The Woodsman หมาป่าผู้กลายเป็นนายพราน
The Woodsman หมาป่าผู้กลายเป็นนายพรานพล พะยาบ คอลัมน์อาทิตย์เธียเตอร์ มติชนรายวัน 25 มีนาคม 2550 วอลเตอร์(เควิน เบคอน) ชายผู้เงียบขรึมกลับมายังบ้านเกิดที่ฟิลาเดลเฟีย หลังจากต้องโทษจำคุก 12 ปี ในความผิดล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กหญิง 2 ราย เขาอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ทัณฑ์บน นักบำบัดทางจิต และถูกตำรวจคอยจับตามอง ชีวิตหลังได้รับอิสรภาพของวอลเตอร์ไม่ได้มีทางเลือกมากนัก เขาได้งานในโรงงานไม้เพราะเคยทำงานให้พ่อของเจ้าของคนใหม่ วอลเตอร์ปิดกั้นตนเอง ไม่คบค้ากับใคร เลิกงานแล้วก็นั่งรถเมล์กลับอพาร์ตเมนต์ แย่ตรงที่อพาร์ตเมนต์แห่งเดียวที่ยอมให้วอลเตอร์เข้าพักอยู่ตรงข้ามโรงเรียนประถม จนสามารถแอบมองเด็กนักเรียนจากหน้าต่างห้อง... คนที่เข้ามาข้องเกี่ยวพูดคุยกับวอลเตอร์มีเพียงแค่คาร์ลอส(เบนจามิน แบรตต์) สามีของน้องสาวที่ไม่ยอมพบหน้าพี่ชาย บ๊อบ(เดวิด อลัน เกรียร์) นักบำบัดทางจิต ลูคัส(มอส เดฟ) ตำรวจที่สงสัยในความชั่วร้ายของวอลเตอร์ และวิคกี้(ไครา เซดจ์วิค ภรรยาของเควิน เบคอน) เพื่อนร่วมงานสาวที่เข้ามาใกล้ชิด และวอลเตอร์ยอมใกล้ชิดด้วย มีช่องว่างของความเงียบเหงาอยู่เหลือเฟือให้วอลเตอร์ต้องต่อสู้กับ โรคร้าย ตามลำพัง เด็กหญิงที่พบบนรถเมล์ ตามถนนหนทาง ในห้างสรรพสินค้า ล้วนแต่คุกคามความรู้สึกของวอลเตอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...เด็กๆ มากมายที่มองเห็นจากหน้าต่างห้องพัก นอกจากนี้ แมรี่-เคย์(อีฟ) สาวผิวสีที่พยายามจะผูกมิตรกับวอลเตอร์ แต่โดนปฏิเสธอย่างไม่ไยดี ก็คุกคามขุดคุ้ยประวัติเขาอยู่ The Woodsman กำกับและเขียนบทภาพยนตร์โดยผู้หญิงชื่อ นิโคล คาสเซลล์ ดัดแปลงจากบทของ สตีเวน เฟตช์เตอร์ เป็นหนังเล็กๆ ที่ไม่ใคร่จะเป็นที่รู้จักมากนัก แม้จะมีเครดิตพอสมควรบนเวทีหนังอิสระอย่างการเข้าไปลุ้นรางวัลใหญ่ที่เทศกาลซันแดนซ์ปี 2004 และไปฉายโชว์ที่เมืองคานส์ แต่ถึงเวลาฉายจริงกลับได้ฉายแบบจำกัดโรงทั้งในสหรัฐและอังกฤษ ทั้งนี้ อาจจะด้วยเนื้อหาของหนังซึ่งค่อนข้างหมิ่นเหม่ต่อมาตรฐานจริยธรรมทางสังคม นั่นคือเล่าถึงผู้กระทำผิดทางเพศต่อเด็กในมุมที่เข้าใจและเห็นใจหนังชี้ว่าความผิดของวอลเตอร์เกิดจากความผิดปกติของจิตใจ ไม่ใช่ความชั่วร้ายจากสามัญสำนึก วอลเตอร์ตระหนักว่าสิ่งที่เขาเคยทำลงไปเป็นสิ่งผิดมหันต์ เขาพยายามหักห้ามและต่อสู้กับตนเองราวกับคนป่วยไข้ สีหน้าอาการของวอลเตอร์ชวนให้ผู้ชมเอาใจช่วยให้เขาเอาชนะตนเองให้ได้ ยิ่งวอลเตอร์โดนตำรวจอย่างลูคัสกัดไม่ปล่อย พูดจาเหยียดหยามราวกับเขาเป็นอสูรกาย ทั้งยังถูกคนในโรงงานเกลียดชัง ตัวละครนี้จึงเรียกคะแนนสงสารจากผู้ชมได้เต็มที่ ชื่อหนัง The Woodsman ซึ่งหมายถึง นายพราน มาจากบทสนทนาที่ลูคัสพูดกับวอลเตอร์โดยกล่าวถึงนิทานเรื่อง Little Red Riding Hood หรือ หนูน้อยหมวกแดง ว่าตอนจบนายพรานใช้ขวานแหวกท้องของหมาป่าเอาหนูน้อยออกมาได้อย่างปลอดภัย แต่ความจริงไม่มีนายพรานคนไหนจะช่วยให้เด็กรอดชีวิตจากหมาป่าที่กัดกลืนเหยื่อลงไปแล้ว...เป็นการเปรียบเทียบว่าคนที่คุกคามทางเพศต่อเด็กก็เหมือนกับหมาป่าที่โหดร้ายและเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมนั่นเอง ฉากสำคัญที่วอลเตอร์เดินตามเด็กผู้หญิงสวมแจ็คเก็ตสีแดง ชวนเธอพูดคุย และล่อหลอกให้เธอวางใจเพื่อหมายจะลิ้มรสร่างกาย จึงราวกับถ่ายทอดถอดแบบจากนิทาน แต่เป็นเวอร์ชั่น คุกคามทางเพศเด็ก...เด็กผู้หญิงคือหนูน้อยหมวกแดง วอลเตอร์คือหมาป่า ขาดแต่นายพรานที่ไม่รู้ว่าจะโผล่มาตอนจบหรือเปล่า อย่างไรก็ตาม การที่หนังให้วอลเตอร์ทำงานคลุกคลีกับไม้ และการแอบมองเด็กนักเรียนทางหน้าต่างห้องทำให้เห็นพฤติกรรมผิดปกติของชายคนหนึ่ง ได้เชื่อมโยงไปถึงนิทานหนูน้อยหมวกแดง และ นายพราน ในท้ายที่สุด สัญลักษณ์ที่ต้องกล่าวถึงคือโต๊ะซึ่งวอลเตอร์ทำขึ้นเอง และอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่หนังเน้นบ่อยครั้งว่าโต๊ะดังกล่าวเป็นโต๊ะไม้เชอร์รี่ ด้วยคำว่า เชอร์รี่ (cherry) เป็นศัพท์สแลงหมายถึงเยื่อพรหมจารี (อันมีนัยของความบริสุทธิ์) วอลเตอร์ใช้โต๊ะนั่งเขียนบันทึกประจำวันตามที่นักบำบัดทางจิตแนะนำ ก่อนหน้าที่ยังไม่มีโต๊ะตัวนี้ วอลเตอร์ไม่สามารถเขียนอะไรได้ กระทั่งได้โต๊ะมา เขาสามารถเขียนได้อย่างสม่ำเสมอแม้จะไม่ใช่เรื่องง่ายนักก็ตาม ในเมื่อจุดหมายของการบำบัดตามที่วอลเตอร์ระบุคือให้ตนเองเป็นปกติ ไม่รู้สึกอะไรเมื่อเห็นหรืออยู่ใกล้เด็กๆ นั่นเท่ากับว่าขณะบำบัดตนเองนั้น วอลเตอร์ได้ใกล้ชิดกับ เชอร์รี่ ตลอดเวลา อาจจะยากลำบากกับการหักห้ามตนเองอยู่บ้าง แต่ถึงอย่างไรเขาก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้น นอกจากนี้ การที่วอลเตอร์ใช้โต๊ะตัวเดียวกันนี้นั่งบันทึกพฤติกรรมผิดปกติของผู้ชายที่เขาสงสัยว่ากำลังจะคุกคามเด็กๆ จึงราวกับเขาได้กระทำการเพื่อ ความบริสุทธิ์ ของเด็กที่อาจตกเป็นเหยื่อ นอกจากเล่าถึงผู้กระทำผิดทางเพศต่อเด็กในมุมที่เข้าใจและเห็นใจจนอาจขวางหูขวางตาใครแล้ว หนังยังมีท่าทีด้านลบต่อการลงภาพถ่ายผู้กระทำผิดทางเพศบนอินเตอร์เน็ตให้คนทั่วไปเข้าไปดูได้ ตามกฎหมายที่เรียกกันว่า กฎหมายเมแกน อนุสนธิจากกรณีที่หนูน้อยเมแกนวัย 7 ขวบ ถูกลักพาและฆาตกรรมโดยเพื่อนบ้านของเธอเองเมื่อปี 1994 เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถตรวจสอบคนใกล้ตัวว่าเคยเป็นนักโทษคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กหรือเปล่ากฎหมายฉบับนี้เป็นที่ถกเถียงอย่างกว้างขวาง มีทั้งผู้เห็นด้วยและคัดค้าน รวมทั้งมีการแก้ไขเพื่อใช้ในแต่ละรัฐหลายขั้นตอน หลายระดับ กินระยะเวลาหลายปี กระทั่งรัฐแคลิฟอร์เนียเป็นแห่งแรกที่เปิดให้ใช้คอมพิวเตอร์ส่วนตัวเข้าไปดูได้ จากที่ก่อนหน้านั้นการจะตรวจสอบชื่อผู้กระทำผิดต้องไปที่สถานีตำรวจหรือติดต่อผ่านเจ้าหน้าที่ จากเกร็ดเบื้องหลังระบุว่า The Woodsman ออกฉายหลังจากแคลิฟอร์เนียลงภาพและข้อมูลผู้กระทำผิดบนอินเตอร์เน็ตให้คนทั่วไปเข้าไปดูได้เพียง 9 วัน(ธันวาคม 2004) นั่นหมายความว่าเนื้อหาของหนังที่ตัวละครแมรี่-เคย์ใช้คอมพิวเตอร์ส่วนตัวเข้าไปเช็กประวัติวอลเตอร์ ก่อนจะใช้ข้อมูลที่ได้มาคุกคามเขา เป็นการเขียนบทและถ่ายทำโดยยังไม่มีเหตุการณ์จริงรองรับ ตัวละครวอลเตอร์ อดีตนักโทษคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กผู้พยายามรักษาอาการป่วย ตกเป็นเหยื่อทางสังคมเพราะประวัติที่ค้นได้ง่ายๆ ทางอินเตอร์เน็ต...ชัดเจนเหลือเกินกับสารของหนังที่ต้องการสื่อว่าไม่เห็นด้วยกับกฎหมายดังกล่าว การชี้ชัดในประเด็นที่อ่อนไหวเช่นนี้ โดยเฉพาะการเลือกอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับกลุ่มคนซึ่งต่อสู้เพื่อปกป้องความปลอดภัยของเด็กๆ ผู้บริสุทธิ์ นี่อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่หนังโดนจำกัดโรงฉายโดยไร้แรงแข็งขืน ภาพรวมของหนังอยู่ในขั้นดี หนักแน่นจริงจัง ไม่เยิ่นเย้อและบีบคั้นเกินเหตุ หากตัดประเด็นความเหมาะควรทิ้งต้องยอมรับว่าหนังมีความกล้าเหลือเกินที่ออกมาพูดเรื่องการคุกคามทางเพศต่อเด็กโดยยืนอยู่ฝั่งเดียวกับผู้กระทำ และชี้ไปที่ความป่วยไข้ทางจิต ทั้งที่โดยปกติแล้วเรื่องดังกล่าวมักจะถูกนำเสนอในฝั่งเหยื่อผู้เสียหาย หรือให้ภาพของผู้กระทำว่าต่ำช้าเลวทราม หากมองด้วยใจเปิดกว้างย่อมถือเป็นความต่างที่ไม่จำเป็นต้องถูกตีตราปฏิเสธไว้ก่อนส่วนที่น่าชื่นชมอีกอย่างหนึ่งคือการแสดงลึกนิ่งของเควิน เบคอน ยอดฝีมือผู้ถูกมองข้ามอยู่เสมอ
Create Date : 03 มิถุนายน 2550
Last Update : 3 มิถุนายน 2550 10:40:43 น.
14 comments
Counter : 1313 Pageviews.
โดย: nanoguy วันที่: 3 มิถุนายน 2550 เวลา:2:59:43 น.
โดย: keano (jonykeano ) วันที่: 3 มิถุนายน 2550 เวลา:11:36:24 น.
โดย: ฝากเธอ วันที่: 3 มิถุนายน 2550 เวลา:12:15:21 น.
โดย: ดาริ IP: 202.142.194.101 วันที่: 6 มิถุนายน 2550 เวลา:17:17:54 น.
โดย: G IP: 203.113.76.72 วันที่: 6 มิถุนายน 2550 เวลา:19:50:05 น.
โดย: faisal IP: 196.202.41.5 วันที่: 7 มิถุนายน 2550 เวลา:3:58:13 น.
โดย: underradar IP: 118.174.88.52 วันที่: 28 มิถุนายน 2551 เวลา:11:40:11 น.
โดย: กวาง IP: 118.172.232.113 วันที่: 21 เมษายน 2552 เวลา:18:59:59 น.
โดย: กวาง IP: 118.172.232.113 วันที่: 21 เมษายน 2552 เวลา:19:01:50 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [? ]
บทวิจารณ์ภาพยนตร์รางวัลกองทุน ม.ล.บุญเหลือ เทพยสุวรรณ ปี 2549 ..............................select movie / blog ....... --international-- ....... The Walking Dead I Wish I Knew 127 Hours The Expendables vs. Salt No puedo vivir sin ti Bright Star The World is Big and Salvation Lurks Around the Corner Sin Nombre Invictus Afghan Star Moon Gigante The Promotion An Education Up in the Air Snow (Snijeg) Liverpool Tahaan Lion's Den Tulpan Everlasting Moments Absurdistan Topsy-Turvy Ramchand Pakistani The Pope's Toilet Antonio's Secret พลเมืองจูหลิง Flashbacks of a Fool And When Did You Last See Your Father? The Boy in the Striped Pyjamas Gran Torino Departures Gomorra Abouna + Daratt Grace Is Gone The Road to San Diego Into the Wild Slumdog Millionaire The Silly Age The Year My Parents Went on Vacation It's Hard to Be Nice Ben X Caramel The Class Kings จาก Kolya ถึง Empties The Unknown Woman Dokuz Heima Cocalero The Blood of My Brother & Iraq in Fragments 12:08 East of Bucharest Rescue Dawn Mongol 6 : 30 Something Like Happiness To Each His Cinema The Counterfeiters ข้างหลังภาพ Lions for Lambs + Michael Clayton Father and Daughter Possible Lives กอด The Buried Forest รัก-ออกแบบไม่ได้ Lights in the Dusk The Piano Teacher Do You Remember Dolly Bell? Sisters in Law Al Otro Lado A Time for Drunken Horses Zelary Bug The Invasion The Science of Sleep Paris, I love you Still Life The Lives of Others Heading South Renaissance ABC Africa The Death of Mr. Lazarescu Maria Full of Grace The Last Communist Eli, Eli, lema sabachthani? 4 : 30 Late August, Early September The Circle The Cave of the Yellow Dog Italian for Beginners Love/Juice Your Name is Justine The Syrian Bride Dragon Head Reconstruction Eros The Scarlet Letter The Night of Truth Familia Rodante Bonjour Monsieur Shlomi Lantana Flanders Tokyo . Sora The World Whisky Buffalo Boy S21 : The Khmer Rouge Killing Machine Fire, Earth, Water C.R.A.Z.Y. All about My Mother Jasmine Women Battle in Heaven The Day I Became a Woman Man on the Train CSI : Grave Danger Innocence Life Is a Miracle Drugstore Girl Der Untergang The Bow Happily Ever After The Wayward Cloud The House of Sand Or, My Treasure Janji Joni Moolaade Vodka Lemon Angel on the Right Twentynine Palms The Taste of Tea ....... --independent-- ....... Goodbye Solo The Hurt Locker (500) Days of Summer Towelhead Kabluey Three Burials of Melquiades Estrada Titus Chuck & Buck The Woodsman Pollock Last Days The Limey Inside Deep Throat Coffee and Cigarettes Garden State My Name is Joe Sexy Beast Real Women Have Curves The Brown Bunny Before Sunset Elephant Bubble You Can Count on Me 9 Songs ....... --classic-- ....... Memories of Underdevelopment (1968) The Last Laugh The Snows of Kilimanjaro The Cabinet of Dr.Caligari Nanook of the North The Apu Trilogy ....... --หนังมีไว้ให้คิด-- ....... The Schoolgirl's Diary Long Road to Heaven The Imam and the Pastor Maquilapolis ....... --what a film!-- ....... Kabuliwala (1956) Macunaima (1969) Kozijat rog (1972) The Girl and the Echo (1964) Fruits of Passion (1981) Happy Gypsies (1967) ....... --introducing-- ....... Death Race 2000 (1975) ซอมบี้ปากีฯ+ผีดิบมาเลย์+ซูเปอร์แมนตุรกี Zinda Muoi Father and Daughter ....... --directed by-- ....... Ouran (1968) Pierwsza milosc (1974) Salome (1978) 4 หนังสั้น เคียรอสตามี recommended ....... - 'รงค์ วงษ์สวรรค์ กับภาพยนตร์ - เทมาเส็ก พิคเจอร์ส - Heading South - Still Life - The Apu Trilogy - The Day I Became a Woman - จาก Fire, Earth สู่ Water พญาอินทรี ศราทร @ wordpress
1 2
3 4 5 6 7 8 9
10 11 12 13 14 15 16
17 18 19 20 21 22 23
24 25 26 27 28 29 30
บทพูดของเด็กผู้หญิงตอนวอลเตอร์ถามเธอในสวนสาธารณะขณะนั่งดูนกนั้น..สะเทือนใจมากๆ
งานด้านภาพก็นิ่ง สวย