Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2550
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
21 พฤษภาคม 2550
 
All Blogs
 
ni hao beijing

วันที่เจ็ดเดือนเจ็ด

ตื่นสายขึ้นมามองไปมองมาแล้วก็รูสึกว่า ทำไมนะ
ทำไมเราช่าง…..
............หิวจัง..........
ว่าแล้วก็เลยรีบอาบน้ำแล้วก็เร่งๆทุกๆคน (ก็มันหิวนี่นา…)
แล้วก็ได้ข่าวร้ายว่าหลิวหยาง(คนจีนที่มาด้วยน่ะ)…คือเค้ามีแฟนเป็นคนเกาหลีน่ะแล้วทะเลาะกับแฟน ช่วงนี้แฟนก็กลับเกาหลีด้วย ก็เลยขอตามเรามาเที่ยว
แต่ต้องขอบคุณระบบสื่อสารที่ยอดเยี่ยมที่ทำให้คนที่อยู่ห่างกันกลับมาคืนดีกันในข้ามคืนดังนั้น...

" ชั้นจะกลับบ้านชั้นไม่ไปแล้ว "

อ้าว...น้องศุของชั้นก็ต้องตามเค้ากลับอะดิ -*-
อ้าว...อดเที่ยวอะดิ -*-
ตั๋วทำไง..คืนได้จริงเหรอ-*-
โอว...ความรักนอกจากทำให้คนตาบอดแล้ว -*-
ยังทำให้กลายเป็นคนงี่เง่าได้ไม่รู้ตัวอีก เฮ้อ…-*-

เราก็ตกลงว่าศุกับหลิวหยางจะอยู่เที่ยวกับเราที่ปักกิ่งก่อน
พอเราออกเดินทาง พวกเค้าก็จะกลับเทียนจิน แล้วรอสิ้นเดือนค่อยไปเที่ยวมองโกลเลียในกับเพื่อนอีกกลุ่มนึง ซึ่งชั้นนี่อยากไปด้วยมากกว่าไอ้กลุ่มนี้มากมาย เพราะว่ามีคนนึงหล่อมากกก แต่ไม่เอาหล่ะ เพราะว่าเค้าไปกับแฟน แล้วแฟนคนนั้นก็คือน้องหลิวหยางคนนี้นี่เอง ...เศร้า

เอาตามนั้นตอนนี้เที่ยวปักกิ่งให้สนุกก่อน ..เราตกลงกันว่าจะไปกินบุฟเฟ่ท์อาหารญี่ปุ่น คนละหกสิบแปดหยวน นั่นไงแบคแพ็คเกอร์ แต่แต่ เศร้าจังไปไม่ทันอ่ะเค้าเปิดถึงบ่ายสองเองแล้วเรายังต้องไปคืนตั๋วรถไฟของหลิวหยางก่อนอีก แล้วก็ลงไปถามราคาห้องว่าถ้าจะอยู่ต่อคิดยังไง ยัยเจ๊บ้า บอกว่าสามร้อยหกสิบหยวน บ้า บ้า ทำให้อารมณ์เสียแต่สายเลย ต้องต่ออยู่ซักพักจนได้ราคาเดิม

เวลานั้นก็ทั้งโมโหทั้งหิวแล้ว ก็เลยหลวมตัวเดินเข้าไปในภัตรคารหรู

" โหว..คนเต็มร้านเลย น่าจะอร่อย "
" เอาเหอะน่ะหิวจะตาย เป็นแบคแพ็กเกอร์กินหรูซักมื้อจะเป็นไรไป " (ทีเวลากินพวกเราไม่เคยแย้งกันเลย เห็นดีเห็นงามกันตลอด)

พอเราเข้าไปในร้านเราก็สั่งอาหารแบบประหยัด มีแต่ผัก ผัก ก็เราประหยัดนี่ค่ะ 55พอเราสั่งเสร็จก็มีคนพูดขึ้นมาว่า

" เป็ดปักกิ่ง สามสิบแปดหยวนเองน๊า…"
" จริงเหรอ"
" อร่อยป่าวไม่รู้ตั้งแต่มาเมืองจีนเนี่ยกินไปสองทีไม่อร่อยเลย .."
"แต่ทุกโต๊ะเค้าสั่งกันนะ "
"..ไหน..เออจริง ลองมะ ลองมะ"
" …อะ อะก็ได้ "



สรุปมื้อเช้าเบาๆก็เป็นเช่นนี้ แต่ขอบอกว่าเป็ดปักกิ่งร้านนี้อร่อย ถูก เยอะ
ถูกใจมากกกกมาย แล้วกับข้าวทุกอย่างก็อร่อยจริง //www.bloggang.com/data/airbase/picture/1182610590.gif> ไม่แปลกใจที่คนเต็มร้านตลอด ต้องขออภัยที่มายั่วน้ำลายกัน แต่กลับจำชื่อร้านไม่ได้ จำได้แต่อยู่แถวถนนเป่ยเว่ย ตรงข้ามกับสถานีตำรวจ ถ้าได้ไปกินอีกทีรับรองจะตามมาลงให้ทีหลัง

พอเรากินเสร็จ เพื่อนคนจีนบอกว่าเค้าอยากไปชอปปิ้งที่ ซิ่วสุ่ย กระเหรี่ยงอย่างพวกเราก็งง !! ที่นั่นนะฟันหัวแตกจะตายมีแต่นักท่องเที่ยวไม่ใช่เหรอ ? ไม่เอาดีกว่าเดี๋ยวถ้าเจอของอยากได้จะแย่เอา ต้องเก็บเงินไปเที่ยวที่อื่นมาชอปปิ้งหมดตั้งแต่ปักกิ่งก็แย่นะซิ ยิ่งหักห้ามใจไม่ค่อยจะได้อยู่ งั้นใครจะไปชอปก็ไป ใครจะกลับไปนอนต่อก็ไป เป็นว่าศุกับหงส์น้อยไปกับคนจีน ตามนิสัยเลยสองสาวไฮเปอร์ แล้วชั้น หวิ๋นแล้วก็น้อยเดินกลับโรงแรม แต่…..พอมาถึงสี่แยก ความคิดดีๆก็บรรเจิด

" ก็ถ้าเราขี้เกียจเดินทำไมเราไม่นั่งรถเมล์เล่นกันเล่า หยวนเดียวเองสนุกดี ไปเปล่า แล้วนี่ก็ท่ารถเลยนะแกได้นั่งด้วย "
" ไปดิ ไปดิ "

อุ้ยคันนี้เลยรถแอร์ สบายด้วย แล้วเราก็ยื่นคนละหนึ่งไค่ว (หรือ1หยวนนั่นแหละ) ส่งให้กระเป๋ารถ แต่ .....

กระเป๋ารถถามว่า " ลงไหน "
พวกเรา………..มองหน้ากัน ว่ามันเกี่ยวอะไรว่ะเราจะไปไหนจะรู้ไปทำไม….
พวกเราตอบ " ปู้จือเต้า (แปลว่า ไม่รู้)…มันไปไหนบ้างหล่ะ พวกเรามาเที่ยวมีที่ไหนดีๆบ้าง…."
กระเป๋า " คิดไปก่อนนะเดี๋ยวมา"
พวกเรา…เอาไงดีว่ะ ทำไมโง่อย่างนี้ รถเมล์เยอะแยะไม่ขึ้น ไปขึ้น ป.อ. งง
กระเป๋ารถกลับมา " ป่านนี้อะไรก็ปิดแล้ว ไปนี่ก็แล้วกัน เป็นแหล่งขายมือถือที่ใหญ่ที่สุดในปักกิ่งเลย กว่าง อัน เหมิน ???สองหยวน "

กระเหรี่ยงจริงๆ เราจ่ายเงินแล้วก็เพลิดเพลินกับบรรยากาศข้างทาง

" แล้ว ...ขากลับหล่ะแกกลับยังไง ขึ้นมาก็ไม่ได้ดูสายรถซะด้วย "

....อ้าวถึงแล้ว น่าเดินเหมือนกันนะ ดูสายรถ

" จำไว้เลยนะ 917 อืม 917 "

พวกเราเดินสำรวจได้ซักพักเราก็เจอตึกที่คนเดินเข้าเดินออกเยอะมาก เราเลยตามเค้าไป มันเป็นตึกใต้ดินอ่ะค่ะ พอลงไปแล้วก็รู้สึกว่า พวกเรานี่ หนีที่แบบนี้ไม่พ้นจริง สวรรค์ส่งเรามาเพื่อสิ่งนี้ ที่นี่คือตลาดขายส่ง มีทุกอย่าง ว่าแล้วคนที่จะไม่ซื้อของเลยเพราะว่าเป้ก็หนักตังค์ก็ไม่มี ก็ได้ซื้อถุงเท้า ห้าคู่ สิบหยวน ไฟฉาย อันนี้คุณนายน้อยบอกว่าจำเป็นจริงๆ หลังจากนั้นก็ สร้อยคอ สร้อยข้อมือ อ้าวก็มาถึงแหล่งแล้ว สวยด้วยมีให้เลือกแถมถูกอีก สร้อยคอสร้อยข้อมืออย่างละ ห้าหยวน หวิ๋นเอาสร้อยแบบสั่งทำโดนไปสิบห้าหยวน คุณนายน้อยได้ทีแขวะพวกเรา แต่เราก็ตอบกลับไปว่า

" สร้อยนะมันไม่หนักหรอกนะซื้อได้ " อิอิ

หลังจากนั้นคุณนายกับหวิ๋นก็ไปซื้อเครื่งเขียน พวกเค้าบอกว่าจะไปจดบันทึกการเดินทาง จริงๆแล้วก็คือมันน่ารักแล้วก็ถูกต่างหาก หลังจากนั้นยังยังๆไม่หมด พวกเราก็ไปซื้อกิฟท์ ใช่ที่ใช้ติดผมนั่นแหละที่นี่น่ารักมากๆ ทุกคนก็ได้กันไป แหลือแต่อีนี่แหละที่ไม่ได้ เพราะมันไร้สาระ^o^ จริงๆคือติดไม่เป็น ทั้งๆที่พยายามแล้ว สวยไม่ขึ้นจริงๆชั้น

หลังจากนั้นเราก็รีบเดินออกจากตึก เพราะกลัวหมดตัว แต่เอ๊ะ พัดน่ารักอ่ะ อยากซื้อให้แม่

" ซื้อให้แม่ไม่เป็นไรใช่มะ "

(ช่าย คนเราอ่ะน่ะพอจะซื้อแล้ว เอาไรมาฉุดก็ไม่อยู่ เหตุผลที่ดูดีล้วนหลั่งไหล)ได้มาหนึ่งอัน พัดเนี่ยเค้าเรียกอันหรือป่าวอ่ะ...?

แล้วเราก็ออกมาสำเร็จโดยที่ทุกคนบอกว่าไม่ได้อะไรเล๊ย ดีจัง แล้วก็หลงเข้าไปในร้านเค้ก คือเรามักจะหลงทางอ่ะค่ะ แต่มักจะหลงไปแหล่งชอปปิ้งกับร้านขนมเสมอ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม " เราเลือกกันอยู่นานแล้วก็คิดได้ว่าเลือกทำไมว่ะ หน้าโรงแรมก็มี ร้านเดียวกันเลย คนละสาขาแกจะแบกทำไม "
เออ ว่าแล้วกระเกรี่ยงคอสั้นสามคนก็เดินออกมาท่ามกลางความงุนงงของพนักงานและชนเผ่าพื้นเมืองในร้าน คือแถวนี้ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวก็เลยไม่มีพวกต่างชาติหรอก

"กลับกันดีมะ"
" เออกลับเหอะ"
" เฮ้ยแกตึกอะไรอ่ะ ขอชั้นขึ้นไปดูได้มะ " ไม่ต้องเดาหรอกว่าใคร ชั้นเอง...(บอกแล้วว่าชอบหลง)

ณ บริเวณชั้นสอง....เงียบ......
ฟ้าบรรดาลหรือสวรรค์แกล้งเนี่ย !! คราวเนี๊ยเป็นร้านเสื้อผ้าน่ารักเลยนะ แถมไม่เปิดราคาบ้าบอเหมือนที่อื่นที่ทำให้ไม่กล้าต่ออีก โอยชอบจัง เราเดินสำรวจกันก่อนครั้งหน้ามาปักกิ่งค่อยมาดีไหม พาศุมาด้วยดีกว่า ซักพัก...

" แกตัวโน้นน่ารักไหม สี่สิบเอง อยากได้จัง "

ถ้าเค้าซื้อเป็นไรไหมเนี่ย ? ไม่มั้ง ?
เดินวนอีกสองรอบ แล้วก็กลับมาซื้อ อย่ามาว่ากันนะ
จริงๆน้อยก็จะซื้อกางเกง แต่แต่ แต่มันใส่ไม่ได้..ฮิฮิ
หวิ๋นก็อยากได้แต่หวิ๋นก็มีหมดแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ใช่ชั้นคนเดียว

กว่าจะออกมาจากตึกนั้นได้เราก็หิว...อีกแล้ว
เดินไปหลังตึกเพราะเป็นสัญชาติญาณว่าอาหารที่อยู่ในซอยจะอร่อยแล้วก็ถูก
เราก็มาเจอร้านหั่วกัวที่ดูสะอาด ตั้งอยู่ข้างทาง หั่วกัวก็คือ เค้าจะเอาผักมัดไว้เป็นกำกำ เอาเห็ด เอาเนื้อ ลูกชิ้นต่างๆเสียบไม้ไว้เหมือนลูกชิ้นปิ้งนั่นแหละ ราคาก็คิดตามไม้ เราก็เลือกเอาที่ชอบ ที่ชอบ อิอิ แล้วก็เอาไปต้ม กินกับน้ำมันถั่วงา ที่เรียกว่า หม่าเจี้ยง บางครั้งน้ำที่ต้มจะมีสีแดงอันนั้นเรียกว่าหมาล่า ขอแนะนำว่าถ้าอยากลองให้ลองนิดเดียว เพราะมันไม่ได้เผ็ดแบบพริกบ้านเราแต่มันเผ็ดแบบ โอ๊ยลิ้นแข็งปากชาเลย อย่าดีกว่า ลองมาแล้ว นึกว่าเป็นอัมพาตแบบเฉียบพลัน

แล้วเราก็สั่งหอยขมมากิน กุ้งมากิน กุ้งตัวละหยวนครึ่ง ก็อร่อยดี น้อยกับหวิ๋นบอกว่าร้านนี้ทำหอยก็อร่อย แต่ไม่อ่ะ ไม่ชอบอย่างแรง ก็ข้างในมันมีเปลือกอะไรไม่รู้ พอมารู้ว่าเป็นตัวลูกอ่อนของมันก็ยิ่งรู้สึกแปลกๆ เออเนอะคนเรา เพียงแค่ไม่เคยกลับรู้สึกละอาย เพราะฉะนั้นอะไรที่ไม่ดีก็ปล่อยให้มันไม่เคยซะบ้างจะดีกว่า อย่าไปลองมันหมด ลองแล้วก็จะกลายเป็นของเคยๆไป เกี่ยวมะเนี่ย เรากินไข่ไก่ ไข่ปลาได้ เพราะเราเคยไป หรือเปล่า เราตียุงจนเราเคยไปหรือเปล่าเราเลยว่าไม่บาป จริงๆแล้วมันก็อีกชีวิตเหมือนกัน เปลี่ยนเรื่องดีกว่า จากที่คิดว่าตัวเองชอบหอยก็ต้องขอยกเว้นหอยขมละ ว่าไม่ชอบ คิดไปคิดมาหาของที่เหวยเซียงไม่ชอบยากซะด้วยเจอแล้วหนึ่ง หอยขม

แล้วเราก็เดินไปขึ้น 917 กลับระหว่างนั้นเราเห็นดอกไม้ข้างทางสวยเราก็เดินไปถ่ายรูป ดีจังกะเหรี่ยงทำอะไรก็ไม่ผิด พอกลับมาถึงโรงแรมหลิวหยางก็บอกว่า บัตรเอทีเอ็มหาย ระงับก็ไม่ได้ แถมบอกว่าคนเก็บได้เอาไปเบิกได้อีก เพราะฉะนั้นต้องรีบกลับเทียนจินอยู่เที่ยวไม่ได้แล้ว อ้าวอีกแล้วศุน้อยของชั้น ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ออกไปเลย ชั้นละสงสัยจริงๆ อะไรนักก็ไม่รู้ เซ็งเลย โรงแรมก็จองไปแล้ว นอนเล่นไปพลาง บ่นหลิวหยางไปพลาง ซักพักก็คิดได้ว่า ใบประกันค่าโรงแรมอยู่กับศุ

อ้าว เป็นว่าเราต้องนั่งรถตามไปที่สถานีรถไฟ แล้วไอ้สถานีรถไฟ เป่ยจิงซีเนี่ย มันใหญ่อลังการจริงๆ สงสัยจะใหญ่กว่าดอนเมือง กว่าจะหากันเจอ เล่นเอาหอบเลย พอจะกลับดันหาทางออกไม่เจออีก โง่ไหมล่ะ ก็มันหย่ายยยยจริงๆนะ พอเราออกมาได้ก็มาที่ป้ายรถเมล์เอาไงดี หวิ๋นบอกเราควรนั่งสายที่ไปแถวที่เรานั่งมาลงประตูเมื่อวานที่เรามาจองตั๋วจากนั้นก็นั่งคันเดิมกลับ แล้วไอ้ประตูเดิมที่เดินหากันไม่เจอจนมันมาโผล่ประตูเนี่ย จะนั่งอะไรไป หวิ๋นบอก 937 ว่าแล้วเราก็ขึ้นมาแล้วก็ ถามกระเป๋าๆก็บอกว่าไม่รู้ อ้าวแต่มีป้าๆใจดีบอกเราว่าเราต้องลงที่เดียวกับเค้า แล้วต่อสายหนึ่งไปเทียนอันเหมิน จากนั้นต่อรถอีกที

พอเราลงรถพร้อมป้าแกเราก็รอสายหนึ่งไม่เห็นมาเลย เราก็เลยถามคนข้างๆว่าสายหนึ่งไปเทียนอันเหมิน ใช่ไหม มีไหม แกบอกว่าจะไปเทียนอันเหมินไปกับแกก็ได้ แล้วรถเมล์แกก็มา แกก็วิ่งขึ้นไปเลย เราก็เลย วิ่งตาม พอขึ้นมา สักพักคนนั้นก็ลงรถไป ปล่อยให้พวกเราเป็นกระเหรี่ยงเคว้งคว้าง ....
( เป็นกะเหรี่ยงใจง่ายค่อดๆ ใครเรียกให้ตามก็ตาม )

หันไปถามป้าข้างๆก็บอกไม่รู้ แต่มีลุงคนนึงแกได้ยินแกเลยถามว่าโรงแรมอยู่ไหนล่ะ เราก็เอานามบัตรโรงแรมให้ดู จำเป็นมากเลยไปนอนที่ไหนควรขอติดกระเป๋าไว้เลย แกก็บอกว่าจะไปต่อรถอะไร คันนี้ก็ไปถึง จริงหรือค่ะ จริงๆนะ ดีจังเหนื่อยจะตายแล้ว แล้วเราก็นั่งไปจนสุดสาย รู้แหละว่าอยู่ใกล้ๆโรงแรมแล้ว แต่ก็ยังหาไม่เจออยู่ดี เดินไปถามไปในที่สุดเราก็เจอ ...ยัง ยังๆไม่ใช่โรงแรม แต่เป็น.......



ร้านขายแพะย่างของอิสลาม โอว.... อร่อยมาก คุณหวิ๋นกินได้เนี่ยถือว่าผ่าน เพราะsheเป็นเครื่องดักจับความคาว ความสาบของอาหาร ร้านนี้ไม่สาบเลย ย่างแห้งกำลังดี อร่อย กินกับถั่วต้ม หมดไปคนละ7 หยวน แล้วเราก็เดินย่อยโดยการหาโรงแรมใหม่ เดินไปห้า หกโรงแรม ถูกกว่าทั้งนั้นเลย พรุ่งนี้ย้ายดีกว่า แล้วก็เป็นอีกคืนที่หลับปุ๋ย ปุ๋ยเลย................



Create Date : 21 พฤษภาคม 2550
Last Update : 7 มกราคม 2551 22:46:56 น. 2 comments
Counter : 679 Pageviews.

 
เห็นแล้วก้ออยากกินอีกเนอะ


โดย: noisy!!! IP: 125.25.164.92 วันที่: 4 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:16:39 น.  

 
ตามมากินเป็ดปักกิ่งโด้ยคน


โดย: Ruth IP: 221.216.64.149 วันที่: 6 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:38:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

airbase
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




มนุษย์ที่มีความมั่นใจสูงและหลงตัวเอง อย่างแรง
ขี้ขลาด ไม่กล้ารักใคร แล้วก็ไม่กล้าให้ใครมารัก เอาแต่ใจ ปากกล้าขาสั่น อารมณ์ร้าย งี่เง่า และ บ้าบอ 555

Friends' blogs
[Add airbase's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.