ในการตรวจรถยนต์ประจำวัน หมายถึงผู้ขับขี่ควรใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 นาทีในแต่ละวัน ตรวจจุดต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง กับการทำงานของรถ เวลา 2-3 นาทีนี้จะเป็นหลักประกันให้ทั้งท่าน และผู้ร่วมเดินทางกับท่านได้มั่นใจ ว่าระบบต่างๆ ของรถจะสามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี ก่อนการเริ่มปฏิบัติงานในแต่ละวัน ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบ และทำได้ด้วยตนเอง หรือสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อีกด้วย ถ้าท่านไม่ทราบ ให้ศึกษาได้จากคู่มือประจำรถของท่าน
- ตรวจระดับน้ำมันเครื่องและรอยรั่ว
- ตรวจระดับน้ำในหม้อน้ำ, ถังพักน้ำสำรอง, ถังน้ำล้างกระจก
- ตรวจระดับน้ำกรดในแบตเตอรรี่, และระบบไฟฟ้า
- ตรวจระดับน้ำมันเบรก, น้ำมันคลัตช์และเบรกมือ
- ตรวจระดับน้ำมันเชื้อเพลิงในถังจากมาตรวัด
- ตรวจความดันลมยาง, สภาพดอกยางรวมทั้งยางอะไหล่ด้วย
- ตรวจเสียงดังของเครื่องยนต์ และบริเวณตัวถังรถยนต์
ในส่วนของการบริการตรวจซ่อมประจำนั้น โดยเฉลี่ยสำหรับการนำรถเข้ารับการบริการส่วนต่างๆ ของรถยนต์ มีดังนี้
น้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ และกรองน้ำมันหล่อลื่น
ควรทำทุกๆ 3 เดือนหรือทุกๆ 5,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างไหนจะถึงก่อน)
เปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่น
เปลี่ยนกรองน้ำมันหล่อลื่น
ตรวจสอบและเติมลมยางรถยนต์
ตรวจสอบเชิงป้องกัน
ตรวจสอบระดับของเหลวต่างๆ ทั้งหมด
ควรหล่อลื่นโครงฐานทุกๆ 6 เดือนหรือทุกๆ 10,000 กิโลเมตร และบ่อยมากขึ้นในฤดูฝน เพราะน้ำจะชะล้างสารหล่อลื่น ออกไป
การบริการเบรก
ควรทำทุกๆ 6 เดือนหรือทุกๆ 10,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างไหนจะถึงก่อน)
ถอดล้อทั้ง 4 ล้อออก แล้วตรวจสอบผ้าเบรกและแผ่นเบรก
ตรวจสอบแม่ปั๊มและหม้อลมเบรก
หล่อลื่นและปรับแต่งกลไกเบรก
ตรวจสอบเบรกมือและเคเบิล
ตรวจสอบน้ำมันเบรกและเติมน้ำมันเบรก
ความต้องการในการบริการเบรกนั้นขึ้นอยู่กับรูปแบบของการขับ ขี่ของคุณ ในบริเวณที่การจราจรติดขัดคุณมักจะใช้เบรก บ่อยมาก เบรกจะทำงานหนักกว่าการขับขี่บนทางด่วน หรือ บนทางหลวงถ้าเบรกตอบสนองช้ากว่าปกติควรนำรถยนต์เข้า ตรวจสอบโดยทันที ควรตรวจสอบแผ่นเบรกด้วย ทุกครั้งเมื่อตรวจสอบแบริ่งของล้อคือทุกๆ 6 เดือน หรือทุกๆ 10,000 กิโลเมตร ถ้าเปลี่ยนแผ่นเบรกก่อนที่มันจะสึก หรอมากจะช่วยยืดอายุของโรเตอร์ และส่วนอื่นๆ ด้วย
การบริการระบบหล่อเย็น
ควรทำทุกๆ 12 เดือนหรือทุกๆ 20,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างไหนจะถึงก่อน)
ล้างระบบหล่อเย็น
ตรวจสอบระบบหล่อเย็นทั้งหมด
เติมน้ำและน้ำยาผสมใหม่หมด
ตรวจสอบเบรกมือและเคเบิล
ตรวจสอบสายพานขับ
ใช้ความดันตรวจสอบรอยรั่วของระบบและขันข้อต่อท่อต่างๆ ให้แน่น
ปัญหาของระบบหล่อเย็นเป็นส่วนสำคัญอันดับแรกของปัญหาทางกลของ เครื่องยนต์ ควรเติมน้ำและน้ำยารักษาหม้อน้ำใน สัดส่วนที่เหมาะสม ตรวจสอบภายนอกของหม้อน้ำไม่ให้มีสิ่งสกปรกอุดตันบริเวณรังผึ้ง ควรทำความสะอาดเป็นประจำ
การบริการระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง
รักษาประสิทธิภาพเครื่องยนต์ให้สูงอยู่เสมอ
ลดปริมาณก๊าซพิษในไอเสียให้น้อยที่สุด
การบริการห้องเกียร์อัตโนมัติ
ควรทำทุกๆ 12 เดือนหรือทุกๆ 20,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างไหนจะถึงก่อน)
ถอดอ่างน้ำมันออกและทำความสะอาด
เปลี่ยนกรองน้ำมัน
ตรวจสอบและปรับกลไกใหม่
ติดตั้งปะเก็นใหม่
เติมน้ำมันเกียร์ใหม่
ทดสอบการขับขี่บนถนน
ประมาณ 90% ของปัญหาของห้องเกียร์อัตโนมัติสามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยการบำรุงรักษาเชิง ป้องกัน ถ้าน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ มีสีน้ำตาลต้องเปลี่ยนใหม่ ถ้ามีสีแดงยังใช้งานได้ต่อไป
การปรับแต่งเครื่องยนต์
เปลี่ยนหัวเทียนใหม่
ปรับไทมิ่งและรอบเดินเบา
ตรวจสอบเครื่องยนต์ด้วยเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์
ตรวจสอบท่อน้ำมันเชื้อเพลิง
ตรวจสอบกรองอากาศ
ตรวจสอบแบตเตอรรี่
ตรวจสอบชุดควบคุมไอเสีย
ตรวจสอบฝาครอบจานจ่ายและโรเตอร์
ช่วงจังหวะเวลาของการปรับแต่งเครื่องยนต์ให้ตรวจสอบจาก หนังสือคู่มือรถยนต์ของท่าน ถ้าสมรรถนะของเครื่องยนต์ ต่ำกว่าเดิม เช่นตอบสนองช้าต่อการเร่ง ควรนำรถยนต์เข้าปรับแต่ง
การสลับยาง
ควรทำทุกๆ 10,000 กิโลเมตร ควรสลับยางล้อต่างๆ คุณสามารถยืดอายุของยางได้มากถึง 20% ถ้าคุณสลับยางได้ ตามกำหนดเวลา ตรวจสอบความดันของลมยางทุกล้อ ถ้าความดันลมของยาง ต่ำเกินไปจะทำให้อายุของยางลดลงถึง 25% และมีผลทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้นด้วย ตรวจสอบศูนย์ล้อของรถยนต์ ถ้ายางสึกหรอมากอย่างผิดปกติ