Group Blog
 
All Blogs
 
มารยาท (ไม่ดี) ในโรงหนัง

เมื่อวานไปดูหนังมาค่ะ ไปดู Harry Potter and the Goblet of Fire อีกรอบ กับน้องชาย ที่เมเจอร์ สุขุมวิท

เซดริกยังหล่อเหมือนรอบแรกที่ดู


แต่วันนี้ไม่ได้มาเล่าเรื่องหนังค่ะ มาบ่นเรื่องมารยาทในโรงหนังค่ะ เฮ้อ เป็นเรื่องที่บ่นกันไม่จบไม่สิ้นเนอะ เรื่องแบบนี้ ไปดูหนังแทนที่จะได้รีแลกซ์พักผ่อนกับต้องมาเจอเรื่องเซ็งๆ เพราะคนอื่น


เค้าลางแห่งความเซ็งมาเยือนเรา ตั้งแต่ตอนที่ไปถึงเคาเตอร์ขายบัตรแล้วค่ะ คือก่อนหน้านี้เราซื้อไอ้ voucher 200 บาท ที่ดูได้สองที่แถมป๊อบคอร์นเล็กถุงนึง แต่ตอนก่อนไปเราก็โทรไปจองที่นั่งเรียบร้อยค่ะ ซึ่งเค้าบอกว่าจะเลือกที่นั่งที่ดีที่สุดให้ใช่ป่ะคะ โดยปกติไปหน้าเคาท์เตอร์เราก็จะขอดูที่จองไว้ด้วย เผื่อว่าไม่ถูกใจก็จะขอเปลี่ยน แต่เมื่อวานดูชุลมุนหน้าเคาท์เตอร์เล็กน้อย แถมพนักงานก็ทำหน้าตามู้ดดี้ใส่เราอีก เราเลยเซ็งๆ ขี้เกียจไปตอแย ก็คิดว่าเค้าคงเลือกที่ดีๆ ให้ละมั้ง ปกติก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่พอรับตั๋วมาสิคะ แทบกรี๊ด.....


มันเป็นแถวริมสุดด้านซ้ายมือค่ะ หมายเลข 1 กับ 2 ไม่ได้อยากจะเวอร์นะคะ แต่เราเป็นคนที่ดูนั่งแล้วนั่งด้านริมๆ จะปวดตาและคอ เพราะมันต้องดูเอียงๆ นิดนึง แล้วก็รู้สึกว่าเซ็งที่อุตส่าห์เสียเงินโทรมาจองตั๋วก่อน แล้วคนขายยังเอาที่นั่งแบบนี้มาให้เราอีก ไม่รู้เหมือนกันว่าเค้าเปลี่ยนที่นั่งเพราะเห็นเราใช้ voucher หรือเปล่า เพราะมีคนเคยบอกว่าถ้าซื้อไอ้ตั๋วนี่ ก็ราคาถูกลง แต่เลือกที่นั่งไม่ได้ ...แต่คิดไปคิดมาก็ช่างมันเหอะ เราเองก็ไม่ได้ดูเองตั้งแต่ต้น โรงมันก็ไม่ได้ใหญ่มาก จนต้องหันหน้าดู


พอนั่งไปสักพัก ....เริ่มเห็นเค้าลางของความเซ็งนัมเบอร์ 2 เพราะได้ยินเสียงเด็กพูดภาษาอังกฤษจ๋อยๆ อยู่ข้างหลัง ตั้งแต่หนังตัวอย่างเริ่มฉาย (รอบที่ไปดูเป็นซาวด์แทรก มีเด็กฝรั่งและลูกครึ่งดูเยอะพอสมควร) จนขึ้นเพลงสรรเสริญคุณน้องก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ....แอบชำเลืองมอง เห็นเป็นเด็กผู้ชายหน้าแขกๆ ปนจีนๆ อายุประมาณ 4-5 ขวบ มากับพ่อ ก็กะแล้วว่า จะต้องได้ยินเสียงนี้ไปอีกสักพักแน่ๆ แล้วก็เป็นจริงตามคาด....


เราคิดว่าเด็กเค้าคงดูไม่ค่อยรู้เรื่องอยู่แล้ว เพราะยังเด็กค่อนข้างมาก เลยหันไปถามพ่อตลอดว่า อะไรเป็นยังไง ทำไมแฮรี่ต้องทำแบบนั้นแบบนี้ จนคนรอบข้างก็ออกอาการเซ็งกันเล็กน้อย แต่เอาเหอะ เห็นว่าเป็นเด็กเลยให้อภัย (แต่ทำไมเด็กคนอื่นๆ ไม่เป็นแบบนี้วะ) แถมไม่พอ นอกจากคุณน้องจะถามตลอด และตะโกนเป็นระยะๆ แล้วยังปีนป่ายและเตะเก้าอี้เล่น ซึ่งคนรับเคราะห์ก็ไม่ใช่ใคร ...เราเอง


เราไม่อยากจะโทษเด็ก แม้ว่าจะรำคาญ แต่เราไม่เข้าใจเลยว่าทำไมพ่อเด็ก ถึงไม่ได้พยายามควบคุมลูกตัวเองให้อยู่ในภาวะสงบเลย ไม่ใช่ว่าเค้าห้ามไม่ได้นะคะ แต่เรารู้สึกว่าเค้าไม่ห้ามเลยต่างหาก เราก็ส่งสัญญาณว่ารำคาญไปอยู่หลายที เรื่องเสียงน่ะ ไม่เท่าไหร่ แต่อีกตอนที่ทั้งถีบ ทั้งปีนเก้าอี้เนี่ย ทำไมไม่ทำอะไรบ้าง...


แต่ก็นะ... ตัวพ่อเอง ก็มารยาทงามใช่ย่อย เพราะเฮียไม่ปิดมือถือ พอมือถือดัง ก็รับแล้วคุยหน้าตาเฉย.... เข้าใจว่าอาจจะลืมปิดกันได้ (ทั้งๆ ที่เค้าก็มีโฆษณาเตือนแล้ว) ครั้งเดียวยังพอทนค่ะ แต่นี่รับอยู่ สองหน ... ไม่เข้าใจว่า ทำไมช่างไม่มีมารยาทซะขนาดนี้ แล้วของแบบนี้มันเป็นมารยาทสากลไม่ใช่เหรอคะ ไม่ใช่ทำเฉพาะในเมืองไทยที่เดียว

เห็นแบบนี้แล้วก็เลยไม่แปลกใจเลยค่ะว่า ทำไมลูกชายตัวน้อยของคุณพ่อ ถึงได้มีกริยามารยาทแบบนั้น สงสารก็แต่เด็กนะคะ โตขึ้นก็คงจะเปิดมือถือและรับโทรศัพท์ในโรงหนังให้คนเค้าก่นด่าบรรพบุรุษและบิดามารดา ก็เค้าไม่ได้สั่งสอนกันมาจริงๆ ล่ะค่ะ จะไปโทษใครได้เนอะ


เราไม่ได้แอนตี้หรอกนะคะ การที่จะพาลูกเล็กๆ ไปดูหนังเนี่ย แต่เราว่าถ้าพ่อแม่คนไหน ที่ไม่สามารถคุมลูกตัวเองได้ในที่สาธารณะแบบนี้ อย่าเอาไปเป็นภาระดีกว่าดีไหมคะ ซื้อแผ่นผีซีดีเถื่อนไปดูก่อนก็ได้ จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนทั้งตัวเองและคนอื่นๆ

นี่ไปดูแฮรี่มา 3 รอบแล้ว เจอแต่คนดูหนังประเภทห่วยๆ ทุกรอบเลย เฮ้อ...


รอบแรก – สาวน้อย 2-3 คน เป็นวัยรุ่นแล้ว นั่งแถวเดียวกันแต่ถัดไปประมาณ 1-2 ที่ ท่าทางจะชอบพระเอกมาก พอพระเอกโผล่ มาต้องกรี๊ดดดทุกฉาก ฉากในห้องน้ำต้องกรี๊ดดดด แล้วก็หงุงหงิงๆ ชมกันทั้งเรื่อง คิดดูสิคะ ว่าขนาดเราไม่นั่งติดยังรำคาญเลย เพื่อนเราที่นั่งติดกับเค้า แทบอยากจะลุกไปตบ...หึหึหึ


รอบสอง – นั่งติดกับชายหนุ่มและหญิงสาว ที่คิดว่าเป็นแฟนกัน เรานั่งติดผู้ชาย ซึ่งก็ดูแล้วว่าเป็นผู้ใหญ่หน่อย น่าจะมีมารยาทในการดูหนังที่ดี ... แต่พอหนังเริ่มฉายค่ะ ไม่ทราบว่าแฟนสาวโง่ หรือไม่ได้อ่านหนังสือไม่ทราบ ต้องคอยถามไถ่เรื่องราวตลอด และผู้ชายก็แสนดี พากย์ค่ะพากย์ บอกสิคะ ว่าเรื่องเป็นแบบนั้นเป็นแบบนี้ ตรงนี้ไม่เหมือนหนังสืออย่างนั้นอย่างนี้ คนนี้เป็นใคร แล้วก็คุยกันแบบนี้ทั้งเรื่องค่ะ กระแอมก็แล้ว หันไปมองหน้าก็แล้ว... เค้าก็เอียงๆ ไปกระซิบกันนะคะ แต่กระซิบดังไปหน่อยเท่านั้นเอง ...หึหึหึ แถมไม่พอค่ะ เป็นอะไรกันไม่ทราบเรื่องใช้โทรศัพท์ในโรงหนังเนี่ย เค้าปิดเสียงมือถือนะคะ เปิดเป็นแบบสั่นไว้ แต่พอสักพัก ก็มีคนส่งข้อความมาให้ พี่แกก็ยกขึ้นมาอ่านเลยค่ะ แล้วโทรศัพท์เค้าเป็นแบบรุ่นใหญ่หน้าจอกว้างๆ พอเปิดอ่านที่แสงก็จ้าสว่างมาก ยิ่งในโรงหนังมืดๆ ก็คงไม่ได้ต้องบอกใช่ไหมคะว่าแสงมันจะทิ่มตาคนข้างๆ (คือเรา) ขนาดไหน อ่านอยู่นานเหมือนกัน จนเราต้องยกเอามือป้องแสงอ่ะ เพราะมันแยงตาเหลือเกิน พออ่านข้อความเสร็จ เค้าก็หันไปเล่าให้แฟนฟังต่อว่าเกิดอะไรขึ้น ....หึหึหึ ช่างเป็นแฟนที่ประเสิรฐอะไรเช่นนี้นะคะ โลกนี้มีเราเพียงสองคนจริงๆ


เห็นแบบนี้แล้ว นึกถึงโฆษณารณรงค์ปิดมือถือของ DTAC ที่ฉายในโรงหนังขึ้นมาจับใจ ไม่แน่ใจว่าฉายทุกโรงหรือเปล่า แต่เคยเห็นที่โรง SF cinema อยู่สองครั้ง ที่มีผู้ชายหน้าตาไม่ค่อยดี (มาก) หรือที่นิยมเรียกกันว่า "หน้าเหียก" สวมหมวก มาจีบผู้หญิงหน้าตาน่ารักมาก พอมาถึงเค้าก็ถอดหมวกปรากฎเป็นโบว์ผูกอยู่รอบหัว พร้อมกับบอกสาวน้อยว่า “สุขสันต์วันเกิดครับ” (คือให้ตัวเองเป็นของขวัญวันเกิดนะเอง ) สาวน้อยก็หันควับมาพร้อมต่อว่า ประมาณว่าทำไมเสี่ยวแบบนี้ไม่เอาหรอก ใครจะไปรับ ฝ่ายชายก็ยังไม่ยอมแพ้ บอกว่า “แต่มันมาจากใจนะครับ” สาวน้อยก็สวนทันที “แล้วไม่สงสารคนถูกจีบบ้างเหรอคะ” (ขำมากกก มุขนี้ ต้องเห็นหน้าตาผู้ชายด้วยนะ อย่างฮา) พ่อหนุ่มก็ยังตื้อไม่เลิก ด้วยการพยายามบอกว่าเค้าเป็นคนดี “และผมปิดมือถือก่อนดูหนังด้วย” เจอมุขนี้สาวน้อยหันขวับแล้วทำตาปิ๊งๆ ชมว่า “พ่อคนดีฝังใน” แล้วเธอก็รับรัก (ฮา) สรุปกันแบบห้วนๆ ว่า นี่เป็นข้อดีของการปิดมือถือ ฮ่าๆๆๆ.




หรือเราเองที่คิดมากและขี้บ่นเกินไปไหมคะเนี่ย


Create Date : 28 พฤศจิกายน 2548
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2548 10:51:04 น. 8 comments
Counter : 735 Pageviews.

 
โฆษณาที่ว่า น่ารักดีจริงๆ

เป็นใครก็คงเซ็ง

เวลาเข้าโรงหนังแล้วเจอแบบนี้

สดชื่นรับวันจันทร์ค่ะ

Image hosted by Photobucket.com


โดย: Batgirl 2001 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2548 เวลา:10:58:12 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณ batgirl ขอบคุณที่มาเยี่ยมกันนะคะ


โดย: เดอะ กั้ง วันที่: 28 พฤศจิกายน 2548 เวลา:11:00:43 น.  

 


โดย: 28 พฤศจิกายน 2548 IP: วันที่: 11:02:36 เวลา:58.11.82.51 น.  

 
ตี๋น้อยถึงชอบดูดีวีดีคนเดียวที่ห้องไงครับ ปิดมือถือดูด้วย ฮิๆๆๆๆ


โดย: ตี๋น้อย (Zantha ) วันที่: 28 พฤศจิกายน 2548 เวลา:11:17:24 น.  

 
แล้วตี๋น้อยหน้าตาดีขึ้นบ้างไหมคะ หลังจากปิดมือถือดูหนัง


โดย: เดอะ กั้ง วันที่: 28 พฤศจิกายน 2548 เวลา:11:22:25 น.  

 
เจอแบบนี้แล้วหนังไม่สนุก


โดย: 9A วันที่: 28 พฤศจิกายน 2548 เวลา:21:48:32 น.  

 
โห ท่าทางจะอึดอัดมะช่ายเล่น นี่ถ้ามีกระสอบทรายใกล้สงสัยคงแตกไปและ อิอิ
แต่พูดถึงเจอพวกนี้ก็น่าเบื่อโคดๆ
จิงๆน่าจะหันไปพูดเรยนะ แต่พูดดีๆ แต่พูดดังๆ 55555555555
เอาให้ได้อาย

คนไม่มีมารยาท น่าตบ!!!!!!


โดย: Honggie IP: 61.91.90.147 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2548 เวลา:0:36:19 น.  

 
เจอเหมือนกันประเภทครอครัวสุขสันต์... แต่เป็นทุกข์มหันต์ของคนดูหนังทั้งโรง


โดย: กาน้ำชากะเชี่ยนหมาก วันที่: 2 ธันวาคม 2548 เวลา:18:46:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เดอะ กั้ง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





Some magic from above
Made this day for us, just to fall in love

Just love me tenderly
And I'll give to you every part of me

Be always true to me
Keep this day in your heart eternally






free-counter
counter


Image hosting by Photobucket
หลังไมค์หา เดอะ กั้ง




...Reading...





เสียดายคนอินเดียไม่ได้อ่าน- ใบพัด




คาฟกา วิฬาร์ นาคาตะ พ.1 : Kafka on the Shore - ฮารุกิ มุราคามิ



***********

ข้อความข้างล่างนี่จริงๆ ไม่อยากเขียนไว้เลย แต่ใส่ไว้กันหลายๆ คนอ้างว่าไม่รู้กฎหมายและมารยาท ก็แล้วกันนะคะ


สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
Friends' blogs
[Add เดอะ กั้ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.