิ้นงานสปอยเลอร์ด้านหน้า

แก้มข้างทั้งสองด้าน มีชิ้นงานพลาสติกทำเป็นโป่งซุ้มล้อเพื่อขยายแนวของซุ้มล้อให้ดูใหญ่และมีความสวยงามลงตัว การออกแบบในลักษณะดังกล่าว ทำออกมาเพื่อให้เข้ากับความใหญ่โตของล้ออัลลอยลายห้าก้านขอบ 19 นิ้ว กระจกมองข้างปรับไฟฟ้ามีเลนส์ไฟเลี้ยวอยู่ภายใน งานออกแบบตัวรถด้านข้างของ New Captiva LTZ E85 มีแนวรางของแร็คหลังคาซึ่งใช้พลาสติกสีเงินที่มีความแข็งแรง ประตูบานโตทั้งสี่เหมาะกับรูปแบบของตัวรถ ซุ้มโป่งล้อหลังและแนวของกาบบันไดสื่อให้เห็นถึงรถลุยสไตล์อเมริกันมีความ สอดคล้องกับรูปแบบโดยรวมกับความอเนกประสงค์ของตัวรถได้เป็นอย่างดี New Captiva รุ่น LTZ เครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร ซึ่งเป็นรุ่นสูงสุดใส่ล้ออัลลอยลาย 5 ก้านขนาด 19 นิ้ว ห่อรัดเอาไว้ด้วยยางรุ่น Optimo K145 ขนาด 235/50/R19 ของบริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์จากเกาหลียี่ห้อ Kumho เมื่อสังเกตดูให้ดีจะเห็นว่าฝากระโปรงหน้ากับกันชนหน้ามีแนวสันที่ผสมผสานไป กับแนวด้านข้างของตัวรถไปจนถึงเสาหน้า และเมื่อมองจากด้านข้างจะเห็นว่าฝากระโปรงหน้าถูกยกนูนขึ้นเล็กน้อย เกิดจากความจงใจในขั้นตอนของการออกแบบยานยนต์ยุคใหม่แทบจะทุกค่ายในปัจจุบัน ที่มักนิยมใช้การออกแบบโดยยกสันนูนของแนวด้านข้างฝากระโปรงหน้าเพื่อความสวยงาม

บั้นท้ายคือสัดส่วนที่กลมกลืนของ Captiva มันถูกปรับเปลี่ยนสีของเลนส์ไฟท้าย จากที่เคยเป็นสีขาวมาเป็นสีแดง แต่ยังคงใช้หลอดไฟท้ายแบบธรรมดาแทนที่จะเป็นหลอด LED ตามแบบรถยนต์ยุคใหม่ทั่วไป ฝาท้ายบานใหญ่เปิดออกได้ด้วยการยกบานฝาท้ายขึ้นในมุมสูงสุด ภายในมีการติดตั้งมือจับเพื่อความสะดวกเวลาใช้งาน ฝาท้ายคาดกลางด้วยงานพลาสติกโครเมี่ยมใจกลางมีตราสัญลักษณ์โบไท กระจกบานหลังฝาท้ายใช้มุมที่เกือบจะตั้งฉากซึ่งมีความลงตัวไปกับแนวของเสา ท้าย กระจกบังลมบานฝาท้ายมีใบปัดน้ำฝนติดตั้งมาให้ มุมบนมีไฟเบรกดวงที่สามซึ่งใช้หลอดไฟเบรกแบบ LED จำนวน 5 หลอดอยู่ในชิ้นกรอบเลนส์พลาสติกสีแดง มุมด้านบนของตำแหน่งติดตั้งแผ่นป้ายทะเบียนซ่อนที่เปิดฝาท้าย ส่วนสปอยเลอร์หลังติดตั้งโลหะสีเงินซึ่งเป็นแผ่นกันกระแทกเมื่อต้องยกกระเป๋าหรือสิ่งของเข้า-ออกจากบริเวณฝาท้าย ขอบด้านข้างทั้งสองของสปอยเลอร์หลัง มีกรอบไฟสะท้อนแสงสีแดง ชายล่างของสปอยเลอร์หลังตรงกลางเป็นชิ้นพลาสติกกันกระแทกสีเงิน โดยถูกออกแบบให้เข้ากับชิ้นพลาสติกกันกระแทกที่ด้านหน้า ท่อระบายไอเสียทรงกลมสองตำแหน่งในมุมซ้าย-ขวา ภายในชุดสปอยเลอร์หลังยังติดตั้งเซ็นเซอร์ถอยหลังที่จะส่งสัญญาณเสียงเตือน เมื่อผู้ขับถอยรถเข้าใกล้วัตถุที่กีดขวาง

ภายในห้องโดยสารแบบใหม่ของ New Captiva ผสมผสานความอเนกประสงค์ของการใช้งานใน Cockpit ให้เข้ากับความหรูหราของวัสดุและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก แผงคอนโซนแนวตรงเน้นสันเหลี่ยมตรงคอนโซลกลางเพื่อวางตำแหน่งจอแสดงผล ใช้พลาสติกสีเงินตัดกับสีเทา-ดำแบบทูโทนของหนังที่ใช้หุ้มภายใน ตำแหน่งของเบาะคนขับปรับทิศทางท่านั่งด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงแค่ตำแหน่งเดียว ส่วนเบาะผู้โดยสารตอนหน้าใช้การปรับด้วยมือแบบแมนนวล จอแสดง ผลขนาด 7 นิ้ว รวบรวมฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายเอาไว้ภายในพร้อมด้วยเมนูภาษาไทยเพื่อ เอื้ออำนวยความสะดวกในการเข้า-ออกจากโปรแกรมการสั่งงาน ซึ่งมีทั้งระบบแสดงข้อมูลของการเดินทางด้วย GPS ระบบบันทึกและเรียกดูสถานที่ต่างๆ ตามเส้นทางที่จะผ่านระบบโทรศัพท์ไร้สายแบบ Bluetooth เครื่องเล่น DVD/CD/MP3 วิทยุ AM/FM พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB แจ้งเตือนอุณหภูมิภายนอก+ภายในพร้อมตำแหน่งทิศทางของตัวรถและระดับความสูง จากน้ำทะเล ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล ระบบ Driving Mode แสดงข้อมูลการขับขี่แบบดิจิตอล ความเร็วเฉลี่ย อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่อระยะทางและน้ำมันที่เหลืออยู่ในถัง รวมถึงเข็มทิศแบบดิจิตอล

ชุดเครื่องเสียง หรือระบบให้ความบันเทิงเริงรมย์ใน Captiva พัฒนาและออกแบบมาเพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับการใช้งาน มีชื่อเรียกว่า 3 Dimensional Sound Staging ให้รูปแบบสามมิติ เครื่องเสียงและจอมอนิเตอร์ผลิตในประเทศฝรั่งเศสและใช้ระบบประมวลผล Microprocessor ซึ่งทางวิศวกรของ Chevrolet คุยว่าเป็นชุดเครื่องเสียงติดรถยนต์ที่ดีที่สุดคันหนึ่งในยุคปัจจุบัน ระบบเสียงใน New Captiva ทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 E85 และดีเซลเน้นความละเอียด คมชัดสมจริงในทุกมิติ ซึ่งปรับ Sound Staging ให้อยู่ในระดับหูของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร จัดทิศทางของเสียงที่ออกจากลำโพงทั้ง 8 ตัวให้อยู่ในบริเวณด้านหน้าของ Cockpit พวงมาลัยแบบสี่ก้านหุ้มหนังสีดำปรับทิศทางขึ้น-ลงได้แต่ปรับระยะใกล้-ไกลไม่ได้ พวงมาลัยติดตั้งสวิตช์ปรับแต่งอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ควบคุมการทำงานของเครื่องเสียง ตั้งค่าครูสคอนโทรล สวิตช์ควบคุมโทรศัพท์ไร้สายแบบ Bluetooth สวิตช์ควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศฯ ส่วนคอนโซลกลางซึ่งเป็นที่อยู่ของจอแสดงผลมีชุดนาฬิกาดิจิตอลอยู่ด้านล่าง พร้อมด้วยปุ่มไฟขอทาง ปุ่ม On-Off ระบบควบคุมการทรงตัว สวิตช์ควบคุมการทำงานของระบบ HDC-Hill Descent Control หรือระบบป้องกันและควบคุมความเร็วขณะขับลงทางลาดชัน (เป็นระบบที่จะสั่งการให้เครื่องยนต์และเบรกทำงานสัมพันธ์กันโดยอัตโนมัติ เพื่อจำกัดความเร็วของรถในขณะที่ขับขี่ลงจากทางลาดชัน)

เบาะผู้โดยสารตอนหลังสามารถพับเก็บในแนวราบเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการขนสัมภาระ ส่วนเบาะทั้งตำแหน่งผู้โดยสารตอนหน้า และผู้โดยสารด้านหลังมีเข็มขัดนิรภัย ติดตั้งมาให้ครบ ส่วนเบาะผู้โดยสารบริเวณตอนหลังสุดที่สามารถพับได้ยังมีช่องแอร์พร้อมสวิตช์ ควบคุมปรับตั้งความเร็วของพัดลมแอร์มาให้อีกด้วย ทำให้การใช้งานมีความสะดวกสบาย และเหมาะสมมากกับอุณหภูมิในประเทศไทยซึ่งเป็น เมืองร้อน เบาะที่นั่งในทุกตำแหน่งหุ้มหนังแท้และตัดเย็บอย่างประณีตโดยใช้โทนสีอ่อน เพื่อลดอุณหภูมิเมื่อจอดรถตากแดด ด้านหลังของชุดเบาะคู่หน้ายังมีตาข่ายใส่ของกระจุกกระจิก ช่องวางแก้วน้ำที่แผงประตู รวมถึงกล่องเก็บเครื่องมือ ฝาท้ายมีมือจับให้ใช้งานยามเปิด-ปิด พร้อมโช้คค้ำยันฝาท้ายที่เปิดออกได้โดยไม่ต้องออกแรงมากนัก

ระบบความปลอดภัยถุงลมนิรภัยรอบคัน Curtain Airbag โครงสร้างตัวถังแบบโมโนค็อก เสริมความแข็งตั้งแต่พื้นถึงห้องโดยสาร ลดปัญหาการเสียรูปทรงเมื่อเกิดการชนหรือพลิกคว่ำ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ม่านถุงลมนิรภัยบริเวณด้านข้างเพื่อป้องกันศีรษะของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร หากเกิดอุบัติเหตุ ระบบดิสเบรกแบบ 4 ล้อ มีครีบระบายความร้อนที่เบรกคู่หน้า พร้อมด้วยระบบป้องกันล้อล็อกหรือ ABS ระบบเสริมแรงเบรกไฮดรอลิก HBA ระบบกระจายแรงเบรกแบบอัตโนมัติ EBD ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control ระบบควบคุมเสถียรภาพของการทรงตัว ESP ชุดเบรกมือไฟฟ้าและระบบป้องกันการพลิกคว่ำ ARPbreak เสริมคานเหล็กนิรภัยด้านข้างป้องกันการชนกระแทกในทิศทางของบานประตู ทั้ง 4 บานหรือ Side Door Impact Beam เข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ Hi-power pretensioner safety Belt

ระบบควบคุมการทรงตัวในรถ New Captiva ประกอบไปด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ AWD หรือ Active On Demand 4WD ควบคุมและสั่งการด้วยระบบไฟฟ้า ในสภาวะปกติระบบส่งกำลังที่ทำงานเชื่อมต่อกับชุดสมองกล Active On Demand 4WD จะถ่ายเทแรงบิดไปยังล้อคู่หน้าเพื่อลดการใช้เชื้อเพลิงโดยไม่จำเป็น ต่อเมื่อสภาพถนนแปรเปลี่ยนไปเช่นอยู่ในเส้นทางที่ขรุขระ ลื่นไถลหรือเป็นหล่มโคลน ตัวจับสัญญาณจะสั่งให้ชุดเฟืองท้ายแบบแม่เหล็กไฟฟ้า Active Coupling ทำการถ่ายเทแรงบิดไปยังล้อคู่หลังแบบอัตโนมัติในอัตราส่วน 50:50/60:70/70:30 ตามความเหมาะสมของสภาพถนนจากการคำนวณของกล่องควบคุม เฟืองท้ายลักษณะดังกล่าว ทำงานร่วมกับชุดเสริมแรงบิด Active Torque On Demand ซึ่งจะเข้ามาช่วยเสริมกำลังให้กับระบบขับเคลื่อนทั้งหมด โดยจะทำการกระจายแรงบิดที่เหมาะสมและสมดุลไปยังล้อทั้ง 4 ผ่านเพลาขับ ช่วยทำให้การควบคุมตัวรถมีการยึดเกาะกับเส้นทางแบบออฟโรดได้ดียิ่งขึ้น

Chevrolet New Captiva คันทดสอบเป็นรุ่นสูงของเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร E85 วางเครื่องยนต์เบนซินแบบแถวเรียง 4 กระบอกสูบ 16 วาล์ว ติดตั้งระบบเชื้อเพลิงแบบใหม่เพื่อเพิ่มเติมสมรรถนะในการรองรับเชื้อเพลิงเอทานอล เครื่องยนต์เบนซินตัวนี้ถูกพัฒนามาเพื่อให้กำลังตั้งแต่รอบเครื่องยนต์ต่ำไป จนถึงรอบกลางๆ มีปริมาตรความจุที่ 2,384 ซีซี จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดแรงดันสูงแบบมัลติพอยต์ ให้กำลังสูงสุด 168 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 229 นิวตันเมตร หรือ 23.5 กิโลกรัมเมตร ที่ 1,750 – 2,750 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบปรับเปลี่ยนเกียร์ DSC (Driver Shift Control) ชุดส่งกำลังของ New Captiva ใช้เกียร์อัตโนมัติแบบเฟืองที่มีโหมดการทำงานร่วมกันกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อหรือ 2 ล้อหน้า ใช้คันเกียร์แบบ Driver Shift Control (DSC) โดยเพิ่มความสะดวกให้ผู้ขับขี่ที่สามารถเข้าเกียร์เองหรือจะให้สมองกลเกียร์ ทำงานปรับเปลี่ยนอัตราทดไปตามระดับความเร็วรถ ความเร็วรอบและแรงบิดของเครื่องยนต์ในอัตราส่วนที่เหมาะสมสำหรับการเปลี่ยน เกียร์ทุกครั้ง ส่วนระบบขับเคลื่อนสองรูปแบบ ทั้งการขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หน้าหรือขับเคลื่อน 4 ล้อด้วยระบบ AWD -All Wheel Drive ระบบรองรับ ด้านหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สันสตรัท สปริง โช้คอัพแก๊สและเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบอิสระ 4 จุดยึดมัลติลิงก์ พร้อมระบบ Self Levelizer หนึ่งในเทคโนโลยี Self Balancing Integration ช่วงล่างหลังยกตัวอัตโนมัติเมื่อทำการบรรทุกสิ่งของ โช้คอัพด้านหลังจะช่วยปรับระดับโดยการยกตัวให้สูงขึ้น เพื่อรักษาสมดุลที่ดีระหว่างล้อหน้าและหลัง ป้องกันอาการท้ายห้อยเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพด้านการทรงตัว ชุดเบรกของ New Captiva ใช้ดิสเบรกทั้ง 4 ล้อพร้อมระบบป้องกันล้อล็อก ABS

ราคา Chevrolet Captiva 2013
Chevrolet Captiva 2.0L DSL AT LSX 1,410,000 บาท
Chevrolet Captiva 2.0L DSL AT LT 1,635,000 บาท
Chevrolet Captiva 2.0L DSL AT LTZ 1,699,000 บาท
Chevrolet Captiva 2.4L AT Gas LS 1,198,000 บาท
Chevrolet Captiva 2.4L AT Gas LSX 1,282,000 บาท
Chevrolet Captiva 2.4L AT LT 1,507,000 บาท
Chevrolet Captiva 2.4L AT Gas LTZ 1,580,000 บาท (คันทดสอบ)

Chevrolet New Captiva2.4L Gas LTZ E85 Specifications
แบบ...........................................อเนกประสงค์ (SUV) 5 ประตู 6 ที่นั่ง
ผู้ผลิต.........................................Chevrolet
เครื่องยนต์.................................เบนซิน FlexFuel E85 แบบแถวเรียง 4 กระบอกสูบ DOHC
ปริมาตรความจุ............................2,384 ซีซี
กระบอกสูบxช่วงชัก......................86.0 มิลลิเมตร x 98.0 มิลลิเมตร
อัตราส่วนกำลังอัด.......................10.4:1
แรงม้าสูงสุด...............................168 แรงม้าที่ 3,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด...............................229 นิวตันเมตรที่ 5,500 รอบต่อนาที
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง......................หัวฉีดแรงดันสูงแบบมัลติพอยต์
เชื้อเพลิง......................................เอทานอล E20-E85

ระบบรองรับ
ด้านหน้า.....................................อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท สปริง โช้คอัพแก๊สและเหล็กกันโคลง
ด้านหลัง.....................................อิสระ 4 จุดยึดมัลติลิงก์ พร้อมระบบ Self Levelizer

ระบบ เบรก.................................ดิสเบรกทั้ง 4 ล้อ มีครีบระบายความร้อนที่เบรกคู่หน้า พร้อมด้วยระบบป้องกันล้อล็อกหรือ ABS ระบบเสริมแรงเบรกไฮดรอลิก HBA ระบบกระจายแรงเบรกแบบอัตโนมัติ EBD

ล้อและยาง..................................อัลลอยลาย 5 ก้านขนาด 19 นิ้ว ยาง Kumho Optimo K145 ขนาด 235/50/R19 ทั้ง 4 ล้อ

มิติตัวถัง
ความกว้าง...................................1,850 มิลลิเมตร
ความยาว.....................................4,673 มิลลิเมตร
ความสูง.......................................1,756 มิลลิเมตร
ความจุถังเชื้อเพลิง.........................65 ลิตร
น้ำหนัก........................................1,764 กิโลกรัม




Create Date : 24 สิงหาคม 2556
Last Update : 24 สิงหาคม 2556 9:06:55 น. 0 comments
Counter : 1858 Pageviews.

amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]








Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.