พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
กันยายน 2556
 
12 กันยายน 2556
 
All Blogs
 

ทดสอบ SUBARU FORESTER 2.0 AWD (ตอนที่1)

ทดสอบ SUBARU FORESTER 2.0 AWD (ตอนที่1)

ทดสอบยนตรกรรมขับเคลื่อน 4 ล้อ Subaru Forester 2.0i Premium ตอนแรกพบกับการรีวิว รูปลักษณ์สัดส่วนภายนอก-ภายใน เครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่าง ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ในราคาค่าตัว 1,890,000 บาท...

SUV หรือ Sport utility vehicle ได้รับความนิยมชมชอบจากผู้ใช้รถยนต์เพิ่มมากขึ้นทุกขณะ มันคือยานยนต์อเนกประสงค์ที่สามารถขับลุยไปในพื้นที่ทุรกันดาร วิ่งได้ดีทั้งในและนอกเมือง มีขนาดของห้องโดยสารใหญ่โตราวกับศาลาการเปรียญ และมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน สิ่งที่สำคัญที่สุดของรถยนต์ประเภทนี้คือระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อที่ส่งให้สมรรถนะในการลุยของมันก้าวข้ามอุปสรรคทั้งปวงเพื่อการผจญภัย แม้ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการทำความเร็วในโค้งมุมแคบ เฉกเช่นเดียวกันกับซุปเปอร์คาร์ที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการบุกตะลุย แต่ความดีด้านประสิทธิภาพของการใช้งานที่ครอบคลุมทำให้ความนิยมไม่มีวันเสื่อมคลาย นับจากอดีต Subaru คือค่ายผู้ผลิตรถยนต์ที่เน้นสมรรถนะในด้านของการส่งกำลังและสภาพการควบคุมที่โดดเด่นจากระบบขับเคลื่อนทุกล้อหรือ Symmetrical All Wheel Drive (AWD) พร้อมๆ ไปกับเครื่องยนต์สูบนอนแบบ Boxer ซึ่งตอบสนองต่อการขับขี่ได้ดั่งใจนึก โมเดล Forester ในยุคแรกๆ มีขนาดตัวถังที่กะทัดรัดคล้ายกับเอารถแฮตช์แบคมาดัดแปลงด้วยการยกสูงผนวกเข้ากับชุดขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลาที่เกาะหนึบราวกับตุ๊กแก กาลเวลาที่ผ่านไปส่งผลให้ New Forester มีขนาดที่อวบอ้วนใหญ่โตขึ้นในทุกมิติ มันสามารถก้าวข้ามจากคำว่า Crossover มาเป็น SUV-Sport utility vehicle ได้อย่างเต็มภาคภูมิด้วยเรือนร่างใหม่ของโมเดลล่าสุดประจำปี 2013


สัดส่วนของตัวถัง Subaru Forester 2.0i มีขนาดความยาว 4,595 มิลลิเมตร กว้าง 1,796 มิลลิเมตรและสูงถึง 1,735 มิลลิเมตร เมื่อวัดจากแรคหลังคาไปจนถึงพื้นบ่งบอกให้รู้ว่า Forester รุ่นล่าสุดผ่านการบ่มเพาะร่างกายจนมีเรือนร่างที่โตขึ้นมากเมื่อเปรียบเทียบกับยุคแรกๆ ที่ยังคงเป็นเพียงแค่ Crossover ขนาดกะทัดรัด ความเปลี่ยนแปลงทางสายพันธุ์เกิดขึ้นเพื่อเพิ่มเติมความอเนกประสงค์ด้วยขนาดของพื้นที่ห้องโดยสารกว้างมากขึ้น รูปลักษณ์ด้านหน้าสื่อให้เห็นถึงความเป็นตัวลุยของค่ายหมู่ดาวด้วยกระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยมพร้อมด้วยกันชนหรือสปอยเลอร์ด้านหน้าที่ปิดคลุมส่วนหน้าของตัวรถ ไฟหน้าที่ดูแข็งๆประกอบไปด้วยโคมไฟที่ใช้หลอดแบบซีนอนซึ่งให้ความสว่างมากกว่าไฟแบบฮาโลเจน ภายในพลาสติกโพลิเมอร์ใสของชุดไฟหน้ายังมีไฟ LED Daytime Runing และไฟเลี้ยวทรงกลมสีเหลืองอยู่กรอบเดียวกัน ส่วนไฟตัดหมอกที่มีความจำเป็นสำหรับการใช้งานบนรถแบบ SUV ถูกติดตั้งอยู่ตรงมุมทั้งสองข้างของสปอยเลอร์หน้า กระจังหน้าเดินเส้นด้วยพลาสติกโครเมี่ยมสีเงินเน้นความคมเข้ม ส่วนฝากระโปรงหน้านั้นถูกออกแบบให้มีความกลมกลืนไปกับรูปทรงของกระจังโดยยกมุมเป็นลอนเล็กน้อยเพื่อเพิ่มมิติของแสงเงา รถคันทดสอบยังมีอุปกรณ์ฉีดน้ำเพื่อทำความสะอาดโคมไฟหน้าติดตั้งมาให้จากโรงงานอีกด้วย


ทีมออกแบบผู้พัฒนาโมเดล Forester ให้ความสำคัญกับทัศนวิสัยมุมมองรอบตัวโดยเน้นความโปร่งโล่งของแนวสายตาด้วยการลดขนาดเสาทุกต้นเพื่อไม่ให้เข้ามาบดบังสายตาของผู้ขับขี่ กระจกบานหน้าขนาดใหญ่ตามสไตล์ของรถ SUV รวมถึงเสาหน้า เสากลางและท้ายที่มีขนาดไม่ใหญ่โตจนทำให้มองรอบตัวลำบาก แนวด้านข้างตัวถังเรียบๆ มีพลาสติกกันกระแทกห่อหุ้มชายล่างที่เหมาะสมกับการลุย กระจกมองข้างย้ายตำแหน่งจากที่เคยติดตั้งอยู่ใกล้กับหูช้างก็ยังย้ายมาติดที่บานประตูแทนที่แบบเดิมซึ่งเพิ่มช่องทางในการมองได้ดีมากยิ่งขึ้น โป่งล้อกับซุ้มล้อขนาดใหญ่ มันกว้างมากพอที่จะทำให้ล้ออะลูมินั่มอัลลอยขอบ 17 นิ้วดูเล็กมากจนเกินไป แต่ขอบล้อขนาด 17 นิ้วก็มีความเหมาะสมกับการใช้วิ่งในพื้นที่ขรุขระมากกว่าล้อขอบ 18-19 นิ้ว ซึ่งใช้ยางที่มีราคาค่าตัวสูงเป็นพิเศษแถมยังขับได้ยากจากขนาดความเตี้ยของแก้มยาง รถ Subaru Forester 2.0i ใส่ยางของ Yokohama รุ่น Geolander G91 เป็นยังกึ่งเรียบกึ่งลุยเนื้อนิ่มสมรรถนะดีของญี่ปุ่นไซส์ 225/60/R17 99V ทั้งสี่ล้อ ขนาดความกว้างของกระจกบังลมรอบคันดังที่กล่าวมาแล้วว่าช่วยให้มองเห็นได้กว้างไกลสุดๆ แม้ในตำแหน่งฝาท้ายก็ยังคงมีขนาดที่ใหญ่โตราวกับรถบรรทุก แนวของหลังคามีขายึดแรคทำจากอะลูมินั่มอัลลอยติดตั้งมาจากโรงงานในประเทศญี่ปุ่น ลืมบอกไปว่า New Subaru Forester ทุกรุ่นถูกนำเข้ามาแบบทั้งคันจากแดนปลาดิบ โดยมีออฟชั่นซึ่งเป็นอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสำหรับการใช้งานแถมมาให้พอสมควรแก่ระดับของราคา รวมถึงยางคุณภาพดีจาก  Yokohama ซึ่งมีราคาค่อนข้างแพงหากต้องหาซื้อมาใส่เอง


บั้นท้ายคล้ายกับรถ MPV จากขนาดของความกว้าง ไฟท้ายเรียบๆ ทำให้สัดส่วนด้านท้ายของ New Forester ขาดความน่าสนใจไปพอสมควรแต่ถูกขจัดออกไปด้วยพื้นที่ของการใช้สอยซึ่งให้มามากเกินพอสำหรับพวกบ้าขนของ คุณสามารถใส่จักรยานสองคันด้วยการถอดล้อออก หรือกระเป๋าเดินทางจำนวนมากพอๆ กับการย้ายบ้านหนีเจ้าหนี้ เบาะผู้โดยสารตอนหลังที่สามารถพับได้ช่วยเพิ่มเติมพื้นที่ของการขนสัมภาระชนิดจุใจ ฝาท้ายเปิดออกได้ด้วยมุมที่กว้างสุดๆ เพื่อการขนที่ไร้ข้อจำกัด รวมถึงแผ่นพลาสติกที่สามารถดึงมาคลุมหรือหดกลับเพื่อเก็บหากสิ่งของที่ขนไปด้วยมีขนาดใหญ่โตมโหฬาร ไฟท้ายทำจากพลาสติกสีแดง-ขาวยังคงใช้หลอดไฟท้ายแบบธรรมดาแทนที่จะเป็นหลอด LED ส่วนสปอยเลอร์หลังหรือกันชนด้านหลังนั้นมีแถบสะท้อนแสงทำจากพลาสติกสีแดงแปะติดไว้ที่มุมทั้งสองข้างของสปอยเลอร์หลังเพื่อช่วยเพิ่มมุมมองเมื่อขับขี่หรือจอดรถในตอนกลางคืน กระจกบานฝาท้ายที่กว้างมากยังมีใบปัดน้ำฝนด้านหลังติดมาให้และมันสามารถปัดทำความสะอาดบานกระจกหลังเพื่อให้ความปลอดภัยเมื่อขับขี่ท่ามกลางสายฝน ชิ้นงานครอบทับมุมบนของกระจกบานหลังยังมีไฟเบรกดวงที่สามซึ่งวางตำแน่งของการติดตั้งเอาไว้สูงมากจนมองเห็นได้แต่ไกลเมื่อกดเบรก ที่ชอบมากคือกลไกของก้านยึดฝาท้ายซึ่งช่วยผ่อนแรงขณะที่ทำการเปิดหรือปิดฝาหลังได้เป็นอย่างดี


ภาพรวมของห้องโดยสารใน New Forester ถือว่าสอบผ่านแม้จะอุดมไปด้วยพลาสติกนานาชนิด คอนโซลขึ้นรูปด้วยโฟม ห่อหุ้มด้วยวัสดุประเภทหนังช่วยซับเสียงได้ดีและมีต้นทุนสุงกว่าคอนโซลแบบพลาสติกหล่อขึ้นรูปที่มีราคาต่ำกว่า งานออกแบบภายในยังคงกลิ่นอายของ Subaru เอาไวทุกอนู ทั้งตำแหน่งของการจัดวางอุปกรณ์และวัสดุที่เลือกใช้ แผงแดชบอร์ดมีขนาดกะทัดรัดเนื่องจากองศาของกระจกบานหน้าไม่ได้ลาดเอียงมากเหมือนกับ CRV คอนโซลของ Forester ประกอบไปด้วยช่องแอร์ทรงสี่เหลี่ยม ด้านบนวางจอมัลติฟังก์ชั่นเล็กเพื่อแจ้งค่าและข้อมูลต่างๆ ของตัวรถขณะขับขี่ จอขนาดกะทัดรัดที่มองได้ค่อนข้างยากจากขนาดความเล็กถูกบรรจุไปด้วยหน่วยประมวลผลของระบบขับสี่ล้อ โหมดการขับเคลื่อน 4 ล้อเต็มรูปแบบใน X-mode แจ้งการคำนวณระดับของเชื้อเพลิงในถังต่อระยะทางที่สามารถวิ่งไปถึง อุณหภูมิภายนอกรถ ระบบของแรงบิดที่กระจายไปยังล้อทั้งสี่ขณะขับ นาฬิกาดิจิตอลแบบเข็ม ระยะทางของการขับเฉลี่ยกับอัตราสิ้นเปลือง รวมถึงยังเป็นมอนิเตอร์ให้กับชุดเครื่องเสียงเมื่อเล่นอุปกรณ์พกพาจากภายนอกพวก iPOD ด้านซ้ายของจอมัลติฟังก์ชั่นยังมีจอเล็กๆ ของระบบปรับอากาศที่คอยบอกถึงระดับของอุณหภูมิภายในห้องโดยสาร โหมดการปรับตั้งและระดับความเร็วของพัดลมภายในชุดทำความเย็น


เบาะโดยสารทุกตำแหน่งหุ้มด้วยหนังแท้นั่งนิ่มนุ่มสบาย เบาะคู่หน้าปรับตั้งท่าทางของการนั่งขับได้ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ตำแหน่งท่านั่งที่สูงโด่งสมกับความเป็นตัวตนแบบ SUV เบาะผู้โดยสารตอนหลังสามารถนั่งได้สามคน แต่ต้องเป็นคนรูปร่างไม่ใหญโตมากนักถึงจะนั่งโดยสารกันได้สะดวก ชุดบังคับเลี้ยวใช้พวงมาลัยไฟฟ้าแบบแปรผันตามความเร็ว ประกอบไปด้วยพวงมาลัยทรงสปอร์ตแบบสามก้านเย็บหุ้มรอบวงด้วยหนังแท้ ก้านของพวงมาลัยยังมีสวิตช์ปรับตั้งเครื่องเสียง สวิตช์รับและวางสายโทรศัพท์แบบบลูทูธ สวิตช์ปรับตั้งความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control และสวิตช์ควบคุมจอมัลติฟังก์ชั่นของระบบขับเคลืิ่อนกับปุ่มสี่เหลี่ยมกดปรับโหมดการขับขี่ซึ่งมีทั้งโหมดประหยัด intelligent mode กับโหมดซิ่งใช้ความเร็วใน sport mode ส่วน X-mode มีตำแหน่งของสวิตช์ที่ใช้กดอยู่ใกล้กับคันเกียร์ออโต้ หลังวงพวงมาลัยแบบสปอร์ตยังมีแป้นเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ Paddle Shift ติดมาให้ใช้งานสำหรับการชิฟเกียร์ด้วยตัวของผู้ขับขี่เอง สังเกตดูก็เห็นว่าแป้นเปลี่ยนเกียร์นั้นนำมาจากรถสปอร์ตรุ่น BRZ แท้จะมีขนาดเล็กกะทัดรัดแต่อยู่ในจุดที่นิ้วมือสามารถกดใช้งานได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว


หน้าปัดมาตรวัดแบบเรียบๆ ได้กลายมาเป็นแบบอย่างของห้องโดยสารใน Subaru ยุคปัจจุบัน มาตรวัดรอบและความเร็วมีขนาดเท่ากัน ตรงบริเวณกึ่งกลางของมาตรวัดทั้งสองมีจอ MID Multi information display แจ้งเชื้อเพลิงภายในถัง ตำแหน่งของเกียร์ในโหมดแมนนวลและทริปมิเตอร์ A-B รวมถึงแจ้งโหมดการขับขี่ในขณะนั้นๆ มาตรวัดทรงกลมของวัดรอบเครื่องยนต์และวัดความเร็วซึ่งใช้หน่วยเป็นกิโลเมตรมีขนาดโตเพื่อการอ่านค่าที่ชัดเจน บริเวณคอนโซลกลางมีช่องแอร์สำหรับให้ความเย็น ต่ำลงมาเป็นที่อยู่ของชุดเครื่องเสียงคุณภาพดีแต่มีน่าตาโบร่ำโบราณไปนิด เครื่องเสียงแบบ CD ยัดด้านหน้าแผ่นเดียว กับช่องเชื่อมต่ออุปกรณ์เล่นเพลงจากภายนอก AUX-USB ตามสมัยนิยมที่ขาดไม่ได้ ชุดควบคุมอุณหภูมิคล้ายกับรุ่นน้อง XV เป็นปุ่มทรงกลมสามตำแหน่งเพื่อการปรับทิศทาง ระดับความเร็วของพัดลมแอร์และปุ่มบิดหมุนเพื่อเร่งหรือลดอุณหภูมิภายในห้องโดยสาร ช่องวางของมีขนาดใหญ่และลึก ใช้วางพวกกระเป๋าเงินใบเล็กๆ หรือโทรศัพท์มือถือ ซุ้มเกียร์ขนาดกะทัดรัดใช้พลาสติกสีเงินทำเป็นแผงเกียร์กับคันเกียร์หน้าตาบ้านๆ ที่ใช้งานได้คล่องมือ ช่องสำหรับวางแก้วน้ำหรือเครื่องดื่มยามเดินทางไกลกับกล่องเก็บของแบบมีฝาปิดที่เป็นพนักเท้าแขนไปในตัว ที่ถูกอกถูกใจนักขับคือคันเบรกมือหุ้มหนังแท้แบบสปอร์ตที่ใช้งานได้ดีกว่าคันเบรกมือที่ต้องใช้เท้าเหยียบหรือใช้แบบสวิตช์กด


Subaru Forester 2.0i คันทดสอบวางเครื่องยนต์เบนซินสูบนอนแบบ Boxer 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผันทั้งสองฝั่ง (ฝั่งไอดีและฝั่งไอเสีย) เพื่อทำให้เครื่องยนต์สามารถเค้นประสิทธิภาพที่แท้จริงออกมา ระบบวาล์วแปรผันทั้งฝั่งไอดีและไอเสียจะควบคุมการทำงานของวาล์วไอดีโดยควบคุมระยะและช่วงเวลาของการเปิด-ปิดวาล์วไอดีให้มีความเหมาะสมประสานไปกับการทำงานของรอบเครื่องยนต์ ในรอบเครื่องยนต์ต่ำ เครื่องยนต์ FA20 แบบสูบนอนต้องการอากาศในการเผาไหม้ในปริมาณที่ต่ำกว่ารอบเครื่องยนต์สูงซึ่งคล้ายคลึงกับเครื่องยนต์แบบแถวเรียงสี่สูบทั่วๆ ไป เปรียบเทียบได้กับการที่คนเราเดินและวิ่ง ต่างก็ต้องการอากาศในการหายใจที่ไม่เท่ากัน โดยระบบวาล์วแปรผัน Double Continuous Variable Cam Phasing จะบังคับให้วาล์วไอดีตัวที่หนึ่งเปิดน้อยกว่าวาล์วไอดีอีกตัวหนึ่ง ทำให้อากาศไหลเข้าสู่ห้องเผาไหม้ในปริมาณที่เหมาะสม กับที่เครื่องยนต์ต้องการในการเผาไหม้ สำหรับที่รอบเครื่องยนต์สูง ระบบจะบังคับให้วาล์วไอดีทั้ง 2 ตัว เปิดในระยะที่กว้างขึ้น และในช่วงเวลาที่มากขึ้น เพื่อทำให้อากาศที่ไหลเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้มากขึ้น เพียงพอกับการที่เครื่องยนต์ในรอบเครื่องยนต์สูงต้องการ Double Continuous Variable Cam Phasing หนึ่งในระบบแปรผันการเปิด-ปิดวาล์ว เพื่อให้เกิดกำลังสูงอย่างต่อเนื่องในช่วงกว้าง และมีการตอบสนองดีทุกความเร็วรอบของเครื่องยนต์เครื่องยนต์ 4 จังหวะที่ใช้กันทั่วไป มีการทำงานแบ่งเป็น 4 จังหวะ ดูด-อัด-ระเบิด-คาย โดยการหายใจเข้าในจังหวะดูดและการหายใจออกในจังหวะคายของเครื่องยนต์ ทำโดยผ่านตัววาล์วไอดีและไอเสีย ซึ่งมีการควบคุมการเปิด-เปิดด้วยลูกเบี้ยวบนแคมชาฟต์ (เพลาราวลิ้น) ทำหน้าที่กำหนดให้มีช่วงระยะเวลา ความนาน และระยะยกของการเปิดวาล์วตามที่ออกแบบไว้ แท่งแคมชาฟต์จะมีลูกเบี้ยวเพิ่มขึ้น และมีระบบกระเดื่องกดวาล์วแบบพิเศษเพิ่มขึ้นมา คอยสลับชุดลูกเบี้ยวใช้งานในแต่ละรอบ ในช่วงเครื่องยนต์หมุนรอบต่ำถึงปานกลางใช้ลูกเบี้ยวชุดหนึ่ง พอเข้าสู่ช่วงรอบสูงก็สลับกระเดื่องไปใช้ลูกเบี้ยวอีกชุดหนึ่งในการเปิดวาล์ว สำหรับปริมาตรความจุของเครื่อง FA20 เท่ากับ 1,995 ซีซี เครื่องยนต์เป็นแบบแคมคู่ DOHC เป็นเครื่องหายใจเองโดยไม่มีระบบอัดอากาศ สร้างเรี่ยวแรงได้ 150 แรงม้า กับแรงบิดพอท้วมๆ ที่ 198 นิวตันเมตรหรือ 20.2 กิโลกรัมเมตร จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดไฟฟ้า Multi point Sequential injection (Port injection) ระบบส่งกำลังวางเกียร์อัตโนมัติแบบ Lineartronic - continuously variable transmission CVT แบบอัตราทดผกผันสามารถชิฟเกียร์เองโดยมีตำแหน่งเกียร์ให้มาถึง 6 สปีด นับเป็นนวัตกรรมแบบใหม่ของเกียร์อัตโนมัติที่ใช้สายพานแบบโซ่ที่แข็งแกร่งและถ่ายทอดกำลังได้ดีกว่าเกียร์ CVT ที่ใช้สายพานยาง แม้จะใช้สายพานโลหะแต่ความนิ่มนวลในการส่งถ่ายแรงบิดจากเครื่องยนต์ไปยังล้อขับเคลื่อนทั้งสี่กลับมีความนิ่มนวลเนื่องจากการออกแบบห้องเกียร์และวางกลไกของชุดเฟือง สมรรถนะที่เคมจากโรงงานมันมีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลา 11.4 วินาทีและมีความเร็วสูงสุดที่ 192 กิโลเมตรต่อชั่วโมง


ช่วงล่างด้านหน้าใช้แบบแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้คอัพและเหล็กกันโคลง ส่วนระบบรองรับด้านหลังเป็นแบบดับเบิ้ลวิชโบน โช้คอัพสปริงและเหล็กกันโคลง ช่วงล่างและจุดยึดรวมถึงมุมทางเรขาคณิตของ Subaru ออกแบบมาเพื่อประสิทธิภาพของการขับขี่ทั้งบนทางเรียบและทางลุย มีความแข็งแกร่งทนทาน รองรับการขับในสภาพทางที่มีความทุรกันดานและเหมาะสมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลา โหมดการขับเคลื่อนสำหรับลุย X-Mode เมื่อถูกเปิดใช้งานการผ่านการควบคุมด้วยสวิทช์สีเงินเหนือคันเกียร์ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อจะทำการปรับตัวเองโดยอัตโนมัติเพื่อช่วยในการรักษาความเร็วให้มีความคงที่เมื่อต้องลุยฝ่าทางวิบากโดยเฉพาะทางลงเขา ระบบจะเข้าควบคุมการหมุนของล้อแต่ละข้าง เพื่อลดหรือเพิ่มแรงบิดไปยังล้อที่เสียสมดุล ซึ่งเข้ามาช่วยให้รถมีความปลอดภัยขณะขับผ่านทางโค้งขึ้น-ลงเนินเขาที่สูงชัน ระบบห้ามล้อแบบมาตรฐานใช้ดิสเบรกทั้ง 4 ล้อ คาร์ลิปเปอร์เบรกแบบอลูมิเนียมน้ำหนักเบาและมีความแข็งแรง เบรกให้สัมผัสมั่นใจด้วยระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) รวมถึงระบบกระจายแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์เพื่อแบ่งสันปันส่วนเฉลี่ยแรงเบรกไปที่ด้านหน้า / หลังโดยผ่องถ่ายแรงดันเบรกเพิ่มขึ้นเมื่อรถมีการโหลดน้ำหนักบรรทุก เพื่อให้แน่ใจว่าการใช้เบรกแบบฉุกเฉินสามารถทำให้ตัวรถหยุดได้ในระยะที่ปลอดภัย


ความสมมาตรและมีเสถียรภาพด้านการทรงตัวในระดับที่ดี ช่วยให้ผู้ขับขี่มีภารกรรมน้อยลงจากความสมดุล วิศวกรของ Subaru ออกแบบรถคันนี้เพื่อให้ความมั่นใจในด้านการขับเคลื่อนบนทุกย่านความเร็ว นั่นคือเหตุผลที่ Subaru ทำการพัฒนากลไกขับสี่ล้อตลอดเวลาแบบ Symmetrical AWD มาตั้งแต่ปี 1972 และยังคงก้าวต่อไปกับโหมดขับเคลื่อนล่าสุดหรือ X-Mode ระบบขับเคลื่อนแบบทุกล้อตลอดเวลา เพิ่มการส่งมอบพลังงานในรูปของแรงบิดจากเครื่องยนต์มายังชุดส่งกำลังและไปที่เพลาขับ แรงฉุดที่ดีตั้งแต่ออกตัวไปจนถึงการทรงตัวที่ดีเมื่อวิ่งด้วยความเร็วเดินทางบนไฮเวย์ ระบบขับสี่ล้อเพิ่มสมรรถนะของตัวรถเมื่อขับผ่านถนนขรุขระหรือที่ทางสูงชันและสภาวะที่อาจก่อให้เกิดการลื่นไถลเช่น วิ่งฝ่าสายฝนบนสภาพทางที่เปียกลื่น การควบคุมที่มีความมั่นคงช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถนำรถวิ่งฝ่าถนนเปียกหรือผิวถนนที่เต็มไปด้วยหิมะได้อย่างปลอดภัยจากโหมดขับสี่แบบใหม่หรือ X-Mode สำหรับการตอบสนองของระบบเกียร์ ทันทีที่คันเร่งถูกกด เกียร์แบบสายพานโซ่โลหะที่แทบจะไม่มีระยะของการยืดตัวแบบเกียร์ CVT ที่ใช้สายพานยาง การส่งกำลังแบบไร้รอยต่อและอาการกระตุกกระชากเพื่อการเปลี่ยนแปลงอัตราทดที่มีความต่อเนื่องลื่นไหล เกียร์ Lineartronic CVT (ระบบส่งกำลังแบบแปรผันอย่างต่อเนื่อง) ใช้โซ่แทนสายพานช่วยให้การตอบสนองต่อการถ่ายเทแรงบิดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในจังหวะออกตัวระบบส่งกำลังยังจับคู่กับกลไกกระจายแรงบิดผ่านระบบ AWD สามารถตอบสนองต่อการขับแบบลากเกียร์ด้วยโหมดแมนนวลหรือชิฟเกียร์ด้วยตัวผู้ขับเอง การควบคุมแรงบิดด้านหน้าไปทางด้านหลังหรือจากด้านหลังถ่ายเทมาด้านหน้าเต็มไปด้วยความสมดุล.

SUBARU FORESTER 2.0i PREMIUM ราคา 1,890,000 บาท

VDO


SUBARU FORESTER 2.0i Specifications
engine type........................................Horizontally 4-cylinder , 4-stroke , Petrol engine
Engine manufacturer.........................Subaru
Engine code.......................................FA20
Cylinders..........................................Flat 4
Capacity............................................2 litre 1,995 cc
Bore  Stroke....................................86.0 mm  86.0 mm 3.39  3.39 in
Bore/stroke ratio.................................1
Valve gear.........................................DOHC 4 valves per cylinder 16 Total valves
maximum power output (SAE net)150.5 PS (110.4 kW) at 6,200 rpm
Specific output(SAE net)...................114.1 bhp/litre
maximum torque (SAE net)............198 Nm (20.2 kgm) at 4,200 rpm
Specific torque (SAE net)..................110.18 Nm/litre
Engine construction...........................aluminium block & head
sump..................................................wet sumped
compression ratio..............................10.6:1
Fuel system.......................................Multi point Sequential injection (Port injection)
bmep (brake mean effective pressure)2201.3 kPa (319.3 psi)
Engine coolant...................................Water
Unitary capacity.................................499.5 cc
Aspiration...........................................NA
Turbo..................................................-
Compressor.........................................-
Intercooler...........................................-
Catalytic converter..............................Y
Drive mode..........................................intelligent mode / sport mode / X-mode

Engine position...................................front
Engine layout......................................longitudinal
Drive wheels.......................................four wheel drive - Symmetrical All Wheel Drive (AWD)
AWD type...........................................Active Torque split AWD system
Steering...............................................pinion assist type electric power steering system
turns lock-to-lock...............................3.100
Acceleration 0-100km/h....................11.1 (with Sport mode)
Maximum speed..................................192 km

Front suspension.................................Macpherson strut
Rear suspension...................................Double wishbone
Wheel size front..................................17 x 7J
Wheel size rear....................................17 x 7J
Tyres front...........................................225/60 R 17 99V  Yokohama Geolander G91
Tyres rear.............................................225/60 R 17 99V  Yokohama Geolander G91
Brakes F/R..........................................VeDi/VeDi-S-ABS
Front brake diameter...........................295 mm
Rear brake diameter............................277 mm

Gearbox...............................................Lineartronic - continuously variable transmission CVT
Top gear ratio......................................0.54
Final drive ratio...................................4.11
Co2 emissions......................................145 g/1Km

Wheelbase..........................................2,640 mm 103.9"
Track/tread (front)...............................1,547 mm 60.9"
Track/tread (rear)................................1,552 mm 61.1"
Length................................................4,595 mm 180.9"
Width..................................................1,796 mm 70.7"
Height.................................................1,687 mm 66.4"
Ground clearance................................221 mm 8.7 "
length:wheelbase ratio........................1.74
Kerb weight........................................1,643 kg 3622 lb
Fuel tank capacity...............................60.2 litres 13.2 UK Gal 15.9 US Gal




 

Create Date : 12 กันยายน 2556
0 comments
Last Update : 12 กันยายน 2556 8:10:46 น.
Counter : 2702 Pageviews.


amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]








Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.