Elephant ความรุนแรงตราช้าง
Elephant ความรุนแรงตราช้างพล พะยาบ คอลัมน์อาทิตย์เธียเตอร์ มติชนรายวัน 24 กรกฎาคม 2548 หลังจากที่เคยเขียนถึงงานของ กัส แวน แซนต์ เรื่อง Gerry ไปตั้งแต่ต้นปี ระหว่างที่รอ Last days หนังเรื่องใหม่ของเขา ซึ่งว่ากันว่าอ้างอิงมาจากช่วงชีวิตสุดท้ายของเจ้าพ่อกรันช์ในตำนาน เคิร์ท โคเบน แห่งวงเนียร์วานา ผู้เขียนจึงถือโอกาสคว้างานก่อนหน้านี้ของแวน แซนต์ ที่อวดโฉมบนชั้นวางอยู่นานหลายเวลามาเขียนถึงเสียที หนังเรื่องที่ว่าคือ Elephant งานเด่นดังเสริมบารมีผู้กำกับฯ เมื่อไปคว้าปาล์มทองที่คานส์ ปี 2003 แถมยังพาให้แวน แซนต์ได้รางวัลผู้กำกับฯยอดเยี่ยมอีกต่างหาก Elephant อิงจากเหตุการณ์ช็อคโลกเมื่อวันที่ 20 เมษายน 1999 ที่นักเรียนชาย 2 คน ควงปืนยิงเพื่อนนักเรียนในโรงเรียนมัธยมโคลัมไบน์ รัฐโคโลราโด เสียชีวิต 12 คน พร้อมครูอีก 1 คน ก่อนจะจบชีวิตตนเอง กระทั่งกลายเป็นโศกนาฏกรรมในโรงเรียนครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ Bowling for Columbine หนังสารคดีของไมเคิล มัวร์ เมื่อครั้งยังไม่ดังเปรี้ยงปร้างจาก Farenheit 9/11 ก็กล่าวถึงเหตุการณ์นี้เช่นกัน ถึงวันนี้ยังไม่มีใครสรุปสาเหตุได้แน่ชัดว่าแรงจูงใจอันใดที่ทำให้นักเรียนทั้งสองลงมือก่อการโดยไม่สะทกสะท้าน ข้อสันนิษฐานหนึ่งคือทั้งสองเป็นสมาชิกกลุ่ม มาเฟียเสื้อฝน (Trenchcoat Mafia) ซึ่งแอนตี้พวกกลุ่มก๊วนที่ตั้งขึ้นใหม่ บ้างว่าเพราะความแปลกแยกเข้าพวกไม่ได้ กระทั่งถูกกันออกจากสังคม คือแรงกระตุ้นให้เกิดความเคียดแค้นชิงชัง นอกจากแรงจูงใจแล้ว ข้อหัวถกเถียงที่หาข้อสรุปไม่ได้ยังลามไปถึงวันก่อเหตุว่าทำไมต้องเป็นวันดังกล่าว มีนัยยะอะไรหรือไม่ บางคนวิเคราะห์ว่าเป็นวันครบรอบ 110 ปี ของจอมเผด็จการนาซี อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ บ้างว่าเป็น 1 วัน หลังวันครบรอบเหตุการณ์วินาศกรรมครั้งใหญ่ที่โอกลาโฮมา(19 เมษายน 1995) อย่างไรก็ตาม เมื่อโฟกัสหัวข้อสนทนาให้แคบลงก็มักจะได้ประเด็นเรื่อง ความรุนแรงในสังคม โดยมีสื่อประเภทต่างๆ ทั้งโทรทัศน์ ภาพยนตร์ ดนตรี เกม เป็นจำเลยอยู่เสมอ แวน แซนต์ ไม่ได้นำเหตุการณ์จริงมาสร้างเป็นหนัง เพียงแต่อ้างอิงตัวบุคคล เวลา และเหตุการณ์บางแง่มุม ตามคำให้การของพยานบุคคลที่ได้รับการเปิดเผยในภายหลัง จำกัดช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุไม่กี่นาทีและจบลงขณะเหตุการณ์ยังไม่คลี่คลาย นอกจากอเล็กซ์และอีริค ซึ่งเป็นเด็กนักเรียนผู้ก่อเหตุ 2 คนแล้ว มีตัวละครอื่นอีกร่วม 10 คนเป็นตัวดำเนินเรื่อง ได้แก่ จอห์น เด็กหนุ่มซึ่งมาโรงเรียนสายเพราะพ่อขี้เมา นาธาน หนุ่มนักกีฬาสุดป๊อปในสายตาผู้หญิงกับแคร์รี่ แฟนสาว อีไล นักเรียนถ่ายภาพ มิเชล เด็กสาวท่าทางเฉิ่มๆ ถูกเพื่อนนักเรียนหญิงด้วยกันหัวเราะเยาะ บริตตานีย์, จอร์แดน และนิโคล ก๊วนสาวช่างเมาธ์ และอคาเดีย แฟนสาวของจอห์น ซึ่งเป็นสมาชิกวงสนทนาเรื่องเกย์ เรื่องราวของตัวละครทั้งหมดนี้จะคาบเกี่ยวช่วงเวลาและสถานที่กัน ดังนั้น เหตุการณ์เดิมในช่วงเวลาสั้นๆ จึงถูกนำเสนอซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพียงแต่แตกต่างไปตามผู้ดำเนินเรื่อง เช่นบนทางเดินตึกเรียน จอห์นกับอีไลพบและทักทายกัน โดยมีมิเชลวิ่งผ่านคนทั้งสองไป เหตุการณ์ในช่วงเวลาสั้นๆ นี้จะถูกเล่า 3 ครั้ง เมื่อหนังตามดูเรื่องราวของแต่ละคน โดยที่ตัวละครทุกตัวจะไปสิ้นสุดเรื่องราวของตนเมื่อได้พบกับมือสังหาร การฉายภาพเด็กนักเรียนหลายประเภทหลายบุคลิก ตามดูพวกเขาทำกิจกรรมหรือดำเนินกิจวัตรประจำวัน นัยหนึ่งทำให้เห็นว่าเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้ และกับโรงเรียนใดก็ได้ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีนักเรียนตามแบบฉบับที่ยกมาทั้งสิ้น อีกนัยหนึ่งทำให้เห็นว่าเด็กในวัยนี้จำนวนมากกำลังเผชิญกับปัญหาส่วนตัวทั้งจากครอบครัวและในสังคมโรงเรียน ซึ่งเป็นไปได้ว่าบางคนอาจลุกขึ้นมาเลือกใช้ความรุนแรงเป็นทางออก ในหมู่ตัวละครมากมาย มีเพียงอเล็กซ์กับอีริค 2 ผู้ก่อการเท่านั้นที่หนังเล่าย้อนไปก่อนหน้านี้ ทำให้เห็นชีวิตส่วนตัวของทั้งสอง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่พบในโรงเรียน สภาพครอบครัว งานอดิเรก กระทั่งที่มาของอาวุธปืน ซึ่งหากนำมาพิจารณาร่วมกันก็จะพบข้อสันนิษฐานมากมายที่สามารถนำมาต่อกันเป็นภาพแห่งโศกนาฏกรรมได้ นั่นคือ อเล็กซ์เป็นพวกขี้แพ้ เขาถูกกลั่นแกล้งโดยเพื่อนร่วมห้อง ครูไม่ใส่ใจปัญหาของเด็ก พ่อแม่เลี้ยงลูกด้วยเงิน พวกเขาสนุกกับเกมคอมพิวเตอร์ที่มีคนเป็นเป้ายิง ทั้งยังสั่งซื้อปืนได้ทางอินเตอร์เน็ต แต่ที่แวน แซนต์ เลยเถิดไปคือการให้อเล็กซ์กับอีริคมีพฤติกรรมรักร่วมเพศ โดยการอาบน้ำร่วมและจูบกัน(ตัวแวน แซนต์ เอง เป็นเกย์โดยเปิดเผย และหนังของเขามักจะมีคาแร็กเตอร์รักร่วมเพศ) ส่วนที่โดดเด่นของ Elephant คือหนังนำเสนอภาพเหตุการณ์ความรุนแรงด้วยท่าทีละมุนละม่อม ผ่านการเล่าเรื่องอันละเมียดละไม ช่วงแรกหนังถ่ายภาพบรรยากาศโรงเรียนดูสงบร่มเย็น นักเรียนวิ่งเล่นในสนามด้วยความร่าเริง บางครั้งเป็นภาพสโลว์ช็อตสั้นๆ ดูงดงามมีชีวิตชีวา มีเพลง Moonlight Sonata ของเบโธเฟน เปิดคลอ เมื่อถึงช่วงสังหารหมู่ ความละเมียดละไมที่หนังปูพื้นไว้แต่ต้น กลายเป็นความต่างที่ทำให้ความรุนแรงก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้น โดยไม่ต้องเน้นด้วยองค์ประกอบด้านภาพ เสียง ภาพความตาย หรือสีหน้าหวาดกลัวของผู้คน จนกลายเป็นการกระตุ้นด้านรุนแรงเข้าไปอีก อีกส่วนหนึ่งที่ต้องชมเชยคือการหยิบ ของสูง 2 ประการมาใส่ตัวละครมือเปื้อนเลือด นั่นคือการให้อเล็กซ์เล่นเปียโนเพลง Fur Elise ของเบโธเฟน ขณะอยู่ที่บ้าน กับเอ่ยประโยค So foul and fair a day I have not seen ซึ่งเป็นวรรคทองจากองก์ที่ 1 บทที่ 3 ของบทละครเรื่องแมคเบ็ธ ของเช็กสเปียร์ ระหว่างก่อเหตุร้าย กระทั่งแปลงสภาพจากหนังซึ่งไม่ได้เด่นที่บท กลับกลายเป็นบทหนังที่ต้องตีความไปได้ ทั้งที่จริงๆ แล้วอาจเป็นการอิมโพรไวส์กันสดๆ ของผู้กำกับฯและผู้แสดงสมัครเล่น ที่บังเอิญเล่นเพลงเบโธเฟนเป็น! เอาล่ะ ถ้าลองตามน้ำตีความ ส่วนของเบโธเฟนอาจเป็นการเชื่อมโยงประวัติอันขมขื่นของคีตกรเอก ซึ่งถูกพ่อขี้เมาทำร้ายทุบตี ทั้งยังบีบบังคับให้เล่นดนตรี จนกลายเป็นอาการเก็บกดฝังลึกเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ อเล็กซ์ก็คงไม่แคล้วมีอาการเก็บกดเช่นกัน ถึงแสดงออกด้วยความรุนแรงเช่นนั้น ทั้งที่จริงๆ แล้ว เขาน่าจะแสดงออกในทางสร้างสรรค์แบบเบโธเฟนมากกว่า ส่วนแมคเบ็ธ วรรคทองดังกล่าวเป็นคำพูดของแมคเบ็ธก่อนที่จะได้พบแม่มด 3 ตน อันเป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ฆาตกรรมไม่จบไม่สิ้น ก่อนจะลงเอยด้วยการตายอย่างน่าอเนจอนาถของตนเอง ไม่ต่างจากอเล็กซ์ที่ฆ่าเพื่อนนักเรียนมากมาย ก่อนจบชีวิตตนเอง อีกประการหนึ่งที่มีนัยให้ตีความคือชื่อหนังซึ่งแปลว่าช้าง ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตัวหนังเลย แวนแซนต์เองอธิบายว่า เขาอ้างอิงมาจาก อลัน คลาร์ก คนทำหนังของบีบีซี ซึ่งเคยใช้คำว่า ช้าง เปรียบเหตุการณ์ความรุนแรงในไอร์แลนด์เหนือ ขณะเดียวกันก็เป็นสำนวนฝรั่ง Elephant in the living room ซึ่งหมายถึงปัญหาใหญ่ๆ ที่ไม่มีใครพูดถึง แต่ทุกคนก็ต้องผจญกับมันอยู่ทุกวัน สุดท้าย แวน แซนต์ให้สัมภาษณ์ที่เมืองคานส์ว่า น่าจะหมายถึงพรรคริพับลิกัน ซึ่งมีสัญลักษณ์เป็นช้าง โดยส่วนตัวผู้เขียนว่าความหมายหลังสุดนี้เข้าท่าและสอดคล้องกับยุคสมัยที่สุดเพราะผู้นำช้างปัจจุบันไม่ใช่หรือที่ชอบใช้ความรุนแรงแก้ปํญหา?!
Create Date : 18 มิถุนายน 2549
Last Update : 21 สิงหาคม 2549 3:50:54 น.
2 comments
Counter : 1954 Pageviews.
โดย: octavio วันที่: 21 มิถุนายน 2549 เวลา:20:00:14 น.
โดย: metrologo วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:56:17 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [? ]
บทวิจารณ์ภาพยนตร์รางวัลกองทุน ม.ล.บุญเหลือ เทพยสุวรรณ ปี 2549 ..............................select movie / blog ....... --international-- ....... The Walking Dead I Wish I Knew 127 Hours The Expendables vs. Salt No puedo vivir sin ti Bright Star The World is Big and Salvation Lurks Around the Corner Sin Nombre Invictus Afghan Star Moon Gigante The Promotion An Education Up in the Air Snow (Snijeg) Liverpool Tahaan Lion's Den Tulpan Everlasting Moments Absurdistan Topsy-Turvy Ramchand Pakistani The Pope's Toilet Antonio's Secret พลเมืองจูหลิง Flashbacks of a Fool And When Did You Last See Your Father? The Boy in the Striped Pyjamas Gran Torino Departures Gomorra Abouna + Daratt Grace Is Gone The Road to San Diego Into the Wild Slumdog Millionaire The Silly Age The Year My Parents Went on Vacation It's Hard to Be Nice Ben X Caramel The Class Kings จาก Kolya ถึง Empties The Unknown Woman Dokuz Heima Cocalero The Blood of My Brother & Iraq in Fragments 12:08 East of Bucharest Rescue Dawn Mongol 6 : 30 Something Like Happiness To Each His Cinema The Counterfeiters ข้างหลังภาพ Lions for Lambs + Michael Clayton Father and Daughter Possible Lives กอด The Buried Forest รัก-ออกแบบไม่ได้ Lights in the Dusk The Piano Teacher Do You Remember Dolly Bell? Sisters in Law Al Otro Lado A Time for Drunken Horses Zelary Bug The Invasion The Science of Sleep Paris, I love you Still Life The Lives of Others Heading South Renaissance ABC Africa The Death of Mr. Lazarescu Maria Full of Grace The Last Communist Eli, Eli, lema sabachthani? 4 : 30 Late August, Early September The Circle The Cave of the Yellow Dog Italian for Beginners Love/Juice Your Name is Justine The Syrian Bride Dragon Head Reconstruction Eros The Scarlet Letter The Night of Truth Familia Rodante Bonjour Monsieur Shlomi Lantana Flanders Tokyo . Sora The World Whisky Buffalo Boy S21 : The Khmer Rouge Killing Machine Fire, Earth, Water C.R.A.Z.Y. All about My Mother Jasmine Women Battle in Heaven The Day I Became a Woman Man on the Train CSI : Grave Danger Innocence Life Is a Miracle Drugstore Girl Der Untergang The Bow Happily Ever After The Wayward Cloud The House of Sand Or, My Treasure Janji Joni Moolaade Vodka Lemon Angel on the Right Twentynine Palms The Taste of Tea ....... --independent-- ....... Goodbye Solo The Hurt Locker (500) Days of Summer Towelhead Kabluey Three Burials of Melquiades Estrada Titus Chuck & Buck The Woodsman Pollock Last Days The Limey Inside Deep Throat Coffee and Cigarettes Garden State My Name is Joe Sexy Beast Real Women Have Curves The Brown Bunny Before Sunset Elephant Bubble You Can Count on Me 9 Songs ....... --classic-- ....... Memories of Underdevelopment (1968) The Last Laugh The Snows of Kilimanjaro The Cabinet of Dr.Caligari Nanook of the North The Apu Trilogy ....... --หนังมีไว้ให้คิด-- ....... The Schoolgirl's Diary Long Road to Heaven The Imam and the Pastor Maquilapolis ....... --what a film!-- ....... Kabuliwala (1956) Macunaima (1969) Kozijat rog (1972) The Girl and the Echo (1964) Fruits of Passion (1981) Happy Gypsies (1967) ....... --introducing-- ....... Death Race 2000 (1975) ซอมบี้ปากีฯ+ผีดิบมาเลย์+ซูเปอร์แมนตุรกี Zinda Muoi Father and Daughter ....... --directed by-- ....... Ouran (1968) Pierwsza milosc (1974) Salome (1978) 4 หนังสั้น เคียรอสตามี recommended ....... - 'รงค์ วงษ์สวรรค์ กับภาพยนตร์ - เทมาเส็ก พิคเจอร์ส - Heading South - Still Life - The Apu Trilogy - The Day I Became a Woman - จาก Fire, Earth สู่ Water พญาอินทรี ศราทร @ wordpress
1 2 3
4 5 6 7 8 9 10
11 12 13 14 15 16 17
18 19 20 21 22 23 24
25 26 27 28 29 30
เมื่อหาต้นเหตุไม่ได้ ค่อยๆคลำแก้ไป มันก็แก้ได้แค่เป็นครั้งคราว
...
เคยสงสัยเหมือนกันค่ะ ว่าทำไมหนังถึงใช้ชื่อว่า"ช้าง" ทั้งที่ไม่มีอะไรช้างๆปรากฏในหนังซักกะตอน และเห็นด้วยกับความหมายที่ว่า
Elephant in the living room ซึ่งหมายถึงปัญหาใหญ่ๆ ที่ไม่มีใครพูดถึง แต่ทุกคนก็ต้องผจญกับมันอยู่ทุกวัน...
เห็นจะจริง