Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
13 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 
Zai lai yi ti wo de xiao long bao






18/07/06
เราตื่นกันแบบเช้าสุดความสามารถแบบว่าเพื่อที่จะไปกินบุฟเฟ่ท์อาหารเช้าราคาห้าหยวน พวกเราลงทุนล้างหน้าแปรงฟันแต่ไม่อาบน้ำ (สังเกตุพักหลังเราเริ่มมีนิสัยละว้นการอาบน้ำบ่อยขึ้นทุกทีๆ) แต่ก็ยังไม่ทันอยู่ดี

เราเลยต้องจำใจไปหาอย่างอื่นกินแทน อืมอาหารมองโกล ไม่อร่อยเท่าไหร่ แต่ก็ดีแล้วอร่อยกันทุกมือ้ชั้นคงแย่ หลังจากนั้นเราก็ไปซื้อตั๋วรถไฟไปฉางชุน

อาจจะสงสัยกันว่าเราเอาเกณท์อะไรมากำหนดว่าเราจะไปไหน เมื่อไหร่ อืมเรามีแผนที่จีนอันเล็กหนึ่งอัน แล้วก็ไปตามทิศนะ แต่ถ้าไปไม่ได้เราก็เปลี่ยน ถ้ารอได้เราก็รอ รอไม่ได้เราก็ไม่ไป สรุปไม่มีเกณท์อะไรเลย รอลมพัดไปนั่นเอง

ซื้อตั๋วเรียบร้อยพรุ่งนี้เที่ยงออกเดินทาง พวกเราก็นั่ง รถถีบอีก ชอบ สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน แถมไม่เป็นมลพิษ พวกเราคุยกันเล่นๆอยากให้เมืองไทยเป็นอย่างนี้บ้าง มาดูงานกันต่างประเทศออกจะบ่อยไม่ได้เอาอะไรดีๆกลับไปพัฒนากันเท่าไหร่เลย

อยากได้โคมไฟเมืองนี้จัง เรากำลังไป ซีลามู่หลุน สวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในเมือง คือพวกเราชอบธรรมชาตินะ ฮิฮิ (เข้าฟรีต่างหากหล่ะที่เธอชอบกัน)

สวนที่นี่เค้าทำกันเว่อร์ๆใหญ่แฮะ แล้วก็ต้องมีปฏิมากรรมแปลก แล้วเราก็มาเจอ แต่นแตนแต๋น สวนสนุก อือ ไม่ใช่กระจอกนะ ออกจะดูดีดูเสียว ทุกอย่างห้าหยวนถูกจนดรีมเวิลด์กระจาย

เราเลือกนั่งกันสองสามอย่าง น่ากลัวมาก ที่กลัวมากนี่ไม่ใช่อะไรนะ พอขึ้นไปแล้วก็เกิดความระแวงในระบบเซฟตี้ขึ้นมาเกร็งโคตรแทนที่จะนั่งจับที่เซฟตี้ เปล่าเลยนั่งจับพนักเก้าอี้ตัวแข็ง ทำอย่างกับว่า ไอ้เครื่องบ้าที่มันทำให้ชั้นห้อยหัวลงมานี่ถ้าเบล์ทเสียชั้นก็ไม่หล่นเพราะชั้นจับพนักแน่น อืออย่างนั้นแหละ

ตอนนี้เราสี่คนเป็นจุดสนใจมาก เพราะ....( สวย รู้น่ะ) เพราะจะเสียวไม่เสียวถ้าไอ้สี่คนนี้ขึ้นไปหล่ะก็ กรี๊ดอย่างกับว่าโลกจะแตก สนั่นทั้งสวน ทุกคนต้องหันมามองว่ามัน....ขนาดนั้นเลยเหรอเธอ

คนจีนนี่ก็แปลก ไม่ว่ายังไงชั้นก็จะไม่ร้องเด็ดขาดเงียบ ยังกับไม่มีความรู้สึก

แต่เหล่าซือก็เคยบอกว่า คนจีนชอบตั้งชื่อลูกสาวให้มีคำว่าจิ้ง เพราะมันเพราะแล้วความหมายดี เราก็งงดีตรงไหน เงียบนี่อะนะ เอาไปผสมกับคำไหนก็ประหลาด

อือ ไม่เชื่อลอง บัวเงียบ สวยเงียบ เงียบเล็ก อือ อะไรอีกน๊าที่เค้าชอบตั้งกัน...หยกเงียบ ฉลาดเงียบ ไม่เห็นมันจะเข้าท่าเท่าไหร่ แต่เอาเหอะ เข้าบอกว่าคุณสมบัติที่ดีผู้หญิงจีนควรมีก็คือ เงียบ

โชคดีจังป๊ะป๋า มะม๋า ที่เราเกิดเมืองไทย

ออกจากสวนสนุกเราก็รู้ว่าทางด้านขวามือมีวัดอยู่ หลังจากเราได้ไปสำรวจที่สูงจากเครื่งอเล่นมาเราก็เลยมีที่ไปต่อ เห็นมะประโยชน์คุ้ม

เราไปเที่ยววัดกัน ก่อนถึงวัดเราก็แวะให้อาหารหมีควาย อาหารของมันก็คือไส้กรอก แต่คนใจร้ายไม่แกะพลาสติกให้มัน ท่าทางมันก็หิวเหลือเกิน นี่เค้าเลี้ยงมันดีรึป่าวนะ ทำไมมันแลหิวโซงี้อ่ะ พวกเราซื้อไส้กรอกพร้อมแกะพลาสติกให้มันด้วย

พลางคิดคนเดียวว่า เอาไส้กรอกไม่แกะพลาสติกให้หมีกินนี่ ทำให้เรามีกรรมที่ต้องกินอาหารจีนร้อนๆที่ใส่มาในถุงก๊อบแก๊ปหรือป่าวน๊า

แล้วเราก็เดินมาถึงวัดที่ว่า ก็แปลกดีนะเป็นแบบสไตล์วัดลามะทิเบตละมั้ง ก็ไม่รู้นี่ เดินเล่นจนเหนื่อยเราก็นั่งแท็กซี่กลับโดยวางแผนว่าจะแวะแถวสี่แยกเมื่อคืนเพื่อไปสำรวจเมืองต่อ

แต่ยังไม่พ้นสี่แยก เด็กวัยรุ่นสองคนในรถตะโกนว่า " อยากกินเค่นเต๋อจี " อ่ะ งงอ่ะดิมันก็คือ เคเอฟซีนี่เอง ว่าแล้วเราก็ทำตามอำเภอใจแบบฉบับทัวร์ตามใจ

จอด จอด ทันที เห็นรถเข็นขายท้อน่ากิ๊นน่ากิน ซื้อเสร็จเราก็เข้าไปในเคเอฟซีกินท้อกัน ทุเรศล่ะ ไม่ใช่ สามคนนั้นกินกันคนละชุด แต่ชั้นกินแต่ไอติม ไม่ชอบกินไก่ฟาสฟู๊ดอ่ะ เป็นโรคกระแดะอนุรักษ์นิยม เลยกินแต่ช๊อกโกแลตซันเดย์ แล้วก็เอาท้อขึ้นมากิน

โอ๊ย......คิดว่าอะไรในร้านเคเอฟซีทำให้เราร้องแบบนี้ออกมา ช่วยด้วยคันอ่ะ แสบด้วย ฮือ ขนท้อเต็มตัวเลย โอ๊ย ตะกละจนเป็นเรื่องเรียกแบบนี้ได้มั้ยน่ะ ท้อที่เทียนจินไม่เห็นมีขนเยอะขนาดนี้เลยแท้ๆ คันจนเข็ดไปเลย

เรากินกันอิ่มก็เดินไปเรื่อย ไปในทางที่ชั้นอยากไปเมื่อคืนแต่ไม่ได้ไปนั่นแหละ น้อยกับเสี่ยวเฟิ่งได้กางเกงกันอีกคนละตัว

หลังจากนั้นเราก็ไปเจอกับของกิน น่ากินทั้งนั้นเลย แต่เรายังมีสติพอที่จะรู้ว่าเราเพิ่งกินมา จริงๆจะเรียกว่าสติก็ไม่ถูกนัก เพราะมันก็ไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว น่าจะเรียกว่าสังขารเตือนมากกว่ว่าเราไม่สามารถเอาอะไรใส่เข้าไปได้แล้ว

เราเลยเดินเลยไปเล่นเนทกะว่ารอย่อยก่อนแล้วเราจะเดินกลับมา ฮิฮิ ช่วงนี้ที่เราติดเนทกันก็เพราะหวิ๋นจะไปดูละครไทย อิอิ

เรารอจนกระเพาะเราอำนวยเราก็เดินกลับไปที่ตลาดนั้น สั่งโครงไก่ทอดมาสองตัว แล้วก็เสี่ยวหลงเปามาเข่งนึงซึ่งขนาดไม่ได้เสี่ยวเลยมันออกจะใหญ่โต เพราะจริงๆเราก็ไม่หิวเท่าไหร่

แต่ พอหมดไปเข่งนึงเราก็มองหน้ากันแล้วสั่งมาอีกหนึ่ง สั่งไปสั่งมาครบสี่พอดี แต่ แต่เรายังไม่ยอมหยุด สั่งเพิ่มอีกแต่เหลาป่าน ( แปลว่า เถ้าแก่ ) บอก "หมดแล้ว ทำไมไม่สั่งทีเดียวตั้งแต่แรกมาค่อยๆสั่งทำไม" อ้าวก็ใครมันจะไปรู้ว่าพวกเรากินกันเยอะขนาดนี้ หล่ะ อดเลย

สรุปเรากินโครงไก่ไปสองตัว เสี่ยวหลงเปาสี่เข่ง ชานมไข่มุกอีกสองแก้ว อ้า...อิ๊มอิ่ม หลังจากที่เราถามเวลาเปิดร้านของเหลาป่านมาเรียบร้อยว่า หกโมงเช้าแกก็เปิดแล้ว เราก็เดินออกจากร้านมา โดยวางแผนว่าเราน่าจะกลับมากินอีก ก็มันอร่อยจริงๆน่ะ

เดินกลับโรงแรมเพื่อเป็นการย่อยเอาที่กินไปออกมาใช้บ้าง พอมาถึงเราก็คุยเล่นกัน แล้วก็เตรียมตัวออกเดินทางในวันพรุ่งนี้ อือ คืนนี้ที่นี่ไม่รู้มีงานอะไรเค้าจุดพลุกันสวยงามใหญ่โต เราก็เลยได้ชมฟรีจากหน้าต่างของโรงแรม.....
ชอบของฟรี .......




Create Date : 13 กรกฎาคม 2550
Last Update : 18 กรกฎาคม 2550 22:45:56 น. 2 comments
Counter : 355 Pageviews.

 
เหลาป่าน..ไจ้หลาย อีที่


โดย: noisy!!! IP: 125.24.104.39 วันที่: 22 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:18:19 น.  

 
อ่านมาตั้งนานเม้นหน่อยแล้วกาน

สนุกมากเลยอ่ะค่ะ อ่านแล้วขำดี

อธิบายซะเห็นภาพเหมือนได้ไปเที่ยวด้วยเลย อิอิ


โดย: bo IP: 124.120.155.236 วันที่: 8 มกราคม 2551 เวลา:20:53:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

airbase
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




มนุษย์ที่มีความมั่นใจสูงและหลงตัวเอง อย่างแรง
ขี้ขลาด ไม่กล้ารักใคร แล้วก็ไม่กล้าให้ใครมารัก เอาแต่ใจ ปากกล้าขาสั่น อารมณ์ร้าย งี่เง่า และ บ้าบอ 555

Friends' blogs
[Add airbase's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.