ข้ามน้ำข้ามทะเลบินไปทดสอบ BMW New X5 xDRIVE 30d ที่แคนาดา พบกับยนตรกรรมขับสี่สุดหรูเวอร์ชั่นล่าสุดประจำปี 2014 ที่กำลังจะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ตอนแรกกับการรีวิว ตัวถังแบบใหม่ เครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่าง อุปกรณ์ช่วยขับและระบบความปลอดภัย...
เมื่อลองจินตนาการถึงยานยนต์ที่สามารถลุยไปได้ในทุกๆ พื้นที่ท่ามกลางสภาพการขับขี่ที่มีความโดดเด่นด้านสมรรถนะ BMW X5 ใหม่ประจำปี 2014 รหัสตัวถัง F15 ซึ่งเป็นรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อโมเดลที่ 3 ได้รับตำแหน่งนั้นไปครองอย่างเต็มภาคภูมิ การปรับปรุงรูปลักษณ์ทั้งคันแบบใหม่หมดจด จากภาพลักษณ์ของรถ SUV ที่เคยหนักและอุ้ยอ้ายในอดีตถูกลบออกไปจนหมดสิ้นในปัจจุบัน ลูกค้าระดับสูงต้องการ SUV ที่มีความปราดเปรียวและคล่องตัว รวมถึงความหรูหราสง่างาม ตำแหน่งของการขับที่สูงขึ้น ตัวรถถูกทำให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เปรียบได้กับการสะท้อนตัวตนของผู้ขับกับรถยนต์ที่แสดงให้เห็นถึงการใช้ชีวิตที่เน้นกิจกรรมกลางแจ้งมากยิ่งขึ้น ทั้งหมดทั้งปวงถูกหลอมรวมอยู่ใน BMW New X5 2014
สภาพการขับแบบออฟโรดผลักดันให้ทีมออกแบบของ BMW มีงานล้นมือและสร้างความยากลำบากในการดีไซน์เพื่อทำให้สัดส่วนของรถรุ่นใหม่มีความสมบูรณ์แบบลงตัวควบคู่ไปกับงานวิศวกรรมประกอบตัวรถในขั้นตอนของการขึ้นสู่สายการผลิตรถรุ่นใหม่จะต้องให้สัมผัสของความโฉบเฉี่ยว ในขณะเดียวกันก็สามารถกระโดดลงไปลุยในโคลนเลนได้ จากประสิทธิภาพของระบบขับเคลื่อนแบบ xDRIVE ที่ถูกเพิ่มเติมความปราดเปรียวในขณะที่ขับขี่จากชุดทดกำลังขับรุ่นล่าสุด เมื่อเข้าไปนั่งในห้องโดยสาร ผู้ขับขี่จะสัมผัสได้ถึงความมั่นคงจากการนั่งอยู่ในตำแหน่งของการควบคุมที่ยอดเยี่ยม แนวคิดใหม่ๆ ของรูปทรงที่ถูกปรับปรุงในโมเดลที่ 3 ยังสื่อให้เห็นถึงความแข็งแกร่งแบบนักกีฬา รถ New X5 มีแง่มุมที่แสดงออกอย่างชัดเจนจากการเป็นรถลุยระดับพรีเมียมที่มีประสิทธิภาพขั้นสูง มันอยู่บนหัวแถวของตัวลุยที่มีคู่แข่งอย่าง Porsche Cayenne / Mercedes Benz ML / Range Rover Sport / Audi Q7 ฯ สำหรับการเอาชนะรถยนต์เหล่านั้น นอกจากรูปทรงที่ต้องดูดีแล้ว สมรรถนะของระบบขับเคลื่อนบวกกับอุปกรณ์ที่คอยเสริมสภาพการขับขี่ควบคุมที่มีความโดดเด่นคืออาวุธหลักที่ New X5 ใช้ต่อกรกับคู่ต่อสู้ยุคใหม่ของมัน
รุ่นที่สามของรถลุยในตระกูล X5 เปิดตัวท่ามกลางกระแสความนิยมอย่างต่อเนื่องในรถยนต์ประเภท SUV มันคือยนตรกรรมจาก BMW Group ซึ่งถือเป็นผู้นำทางการตลาดระดับโลกสำหรับการผลิตยานยนต์พรีเมียม นักออกแบบของค่ายใบพัดสีฟ้าขาวได้ทำการกำหนดมาตรฐานใหม่ในการออกแบบเพื่อให้ตัวรถมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้านการขับขี่ใช้งาน ความกว้างขวาง หรูหรา สมรรถนะประสิทธิภาพและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ทันสมัย ลักษณะของการพัฒนาเกิดขึ้นจากวิวัฒนาการ นักออกแบบได้เข้ามาจัดการกับเรือนร่างของรถในโมเดลที่ 3 จากรุ่นแรกสุดมาจนถึงรุ่นล่าสุด คุณสมบัติด้านอากาศพลศาสตร์ของตัวรถกลมกลืนไปกับรูปลักษณ์โดยสื่อให้เห็นถึงแนวทางในการพัฒนาตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปีของโมเดลรถลุยระดับสูงภายในค่าย BMW
สำหรับ BMW X5 รุ่นใหม่ล่าสุดประจำปี 2014 สัดส่วนของรุ่นที่สามมีความลงตัวมากยิ่งขึ้น จากพัฒนาการของทีมออกแบบที่พยายามปรับเส้นสายดีไซน์ของตัวรถใหม่หมดจดทั้งคัน รูปทรงด้านหน้าของ New X5 ยังคงใช้กระจังหน้าแบบไตคู่ขนาดใหญ่ ไฟหน้าสี่ดวงอยู่ในกรอบโพลิเมอร์ใส ภายในบรรจุไฟซีนอนที่มีการปรับดีไซน์ให้คมเข้มมากยิ่งขึ้น ไฟหน้าแบบ BMW Adaptive LED ให้ลำแสงที่ครอบคลุมทุกๆ การมองเมื่อขับขี่ตอนกลางคืน ไฟ LED Daytime Runing ล้อมกรอบอยู่ในขอบของไฟหน้าสองดวงตามแบบอย่างของรถ BMW ในยุคปัจจุบัน การออกแบบในลักษณะดังกล่าวนอกจากมีความสวยงามแล้วยังช่วยเพิ่มเติมมุมมองด้านความปลอดภัยเมื่อต้องขับขี่ท่ามกลางทัศนวิสัยที่ไม่ดีอีกด้วย สำหรับ BMW X5 xDrive50i และ BMW X5 M50d มีการติดตั้งไฟ ซีนอนเป็นอุปกรณ์มาตรฐานมาจากโรงงาน รถ New X5 มีสิ่งที่ถูกปรับเปลี่ยนในตัวรถรุ่นที่ 3 อีกชิ้นงานคือสปอยเลอร์หน้าหรือกันชนหน้าขนาดใหญ่ การย้ายตำแหน่งของไฟตัดหมอกทรงกลม ช่องรับอากาศกึ่งกลางกันชนใต้กระจังหน้า รวมถึงมุมด้านข้างทั้งซ้านและขวาของสปอยเลอร์หน้าที่งดงามจากดีไซน์ที่มีความเฉียบคมขึ้นของชิ้นงานพลาสติกสีเงินที่ใช้ตกแต่ง ออกแบบให้เป็นช่องเหนี่ยวนำอากาศไประบายความร้อนให้กับคาร์ลิปเปอร์เบรก รวมถึงกดล้อหน้าไม่ให้เต้นเมื่อใช้ความเร็วสูง
ฝากระโปรงหน้ายังคงใช้การออกแบบโดยยกแนวของฝาหน้าขนานไปกับแก้มข้าง เส้นมุมเพื่อเน้นแสงเงาของฝากระโปรงหน้าเชื่อมโยงกับแนวของเสาหน้าอย่างกลมกลืนและทำให้ตัวถังดูบึกบึนแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นจากการออกแบบที่ดี กระจกบานหน้ามีองศาของความลาดเอียงเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย สัดส่วนของความสูงยังคงใกล้เคียงกับรถรุ่นที่สองแต่มีความลงตัวมากกว่าจากพัฒนาการที่ดีด้านการดีไซน์ ปฏิสัมพันธ์ของการออกแบบจาก BMW X1 ซึ่งถูกถ่ายทอดมายังโมเดลล่าสุดของ X5 หน้าสั้นกระชับขึ้น ระยะฐานล้อมีความยาวเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย แก้มข้างมีการออกแบบโดยใช้รูปทรงแบบเหงือกปลาฉลามทำเป็นช่องระบายอากาศของซุ้มล้อหน้า เชื่อมโยงไปกับแนวเส้นด้านข้างของบานประตูทั้งสอง เส้นด้านข้างที่ทะแยงขึ้นด้านบนลากไปจนจรดกับแนวของไฟท้าย สันหลังคามีงานอัลลอยรองรับจุดยึดของแรคหลังคา ทำออกมาได้หรูจนแทบไม่กล้าใช้งานเนื่องจากเป็นอลูมิเนียมสีเงินขนาดใหญ่วางขนานกับแนวบนของขอบหลังคาจากเสาหน้าไปจนเกือบถึงเสาท้าย โดยออกแบบให้มีรูปทรงที่เพรียวลมโผล่ขึ้นมาจากหลังคานิดเดียว ซุ้มล้อทั้งสี่ห่อหุ้มด้วยวัสดุประเภทพลาสติกกันกระแทกสีดำ ชายล่างหรือสเกิร์ตด้านข้างมีชิ้นงานพลาสติกสีเงินเสริมเข้ามาในตัวรถรุ่นใหม่เพื่อความสง่างามและความหรูหราท่ามกลางงานตัวถังที่มีความกลมกลืนมากกว่า X5 ทุกๆรุ่นที่ผ่านมา ทั้ง BMW X5 xDRIVE 30d และ BMW X5 xDRIVE 50i ใส่ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 19 นิ้ว (9Jx19") ห่อรัดด้วยยางคุณภาพสูงของ Goodyear รุ่น Eagle F1 SUV 4x4 ไซส์ 255/50/R19 ทั้ง 4 ล้อ เป็นยางกึ่งหรูกึ่งลุยสมรรถนะสูงรุ่นล่าสุดที่มีแก้มยางสูงขึ้นเพื่อการขับแบบออฟโรด
บั้นท้ายของ BMW New X5 2014 รุ่นล่าสุดยังคงใช้รูปแบบไฟท้ายที่คล้ายกับโมเดลที่ 2 แต่ปรับแก้ให้มีความลงตัวด้วยไฟท้ายทรงเหลี่ยม เพิ่มเติมมุมมองที่ชัดเจนด้วยหลอดไฟท้ายทั้งไฟหรี่ ไฟเลี้ยวและไฟถอยแบบ LED แนวของเส้นข้างตัวถังที่ประสานอย่างกลมกลืนกับฝาท้ายแบบสองชิ้นซึ่งสามารถเปิดออกได้ด้วยมุมที่กว้างเป็นพิเศษเพื่อการขนสัมภาระ ฝาท้ายด้านบนทำงานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าควบคุมผ่านรีโมตคอนโทรล ส่วนชิ้นฝาท้ายด้านล่างที่เปิดออกได้อีกชิ้นแบบแยกจากกัน ทำให้เพิ่มความสะดวกสบายในการขนสัมภาระมากยิ่งขึ้น สปอยเลอร์หลังในตัวรถ X5 รุ่นล่าสุดยังมีความลงตัวมากกว่าทั้งสองโมเดลที่ผ่านมา ท่อระบายไอเสียที่มุมของสปอยเลอร์ทั้งสองข้างถูกซ่อนอยู่ภายในสปอยเลอร์หลัง แถบพลาสติกสีแดงสะท้อนแสงกับชิ้นงานพลาสติกกันกระแทกสีเงินที่ใช้ห่อหุ้มตกแต่งสปอยเลอร์หลังถูกเพิ่มเติมเข้ามา กระจกบานฝาท้ายที่มีองศาลาดเอียงลงตัวสอดรับกับแนวหลังคา กระจากบานหลังของ New X5 มีใบปัดน้ำฝนด้านหลังโดยที่ด้านบนมีไฟเบรกดวงที่ 3 วางตัวอยู่ในกรอบของชิ้นงานที่หุ้มปิดทับขอบกระจกบานฝาท้ายบริเวณด้านบน เสาโทรศัพท์เคลื่อนที่ทรงครีบปลาฉลามยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม เหลี่ยมมุมของฝาท้ายและสปอยเลอร์หลังขณะที่แสงเงาตกกระทบช่วยเพิ่มเติมมุมมองให้ดูสวยงามสมกับเป็นรถลุยในค่ายใบพัดสีฟ้าขาวได้อย่างลงตัว
BMW New X5 2014 ทุกๆ รุ่นมีห้องโดยสารแบบใหม่ที่กว้างขวางขึ้นและมีความแตกต่างกันเล็กน้อยในด้านอุปกรณ์ หลักใหญ่ของงานออกแบบภายในเน้นการเชื่อมโยงของการใช้อุปกรณ์ผนวกเข้ากับความหรูหราของวัสดุภายในที่ใช้ตกแต่งโดยมีตำแหน่งคนขับเป็นจุดศูนย์กลางเหมือนเดิม รถ BMW ทุกๆ รุ่นมักจะเน้นหนักไปที่การควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านคนขับ การกำหนดขอบเขตใหม่สำหรับเจ้าของรถที่สามารถระบุการตกแต่งวัสดุภายในด้วยตัวเองทั้งการเลือกสีและอุปกรณ์เสริมต่างๆ ภายในของ New X5 ถูกออกแบบเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ของการขับขี่ทั้งทางเรียบและทางลุยที่มีความเชื่อมโยงกับองค์ประกอบทั้งหมดของตัวรถ ภายในของมันยังเอื้ออำนวยเปิดโอกาสให้เจ้าของรถสามารถสั่งออฟชั่นเสริมได้อย่างหลากหลายมากยิ่งขึ้นและมากกว่า X5 ทุกๆ รุ่นในอดีต ความกว้างขวางที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนประสานไปกับบรรยากาศที่ให้ความหรูหราสำหรับงานตกแต่งภายใน ตำแหน่งที่นั่งสูงขึ้นมาอีกเล็กน้อยจากการปรับปรุงเบาะนั่งคู่หน้า แผงหน้าปัดถูกดึงให้ต่ำลง คอนโซลกลางมีเส้นแนวนอนที่โค้งมนสอดรับไปกับแนวของแผงข้างประตู เบาะผู้โดยสารตอนหลังที่สามารถปรับรูปแบบการพับเพื่อขนสัมภาระขนาดใหญ่ มันถูกออกแบบมาให้ปรับพับแยกสัดส่วนได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น พนักพิงเบาะนั่งด้านหลังที่พับได้ ความสามารถในการเพิ่มพื้นที่เก็บของซึ่งมีปริมาตรความจุถึง 650-1,870 ลิตร ฝาท้ายสามารถเปิดและปิดโดยการควบคุมระยะไกลทั้งรีโมตคอนโทรลหรือจากที่นั่งคนขับ เบาะที่นั่งหุ้มหนังแท้ทุกตำแหน่งมีความสะดวกสบายด้วยการปรับผ่านมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ 3 ระดับ นักออกแบบของ BMW เพิ่มเติมเบาะด้านหลังแถวที่สามเพื่อความอเนกประสงค์ และเพื่อเพิ่มจำนวนของผู้โดยสารหากไม่ได้บรรทุกสัมภาระแบบเต็มพิกัด
หน้าปัดมาตรวัดยังสื่อให้เห็นถึงแนวทางการออกแบบของ BMW มาตรวัดแบบเรืองแสงเพื่อการอ่านค่าที่ชัดเจน ในกรอบมาตรวัดยังรวบรวมการแจ้งค่าและข้อมูลต่างๆ ของรถขณะขับขี่ผ่านจอ MID - Multifunction Display แถมกระจกหน้าในตำแหน่งคนขับยังมีการสะท้อนตัวเลขความเร็วและทิศทางของตัวรถไปพร้อมๆ กันบนรูปแบบ BMW head up display พวงมาลัยแบบสามก้านในรุ่น xDRIVE 30d และ xDRIVE 50i มีแป้นเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์หรือ Paddle Shift ที่ด้านหลังของวงพวงมาลัยรวมถึงบริเวณก้านของพวงมาลัยยังมีสวิตช์ปรับตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและปุ่มเลือกโหมดของการขับขี่ ด้านบนของคอนโซลที่ออกแบบให้มีความโค้งมนมากกว่าเดิมวางจอมัลติฟังก์ชั่นขนาด 10.2 นิ้ว เป็นจอที่มีรูปทรงและลักษณะของการวางคล้ายคลึงกับ Series-3 F30 แต่มีขนาดที่ใหญ่กว่าเพื่อการมองเห็นที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น งานตกแต่งคอนโซลด้วยลายไม้สีน้ำตาลเข้ม แผงควบคุมชุดปรับตั้งอุณหภูมิภายในห้องโดยสารกับชุดเครื่องเสียงยังคงใช้รูปแบบเหมือนเดิมซึ่งมีความสวยงามลงตัวอยู่แล้ว ซุ้มเกียร์และพนักเท้าแขนสามารถเปิดออกเพื่อวางโทรศัพท์มือถือหรือเสียบต่ออุปกรณ์เล่นเพลงจากภายนอกพวก iPOD - USB สำหรับ X5 รุ่น xDRIVE 30d คันทดสอบใช้การตกแต่งภายในด้วยเบาะหนังแท้สีเบสที่สว่างตา ส่วนรุ่น xDRIVE 50i ใช้เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังแท้สีน้ำตาลเข้มเพื่อความสุขุมนุ่มลึกและความหรูหราในระดับสูงสุดเทียบเคียงหรือเหนือกว่ารถคู่แข่งแบบเห็นๆ จากวัสดุและอุปกรณ์ชั้นดีที่ถูกคัดสรรมาใช้ตกแต่งภายใน บรรยากาศที่หรูหราและสะดวกสบายของที่นั่งใน BMW New X5 เพิ่มความกว้างขวางและความสะดวกสบายด้วยที่นั่งแบบใหม่ซึ่งมีความก้าวหน้า โดยเห็นได้อย่างชัดเจนมากกว่าบรรพบุรุษทุกๆ รุ่นที่เคยผ่านสายตา ทีมออกแบบภายในของ BMW ทำการเพิ่มเติมที่นั่งแถวที่สามซึ่งช่วยให้การใช้งานมีความหลากหลายและครอบคลุมการโดยสารเต็มรูปแบบ ขนาดของห้องโดยสารถูกออกแบบอย่างชาญฉลาด ที่นั่งออกแบบใหม่สำหรับคนขับและผู้โดยสารด้านหน้าเพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่า ระดับของความสูงบนตัวเบาะไฟฟ้าและความสะดวกสบายเมื่อต้องขับขี่หรือนั่งโดยสารทางไกล ระบบอุ่นเบาะที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ในเขตหนาว พนักพิงแบบใหม่ที่สามารถปรับได้กว้างถึง 10 องศาทั้งเบาะด้านหน้าและด้านหลัง ระบบเครื่องเสียงแบบมืออาชีพยังเป็นข้อกำหนดมาตรฐานจากโรงงาน ใน New X5 2014 ระบบลำโพงแบบไฮไฟของ Harman Kardon หรือระบบเสียงเซอร์ราวด์ของ Bang & Olufsen Hi-End ให้เสียงที่คมชัดรอบทิศทาง กำลังในภาคขยาย 1,200 วัตต์ ทำงานผ่านลำโพงทั้ง 16 ดอก การรับสัญญาณวิทยุดิจิตอล (DAB), โมดูลทีวี พัฒนาขึ้นใหม่สำหรับการรองรับระบบความบันเทิงด้านหลังที่นั่งด้วยจอ DVD (ออฟชั่นเสริม) แบบแท็บเล็ตสไตล์นอกจากนี้ยังมีการปรับแต่งเพิ่มเติมสามารถสั่งออฟชั่นแบบจัดเต็มด้วยพวงมาลัยหนังควบคุมอุณหภูมิซึ่งสามารถอุ่นพวงมาลัยได้ (สำหรับพื้นที่เขตหนาว) กระจกลดแสงอัตโนมัติ ฟังก์ชั่นประตูปิดแบบซอฟต์หรือปิดอัตโนมัติ หลังคากระจก Sunroof แบบพาโนรามา ฯลฯ
i-DRIVE หรือแป้นควบคุมทรงกลมมีการเพิ่มเติมระบบสัมผัสบนแป้น ทำให้ผู้ขับสามารถขีดเขียนตัวอักษรซึ่งใช้ในการเลือกเพลงหรือสั่งงานในโหมดอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็ว จอแสดงผลแบบมัลติฟังก์ชั่นบนตัวรถ X5 รุ่นล่าสุดยังสามารถแสดงภาพการเอียงและระนาบตลอดจนองศาของรถขณะขับขี่ในรูปแบบออฟโรดรวมถึงการแสดงค่าของระบบขับเคลื่อนแบบ xDRIVE เวอร์ชั่นล่าสุดที่ปรับปรุงมาเพื่อการลุยเป็นพิเศษ สำหรับโหมดการขับขี่ยังเพิ่มเติมโหมด Comfort เพื่อครอบคลุมลักษณะของการใช้งานที่มีความหลากหลาย นอกเหนือไปจากนั้นโหมดการขับขี่ยังคงเหมือนเดิมเช่น ECO-Pro / Sport / Sport+ กับสวิตช์ปรับการควบคุมขณะขับขี่ในสภาพทางที่มีความลาดชันเป็นพิเศษ หัวเกียร์มีลักษณะคล้ายกันกับเกียร์ในยุคใหม่ของค่ายใบพัดโดยมีสวิตช์เบรกมือแบบไฟฟ้าที่ใช้งานได้อย่างสะดวกสบายเพียงแค่กดลงไปยังตำแหน่งสัญลักษณ์รูปตัว P เมื่อต้องการจอด ส่วนที่วางแก้วน้ำกับช่องวางของกระจุกกระจิกมีอยู่ทั่วทั้งคอนโซลกลาง แผงคอนโซลที่ขึ้นรูปด้วยโฟมแล้วห่อหุ้มด้วยวัสดุประเภทหนังสีดำมีความประณีตสูงสุดทั้งขั้นตอนของการออกแบบและการติดตั้ง เหลี่ยมมุมของคอนโซลมีมิติที่เข้ากับพอดิบพอดีโดยมีวัสดุซับเสียงห่อหุ้มอยู่ภายในเพื่อการลดเสียงรบกวนจากภายนอก สำหรับเบาะผู้โดยสารตอนหลังยังมีช่องแอร์รวมถึงแผงควบคุมระบบปรับอากาศที่แยกการควบคุมจากแผงอุปกรณ์ส่วนหน้าเพื่อให้ผู้โดยสารตอนหลังกำหนดค่าอุณหภูมิด้วยตัวเอง
เครื่องยนต์ : ให้ความเพลิดเพลินในการขับขี่มากขึ้นและมีประสิทธิภาพสูงขึ้นทั้งแรงบิดและความประหยัด ด้วยเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo
นับเป็นครั้งแรกที่ BMW X5 กำหนดมาตรฐานใหม่ของเครื่องยนต์ซึ่งถือเป็นหัวใจของการขับเคลื่อนที่ให้ทั้งแรงบิดระดับสุดยอดที่รอบต่ำและประสิทธิภาพที่ดีในด้านความประหยัด ความเพลิดเพลินในการขับขี่ผนวกเข้ากับสมรรถนะของเครื่องยนต์รุ่นใหม่ เครื่องยนต์ V8 ที่ ติดตั้งใน BMW X5 xDrive50i มีพัฒนาการเพิ่มขึ้นมากกว่าเครื่อง V8 รุ่นที่ผ่านมาถึงร้อยละ 10 เมื่อเปรียบเทียบกับ X5 4.8 รุ่นที่แล้ว เครื่องยนต์ตัวใหม่มีเรี่ยวแรงเพิ่มเติมขึ้นมาอีก 30 แรงม้าหรือ 43 kW พลังงานที่เพิ่มมากขึ้นเป็น 330 kW/450 hp มากกว่ารุ่นก่อนหน้าอยู่พอสมควรทั้งแรงม้าและแรงบิด การลดลงของอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย เกิดขึ้นจากการปรับปรุงกลไกภายในที่ลงตัวทั้งหัวฉีด ระบบวาล์วและระบบส่งกำลัง เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ได้เข้ามาช่วยให้การปล่อยมลพิษลดลงจนถึงระดับ EURO-6 นอกเหนือไปจากนั้น ระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบคู่หรือ Twin-turbochargers กับความแม่นยำสูงสุดของระบบฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบไดเรคอินเจคชั่น รวมถึงวาล์วแปรผันต่อเนื่อง Valve-tronic กลายเป็นตัวแปรทางกลศาสตร์ที่ส่งผลให้การตอบสนองของเครื่องยนต์รุ่นล่าสุดดีขึ้นและเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ แรงบิดสูงสุดจากเครื่องยนต์ 4.4 ลิตร เพิ่มเป็น 650 นิวตันเมตร ในรอบเครื่องยนต์ระหว่าง 2,000 ไปจนถึง 4,500 รอบต่อนาที รถ BMW X5 รุ่น xDrive50i เร่งจาก 0-100 กม. / ชม. ( 0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง)ใน 5.0 วินาที อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ตัวเลขระหว่าง 10.4 และ 10.5 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร การปล่อย CO2 ลดลง 50 กรัมต่อ 1 กิโลเมตร ที่ 242-244 กรัม / กิโลเมตร (ตามค่าของการทดสอบในสหภาพยุโรปโดยขึ้นอยู่กับรูปแบบและขนาดของยาง)
BMW X5 xDrive30d คือรุ่นที่ BMW Group Thailand จะนำเข้ามาขายในประเทศไทย เครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ล่าสุด เป็นเครื่องยนต์แบบแถวเรียง 6 กระบอกสูบ ใช้การปรับปรุงรายละเอียดต่างๆ ของชิ้นส่วนภายในให้มีความสมดุลดีขึ้นกว่าเครื่องยนต์ของรถ X5 รุ่นก่อนหน้านั้นพอสมควร เครื่องยนต์ดีเซลความจุ 3.0 ลิตร มีความเชื่อมโยงกันระหว่างประสิทธิภาพของการทำงานและการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร ใช้เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ประกอบด้วยหัวฉีดไฟฟ้าคอมมอลเรลไดเรคอินเจคชั่น ระบบอัดอากาศแบบ Turbocharging พัฒนาจนถึงขีดสุดของสมรรถนะโดยสามารถให้กำลังสูงสุด 190 กิโลวัตต์ หรือ 258 แรงม้า (เพิ่มขึ้น 10 kW หรือ 13 แรงม้าจากเครื่องยนต์รุ่นเก่า) แรงบิดสูงสุดมาในรอบต่ำ โดยมีตัวเลขแรงบิดมากถึง 560 นิวตันเมตร หรือ 413 ปอนด์-ฟุต (เพิ่มขึ้น 20 นิวตันเมตร หรือ15 ปอนด์-ฟุต) ระหว่างย่านรอบเครื่องยนต์ที่ 1,500 ถึง 3,000 รอบต่อนาที สำหรับ BMW X5 xDrive30d มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม. / ชม. (0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง) ในเวลาเพียง 6.9 วินาที (ลดลง 0.7 วินาที) ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยในวงจร การทดสอบของสหภาพยุโรป บนตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ 6.2 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร ค่าการปล่อย CO2 อยู่ที่ 162 ถึง 164 กรัม / กิโลเมตร สำหรับ BMW X5 xDRIVE 30d เมื่อถูกนำเข้ามาขายในไทย เครื่องยนต์จะถูกปรับทอนแรงม้าเหลือ 218 แรงม้าจากอัตราภาษี แต่ไม่ต้องกังวลเพราะแรงบิดของมันยังอยู่ครบเหมือนเดิม
อารมณ์สปอร์ตของ SUV รุ่นล่าสุดจากค่ายใบพัด เครื่องยนต์ดีเซลรุ่นพิเศษมีศักยภาพมากขึ้น ใน BMW X5 รุ่น M50d กำหนดประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ในระดับที่เกือบเท่าเทียมกันกับตัวรถ X5 ในรุ่น M เช่นเดียวกันกับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 3.0 ลิตร จากผลการดำเนินงานด้านการปรับตั้ง ควบรวมกับเทคโนโลยี M TwinPower Turbo โดยการวางระบบอัดอากาศซึ่งใช้เทอร์โบแบบแปรผันจำนวน 3 ตัวทำงานในรอบเครื่องยนต์ที่มีความแตกต่างกันตั้งแต่ช่วงออกตัวไปจนถึงย่านความเร็วสูงสุด เทอร์โบตัวที่ 1 ซึ่งมีขนาดเล็กจากการออกแบบรับผิดชอบเสริมแรงบิดที่ดีตั้งแต่รอบต้นไปจนถึงรอบกลาง เทอร์โบตัวที่สองเข้ามารับหน้าที่ต่อในรอบกลางเพื่อคงสมรรถนะด้านอัตราเร่งที่ครอบคลุม ส่วนเทอร์โบตัวที่ 3 รับหน้าที่สร้างแรงบูสในรอบเครื่องยนต์ปานกลางถึงสูงสุด การส่งถ่ายพลังงานในรูปของแรงบิดที่มีความต่อเนื่องสูงสุดเมื่อทำงานร่วมกับระบบส่งกำลังแบบ 8 สปีดของ ZF ซึ่งสามารถลดรอบเครื่องยนต์ขณะใช้ความเร็วเดินทาง (ความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจะมีรอบเครื่องยนต์อยู่ในระดับตัวเลข 1,800 รอบต่อนาที) ระบบจ่ายเชื้อเพลิงขั้นยิ่งยวดแบบดีเซลคอมมอลเรลไดเรคอินเจคชั่น น้ำมันเชื้อเพลิงจะถูกส่งผ่านทางระบบรางร่วมกันกับหัวฉีดแรงดันสูงแบบ Piezo การพัฒนาระบบจ่ายเชื้อเพลิงซึ่งใช้แรงดันสูงสุดถึง 2,200 บาร์ เครื่องยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูลดีเซลตัวนี้ มีเอาท์พุทสูงสุดที่ 280 กิโลวัตต์หรือ 381แรงม้าแรงบิดสูงสุดมากถึง 740 นิวตันเมตร หรือ 546 ปอนด์-ฟุต ซึ่งอยู่ระหว่างรอบเครื่องยนต์ที่ 2,000 ถึง 3,000 รอบต่อนาที เร่งจาก 0-100 กม. / ชม. (0-62 ไมล์) ได้ในเวลา 5.3 วินาที (ลดลง-0.1 วินาที) มีค่าเฉลี่ยอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง 6.7 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร ค่าการปล่อยของเสียหรือ CO2 อยู่ที่ 177 กรัมต่อ 1 กิโลเมตร (ลดลง 22 กรัมต่อ 1 กิโลเมตร)
ในส่วนของ BMW X5 อีก 3 รุ่นที่จะวางขายในยุโรปและอเมริการวมถึงบางประเทศในเอเชีย (ยกเว้นประเทศไทย) ช่วงเดือนธันวาคม 2013 ประกอบไปด้วย X5 รุ่น xDrive35i (225 kW/306 hp) เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 6 กระบอกสูบ ปริมาตรความจุ 3.0 ลิตร มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย ที่ 8.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร และ ปล่อย CO2 199 กรัม ต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร ในขณะเดียวกัน รถ X5 รุ่น xDrive40d (230 kW/313 hp) จะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยเปรียบเทียบกับปริมาณระยะทางการใช้งานอยู่ที่ 6.4 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรโดยมีการปล่อย CO2 169 กรัม ต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร สำหรับรุ่นเครื่องยนต์เล็กสุด ค่ายใบพัดทำการปรับปรุงเครื่องยนต์ดีเซลสมรรถนะสูงขนาด 2.0 ลิตรแบบแถวเรียง 4 กระบอกสูบอัดอากาศด้วยเทคโนโลยี TwinPower Turbo ย่านของกำลังในรถ X5 รุ่นนี้ (xDrive25d) อยู่ที่ระดับ 160 kWหรือ 218 แรงม้า BMW X5 xDrive25d มีตัวเลขการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง เฉลี่ย 5.9 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร โดยมีค่าการปล่อย CO2 ที่ 155 กรัม ต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร สำหรับรุ่นขับเคลื่อนสองล้อหลัง BMW X5 sDrive25d จะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย ที่ 5.6 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร และ ปล่อย CO2 ที่ 149 กรัมต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร (ตัวเลขชั่วคราวผ่านการทดสอบจาก EU)
PHOTO BY Nikon D7100 + Nikkor 70-200 f2.8 G ED VR NANO + Nikkor 17-55 f2.8
VDO
BMW X5 xDRIVE 30D F15 Specifications
Displacement.............................................2,993 cm3
Power........................................................190 KW @ 4,000 RPM 258 HP @ 4000 RPM 255 BHP @ 4,000 RPM
Torque.......................................................413 lb-ft @ 1,500-3,000 RPM 560 Nm @ 1,500-3,000 RPM
Fuel System...............................................BMW TwinPower Turbo technology: variable-geometry turbocharger, Common Rail direct injection with solenoid valve injectors (max. injection pressure: 1800 bar)
Fuel............................................................Diesel
CO2 Emissions..........................................162 g/km
performance
Top Speed.................................................143 mph OR 230 km/h
Acceleration 0-62 Mph (0-100 kph)..........6.9 s
fuel consumption
City.............................................................33.6 mpg US OR 7 L/100Km
Highway.....................................................41.3 mpg US OR 5.7 L/100Km
Combined...................................................37.9 mpg US OR 6.2 L/100Km
transmission Drive Type............................All Wheel Drive
Aspiration...................................................TwinPower Turbo D.
Gearbox......................................................ZF Eight-speed automatic with Steptronic
brakes Front................................................Ventilated Discs
Rear.............................................................Solid Discs
Front brake diameter...................................332 mm
Rear brake diameter....................................320 mm
Wheel and tires
Wheel size front..........................................9Jx19
Wheel size rear............................................9Jx19
Tire Size front.............................................255/50 R19 Goodyear Eagle F1 SUV 4x4
Tire Size rear...............................................255/50 R19 Goodyear Eagle F1 SUV 4x4
dimensions
Length.........................................................192.4 in OR 4,887 mm
Width...........................................................76.3 in OR 1,938 mm
Height..........................................................69.4 in OR 1,763 mm
Front/rear Track...........................................64.6/64.8 in OR 1,641/1,646 mm
Wheelbase...................................................115.5 in OR 2934 mm
Ground Clearance........................................8.2 in OR 208 mm
Cargo Volume..............................................23 cuFT OR 651 L
Cd...............................................................0.31
Weight.........................................................4,564 lbs OR 2,070 kg
Gross Weight Limit.....................................5,908 lbs OR 2,680 kg
Fuel tank capacity.......................................85 litres18.7 UK Gal22.5 US Gal
Safety And Security
4-wheel
ABS
Front and rear head airbags
Dual front side-mounted airbags
Child seat anchors
Remote anti-theft alarm system
Emergency braking assist
Front and rear ventilated disc brakes
Rear door child safety locks
Cornering lights
Daytime running lights
Engine immobilizer
Front fog/driving lights
Auto delay off headlamps
Dusk sensing headlamps
Xenon high intensity discharge headlamp2 front headrests3 rear headrests
Passenger airbag occupant sensing deactivation
Rear center 3-point belt
Front seat-belt pretensioners
Turn signal mirrors
Stability control
Traction control
Electronic brake-force distribution
Front power adjustable headrests
Rear height adjustable headrests
Post-collision safety system
Passenger head restraint whiplash protection system
Emergency braking preparation
Driver head restraint whiplash protection system
Adaptive headlights
Self-leveling headlights
Tire pressure monitoring
Brake drying