You Can Count on Me ครั้งนี้...ของพี่กับน้อง
You Can Count on Me ครั้งนี้...ของพี่กับน้องพล พะยาบ คอลัมน์อาทิตย์เธียเตอร์ มติชนรายวัน 27 พฤศจิกายน 2548 ฉายแววกาววาวเมื่อปี 2000 กับตำแหน่งหนังยอดเยี่ยมและบทยอดเยี่ยมในเวทีซันแดนซ์ และต่อเนื่องด้วยการติดโผเข้าชิงและซิวรางวัลจากอีกหลายสมาคมนักวิจารณ์ ทำให้ตลอดช่วงเวลาต่อเนื่องถึงงานออสการ์ต้นปี 2001 You Can Count on Me กลายเป็นหนังเล็กๆ ที่ใครต่อใครต้องเหลียวมอง ไม่ว่าจะเป็น เคนเนธ โลเนอร์แกน ผู้กำกับฯ-เขียนบท ลอรา ลินนีย์ แสดงนำหญิง และ มาร์ค ราฟฟาโร สมทบชาย กระทั่งเข้าไปลุ้นออสการ์สาขาบทและนำหญิง แม้ว่าสุดท้ายจะกลับบ้านมือเปล่า เป็นได้แค่หนังรองบ่อนบนเวทีออสการ์ โดยเฉพาะ ซินเดอเรลลา ลอรา ลินนีย์ ที่ต้องกอดคอพ่ายแพ้ไปพร้อมกับนักแสดงหญิงฝีมือเยี่ยมอีก 3 คน ให้แก่เจ้าหญิงตัวจริงอย่าง จูเลีย โรเบิร์ตส์ แบบขัดสายตาแต่เข้าทางการตลาดยี่ห้อออสการ์ และไม่ใช่เรื่องเกินความคาดหมาย You Can Count on Me เป็นหนังดรามาเกี่ยวกับพี่น้องหญิงชายซึ่งสูญเสียพ่อแม่ในอุบัติเหตุรถยนต์ตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก เหตุการณ์ครั้งนั้นเสมือนร่มเงาความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องถูกทำลาย พี่น้องกระจัดพลัดพรายกลายเป็นสองชีวิตที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ซาแมนธา หรือแซมมี่(ลอรา ลินนีย์) พี่สาวยังอยู่ในสก็อตต์วิลล์ เมืองเล็กๆ บ้านเกิด อาศัยตามลำพังในบ้านเก่าของพ่อแม่กับ รูดี้(รอรี่ คัลกิน) ลูกชายวัย 8 ขวบ ผู้เงียบงันและต้องการพ่อ แต่แซมมี่มักหลีกเลี่ยงที่จะพูดให้รูดี้ฟังเกี่ยวกับอดีตสามีเส็งเคร็ง จนรูดี้ต้องจินตนาการเอาเองว่าพ่อของเขาเป็นอย่างไร แซมมี่เป็นพนักงานสินเชื่อในธนาคารเล็กๆ เธอใช้ชีวิตแบบมีกฎเกณฑ์ เข้าโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ คบหาแบบไม่จริงจังนักกับ บ๊อบ(จอน เทนนีย์) หนุ่มใหญ่นิสัยดี แต่แล้วชีวิตของแซมมี่ก็ไม่ราบเรียบเหมือนเคย เมื่อ เทอร์รี่(มาร์ค ราฟฟาโร) น้องชายกลับมาหา ความจริงที่น้องเล่าให้ฟังทำให้แซมมี่ถึงกับช็อค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เขาเคยติดคุก ใช้ชีวิตเร่ร่อนหางานทำไม่เป็นหลักแหล่งแน่นอน ทั้งยังขอยืมเงินพี่สาวส่งไปให้แฟนทำแท้ง อย่างไรก็ตาม การมาเยือนของเทอร์รี่ไม่ได้เป็นเรื่องยุ่งยากไปเสียทั้งหมด อย่างน้อยเขาก็เข้ากับรูดี้ได้ดี จนมาทดแทนความต้องการพ่อของเด็กชายได้ ระหว่างนั้น แซมมี่ยังต้องรับมือกับ ไบรอัน(แมทธิว บรอเดอริค) หัวหน้างานคนใหม่ผู้เข้มงวด ที่ภายหลังแอบหลบเมียท้องมามีสัมพันธ์กับเธอ ความยุ่งยากของแซมมี่ขมวดเกลียวแน่นขึ้นเมื่อชีวิตอิสระไม่คิดหน้าคิดหลังของเทอร์รี่ก่อเรื่องเลวร้ายอันมีผลกระทบต่อรูดี้ กระทั่งถึงจุดที่แซมมี่ต้องตัดสินใจจัดการกับเรื่องยุ่งยากทั้งหมด ชื่อหนัง You Can Count on Me มาจากชื่อเพลงธีมของ Hawaii Five-O หนังชุดทางโทรทัศน์เรื่องดังช่วงปี 1968-1980 ร้องโดยนักร้อง-นักแสดงผิวสี แซมมี่ เดวิส จูเนียร์ เป็นการตั้งชื่อหนังโดยเล่นกับความคล้องจองของชื่อตัวละคร แซมมี่ และไปกันได้ดีกับเนื้อหาซึ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง เมืองเล็กๆ กับชีวิตซ้ำเดิมของผู้คนในเมือง โจทย์ที่เคยเห็นกันบ่อยครั้งโดยเฉพาะในหนังอินดี้ ไม่ว่าจะเป็น The Virgin Suicides(โซเฟีย คอปโปลา-1999) The Good Girl(มิเกล อาร์เตตา-2002) หรือ Garden State(แซก บราฟฟ์-2004) แต่ผู้กำกับฯ-เขียนบท เคนเนธ โลเนอร์แกน ทำ You Can Count on Me ออกมาแตกต่างจากเรื่องอื่นๆ ด้วยการเน้นภาพตัวละครเป็นสำคัญ ไม่นำเสนอฉากหลังซึ่งเขาเห็นว่าไม่จำเป็นต่อแบ็คกราวน์หรือพัฒนาการของตัวละคร(ขณะที่เรื่องอื่นๆ ที่ยกตัวอย่างมา ฉากหลังมีความสำคัญต่อเรื่องราวทั้งสิ้น) เรียกว่าเล่นกันเนื้อๆ เน้นๆ ที่ตัวละครเป็นหลัก วิธีนี้บทหนังต้องแน่นและเจ๋งพอที่จะประคองเนื้อหาและเรื่องราวของตัวละคร ที่สำคัญการแสดงของนักแสดงต้องเคี่ยวและเค้นให้ได้ดีที่สุด เพื่อดึงดูดความสนใจผู้ชมไว้ได้ตลอดเวลาร่วม 2 ชั่วโมง ซึ่งตรง 2 จุดนี้นี่เองที่กลายมาเป็นส่วนที่ดีงามของหนัง โลเนอร์แกนคุมบทแบบดรามาได้อยู่มือ ไม่มีบทสนทนาที่ล้นเกินด้วยคำพูดหรูหรากินใจ แต่ใช้พัฒนาการของตัวละครที่จับต้องได้เป็นส่วนช่วยส่งอารมณ์หนัง ประกอบกับการแสดงอันวิเศษของลอรา ลินนีย์ กับมาร์ค ราฟฟาโร มาช่วยหนุนเนื่องให้หนังมีน้ำหนักเต็มเปี่ยม สำหรับลินนีย์ เราได้เห็นการแสดงในแนวใกล้เคียงกันนี้อีกหลายเรื่อง ทั้ง Mystic River หรือ Kinsey ส่วนราฟฟาโร ซึ่งมีแววขบถอ่อนไหวแบบ แจ๊ค นิโคลสัน แห่ง Five Easy Pieces นี่คืองานที่น่าจดจำอย่างยิ่ง เพราะหลังจากเรื่องนี้ คาแร็กเตอร์ของราฟฟาโรจะเปลี่ยนไปในทางเข้มแข็งขึ้น เช่นใน In The Cut และ Collateral แม้จะเป็นหนังดรามาที่เนื้อเรื่องค่อนข้างหนัก แต่หนังไม่ได้ดูเคร่งเครียดบีบคั้น ไม่มีบทร้องไห้ฟูมฟาย ตรงกันข้าม หนังมีมุขตลกเกี่ยวกับเรื่องราววุ่นวายของแซมมี่แทรกให้ได้ยิ้มเป็นระยะ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ลักลอบกับไบรอัน อบอุ่น เป็นกันเอง เต็มความรู้สึก...น่าจะเป็นคำจำกัดความสำหรับ You Can Count on Me ได้ดีที่สุด
Create Date : 24 พฤษภาคม 2549
2 comments
Last Update : 21 สิงหาคม 2549 2:59:55 น.
Counter : 3965 Pageviews.
โดย: underradar IP: 203.130.159.3 26 พฤศจิกายน 2550 16:10:31 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [? ]
บทวิจารณ์ภาพยนตร์รางวัลกองทุน ม.ล.บุญเหลือ เทพยสุวรรณ ปี 2549 ..............................select movie / blog ....... --international-- ....... The Walking Dead I Wish I Knew 127 Hours The Expendables vs. Salt No puedo vivir sin ti Bright Star The World is Big and Salvation Lurks Around the Corner Sin Nombre Invictus Afghan Star Moon Gigante The Promotion An Education Up in the Air Snow (Snijeg) Liverpool Tahaan Lion's Den Tulpan Everlasting Moments Absurdistan Topsy-Turvy Ramchand Pakistani The Pope's Toilet Antonio's Secret พลเมืองจูหลิง Flashbacks of a Fool And When Did You Last See Your Father? The Boy in the Striped Pyjamas Gran Torino Departures Gomorra Abouna + Daratt Grace Is Gone The Road to San Diego Into the Wild Slumdog Millionaire The Silly Age The Year My Parents Went on Vacation It's Hard to Be Nice Ben X Caramel The Class Kings จาก Kolya ถึง Empties The Unknown Woman Dokuz Heima Cocalero The Blood of My Brother & Iraq in Fragments 12:08 East of Bucharest Rescue Dawn Mongol 6 : 30 Something Like Happiness To Each His Cinema The Counterfeiters ข้างหลังภาพ Lions for Lambs + Michael Clayton Father and Daughter Possible Lives กอด The Buried Forest รัก-ออกแบบไม่ได้ Lights in the Dusk The Piano Teacher Do You Remember Dolly Bell? Sisters in Law Al Otro Lado A Time for Drunken Horses Zelary Bug The Invasion The Science of Sleep Paris, I love you Still Life The Lives of Others Heading South Renaissance ABC Africa The Death of Mr. Lazarescu Maria Full of Grace The Last Communist Eli, Eli, lema sabachthani? 4 : 30 Late August, Early September The Circle The Cave of the Yellow Dog Italian for Beginners Love/Juice Your Name is Justine The Syrian Bride Dragon Head Reconstruction Eros The Scarlet Letter The Night of Truth Familia Rodante Bonjour Monsieur Shlomi Lantana Flanders Tokyo . Sora The World Whisky Buffalo Boy S21 : The Khmer Rouge Killing Machine Fire, Earth, Water C.R.A.Z.Y. All about My Mother Jasmine Women Battle in Heaven The Day I Became a Woman Man on the Train CSI : Grave Danger Innocence Life Is a Miracle Drugstore Girl Der Untergang The Bow Happily Ever After The Wayward Cloud The House of Sand Or, My Treasure Janji Joni Moolaade Vodka Lemon Angel on the Right Twentynine Palms The Taste of Tea ....... --independent-- ....... Goodbye Solo The Hurt Locker (500) Days of Summer Towelhead Kabluey Three Burials of Melquiades Estrada Titus Chuck & Buck The Woodsman Pollock Last Days The Limey Inside Deep Throat Coffee and Cigarettes Garden State My Name is Joe Sexy Beast Real Women Have Curves The Brown Bunny Before Sunset Elephant Bubble You Can Count on Me 9 Songs ....... --classic-- ....... Memories of Underdevelopment (1968) The Last Laugh The Snows of Kilimanjaro The Cabinet of Dr.Caligari Nanook of the North The Apu Trilogy ....... --หนังมีไว้ให้คิด-- ....... The Schoolgirl's Diary Long Road to Heaven The Imam and the Pastor Maquilapolis ....... --what a film!-- ....... Kabuliwala (1956) Macunaima (1969) Kozijat rog (1972) The Girl and the Echo (1964) Fruits of Passion (1981) Happy Gypsies (1967) ....... --introducing-- ....... Death Race 2000 (1975) ซอมบี้ปากีฯ+ผีดิบมาเลย์+ซูเปอร์แมนตุรกี Zinda Muoi Father and Daughter ....... --directed by-- ....... Ouran (1968) Pierwsza milosc (1974) Salome (1978) 4 หนังสั้น เคียรอสตามี recommended ....... - 'รงค์ วงษ์สวรรค์ กับภาพยนตร์ - เทมาเส็ก พิคเจอร์ส - Heading South - Still Life - The Apu Trilogy - The Day I Became a Woman - จาก Fire, Earth สู่ Water พญาอินทรี ศราทร @ wordpress
1 2 3 4 5 6
7 8 9 10 11 12 13
14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25 26 27
28 29 30 31