พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
กันยายน 2556
 
7 กันยายน 2556
 
All Blogs
 

Mercedes Benz Thailand เปิดตัว The new S-Class Vision accomplished

Mercedes Benz Thailand เปิดตัว The new S-Class Vision accomplished

ค่ายตราดาว Mercedes Benz Thailand กระชากผ้าคลุมยนตรกรรมสุดหรู The new S-Class Vision accomplished อลังการงานสร้าง ซาลูนระดับสูงของผู้บริหาร ที่เทียบชั้นเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดของระบบขับเคลื่อน ล้ำอนาคตด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกขั้นสูงสุด...

บริษัท Mercedes Benz Thailand เปิดตัวสุดยอดยนตรกรรมหรูระดับโลก ในตระกูล "S-Class" ใหม่ล่าสุด ด้วยรุ่น S 400 HYBRID AMG Premium รหัสตัวถัง V 222 ด้วยความเลิศหรู อลังการ มาพร้อมกับภาพลักษณ์ใหม่ของการออกแบบ บ่งบอกถึงความเป็นผู้นำแห่งยนตรกรรมหรูหราระดับพรีเมี่ยม


"The new S-Class" ยานยนต์ที่ได้รับการรังสรรค์ใหม่ ภายใต้แนวคิด Vision accomplished ด้วยความเป็นเลิศแห่งวิศวกรรมยานยนต์สำคัญ 3 ประการ ได้แก่ ระบบการขับขี่แบบอัจฉริยะ (Intelligent Drive) เทคโนโลยีประหยัดพลังงานใหม่ล่าสุด (Efficient Technology) และความหรูหรา สง่างาม ในทุกองค์ประกอบ (Essence of Luxury) โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์ใหม่หมดที่คงความหรูหรา น่าหลงใหล ล่าสุด ได้รับรางวัลด้านดีไซน์ระดับโลก จาก Red Dot Award 2013 และ Automotive Brand Contest 2013

นอกจากนั้น ยังเต็มไปด้วยสมรรถนะอันทรงพลัง โดยมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินไฮบริด แบบ V6 พร้อมระบบช่วยเหลือด้านความปลอดภัย และความสะดวกสบาย ที่ทำให้ Mercedes Benz New S-Class เป็นรถยนต์ที่ขับขี่ปลอดภัยอย่างชาญฉลาด ในราคา 11,400,000 บาท เฉพาะที่ผู้จำหน่าย Mercedes Benz อย่างเป็นทางการเท่านั้น


มร.ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท Mercedes Benz Thailand กล่าวว่า Mercedes Benz S-Class ที่นำมาเปิดตลาดในไทยได้แก่ รุ่น S 400 HYBRID AMG Premium ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน พร้อมใส่ใจในทุกรายละเอียดในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องรูปลักษณ์ใหม่ที่น่าหลงใหล สมรรถนะยอดเยี่ยม ความปลอดภัยเพิ่มขึ้น ความสะดวกสบายที่เหนือกว่าและยังคงความสปอร์ตปราดเปรียว ทำให้ Mercedes Benz S-Class โฉมใหม่ เป็นที่สุดในทุกองค์ประกอบ สมเป็นยนตรกรรมที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลก ซึ่งสามารถตอบโจทย์ตามปรัชญาของ Mercedes Benz ภายใต้สโลแกน “The best or nothing” และเชื่อว่าจะสามารถตอบโจทย์สำหรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้บริหารระดับสูง หรือเจ้าของกิจการได้เป็นอย่างดี


ดีไซน์ภายนอก-สะท้อนความทันสมัยและดึงดูดทุกสายตา

"The new S-Class" โฉมใหม่ได้รับการปรับเปลี่ยนใหม่หมด แต่ยังคงความหรูหรา สง่างาม ซึ่งได้ผสมผสานแนวคิดการออกแบบที่ทันสมัยและเฉียบคม งดงาม น่าดึงดูดใจ มีความเป็นสปอร์ตมากขึ้น โดยกระจังหน้ามีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ซึ่งได้รับการออกแบบให้มีความโดดเด่นเป็น 3 มิติ นับตั้งแต่ฝากระโปรงแบบ long bonnet ความสวยงามของลายเส้นพลิ้วไหวด้านข้าง (droppingline) ความโค้งมนของเส้นหลังคา (roofline) ตลอดด้านท้ายรถที่ออกแบบให้มีความลาดเท ทำให้ S-Class ใหม่ มีสัดส่วนตัวรถสวยงาม สมบูรณ์แบบ และยังมีอารมณ์ความเป็นสปอร์ตเหมือนรถยนต์คูเป้ด้วย ตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์หรู

โดยมิติของตัวรถ The new S-Class มีขนาดใหญ่ขึ้นมากกว่ารุ่นเดิม คือ ความยาว x ความกว้าง x ความสูง ที่ 5,246 x 1,899 x 1,496 มม. ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ทำให้รุ่นใหม่นี้มีความยาวขึ้น 20 มม. กว้างขึ้น 28 มม. และสูงขึ้น 17 มม. ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น รวมถึงเพิ่มความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร สำหรับพื้นที่ห้องโดยสารด้านหน้าคนขับ มีพื้นที่เหนือศีรษะ (headroom) เพิ่มขึ้น 14 มม. พื้นที่ช่วงไหล่ (shoulder room) ของผู้โดยสารด้านหน้า เพิ่มขึ้น 14 มม. และผู้โดยสารด้านหลังเพิ่มขึ้น 11 มม.


พื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังช่วงขา (kneeroom) เพิ่มขึ้น 16 มม. ให้ความสะดวกสบายแก่ผู้โดยสารตอนหลังมากขึ้นกว่าเดิม ส่วนค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานตามหลักอากาศพลศาสตร์ (Cd) ของรถรุ่น S 400 HYBRID AMG Premium อยู่ที่ 0.26 สำหรับ Mercedes Benz New S-Class อย่างไรก็ดี อาจกล่าวได้ว่า ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานของตระกูล S-Class รุ่นใหม่นี้ มีค่าต่ำสุดเท่ากับ 0.23 ซึ่งนับเป็นประวัติการณ์ใหม่ในเซ็กเมนต์ของรถยนต์รุ่นนี้ และเป็นที่สองรองจากรุ่น CLA-Class ซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำที่สุดในโลก คือ แค่ 0.22


เทคโนโลยีส่องสว่างแบบ LED ทั้งคัน

Mercedes Benz S-Class รุ่นใหม่นี้ ใช้เทคโนโลยีระบบส่องสว่างเป็นแบบ LED ตลอดทั้งคัน ทั้งภายนอกและภายใน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของโลก โดยรวมรถคันนี้มีหลอดไฟ LED รวมกันเกือบ 500 ดวง โดยไฟหน้าใช้หลอดไฟ LED ข้างละ 56 ดวง ไฟท้าย ใช้หลอดไฟ LED ข้างละ 35 ดวง โดยมีหลอดไฟ LED สำหรับตัดหมอกหลังอีก 4 ดวง ส่วนภายในห้องโดยสารของตัวรถมีใช้มากถึง 300 ดวง โดยสามารถประหยัดพลังงาน โดยรวมถึงกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับหลอดไส้แบบธรรมดา นอกจากนั้น ยังมีระบบ LED Intelligent Light System สำหรับโคมไฟหน้า ซึ่งจะช่วยปรับลำแสงให้เหมาะสมกับสถานการณ์และสภาพอากาศ อาทิ การขับขี่ในชนบท (country mode), การขับขี่บนทางหลวง (motorway mode ), การขับขี่บนถนนที่ปกคลุมไปด้วยหมอก (enhanced fog lamps), การปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย (active light function), การเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง (cornering light function) และการปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive HighbeamAssist Plus)


ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist Plus

นับเป็นครั้งแรกกับระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ แบบ Adaptive Highbeam Assist Plus ที่ระบบจะปรับลดระดับแสงไฟสูงลงอัตโนมัติเมื่อพบว่ามีรถยนต์คันอื่นวิ่งสวนทางมา หรือเข้าใกล้รถยนต์คันที่วิ่งนำหน้าอยู่ ส่งผลให้ผู้ขับขี่สามารถเปิดไฟสูงไว้ที่ระดับสูงสุดได้ตลอดเวลา โดยที่ไฟสูงจะไม่รบกวน หรือก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้ถนนและผู้ขับขี่ ไม่จำเป็นต้องปิด หรือเปิดไฟสูงด้วยตนเองบ่อยๆ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถขับขี่โดยเปิดไฟสูงไว้ได้นานขึ้น จึงขับขี่ได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น


ระบบไฟท้ายที่สามารถปรับความเข้มของแสงได้อัตโนมัติเพื่อผู้ใช้ถนน

Mercedes Benz นับเป็นเจ้าแรกที่ได้พัฒนาระบบไฟส่องสว่าง โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน โดยได้พัฒนาไฟท้ายให้สามารถปรับระดับความสว่างได้ตามสถานการณ์ของการขับขี่และสิ่งแวดล้อมขณะนั้น โดยไฟเบรกและไฟสัญญาณต่างๆ ด้านท้ายสามารถปรับระดับของความสว่างได้ ตามลักษณะการใช้งานและสภาพแวดล้อม (ทั้งกลางวันและกลางคืน) ตัวอย่างเช่น หากผู้ขับขี่เหยียบเบรกเพื่อหยุดรถรอสัญญาณไฟตอนกลางคืน ระบบจะลดระดับความสว่างของไฟลง เพื่อไม่แยงตาผู้ขับขี่รถคันหลัง


การตกแต่งภายใน-หรูหรา สง่างามทุกรายละเอียด

การตกแต่งภายในของ Thenew S-Class ยังคงเน้นองค์ประกอบ ที่ผสานเอารูปแบบดั้งเดิมความหรูหรา และแนวคิดของรถซาลูนรุ่นใหม่ให้เข้ากันได้อย่างกลมกลืน ภายใต้แนวคิดความนุ่มสบายขณะขับขี่ ความกว้างขวาง รวมไปถึงอุปกรณ์คุณภาพสูงภายในรถ ที่สามารถใช้งานได้ง่าย เน้นการใช้วัสดุคุณภาพสูง และการออกแบบที่เน้นการใช้งานได้จริงเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นลายไม้ที่ได้รับการออกแบบพิเศษ designo high-glosssunburst brown myrtle wood แบบ 2 โทนสี (two-tone) รวมทั้งเบาะนั่งหุ้มหนัง Nappa แบบ Exclusive package ตัดเย็บลายเบาะแบบ diamond design พร้อมด้วยผ้าหลังคาและแผงบังแดดด้านหน้าหุ้มด้วย DINAMICA microfibre พร้อมด้วยไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร (Ambient Lighting) ที่สามารถปรับเฉดได้ถึง 7 สี

นอกจากนั้น ยังติดตั้งพวงมาลัยหุ้มหนังสลับลายไม้ 2 ก้านแบบมัลติฟังก์ชั่น ซึ่งเป็นพวงมาลัยนิรภัย พร้อมพาวเวอร์ที่สามารถปรับน้ำหนักได้ตามความเร็วรถ ซึ่งจะช่วยทำให้การควบคุมทิศทางรถเป็นไปอย่างเที่ยงตรง แม่นยำ และปลอดภัย


ระบบควบคุมพร้อมจอดิสเพลย์แบบใหม่ ศูนย์รวมระบบสั่งการที่เหนือกว่า

ระบบให้บริการข้อมูลของ The new S-Class จะแสดงผลผ่านหน้าจอดิสเพลย์ แบบ TFT มีความละเอียดสูง มีขนาด 31.2 ซม. จำนวน 2 จอ โดยตัวแรกด้านหน้าคนขับ สำหรับให้ข้อมูลการวัดค่าต่างๆ บนแผงหน้าปัด เช่น มิเตอร์วัดความเร็ว ความเร็วรอบ ระยะทาง และอื่นๆ ส่วนจอด้านซ้ายสำหรับให้ข้อมูลระบบความบันเทิงต่างๆ รวมถึงการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และยังสามารถควบคุมการทำงานได้จากรีโมทคอนโทรล และแป้นควบคุมตรงคอนโซลกลาง ที่ได้รับการออกแบบอย่างสวยงาม สามารถควบคุมการทำงานได้สะดวก ในขณะที่ระบบความบันเทิงในที่นั่งด้านหลัง มีจอแสดงผลอีก 2 ตำแหน่ง ขนาด 25.4 ซม. (IndividualEntertainment in the rear) ที่ติดตั้งอยู่บริเวณด้านหลังของพนักพิงที่นั่งคู่หน้า ซึ่งให้บริการด้านข้อมูลและความบันเทิงต่างๆ แก่ผู้โดยสารตอนหลัง โดยแยกอิสระ ระบบ COMAND Online ควบคุมการทำงานของวิทยุ-ดีวีดี และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต พร้อม Controller และระบบนำทาง (navigationsystem) นอกจากนั้น ยังมีรีโมทคอนโทรลควบคุมการทำงานของระบบ COMAND Online สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง รวมถึงระบบสั่งการด้วยเสียง (LINGUATRONIC)


ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ

ระบบควบคุมอุณหภูมิ ภายใน Mercedes Benz S-Class ใหม่ สามารถปรับอุณหภูมิได้พอเหมาะ สะดวกสบายทุกที่นั่ง ซึ่งนับเป็นมาตรฐานใหม่ที่ระบบสามารถแยกการทำงานอิสระได้ตามความต้องการของผู้โดยสารแต่ละที่นั่ง เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารด้านหลังมากขึ้น ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ สำหรับที่นั่งด้านหลังแบบแยกเป็น 2 โซน ได้ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ ซึ่งควบคุมการทำงานโดยใช้ระบบท่อน้ำยาแอร์แยกอิสระ โดยระบบจะติดตั้งอยู่ที่คอนโซลกลาง


AIR-BALANC Epackage

The new S-Classได้รับการติดตั้งระบบ active perfuming system มาพร้อมกับ AIR-BALANCE Package เป็นครั้งแรกของโลกโดยระบบจะผลิตกลิ่นหอมและปรับระดับความหอมได้ด้วยตัวคุณเอง ซึ่ง Mercedes Benz ยังได้แนะนำน้ำหอมปรับอากาศคุณภาพสูง เพื่อให้ความสดชื่นและความรื่นรมย์มากขึ้น โดยกลิ่นหอมที่ใช้มีให้เลือก 4 กลิ่น ได้แก่ FREESIDE MOOD, NIGHTLIFE MOOD, DOWNTOWN MOOD และ SPORTSMOOD


เบาะนั่งระดับเฟิร์สต์คลาส

นวัตกรรมของการพัฒนาเบาะนั่งใหม่ โดยเน้นให้ความสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งได้รับการออกแบบโครงสร้างเบาะให้มีน้ำหนักเบาขึ้นประมาณ 20 กก. โดยติดตั้งระบบนวดแบบผ่อนคลายแบบ ENERGIZING Massage ที่นับเป็นครั้งแรกของโลกที่ติดตั้งในรถ Mercedes Benz S-Class รุ่นใหม่นี้ ระบบนวดแบบ ENERGIZINGMassage ใช้หลักการนวดผ่อนคลายเหมือนการใช้หินร้อน ซึ่งสามารถเลือกโปรแกรมนวดได้ถึง 6 แบบเพื่อการผ่อนคลายและสะดวกสบาย ได้แก่

1.HotRelaxing Massage Back
2.HotRelaxing Massage Shoulder
3.ActivatingMassage
4.ClassicMassage
5.MobilizingMassage


ในเบาะที่นั่งคู่หน้าและคู่หลังของ S-Class ใหม่ เป็นแบบ Climatised seat นับเป็นครั้งแรกของโลกเช่นกัน ที่ใช้เบาะนั่งพร้อมระบบระบายอากาศเบาะนั่ง โดยใช้พัดลมดูดอากาศ (reversing fans) และระบบอุ่นเบาะนั่งให้มีอุณหภูมิพอเหมาะ สะดวกสบายตลอดการขับขี่ สำหรับเบาะนั่งด้านหลังฝั่งซ้าย เป็นแบบ Executive Seat สามารถปรับเอนพนักพิงเพิ่มขึ้นได้จาก 37 เป็น 43.5 องศา ซึ่งเป็นองศาของการปรับเอนพนักพิงที่มากที่สุด ในเซ็กเมนต์ของรถยนต์รุ่นนี้ นอกจากนั้น ยังสะดวกสบายด้วยที่รองขา (legsupport) ที่ผู้ใช้สามารถปรับขนาดความยาวและองศาได้ตามต้องการ เพิ่มความสบายในการพักผ่อนมากขึ้น ที่นั่งตอนหลังใน S-Class ใหม่เพิ่มแพ็กเกจสำหรับผู้โดยสาร (Chauffeur package) ที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบาย และป้องกันการได้รับบาดเจ็บจากการเกิดอุบัติเหตุด้วยฟังก์ชั่น “Chauffeur” ที่สามารถปรับเลื่อนเบาะที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าไปด้านหน้าได้อีก 40 มม. และเลื่อนขึ้นด้านบนได้อีก 37 มม.จากตำแหน่งปกติ ทำให้มีพื้นที่วางขา สำหรับผู้โดยสารตอนหลังเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกัน ผู้โดยสารสามารถผ่อนคลายเต็มที่ด้วยการใช้ที่พักส้นเท้า หรือ heelrest เมื่อมีการพับเบาะนั่งด้านหน้า ซึ่งนับเป็นมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ในเรื่องการพักผ่อนแบบสะดวกสบายตลอดการเดินทาง พนักพิงศีรษะแบบ EASY ADJUST head restraint ซึ่งเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยมากขึ้น โดยจะทำงานอัตโนมัติปรับระดับให้ความพอเหมาะระหว่างศีรษะและพนักพิง รวมทั้งหมอนรองศีรษะของที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้า ยังสามารถพับ หรือถอดได้ เพื่อไม่ให้บดบังทัศนียภาพของผู้โดยสารตอนหลัง


เบาะนั่งที่ผลิตโดย Mercedes Benz

Mercedes Benz เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์เพียงไม่กี่รายที่ผลิตเบาะนั่งด้วยตนเอง ทั้งในรุ่น E-Class และ S-Class ทั้งนี้ เพื่อมาตรฐานคุณภาพสูงสุด และความทนทานในการใช้งานได้ยาวนาน ขณะเดียวกัน Mercedes Benz ยังเป็นผู้นำตลาดในการคิดค้นฟังก์ชั่งใหม่ๆ อีกด้วย เช่น ระบบนวดแบบ ENERGIZING Massage ซึ่งสร้างขึ้นจากหลักการนวด โดยใช้หินร้อนอีกด้วย โดยกระบวนการผลิตเบาะนั่งนั้น Mercedes Benz ใช้พนักงานช่างฝีมือกว่า 600 คน ภายใต้กระบวนการผลิตที่มีความซับซ้อนและละเอียดอ่อน ผสานกับงานฝีมือขั้นสูงควบคู่กับเทคโนโลยีสมัยใหม่ รวมถึงเรื่องของความใส่ใจในรายละเอียดความประณีตในการเดินด้ายและการเย็บเบาะหนัง รวมทั้งการเลือกสีสันในรถแต่ละรุ่น ซึ่งมีความหลากหลาย


ระบบความบันเทิงใหม่ล่าสุด เปลี่ยนห้องโดยสารให้เป็นเวทีคอนเสิร์ต

The new S-Class ใช้ชุดเครื่องเสียงคุณภาพ Burmester Surround Sound System พร้อมลำโพง 13 ตัว ซึ่งให้ระดับเสียงคมชัดเซอร์ราวซาว์รอบทิศทาง แบบ “feel-good sound” โดยจะทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพกับระบบ Frontbass system ซึ่งเป็นระบบที่ Mercedes Benz ได้พัฒนาเทคโนโลยีนี้และได้นำมาใช้ในรถยนต์ซาลูนเป็นครั้งแรก


ระบบการขับเคลื่อน-ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง

The new S-Class มีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงน้อยกว่ารุ่นก่อนถึงร้อยละ 20 ซึ่ง Mercedes Benz มีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมโลกสีเขียว (GreenLeadership) โดยรุ่นที่เปิดตัวในประเทศไทย คือ รุ่น S400 HYBRID AMG Premium ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน แบบ V6 ขนาด 3,498 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 225 กิโลวัตต์ (306 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตรที่ 3,500-5,250 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า โดยมีกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ 20 กิโลวัตต์ (27 แรงม้า) แรงบิดสูงสุดที่ 250 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 6.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง เฉลี่ย 16 กม./ลิตร และอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยเฉลี่ย 147 กรัม/กม. โดยพละกำลังถูกถ่ายทอดผ่านเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ แบบ 7G-TRONIC PLUS พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย แบบ DIRECT SELECT


โครงสร้างตัวถังให้ความปลอดภัยสูง น้ำหนักเบากว่าเดิม

Mercedes Benz S-Class ใหม่นี้ เลือกใช้โครงสร้างแบบอะลูมเนียมผสม และใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบากว่าที่เคยใช้ในรุ่นก่อนหน้าถึง 95 กิโลกรัม แต่มีความแข็งแกร่งและทนทานต่อแรงบิดเพิ่มขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนโครงสร้างของห้องโดยสารนิรภัยนั้น สร้างขึ้นจากเหล็กหล่อที่มีความแกร่งสูง ซึ่งรวมไปถึงการใช้คานนิรภัยที่มีระดับความแข็งแรงเหมาะสมทั้งกับน้ำหนักและขนาดของตัวรถ ซึ่งการใช้วัสดุน้ำหนักเบาเป็นโครงสร้าง การปรับปรุงมิติของโครงสร้าง รวมถึงการใช้เทคโนโลยีการประกอบตัวถังขั้นสูง นับเป็นการพัฒนาไปอีกขั้นของยานยนต์ในกลุ่มซาลูน


ระบบปกป้องก่อนเกิดเหตุ เพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น

ระบบปกป้องก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE เป็นแนวคิดระบบความปลอดภัยที่ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพมาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ได้เพิ่มระบบ PRE-SAFE Impulse ซึ่งจะทำงานเมื่อเกิดอุบัติเหตุจากด้านหน้า โดยผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าจะถูกเข็มขัดนิรภัยดึงให้ออกห่างจากทิศทางที่ถูกเฉี่ยวชน ตั้งแต่จังหวะแรกก่อนรถถูกชน และจะลดแรงดึงกลับ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงและความรุนแรงของอาการบาดเจ็บที่จะเกิดขึ้น


เพิ่มระบบปกป้องสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง : มาตรฐานความปลอดภัยใหม่ล่าสุด ใน S-Class ใหม่

Mercedes Benz เพิ่มอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารด้านหลังมากขึ้น ด้วยหัวเข็มขัดนิรภัยแบบเรืองแสงที่เบาะหลังแบบปรับระดับเองอัตโนมัติ (Active Seat-Belt Buckle) เข็มขัดนิรภัยแบบถุงลมสำหรับผู้โดยสารด้านหลังริมหน้าต่าง (Beltbag)ระบบตัดการทำงานถุงลมนิรภัยอัตโนมัติและถุงลมนิรภัยด้านข้าง ซึ่งทำงานร่วมกับระบบ PRE-SAFE ช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บให้กับผู้โดยสารที่นั่งเบาะหลัง ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่อยู่ในระบบ PRE-SAFE Rear Package หัวเข็มขัดนิรภัยแบบเรืองแสง จะถูกยกขึ้นโดยอัตโนมัติด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า เมื่อประตูหลังถูกเปิดเพื่ออำนวยความสะดวกในการคาดเข็มขัดนิรภัย เพื่อประโยชน์ในการป้องกันการบาดเจ็บบริเวณกระดูกเชิงกราน และบริเวณส่วนหน้าอกของผู้โดยสารได้มากขึ้น เข็มขัดนิรภัยเบาะหลังนี้จะทำหน้าที่ปกป้องโดยรั้งตัวผู้โดยสารโดยอัตโนมัติ เพื่อเตรียมพร้อมกับอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น


ระบบช่วยเหลืออัจฉริยะ จาก Mercedes Benz

The new S-Class มาพร้อมกับเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยใหม่ ที่ผสานความสะดวก สบาย และความปลอดภัยเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งเรียกว่า ระบบ “Mercedes-Benz Intelligent Drive” เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความปลอดภัยสูงสุด ด้วยระบบการช่วยเหลือและระบบความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ โดยระบบดังกล่าวมีพื้นฐานมาจากแนวคิดการปกป้องก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุเข้าไว้ด้วยกัน ภายใต้ระบบควบคุมอัจฉริยะเพียงหนึ่งเดียว ที่ทำงานสอดประสานกัน ไม่ว่าจะเป็นระบบปกป้องก่อนเกิดเหตุ (PRE-SAFE system) โปรแกรมการควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด 4 ที่นั่งผ่อนแรง และรั้งกลับอัตโนมัติ ถุงลมนิรภัยด้านหน้า 2 ตำแหน่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมเซ็นเซอร์วัดแรงปะทะและการคาดเข็มขัดนิรภัย ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 4 ตำแหน่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าและด้านหลัง ม่านถุงลมนิรภัยป้องกันศีรษะสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารทั้ง 4 ตำแหน่ง (window bags)

นอกจากนั้น ยังมีระบบอำนวยความสะดวกและระบบความปลอดภัยอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR (Acceleration skid control) ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill-Start Assist ระบบรักษาระดับความเร็ว (cruise control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC) เซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTRONIC) กล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยรถ (reversing camera) และระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Active Parking Assist) ฟังก์ชั่น เปิดฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติ (HANDS-FREEACCESS) และระบบ MAGIC VISION CONTROL ซึ่งเป็นระบบการทำงานของใบปัดน้ำฝนที่มีประสิทธิภาพสูง โดยน้ำฉีดล้างกระจกจะถูกส่งออกมาจากก้านปัดน้ำฝนโดยตรง โดยมีการปัดในสองทิศทาง ทำให้ไม่มีการกระจายตัวของละอองน้ำที่จะมาบดบังทัศนวิสัยของผู้ขับขี่ในขณะฉีดน้ำ และยังช่วยให้การทำความสะอาดกระจกบังลมหน้า สามารถทำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ.




 

Create Date : 07 กันยายน 2556
0 comments
Last Update : 7 กันยายน 2556 18:50:25 น.
Counter : 1394 Pageviews.


amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]








Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.